ตอนที่ 220

风吹见花草,太阳照牛身(一更)

“ในอดีตท่านจ้าวจิ่วซิงสังหารสงอี้ที่ทะเลจื่อซิง,ตอนนี้ประลองกับท่านซุนเจิ้งเต๋อที่ทะเลจื่อซิงอีกครั้ง,ครั้งนี้ข้าไม่พลาดแน่นอน!”

“การต่อสู้ครั้งนี้,จะต้องยอดเยี่ยมเกินบรรยายแน่ ๆ!”

“เกาะเสวียนกง,และทะเลหลวนซิงเองก็คงนำคนมาให้กำลังใจแน่นอน!”

เสียงพูดคุยจากถนนที่ดังขึ้นไม่หยุดหย่อน.

“เจ้าเด็กหยวนเจี่ยหงนั่นตัดผ่านขอบเขตเทพโบราณแล้ว,ต้องการท้าทายทำเนียบเทียบสิบลำดับแรกสินะ.”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำได้ยิน ก็เอ่ยต่อลู่อี้ผิง,”จูเหริน,พวกเราไปดูกันใหม?”

ลู่อี้ผิงส่ายหน้าไปมา”ไม่มีอะไรน่าสนใจ.”

ในเวลานั้น,ใครบางคนที่อยู่โรงน้ำชาข้าง ๆ เอ่ยออกมาว่า”มีอีกเรื่อง,ไม่รู้ว่าพวกเจ้ารู้ใหม,งานวันเกิดท่านจ้าวจิ่วซิงนั้นได้เชิญลู่อี้ผิงมาด้วย,ทว่าไม่เพียงแค่เขาไม่รับบัตรเชิญ,ทว่ายังให้ผู้ใต้บังคับบัญชาตัวเองกระทืบบัตรเชิญด้วย,แม้แต่โจมตีท่านเฉาหัวที่เป็นคนสั่งบัตรเชิญอีกด้วย.”

“ท่านเฉาหัวถูกอีฝ่ายเตะออกมางั้นรึ?!”

เสียงของผู้ฝึกตนคนอื่น ๆ ต่างก็ส่งเสียงอื้ออึง.

“เรื่องนี้มัน?”

“ลู่อี้ผิงผู้นี้ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำแล้ว,ท่านจ้าวจิ่วซิงเชิญเขา,ยังให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำลายบัตรเชิญและทำร้ายท่านเฉาหัวอีกเหรอ!”

หลาย ๆ คนที่แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา.

“นอกจากนี้ลู่อี้ผิงยังเอ่ยต่อเฉาหัว,หากท่านจ้าวจิ่วซิงกล้าจัดการเรื่องของแดนศักดิ์สิทธิ์เจิ้นยวี,จะไปเด็ดหัวท่านจ้าวจิ่วซิงในงานวันเกิดด้วย.”ผู้ฝึกตนคนหนึ่งเอ่ย.

ในเวลานั้นผู้คนต่างก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจ,กล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว,แม้แต่บางคนถึงกับทุบโต๊ะ”เจ้าคนแซ่ลู่คิดว่าตัวเองเป็นใคร,ก็แค่คนที่เพิ่งเข้าสู่อันดับเทพคิดจะกุดหัวท่านจ้าวจิ่วซิงเชียวรึ?! ข้าเกรงว่าแม้แต่กระบวนท่าเดียวก็คงรับไม่ได้เหมือนกับสงอี้ในอดีตนั่นล่ะ,ลู่อี้ผิงต่อหน้าท่านจ้าวจิ่วซิง,ก็แค่มูลนกเท่านั้น!”

ผู้ฝึกตนอีกคนที่กล่าวเสริม”ดังนั้นท่านจ้าวจิ่วซิงจึงบอกท่านหลินอี้ตง,เมื่อถึงงานวันเกิด,หากอีกฝ่ายต้องการท้าทาย,ท่านจะกุดหัวลู่อี้ผิง,ป้อนเป็นอาหารสัตว์อสูรซิงกงซะเลย!”

ได้ยินผู้คนในโรงน้ำชาพูดคุยกัน,พวกเห่ยเซี่ยที่ขมวดคิ้วไปมา.

“จูเหริน,พวกเราไปเมืองจิ่วซิงตอนนี้เลยใหม?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยถามลู่อี้ผิง.

ลู่อี้ผิงส่ายหน้าไปมา”งานวันเกิดยังอีกหลายวัน,ไม่มีความจำเป็นต้องรีบ.”

