ตอนที่ 246

五百丈的图腾,空手打爆(三更)

ลู่อี้ผิงที่ไม่เอ่ยตอบจงหยวนวังเทวะซั่งเฉียนแต่อย่างใด,ทว่าเขากวาดตามอง เผ่าโม่เหออี,อู๋ลี่เผ่าปู่ซือ,อายินาเผ่าทะเล,ยอดฝีมือลัทธิเทวะซิงไห่อย่างรวดเร็ว,เอ่ยอย่างไม่แยแส”มีปัญหาอะไร,พวกเจ้าทั้งหมดมาเพื่อวารีดาราฮุ่นตุ้นของข้าอย่างงั้นรึ?”

จงหยวนที่เห็นลู่อี้ผิงไม่สนใจตัวเอง,ก็ใบหน้ากลายเป็นเคร่งขรึม มือครึ้ม.

อาวุโสสูงวังเทวะซั่งเฉียง,ด้วยสถานะของพวกเขา,ต่อให้เป็นเผ่าโม่เหออี,ก็ไม่กล้าละเลยคำถามเขาเช่นนี้.

อาวุโสสูงอีกคนของตำหนักเทวะซั่งเฉียงไม่อาจทนได้,กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา”พี่จงหยวน,ไม่ต้องเอ่ยอะไรแล้ว,ข้าว่าหักแขนหักขาลู่อี้ผิง,แล้วจับตัวนำกลับวังเทวะซั่งเฉียงก็พอแล้ว!”

จงหยวนพยักหน้ารับ.

อาวุโสสูงวังเทวะซั่งเฉียงคนหนึ่งก้าวไปด้านหน้า,จ้องมองลู่อี้ผิง,ไม่แม้แต่เรียกตราประทับออกมา,ก่อนต่อยไปยังทิศทางของลู่อี้ผิงทันที.

“หมัดเทวะไร้ลักษณ์อู๋จี้!”

หมัดเทวะไร้ลักษณ์อู๋จี้,นี่คือทักษะสะกดของวังเทวะซั่งเฉียง(เก่าแก่สูงศักดิ์)

พลังของเทพโบราณที่พลุ้งพล่าน,ราวกับคลื่นอสุรกายพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า,หมัดสะกดที่แข็งแกร่ง,ทำให้ยอดฝีมือรอบ ๆ ใบหน้าเปลี่ยนสี.

แม้แต่ประมุขเผ่าโม่เหออียังสัมผัสได้ถึงพลังทำลายของหมัดดังกล่าว,หัวใจของเขาที่สั่นไปมา,สิบอาวุโสสูงวังเทวะซั่งเฉียงล้วนแต่แข็งแกร่งกว่าเขาทั้งหมด,ไม่แม้แต่ใช้ตราประทับ,แต่กับมีพลังมากมายเพียงนี้.

จนเขาต้องเอ่ยออกมาว่า “แข็งแกร่งมาก,พลังหมัดนี้,เกรงว่าถึงจะมีข้าสองคนก็คงไม่อาจรับพลังหมัดนี้ได้!”

ยอดฝีมือหลายคนที่ตื่นตะลึงและตกใจไปตาม ๆ กัน.

แม้แต่ยอดฝีมือลำดับหนึ่งร่วมมือกันสองคนก็ไม่อาจรับหมัดของอาวุโสวังเทวะซั่งเฉียงได้อย่างงั้นรึ? นอกจากนี้ไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายยังไม่ใช้ตราประทับหรอกรึ? อาวุโสสูงผู้นี้กับแข็งแกร่งเพียงนี้เลยรึ?

หมัดที่ทรงพลังน่าเกรงขามพุ่งมา,ลู่อี้ผิงไม่สนใจมองด้วยซ้ำ,เพียงแค่สะบัดมือออกไปง่าย ๆ.

พลังหมัดที่ทรงพลังดังกล่าวก็สลายกลายเป็นฝุ่นผงไปในทันที.

หนำซ้ำอาวุโสสูงวังเทวะซั่งเฉียงคนดังกล่าวยังถูกแรงกระแทกกวาดผ่านออกไป,ร่างกายถูกกระแทกพุ่งกระเด็นออกไป,ทะลวงภูเขาหลายลูกพังทลายลงเป็นทางเจ้า,ศีรษะของปักจมเข้าไปในภูเขาใหญ่ลูกหนึ่ง.

พริบตานั้นทุกคนต่างก็กลายเป็นงงงวยไปตาม ๆ กัน.

ไม่ว่าจะเป็นเผ่าโม่เหออี,หรือเผ่าทะเล,ยอดฝีมือทุกคนต่างก็ตื่นตะลึงไม่ต่างกัน.

เหลือเชื่อเกินไปแล้ว.

ก่อนหน้านี้ประมุขเผ่าโม่เหออี้ยังเอ่ยว่าถึงเป็นเขาสองคนก็ไม่อาจรับหมัดของอาวุโสสูงของวังเทวะซั่งเฉียงได้.

