ตอนที่ 250

一击覆灭(三更)

ทะเลทรายจางหลง,ตั้งอยู่ทางตะวันออกของพิภพฮุ่นหลวน.

เมื่อยุคโบราณ,จักรพรรดินักบุญเผ่ามนุษย์,เฉินอี้ซีเคยสังหารมังกรปิศาจที่นี่.

ดังนั้นทะเลทรายแห่งนี้จึงถูกเรียกว่าจางหลง(ฝังมังกร)

ในสงครามครั้งนี้,พลังทำลายล้างที่กินพื้นที่ขยาดใหญ่,ทำให้พื้นที่ดังกล่าวเสียหายพังทลายจนกลายเป็นแห้งแล้ง,แม้จะผ่านมาหนึ่งล้านปีแล้ว,ก็ยังไม่มีสิ่งมีชีวิตพืชพรรณใด ๆ เกิดขึ้น.

ทะเลทรายจางหลงน้อยมากที่จะมีบ้านเรือนอาศัยอยู่,ทว่ามีเหล่าปิศาจและผู้ฝึกตนปิศาจมาตั้งถ้ำที่พักที่นี่,ในอดีตมังกรปิศาจได้บ่มเพาะวิชาปิศาจ,หลังจากที่มันตายแล้วโลหิตของเขาได้กระจายไปทั่วสารทิศ,ดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงเหมาะที่จะบ่มเพาะวิชาปิศาจเป็นอย่างมาก.

ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำได้มาปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าทะเลทรายจางหลง.

“หลายปีมาแล้ว,ไม่ฟื้นฟูกลับมาเลยอย่างงั้นรึ?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่จ้องมองพื้นที่รกร้าง,พลางเผยความประหลาดใจ.

ลู่อี้ผิงที่กวาดตามอง”หนึ่งล้านปีแล้ว,พลังปิศาจควรจะสลายหายไปแล้ว.”

วัวกระทิงมังกรเขาทองคำตกใจเอ่ยออกมาว่า”จูเหรินเหมายความว่าปราณปิศาจเหล่านี้เป็นฝีมือของเผ่าปิศาจจือจีอย่างงั้นรึ?”

“อาจเป็นเผ่าปิศาจจื่อจี,หรือเผ่าหยินหมิง”.ลู่อี้ผิงเอ่ย.

หลังจากนั้นทั้งสองก็มุ่งไปด้านหน้า.

“เจ้าหนูเทพปิศาจไปใหนนะ.”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยพร่ำออกมา”ด้วยความแข็งแกร่งของเขา,ไม่น่าจะเป็นอะไร.”

หลังจากที่ลู่อี้ผิงคืนชีพเทพปิศาจเฉียงเหลียงยุคโบราณ,แม้นว่าเขาจะไม่ฟื้นคืนกลับสู่ความแข็งแกร่งเดิม,อย่างไรก็ตามด้วยพลังที่มีเวลานี้ก็ไม่ควรมีใครทำร้ายเขาได้.

ลู่อี้ผิงครุ่นคิด.

ตามที่เขาคาดเดา,เทพปิศาจเฉียงเหลียงคงพบกับอะไรเข้า,จากนั้นจึงไล่ตามออกมาจากพิภพเหิงหยวน.

ทะเลทรายจางหลง,เป็นทะเลทรายที่เต็มไปด้วยเนินเขาเรียงรายเป็นละลอกคลื่น.

นอกจากดินทรายแล้ว,แทบจะมองไม่เห็นสิ่งใด.

บางครั้งคราวก็พบกับเมืองร้างที่ถูกทิ้งเอาไว้.

ผ่านไปนานเหมือนกัน,ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำได้มาถึงพื้นที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง.

ที่นี่คือสาขาใหญ่ที่สุดของเผ่าปิศาจจื่อจีในพื้นที่ดาราเป่ยหวง.

จิตสัมผัสของลู่อี้ผิงที่กวาดม้วนไปทั่ว,ตรวจสอบพื้นที่ส่วนลึกใต้ซากปรักหักพังมีกลิ่นอายหลายพันจุด,ทำให้เขาเผยยิ้มอย่างเย็นชาออกมา.

กลิ่นอายหลายพันใต้ดินมีครึ่งเทพโบราณและเทพโบราณ!

ลู่อี้ผิงที่เปิดเนตรทัณฑ์สายฟ้า,ปล่อยลำแสงออกไป,ทันใดนั้นสายฟ้าเทวะที่หลั่งไหลออกมาราวกับทะเลสายฟ้า,ฟาดลงไปยังส่วนลึกของพื้นที่ดังกล่าว.

เปรี้ยง!!!

ม่านพลังปกป้องพื้นที่ส่วนลึกของซากปรักหักพังก็ถูกทำลายกลายเป็นฝุ่นผงทันที,ฝุ่นทรายที่ลอยคลุ้งปิดท้องฟ้า,สายฟ้าเทวะที่ทำลายค่ายกลป้องกันชั้นแล้วชั้นเล่าไปจนถึงพื้นที่ส่วนลึกทันที.

