鸿蒙珠下落(二更)
หลังจากลู่อี้ผิงจากไป,ก็ค้นหาร่องรอยของต้ายเฉาต่อ.
หลังจากค้นหาทั่วเทือกเขาหงหวู่ทั้งหมด,กับไม่พบร่องรอยของต้ายเฉาเลยแม้แต่น้อย.
ลู่อี้ผิงที่ขมวดคิ้วไปมา,ข่าวที่ฉื่อเยว่ได้มาคงไม่ผิด,ต้ายเฉาหนีเข้ามาในเทือกเขาหงหวู่นั่นเป็นความจริง,ไม่เช่นนั้น,เผ่าโม่เหออี,เกาะเสวียนกงและกลุ่มอิทธิพลอื่น ๆ คงไม่มารวมตัวกันที่เทือกเขาหงหวู่แน่.
เพียงแต่,ต้ายเฉาเวลานี้หนีไปใหนแล้ว?
ก่อนที่เขาจะมาถึง,เกรงว่าอีกฝ่ายคงแหวกวงล้อมหนีออกไปจากเทือกเขาหงหวู่ไปแล้วเป็นแน่.
“ต้าเหริน,จะค้นหาเทือกเขาละแวกใกล้ ๆ ด้วยหรือไม่?”ฉื่อเยว่เอ่ยถาม.
ลู่อี้ผิงส่ายหน้าไปมา”ไม่จำเป็น,กลับนิกายเลี่ยเฟิงก่อน.
ในเมื่อต้ายเฉาหนีไปแล้ว,ก็ไม่มีทางที่จะซ่อนตัวอยู่ใกล้ ๆ เทือกเขาหงหวู่แน่,ดังนั้น,ลู่อี้ผิงจึงนำวักวระทิงมังกรเขาทองคำและคนอื่น ๆ กลับนิกายเลี่ยเฟิง.
หลังจากพวกลู่อี้ผิงกลับนิกายเลี่ยเฟิงแล้ว,บนท้องฟ้าบนเทือกเขารกร้างของพิภพสวีกง,ห้วงมิติเล็ก ๆ ที่แยกออก,ต้ายเฉาได้ผุดออกมา.
ต้ายเฉาที่หายใจหอบ ๆ,จ้องมองไปยังขอบฟ้าไกลทิศทางของเทือกเขาหงหวู่,ด้วยความตกใจและหวาดกลัว,หลังจากมั่นใจว่าไม่มีใครตามมาแล้ว,ก็เร่งรีบหนีต่อทันที.
ทว่าเมื่อลู่อี้ผิงกลับนิกายเลี่ยเฟิงแล้ว,เรื่องที่สังหาร 12 เทพโบราณที่เทือกเขาหงหวู่นั้นได้กระจายไปทั่วแล้ว,เวลานี้พิภพสวีกงแม้แต่พิภพรอบ ๆ ต่างก็สั่นสะเทือนไปตาม ๆ กัน.
“องค์ชายเผ่าปู่ซือ อู๋ลี่ รวมตราประทับสามพันจั้ง,และจงหยวนกับอาวุโสสูงเก้าคน,เทพแห่งท้องทะเลอายินาร่วมมือกัน,แต่กับถูกลู่อี้ผิงตบตายไปกันหมด!”
“ได้ยินมาว่าตราประทับของลู่อี้ผิงนั้น,มีขนาด 100,000 ลี้!”
“พรึด!”หลายคนที่ได้ยินข่าว,ถึงกับสำลักน้ำชาออกมาเป็นฝอย.
“หนึ่งแสนลี้? มารดาเถอะจะล้อเล่นก็ให้มันมีขีดจำกัดหน่อยเถอะ! มันเกินจริงไปใหม?,เพียงแค่ร้อยลี้ก็น่าหวาดกลัวแล้ว,หนึ่งแสนลี้นี่มัน! ใส่สีตีไข่เกินไปแล้ว,จะมีตราประทับอะไรที่ใหญ่ขนาดนั้นได้?”