เทือกเขาติงเทียน,หนึ่งในเทือกเขาที่ใหญ่ที่สุดในพิภพจิ่วซิง,นี่คือเทือกเขาที่มีมาตั้งแต่ยุคบรรพกาล,ภายในพื้นที่ส่วนลึก,มีค่ายกลและสัตว์ร้ายมากมาย.

ในวันนี้,บนท้องฟ้าส่วนลึกของเทือกเขาติงเทียน,เกิดเป็นฟ้าแลบ,ปรากฏคนกลุ่มหนึ่งขึ้น,เป็นลู่อี้ผิง,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำและคนของเขา.

ก่อนหน้านี้ลู่อี้ผิงได้ใช้ศิลาวิญญาณไปไม่น้อยซื้อข้อมูลจากหอการค้าความลับสวรรค์,ทว่าก็ไม่ได้ออกไปค้นหาถ้ำที่พักของจ้าวหมื่นทวยเทพ,เพราะว่าถ้ำที่พักของเขาไม่ได้อยู่ในทวีปเหิงหยวน,แต่อยู่ในเทือกเขาติงเทียนแห่งนี้.

ลู่อี้ผิงนำคนของเขาสำรวจค้นหาถ้ำที่พักจ้าวหมื่นทวยเทพ.

ท้ายที่สุด,ก็มาถึงยอดเขาทางทิศใต้.

เทือกเขาดังกล่าวมีน้ำพุขนาดใหญ่.

พวกเห่ยเซี่ยที่มองเห็นเหล่าหมู่มวลวิหคหายากมากมาย.

มีวิหคหลายร้อยชนิด,บางตนมีขนมากกว่าร้อยสี.

นอกจากวิหคร้อยสี,ยังมีของล้ำค่าอีกหลายอย่าง.

ลู่อี้ผิงที่ยื่นมือออกไป,ปล่อยแสงที่สว่างเจิดจ้าล่วงหล่นลงไป,ทำลายค่ายกลผนึกยอดเขาดังกล่าว,จากนั้นก็ก้าวตรงไปยังกลางยอดเขา.

ที่กลางยอดเขานั้น,มีแท่นศิลาขนาดใหญ่,อยู่ภายในหุบเขาที่ยื่นเข้าไป,มีแสงแดดสาดสอง,ธรรมชาติรอบ ๆ ดูงดงามเป็นอย่างมาก.

ลู่อี้ผิงที่ก้าวไปที่ด้านหน้าผนังหน้าผา,พร้อมกับยกฝ่ามือประทับลงไป,ในเวลานั้นหน้าผาได้พังลง,ปรากฏช่องทางเดินขึ้น.

ช่องทางเดินที่มีสายฟ้าแล่นไปทั่ว,พลังสายฟ้าที่ทำให้พวกเห่ยเซี่ยขนหัวลุกได้.

อย่างไรก็ตาม,ลู่อี้ผิงก้าวเข้าไปด้านในทางเดิน,สายฟ้าที่ทรงพลังสามารถทำลายสวรรค์และปฐพีได้กับหยุดและหายไปอย่างไร้ร่องรอย.

วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ก้าวเข้าไปในช่องทางเดินตามลู่อี้ผิงไป.

พวกเห่ยเซี่ยทั้งสี่ที่ได้สติเองก็เร่งรีบก้าวตามไปเช่นกัน.

หลังจากก้าวผ่านเข้ามาในช่องทางเดินที่ยาวอยู่ไม่น้อย,ทุกคนก็พบกับแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์,เป็นพื้นที่กว้างขวางเป็นอย่างมาก.

พื้นที่มิติแห่งนี้,มีภาพฉากงดงามราวกับแดนสวรรค์,เป็นทุ่งราบที่มีสมุนไพรวิญญาณมากมาย,ต้นไม้เทวะที่ออกผลเต็มไปหมด,ส่องประกายแสงวับวาว,ส่วนสมุนไพรเหล่านั้นมีมากมายหลายชนิด,เห่ยเซี่ยและคนอื่น ๆ ที่จ้องมอง,พบว่าสมุนไพรเหล่านี้มีอายุหนึ่งล้านปีเป็นอย่างต่ำ.

สมุนไพรวิญญาณหนึ่งล้านปี,ปลูกไว้ที่นี่,กว้างขวางใหญ่โต,ส่งกลิ่นหอมฟุ้ง,นอกจากนี้ยังมีมากมายหนาแน่นเต็มไปหมดไม่เคยมีใครเก็บมาก่อน.