ใต้ส่วนลึกของซากปรักหักพัง,เหล่ายอดฝีมือเผ่าปิศาจจื่อจีที่วางค่ายกลมากมายปิดกั้นหลายสิบค่ายกล,ทว่าตอนนี้กับพังทลายจากสายฟ้าที่ฟาดลงไป.

มหาค่ายกลนับสิบที่ระเบิดสลายแทบจะทั้งหมด.

ภายใต้ส่วนลึกของซากปรักหักพัง,เป็นเมืองที่กว้างใหญ่,มียอดฝีมือของเผ่าปิศาจจื่อจีที่กำลังบ่มเพาะแม้แต่ฝึกฝนเปรียบฝีมือต่อสู้กันอยู่,กระทั่งยังมีบางกลุ่มที่กำลังปรึกษาหารือเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ดาราเป่ยหวง.

ทันทีที่ทะเลสายฟ้าอันน่าเกรงขามฟาดลงมามหาค่ายกลพังทลายเกิดระเบิดดังสนั่น,ทุกคนต่างก็สัมผัสได้ถึงวิกฤติ,บางคนตื่นตะหนกตกใจ,บางคนเรียกตราประทับออกมา,ปลิวว่อน,แม้แต่ใหญ่ขนาดสามสิบลี้เลยก็ว่าได้.

อย่างไรก็ตาม,ยอดฝีมือปิศาจจื่อจีที่หนีออกมา,ก็ถูกทะเลสายฟ้าที่น่าเกรงขามกลืนไปแทบจะในทันทีเช่นกัน.

กว่า 5000 คน,ไม่มีใครหลบพ้น.

ตราประทับของทุกคน,ต่างก็ถูกกลืนสหลายหายไปพร้อม ๆ กัน.

ทะเลสายฟ้าที่น่าพรั่นพรึงม้วนกวาดไปทั่วทุกสารทิศกระแทกกลืนกินยอดฝีมือคนทุกหนแห่งในเมืองใต้ดิน.

ผ่านไปนานเหมือนกัน,ท้ายที่สุดทุกอย่างก็หยุดลง.

เวลานี้เผ่าปิศาจจื่อจีกว่า 5000 คน,แทบจะกลายเป็นเถ้าถ่านทั้งหมด,เหลือเพียงคนเดียวที่นอนหมดสภาพหายใจหอบ ๆ,การที่เขามีชีวิตอยู่เพราะลู่อี้ผิงจงใจ,นี่คือยอดฝีมือเผ่าปิศาจจื่อจีที่แข็งแกร่งที่สุด,ควรจะเป็นผู้นำที่นี่.

ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่บินอยู่บนหลุมซากปรักหักพัง,ร่อนลงไปและก้าวเข้าไปหาฝ่ายตรงข้าม.

“เจ้าเป็นใคร?”ผู้นำเผ่าปิศาจจื่อจีที่จ้องมองลู่อี้ผิงด้วยความตื่นตระหนก.

ภายใต้การโจมตีดังกล่าว,สังหารยอดฝีมือเผ่าปิศาจจื่อจีไปทั้งหมด,นอกจากนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นครึ่งก้าวเทพโบราณอีกด้วย.

แม้แต่ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของพื้นที่ดาราเป่ยหวง,เจ้าคฤหาสน์เทวะเป่ยหวง,แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทรงพลังขนาดนี้.

“ลู่อี้ผิง.”ลู่อี้ผิงเอ่ยอย่างไม่แยแส.

“เจ้าคือลู่อี้ผิง!”ฝ่ายตรงข้ามที่ประหลาดอย่างที่สุด,แทบอ้าปากค้าง.

เห็นชัดเจนว่า,ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาได้รายงานเรื่องของลู่อี้ผิงกลับมาแล้ว.

ลู่อี้ผิงไม่รั้งรอต่อไป,ดูดดึงร่างอีกฝ่ายมาด้านหน้า,พร้อมกับควบคุมจิตใจ,และสอบถามทันที.

หลังจากสอบถามข้อมูลที่เขาต้องการรู้หมดแล้ว,ก็ไม่ได้สังหารอีกฝ่ายทันที,ทว่าให้อีกฝ่ายได้ส่งคำสั่งออกไป,ให้ทุกคนทุกสาขาของเผ่าปิศาจจื่อจีทั่วพื้นที่ดาราเป่ยหวงมารวมตัวที่นี่และนำชิ้นส่วนของเจี้ยนมู่ทั้งหมดกลับมาด้วย.

จากข้อมูลที่ได้,สาขาต่าง ๆ ของเผ่าปิศาจจื่อจีนั้นได้รวบรวมชิ้นส่วนเจี้ยนมู่มานานแล้ว,เพียงแค่ ยังไม่สั่งการให้นำมารวมตัวกัน,หากให้ทุกสาขานำมารวมทั้งหมด,น่าจะมีชิ้นส่วนเจี้ยนมู่มากกว่าหนึ่งพันท่อน.