หลายคนได้ยินข่าว,ต่างก็สวดส่งเอ่ยว่านี่เป็นเพียงแค่ข่าวลือ.
“ด้วยความแข็งแกร่ง,ตราประทับของเขาก็ควรจะ 30 ลี้กว่า ๆ นี่ล่ะ!”
ผู้คนมากมายต่างก็พูดคุยกันออกรส.
หลังจากลู่อี้ผิงกลับนิกายเลี่ยเฟิง,ก็ไม่ได้สนใจเรื่องราวของผู้คนใด ๆ ทั้งสิ้น,ยังคงนั่งสมาธิบ่มเพาะกับวัวกระทิงมังกรเขาทองคำใต้เจี้ยนมุ่,ตระหนักรู้วิชาลับพฤกษาสวรรค์มิเสื่อมคลายและหยกเจาหัวต่อ.
แน่นอนว่า,ไม่ลืมรดน้ำ เถาวัลย์น้ำเต้าเจ็ดสีด้วย.
ตอนนี้,เจี้ยนมู่เติบโตกว่า 300 เมตรแล้ว,ไม่จำเป็นต้องรดน้ำด้วยน้ำพุแห่งชีวิตสองชามทุกวันอีกต่อไป.
หลังจากบ่มเพาะไปสามวัน.
ขณะตระหนักรู้วิชาลับพฤกษาสวรรค์มิเสื่อมคลาย,ลู่อี้ผิงเริ่มตระหนักได้ว่าระดับกายเนื้อของเขานั้นยังไม่เพียงพอ.
ก่อนหน้านี้,เขาคิดว่าตัวเองทรงพลังพอแล้ว,ไม่ว่าจะเป็นกายเนื้อหรือจิตวิญาณ,ก็เกินพอ,ทว่าหลังจากได้บ่มเพาะวิชาลับพฤกษาสวรรค์มิเสื่อมคลาย,ลู่อี้ผิงก็พบว่า,กายเนื้อของเขาช่างอ่อนแอนัก.
เทียบกับเจี้ยนมู่แล้ว,กายเนื้อของเขานั้นอ่อนด้อยมาก.
ดังนั้น,เขาจึงต้องการศึกษาวิชาลับพฤกษาสวรรค์มิเสื่อมคลาย,ยกระดับกายเนื้อของเขาขึ้นไปอีก.
ส่วนจิตวิญญาณของเขา,ก็เหมือนกับกายเนื้อ,จะต้องบ่มเพาะยกระดับขึ้นไปอีกขั้น.
อย่างไรก็ตาม,เขาจำเป็นต้องค้นหาวิชาบ่มเพาะยกระดับจิตวิญญาณให้มีระดับเท่ากับวิชาที่ได้จากเจี้ยนมู่.
ในวันหนึ่ง,ลุ่อี้ผิงที่หยุดบ่มเพาะ,ก่อนที่จะคิดถึงเรี่องวิชาบ่มเพาะจิตวิญญาณ.
เขาไม่ได้ขาดวิชาบ่มเพาะจิตวิญญาณ,ทว่าวิชาเหล่านั้นกับด้อยกว่าวิชาลับพฤกษาสวรรค์มิเสื่อคลายซึ่งเป็นวิชาระดับเปิดสวรรค์,เทียบกันแล้วยังห่างไกลกันมาก.
“ลูกปัดปฐมกาลฮุ่นตุ้น.”ลู่อี้ผิงครุ่นคิด.
ลูกปัดปฐมกาลฮุ่นตุ้น,นี่คือสมบัติล้ำค่ายุคปฐมกาลฮุ่นตุ้น,ด้านในนั้นบรรจุกฎเกณฑ์ปรับแต่งวิญญาณ,ทว่าหลังจากยุคเปิดสวรรค์,ก็ไม่มีใครรู้ร่องรอยของลูกปัดปฐมกาลฮุ่นตุ้นเลย.