ทว่าตอนนี้อาวุโสสูงของวังเทวะซั่งเฉียงกับถูกลู่อี้ผิงสะบัดมือตอบกระเด็นออกไปไกล.

แม้แต่เทพแห่งท้องทะเล,เผ่าทะเล,ใบหน้างามของนางยังเปลี่ยนสี.

ดวงตาคู่งามเห็นชัดเจนว่าประหลาดใจมาก.

ก่อนหน้านี้,นางได้ยินมาว่าลู่อี้ผิงที่ทำให้ซูเย่,ซูเหวิน,จินลี่หยงกระเด็นออกไปพร้อมกับ,ก็คาดเดาว่าความแข็งแกร่งของลู่อี้ผิงก็ไม่ต่างจากเจ้าหอ,วังเทวะจีเหม่ยยอดฝีมือทำเนียบเทพลำดับสาม.

อย่างไรก็ตาม,ผ่านมาไม่นาน,ที่นิกายเลี่ยเฟิง,ลู่อี้ผิงสังหารเหมียวเจ๋อได้,ทำให้นางประหลาดใจขึ้นมาอีกครั้ง,นางที่ได้ให้ค่าความแข็งแกร่งลู่อี้ผิงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งจุด.

ทว่าตอนนี้,เกินกว่าหนึ่งจุดไปมาก!

ลู่อี้ผิงที่จ้องมองพวกจงหยวน”ไม่จำเป็นต้องทำให้ยุ่งยาก,บุกเข้ามาพร้อมกันเลย.”สายตาของเขาที่จ้องมองอู๋ลี่,เทพแห่งท้องทะเลเผ่าทะเล,”พวกเจ้าเองก็เข้ามาพร้อมกันด้วย.”

ในเวลานั้น,เกิดเสียงดังลั่น,อาวุโสสูงวังเทวะซั่งเฉียนที่กระเด็นออกไปก่อนหน้านี้,บินกลับมา.

ทุกคนสามารถมองเห็นได้ว่าเกราะเทวะของอาวุโสสูงคนดังกล่าวแหลกเป็นผุยผง,ร่างกายที่อาบไปด้วยโลหิต,พวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ.

อาวุโสสูงวังเทวะซั่งเฉียงคนดังกล่าวที่จ้องมองลู่อี้ผิงด้วยความโกรธเกรี้ยว,ความแข็งแกร่งของเทพโบราณที่พลุ้งพล่านบ้าคลั่ง,กฎอาณาจักรเทพที่ลอยออกไป.

กฎอาณาจักรเทพแต่ละเส้นมีขนาดเท่ากับแขนเด็กดูหนาไม่น้อย.

ทุกคนที่เห็นกฎอาณาจักรเทพที่หนาเช่นนี้,ต่างก็อุทานเบา ๆ.

หลายคนที่ประหลาดใจอ้าปากค้าง,เพราะว่ายอดฝีมือทำเนียบเทพลำดับสอง,เหมียวเจ่อที่พวกเขาเคยเห็น,ความหนาของกฏอาณาจักรเทพเล็กจ้อยกระจิดริดเมื่อเทียบกับอาวุโสสูงวังเทวะซั่งเฉียง.

กฎอาณาจักรเทพที่ลอยออกไป,กำเนิดตราประทับขึ้น.

ตราประทับของเขาที่มีขนาดห้าร้อยจั้ง!

ตราประทับห้าร้อยจั้ง,ราวกับขุนเขาที่ใหญ่โต,แผ่รัศมีแสงนับหมื่นจั้ง.

ตราประทับที่ลอยออกไป,ลอยเด่นอยู่บนอากาศ,แผ่แรงกดดันไปทั่วสวรรค์และปฐพี,คลื่นแรงกดดันที่ทำให้เทือกเขาต้นไม้ใบหญ้าที่พังทลายหักโค่นลงเป็นแถบ.

“ตราประทับห้าร้อยจั้ง!”แม้แต่ยอดฝีมือทำเนียบเทพลำดับหนึ่งยังอ้าปากค้าง.

ตราประทับของเขานั้น,มีขนาดสองร้อยจั้งเท่านั้น.

เทพโบราณทั่วไปทุกคนต่างรู้ดีว่าทุก ๆ สิบจั้งของตราประทับ,ความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้นหนึ่งจุด,ดังนั้นตราประทับของอาวุโสสูงวังเทวะซั่งเฉียงใหญ่กว่าเขาสองเท่า,ความแข็งแกร่งที่มากกว่าเขานับสิบเท่าอย่างไม่ต้องสงสัย.

“ตาย!”อาวุโสสูงวังเทวะซั่งเฉียงเมื่อเรียกตราประทับออกมาแล้ว,ก็โจมตีไปยังลู่อี้ผิงทันที.