มากกว่าหนึ่งพันท่อน?

ก่อนหน้านี้ที่พิภพจิ่วซิง,ลู่อี้ผิงพบท่อนไม้เพียงร้อยกว่าท่อนเท่านั้น,และก่อนหน้านี้ที่เทือกเขาเห่ยเสวี๋ยพิภพสวีกง,และสาขาจิ้งจอกเจ็ดวิญญาณพิภพจิ่วซิง,เขาได้รับชิ้นส่วนเจี้ยนมุ่ 70 และ 90 ท่อนตามลำดับ.

หากเขารวมเจี้ยนมู่ทุกสาขามารวมตัวกัน,ชิ้นส่วนมากกว่าหนึ่งพันท่อน,จะทำให้ต้นเจี้ยนมู่เติบโตขึ้นเท่าไหร่.

เป็นไปได้ว่าเจี้ยนมู่อาจเติบโต 600 เมตร,แม้แต่วิชาลับพฤกษาสวรรค์มิเสื่อมคล้ายขั้นที่สองก็อาจจะปรากฏขึ้นก็ได้.

นอกจากนี้เมื่อบ่มเพาะใต้ต้นเจี้ยนมู่,ความเร็วบ่มเพาะของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน.

ลู่อี้ผิงที่โยนอีกฝ่ายเข้าไปในหม้อจักรวาล,จากนั้นก็เดินสำรวจเมืองใต้ดิน.

แม้นว่าก่อนหน้านี้ทัณฑ์ฟสายฟ้าจะสังหารยอดฝีมือเผ่าปิศาจจือจีไปจำนวนมาก,ทว่าด้วยการควบคุมเอาไว้อย่างดี,จึงไม่ได้ทำลายสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ภายในเมือง.

ดังนั้น,สมบัติล้ำค่าต่าง ๆ ของเผ่าปิศาจจื่อจีจึงอยู่ในสภาพสมบูรณ์.

ลู่อี้ผิงก้าวตรงไปยังตำหนักที่ใหญ่ที่สุด.

ตำหนักแห่งนี้,มีพื้นที่กินรัศมีถึงสิบลี้,ทั่วทั้งตำหนักสร้างขึ้นมาจากหยกมังกรขาว.

ที่ใจกลางนั้น,มีเตาปรุงยาขนาดใหญ่,รอบ ๆ นั้นมีตู้วางขวดหยกมากมาย,มีเม็ดยาเทวะที่หลากหลายเรียงรายเต็มไปหมด.

ลู่อี้ผิงไม่ได้สนใจเม็ดยาเทวะ,ทว่าได้เปิดห้องคลังสมบัติด้านข้างออกมา,ด้านในนั้นมีสมบัติมากมาย.

แม้กระทั่งชิ้นส่วนของเจี้ยนมู่ 3000 ชิ้น,ที่รวบรวมมาจากพื้นที่ต่าง ๆ ของพื้นที่ดาราเป่ยหวง.

วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่จ้องมองไปยังชิ้นส่วนเจี้ยนมู่สามพันชิ้น,พร้อมกับเผยยิ้มพลาย”เจี้ยนมู่มากมายขนาดนี้! หากเป็นเช่นนี้,ต่อไปก็ไม่จำเป็นต้องออกหาเองแล้ว,เพียงแค่เสาะหารังของเผ่าจื่อจีก็ไม่มีปัญหาแล้ว.”

ลู่อี้ผิงเผยยิ้ม,เขาเองก็คิดถึงเรื่องดังกล่าวเช่นกัน.

เผ่าปิศาจจื่อจีที่รวบรวมเจี้ยนมู่ให้กับเผ่าหยินหมิง,หากพบรังของเผ่าหยินหมิง,แน่นอนว่าจะต้องพบกับเจี้ยนมู่มากกว่านี้หลายเท่าแน่.

“เผ่าหยินหมิง”ลู่อี้ผิงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา,เขาที่มีสัญชาติญาณว่าอีกไม่นานจะต้องพบร่องรอยของเผ่าหยินหมิงแน่.

เพราะว่ายอดฝีมือเผ่าปิศาจจื่อจีในพื้นที่ดาราเป่ยหวงสาขาต่าง ๆ กำลังเดินทางมาต้องใช้เวลาสักระยะ,ดังนั้นลู่อี้ผิงจึงยังอยู่ที่นี่,ขณะรอคอยให้เผ่าปิศาจจื่อจีแต่ละสาขาเดินทางมา.

ก็ทำการผสานเจี้ยนมู่ที่มีอยู่ที่นี่,เขาได้ทำการหลอมรวม,ทำให้ต้นเจี้ยนมู่เติบโตขึ้นไม่หยุด.