“เรียนต้าเหริน,สหพันธ์เจิ้นจินส่งข่าวมาว่า,รู้ร่องรอยของต้ายเฉาแล้ว.”ฉื่อเยว่ที่ก้าวเข้ามารายงานลู่อี้ผิง,กล่าวด้วยความเคารพ”สหพันธ์เจิ้นจินเอ่ยว่า,ต้ายเฉาได้ปรากฏขึ้นที่เทือกเขาเห่ยเสวี๋ย,หลังจากที่ถูกค้นพบ,ก็ใช้สิ่งประดิษฐ์เทวะมิติหลบหนี,ทำให้เขาสามารถมุดมิติหนีไปได้.”
“ตอนนี้,เขาได้ออกจากพิภพสวีกงแล้ว.”
ลู่อี้ผิงที่สอบถามซ้ำอีกครั้ง.”เขาได้ออกจากพิภพสวีกงแล้วรึ?”
หากออกจากพิภพสวีกงแล้ว,แม่น้ำดารานั้นกว้างใหญ่ไพศาล,มีพิภพมากมายนับไม่ถ้วน,ต้องการค้นหาต้ายเฉานั้นยากมาก.
“ต้องการให้พวกเขาค้นหาหรือไม่ว่าต้ายเฉาอยู่ที่ใด?”ฉื่อเยว่สอบถาม.
ลู่อี้ผิงส่ายหน้าไปมา”ไม่จำเป็น.”
สหพันธ์เจิ้นจินนั้นมีอิทธิพลในโลกชายขอบ 17 พิภพ,ในเมื่อต้ายเฉาออกจากพิภพสวีกง,ด้วยกำลังสหพันธ์เจิ้นจินนั้นคงไม่อาจค้นหาได้.
“ให้สหพันธ์เจิ้นจินช่วยข้าค้นหาท่อนไม้,ศิลาและจี้หยกต่อไป.”ลู่อี้ผิงเอ่ย.
ฉื่อเย่รับคำและถอยออกไป.
จากนั้น,ลู่อี้ผิงก็แทบจะบ่มเพาะวิชาลับพฤกษาสวรรค์มิเสื่อมคลายและหยกเจาหัวใต้ต้นเจี้ยนมู่ทุกวัน,บางครั้งก็นำศิลาจารึกสวรรค์ทั้งหนึ่งร้อยต้นออกมาตระหนักรู้ด้วย.
บนศิลาจารึกสวรรค์,เขากำลังศึกษาเกี่ยวกับวิชาและค่ายกลของศาลสวรรค์ยุคปรัมปราของจักรพรรดิสวรรค์ในอดีตนั่นเอง.
อย่างไรก็ตาม,เขารู้สึกนั่นใจว่า,จักรพรรดิสวรรค์ยุคปรัมปรานั้นควรจะมีชีวิตอยู่.
ในวันหนึ่ง.
ขณะที่ลู่อี้ผิงบ่มเพาะวิชาอยู่นั้น,ก็พบว่าค่ายกลที่เขาวางไว้ที่เทือกเขาเห่ยเสวี๋ย,รังของเผ่าปิศาจจื่อจีสั่นไหว,ลู่อี้จึงผิงลืมตาขึ้นมาในทันที.
พริบตานั้น,เขาก็ฉีกห้วงมิติ,มุ่งตรงไปยังเทือกเขาเห่ยเสวี๋ยทันที.
ลู่อี้ผิงที่กำลังเดินทางไปยังเทือกเขาเห่ยเสวี๋ย,ที่รังของเผ่าปิศาจจื่อจีเทือกเขาเห่ยเสวี๋ย,ร่างในชุดสีดำสองคนที่ใบหน้าบิดเบี้ยวจ้องมองทุ่งราบที่ว่างเปล่าถูกยกเค้าไปทั้งหมด.
“ฝีมือใครกัน?!”หนึ่งในนั้นแผ่จิตสังหารแรงกล้า”หากข้ารู้ว่ามันเป็นใคร,ข้าจะดึงวิญญาณหลอมกระดูกของมัน!”
“สาขาเผ่าจิ้งจอกเจ็ดวิญญาณที่พิภพจิ่วซิงเป็นลู่อี้ผิงทำลาย,เป็นไปได้ว่าเป็นฝีมือของเจ้าเด็กลู่อี้ผิงหรือไม่?”คนชุดดำอีกคนเอ่ยคาดเดา.