พวกเห่ยเซี่ยเห็นเข้าถึงกับกลายเป็นงงงวย.

นี่คือภาพมายาหรือไม่?

สมุนไพรวิญญาณระดับหนึ่งล้านปี,ที่เติบโตมากมาย,นอกจากนี้ยังมีผลไม้จากพฤกษาเทวะอีกนับไม่ถ้วน ทุกต้นล้วนแต่หายากล้ำค่าเป็นอย่างมาก.

ลู่อี้ผิงที่ก้าวมาด้านหน้าพฤกษาเทวะต้นหนึ่ง,ก่อนที่จะยื่นมือออกไปเด็ดผลไม้ลูกหนึ่งออกมาชิ้ม.

“เก็บตามที่พวกเจ้าต้องการ.”ลู่อี้ผิงเอ่ยต่อพวกเห่ยเซี่ย.

พวกเห่ยเซี่ยที่หัวใจเต้นแรง,ทว่าเมื่อพวกเขาเริ่มเก็บผลไม้,กับระมัดระวังเป็นอย่างมาก,ด้วยเกรงว่าจะทำให้ใบของพฤกษาเทวะร่วง.

ใบของพฤกษาเทวะนั้น,เป็นสมบัติล้ำค่าเป็นอย่างมาก.

ลู่อี้ผิงเห็นเข้าก็เผยยิ้ม,ก่อนที่จะก้าวเดินต่อไป.

บนทุ่งที่มีเส้นทางเดินเล็ก ๆ ตรงเข้าไป,สุดปลายทางอยู่ที่ภูเขาลูกหนึ่ง.

บนยอดเขานั้น,มีตำหนักขนาดใหญ่,ที่กินพื้นที่ไปเกือบครึ่งยอดเขา,นี่นี่คือที่พักของจ้าวหมื่นทวยเทพ.

วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ก้าวตามลู่อี้ผิงไป,สายตาที่จับจ้องมองพื้นที่รอบ ๆ,จ้องมองดอกไม้,ต้นไม้และมีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน,ก็เผยใบหน้ามีความสุข.

“เจ้าหนูซู่เฉิงนี้นิสัยดีจริง ๆ.”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ก้าวเข้าไปเด็ดผลพฤกษาล้านปี,พลางถอนหายใจ”ถึงกับปลูกต้นไม้ทองคำนี้ให้กับข้า.”

พวกเห่ยเซี่ยแทบสำลักน้ำลายออกมา.

ลู่อี้ผิงที่จ้องมองไปยังวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,พร้อมกับเผยยิ้ม”ดูเหมือนว่าจะช่วยทำให้ขนสีทองเจ้าส่องประกายมากขึ้น”

วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ดวงตาเบิกกว้าง,พร้อมกับหัวเราะออกมา.

ลู่อี้ผิงที่จ้องมองไปยังตำหนักด้านหน้า,พร้อมกับปล่อยลำแสงทำลายค่ายกลคุ้มกันและก้าวเข้าไปด้านใน.

ตำหนักดังกล่าวนับว่าใหญ่โตไม่น้อย,มีเสาศิลา,ที่เป็นศิลาจากยุคปรัมปรา,สร้างจากวัตถุดิบที่ยอดเยี่ยม,ราคาแพง,มีรูปปั้นที่หลากหลาย,มีอักขระอักษรรูนนับไม่ถ้วนระรานตา.

ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ก้าวตรงไปยังคลังสมบัติ.

เมื่อลู่อี้ผิงเปิดคลังสมบัติ,แสงสว่างที่สาดส่องออกมานับล้านจั้ง,ส่องประกายไปทั่วยอดเขา,ด้านในราวกับว่ามีดวงตะวันซ่อนเอาไว้,สิ่งประดิษฐ์เทวะมากมาย,เม็ดยาเทวะนับไม่ถ้วน,สมบัติต่าง ๆ กองพะเนิน,ทำให้พวกเห่ยเซี่ยตาลายไปหมด.

ซูเฉิงก็คือจ้าวหมื่นทวยเทพ,ย่อมสะสมทรัพยากรเอาไว้มากมาย,เกรงว่าจะไม่ด้อยกว่าสุดยอดกลุ่มอิทธิพล,กล่าวได้ว่าแม้แต่แดนศักดิ์สิทธิ์เจิ้นยวี,วังมังกรปิศาจ,หรือจ้าวจิ่วซิงและเผ่าโม่เหออี้ก็ไม่อาจเทียบคลังสมบัติของเขาได้.