ครั้งนี้ไม่ได้ใช้หมัดเทวะไร้ลักษณ์อู๋จี้แล้ว,ทว่าเป็นหมัดเทวะแสงสว่างซั่งเฉียง.

หมัดแสงสว่างซั่งเฉียน,นี่คือวิชาที่ผู้ก่อตั้งวังเทวะซั่งเฉียงคิดค้นขึ้นมา,มีพลังเหนือกว่าหมัดเททวะไร้ลักษณ์อู๋จี้หลายเท่า.

หมัดที่เหมือนกับดวงตะวันระเบิดพุ่งออกไป,สวรรค์และปฐพีที่ส่องสว่าง,จนผู้คนรอบ ๆ แสบตาไม่อาจมองออกมาได้.

อาวุโสสูงวังเทวะซั่งเฉียงที่อันเชิญตราประทับออกมาโจมตีไปยังลู่อี้ผิงด้วยพลังทั้งหมด,ลู่อี้ผิงยังคงไม่ขยับแม้แต่น้อย,ทำให้ทุกคนเผยความประหลาดใจออกมา.

“ลู่อี้ผิงไม่คิดที่จะกระตุ้นตราประทับตัวเองงั้นรึ?”ไท่จู่เผ่าทะเล,เห่าซิงที่เผยความสงสัยประหลาดใจ.

แม้นว่าลู่อี้ผิงจะเผยความแข็งแกร่งที่น่าอัศจรรย์ใจก่อนหน้านี้,ทว่าก่อนนั้นอาวุโสสูงวังเทวะซั่งเฉียงเองก็ยังไม่ได้ใช้ตราประทับแต่อย่างใด,ตอนนี้ใช้ตราประทับ,ความแข็งแกร่งที่เพิ่มสูงขึ้นหลายเท่ามาก,คาดไม่ถึงแม้แต่น้อย ไม่ใช่ว่าลุ่อี้ผิงคิดจะใช้มือเปล่ารับเหมือนกับก่อนหน้านี้ใช่ใหม?

ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังลู่อี้ผิงไม่วางตา,แววตาที่เป็นประกาย,ต้องการเห็นว่าลู่อี้ผิงนั้นจะรับหมัดฝ่ายตรงข้ามอย่างไร.

หมัดแห่งแสงซั่งเฉียงที่อาวุโสสูงต่อยออกไป,ลู่อี้ผิงที่ยกมือขึ้น,พร้อมกับต่อยออกไปเช่นกัน.

เมื่อลู่อี้ผิงต่อยออกไป,ทุกคนรู้สึกว่าสัมผัสของพวกเขาที่ผิดเพี้ยนไป,ราวกับว่าสวรรค์และปฐพีได้กลับข้าง,กาลอากาศถูกผนึก,ทุกสรรพสิ่งทั่วโลก,ราวกับว่าหมุนกลับไปทั้งหมด.

ตูมมมมมมมมมม!

หมัดของลู่อี้ผิงที่กระแทกเข้ากับหมัดของอาวุโสวังเทวะซั่งเฉียง.

หมัดแสงสว่างซั่งเฉียง ของอาวุโสสูงวังเทวะซั่งเฉียงพริบตานั้นก็พังทลายแตกเป็นเสี่ยง ๆ,นอกจากนี้พลังหมัดของลู่อี้ผิงยังคงพุ่งต่อกวาดม้วนทะลวงออกไปด้วยความเร็วน่าพรั่นพรึง,ห้วงมิติพังทลายแยกแตกเป็นทาง.

ตราประทับของอาวุโสวังเทวะซั่งเฉียงแหลกสลายกลายเป็นฝุ่นผง,แม้แต่ร่างกายยังแตกสะบั้นกลายเป็นฝุ่นโลหิต.

อวัยวะทั้งห้า,กายเทพ,จิตวิญญาณ,ระเบิดสลายหายไปทั้งหมด.

เทพโบราณ,ความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาแหลกสลายหายเป็นฝุ่นโลหิต,ฟุ้งกระจายไปทั่วอากาศ,ล่วงหล่นลงดังเมฆฝนกระจายไปทั่วเทือกเขาหงหวู่.

เทือกเขาหงหวุ่ที่สั่นไปมา,ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกโลหิต,สะท้อนแสงแดดเจิดจ้ากลายเป็นรุ้ง.

กริบ.

ทุกคนแทบลืมคำพูดไปแล้ว.

ไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไรออกมา.

เทพแห่งทะเล,อายินาที่เวลานี้หายใจหืดหอบ,นางที่ตื่นตะลึงหัวใจเต้นแรง,แม้แต่จิตใจแทบไม่อาจสงบได้อีกต่อไป.

อู๋ลี่ที่เต็มไปด้วยความอหังการก่อนนี้,เวลานี้ไม่อาจรักษาความมั่นใจเอาไว้ได้เหมือนเช่นก่อนหน้านี้อีกแล้ว.