“เจ้าเดาได้ถูกต้องแล้ว,เป็นข้าเอง”ในเวลานั้นเสียง ๆ หนึ่งที่ดังขึ้นด้านหลัง,ทำให้ทั้งสองตกใจหันหน้าไปที่ต้นเสียงทันที,ก่อนพบผู้เยาว์ชุดน้ำเงินปรากฏขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้.
“เจ้าคือลู่อี้ผิงอย่างงั้นรึ?!”คนชุดดำคนหนึ่งที่จ้องมองลู่อี้ผิงด้วยความประหลาดใจ”ลู่อี้ผิง,ทำไมเจ้าต้องล่วงเกินเผ่าจื่อจีซ้ำแล้วซ้ำเล่ากัน?”
“เผ่าหยินหมิง.”ลู่อี้ผิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
ทั้งสองที่เผยท่าทางตกใจ.
หนึ่งในนั้นเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา”ลู่อี้ผิง,เผ่าหยินหมิงนั้นทรงพลังน่าเกรงขาม,ไม่ใช่มดเช่นเจ้าจะสามารถยั่วยุได้.”
ลู่อี้ผิงคร้านที่จะพูดคุยด้วย,เขาที่ยื่นมือ ดูดดึงร่างของทั้งสองมาด้านหน้า.
หลังจากนั้น,ก็ค้นวิญญาณตรวจสอบข้อมูล,และระเบิดร่างของทั้งสองไปอย่างง่ายดาย.
“พิภพฮุ่นหลวน.”ลู่อี้ผิงเอ่ยกับตัวเอง.
ทั้งสองนั้นมาจากพิภพฮุ่นหลวนนั่นเอง.
เผ่าจื่อจีนั้นมีรังอีกแห่งที่พิภพฮุ่นหลวน,กล่าวได้ว่านี่คือรังที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ดาราเป่ยหวง,กล่าวได้ว่านี่คือสาขาใหญ่ที่ควบคุมสาขาทั้งหมดของพิภพต่าง ๆ ในพื้นที่ดาราเป่ยหวง.
ลู่อี้ผิงกลับนิกายเลี่ยเฟิง.
เช้าวันถัดมา,ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำก็ออกจากนิกายเลี่ยเฟิง,มุ่งหน้าสู่พิภพฮุ่นหลวน.
17 พิภพโม่เหอนั้นตั้งอยู่บนชายขอบของพื้นที่ดาราเป่ยหวง,การเดินทางไปยังพิภพฮุ่นหลวนนั้นจึงไม่ใช่ระยะทางที่ใกล้นัก.
ลู่อี้ผิงนำเรือเหาะมังกรทมิฬเดินทางด้วยความเร็วสูง,ข้ามผ่านพื้นที่แม่น้ำดาราชั้นแล้วชั้นเล่า,จากนั้นสองสามวันก็เข้าสู่พิภพฮุ่นหลวน.
พิภพฮุ่นหลวน,เป็นพิภพที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ดาราเป่ยหวง,ไม่เพียงมีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุด,ยังมีความแข็งแกร่งที่สุด,กล่าวได้ว่ากลุ่มอิทธิพลชั้นยอดกว่า 70 % ของพื้นที่ดาราเป่ยหวงได้มารวมตัวกันที่นี่.
ลู่อี้ผิงย่อมจำเส้นทางได้,เพราะเคยมาในอดีต.
เวลานี้ได้มุ่งตรงไปยังสาขาของเผ่าปิศาจจื่อจีที่ใหญ่ที่สุดของพื้นที่ดาราเป่ยหวง,ตั้งอยู่ทางที่รกร้างตะวันออกของพิภพฮุ่นหลวน.
สถานที่แห่งนี้,เป็นสถานที่รวบรวมชิ้นส่วนเจี้ยนมู่ทั้งหมดของเผ่าปิศาจจื่อจีจากสาขาต่าง ๆ ในพื้นที่ดาราเป่ยหวง.
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved