一拳败北，九星之主新晋神榜前十，大宴十天（三更）

ตูมมมมมมมม!

เสียงระเบิดที่ดังกึกก้องไปทั่วสวรรค์และปฐพี.

ถึงแม้นว่าซุนเจิ้งเต๋อสวมเกราะเทวะระดับจิตวิญญาณสวรรค์,แล้วยังใช้วิชาบ่มเพาะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด,ทว่าดาราเก้าดวง,ที่กระแทกเข้ามาทำให้เขากลายเป็นว่าวสายป่านขาด,ลอยกระเด็นเคล้งล่วงหล่นลงบนทะเลจื่อซิงไป.

ซุนเจิ้งเต๋อที่กระแทกผืนน้ำทะเลล่วงไปจนถึงใต้ผืนทะเล.

เสียงระเบิดจนผืนน้ำระเบิดตามสาดซัดเกิดเป็นคลื่นสึนามิใหญ่ยักษ์แหวกกระจายกลายเป็นสัตว์อสูรยักษ์มากมายพุ่งซัดชายฝั่ง.

ชายฝั่งที่ถูกอสุรกายสายน้ำซัดอย่างหนักหน่วง,เศษหินดินทรายที่ลอยกระเด็นไปทั่วสารทิศ.

ยอดฝีมือมากมายต่างก็หลบเลี่ยงหนีตายกันจ้าระหวั่น,บินออกไปเป็นผึ้งแตกรัง,แม้แต่จ้าวพิภพขั้นต้นยังต้องกระอักโลหิตออกมา,เทพสวรรค์ที่ถูกคลื่น กระแทกหมดสติแทบจะในทันที.

หลาย ๆ คนที่อยู่ห่างออกมาตกตะลึงกันไปหมด.

นี่คือพลังของยอดฝีมือเทพโบราณอย่างงั้นรึ?

ทรงพลังมาก!

แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

ความแข็งแกร่งนี้,เหนือกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการถึงได้.

ถึงจะเป็นผู้บัญชาภพขั้นปลาย,ยังรู้สึกหวาดกลัว.

หมัดจิ่วซิง,ที่เป็นเหมือนกับดวงดาราเก้าดวงที่ล่วงหล่นจากท้องฟ้า,ดูยิ่งใหญ่,ทรงพลัง,ไม่แปลกใจเลยว่าสงอี้พ่ายแพ้เพียงแค่หมัดเดียวในอดีต.

“แข็งแกร่งมาก!”ผู้บัญชาภพขั้นปลายท้ายเอ่ยอุทาน,”ในอดีตท่านจ้าวจิ่วซิงเคยต่อยสงอี้เพียงหมัดเดียว,หมัดจิ่วซิงดูเหมือนว่าจะทรงพลังขึ้นกว่าในอดีต 100 เท่า! ไม่,อาจจะมากกว่าร้อยเท่าด้วยซ้ำ!”

ผู้บัญชาภพขั้นสุดท้ายที่เคยเห็นจ้าวจิ่วซิงและสงอี้ในอดีตต่างก็เอ่ยด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ.

ในอดีตจ้าวจิ่วซิง ต่อยหนึ่งมัดจัดการสงอี้,ทุกคนได้เห็นมาแล้ว,ครั้งนี้ต่อยหนึ่งหมัดเอาชนะซุนเจิ้งเต๋อ,แต่กับดูเหนือยิ่งกว่าในอดีตซะอีก.

ใครคือซุนเจิ้งเต๋อ? นี่คือยอดฝีมือทำเนียบเทพลำดับสิบ,ตอนนี้ไม่อาจทนได้แม้แต่หนึ่งหมัดของจ้าวจิ่วซิง.

โชคดีที่ซุนเจิ้งเต๋อมีพลังกฎพิภพร้อยล้านและกฎพิภพของเขานั้นหนากว่าผู้บัญชาภพทั่วไป,หากเป็นคนอื่นเกรงว่าร่างกายคงระเบิดไปแล้ว.

ท่ามกลางสายตาของทุกคน,จากใต้ทะเลลึกซุนเจิ้งเต๋อที่บินขึ้นมา,เห็นเพียงเกราะรบของเขาแตกหักเสียหาย,บนหน้าอกมีรูเก้ารูประทับอยู่.

รูทั้งเก้าที่มีโลหิตไหลออกมา.

ทุกคนที่หายใจหอบ ๆ.

หากซุนเจิ้งเต๋อไม่สวมเกราะระดับจิตวิญญาณสวรรค์,เกรงว่าหมัดดังกล่าวคงทำลายกายเทพของเขาไปแล้ว.

แม้แต่คนของเกาะเสวียนกง,ทะเลหลวนซิงที่เห็นภาพเหตุการณ์,ยังรู้สึกหัวใจสั่นไปมา.

“อาจารย์!”ศิษย์ของซุนเจิ้งเต๋อที่ตกใจเร่งรีบเข้ามาหา.

ซุนเจิ้งเต๋อที่โบกมือ,จ้องมองไปยังหยวนเจี้ยนหง,เผยความอิจฉาและหวั่นเกรง”ยินดีกับสหายจิ่วซิงที่ตัดผ่านไปยังขอบเขตเทพโบราณ.”จากนั้นก็หยุดและเอ่ยออกมาว่า”ข้าแพ้แล้ว.”

ข้าแพ้!

เมื่อเสียงของซุนเจิ้งเต๋อก้องไปทั่ว.

ในเวลานี้ทุกคนรอบ ๆ ทะเลจื่อซิงที่เงียบลงในทันที.

เมื่อซุนเจิ้งเต๋อเอ่ยปากยอมรับความพ่ายแพ้,นั่นก็หมายความว่า นับจากนี้,จ้าวจิ่วซิงกลายเป็นอันดับเทพลำดับที่สิบแทนที่แล้วนั่นเอง.

ยอดฝีมือทำเนียบเทพลำดับสิบคนใหม่ถือกำเนิดแล้ว.

ผ่านมานานจนกลายเป็นประวัติศาสตร์,สิบอันดับของยอดฝีมือทำเนียบเทพไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย.

ในเวลานี้,ทั้ง 17 พิภพจะต้องเปลี่ยนประวัติศาสตร์อันดับเทพใหม่แล้ว.

“ยินดีกับสหายจิ่วซิง!”แม้แต่ประมุขเกาะเสวียนกงยังยกมือประสานแสดงความยินดีกับจ้าวจิ่วซิง.

ประมุขทะเลหลวนซิงและคนอื่น ๆ ต่างก็เผยความยินดีต่อจ้าวจิ่วซิง.

ผู้บัญชาภพขั้นสุดท้ายหลายคน,ต่างก็ก้าวออกมาแสดงความยินดีกับจ้าวจิ่วซิง.

ทว่าผู้บัญชาภพขั้นต้นและกลาง,พวกเขาได้แต่ชื่นชมห่าง ๆ ไม่มีคุณสมบัติก้าวออกมายินดี.

ด้วยขอบเขตของจ้าวจิ่วซิงเวลานี้,ไม่มีใครกล้าก้าวออกมา.

จ้าวจิ่วซิงตัดผ่านระดับเป็นเทพโบราณ,เวลานี้แม้แต่เหล่าผู้บัญชาภพทั่วไปปรารถนาต้องการคารวะเขา,ก็ไม่มีคุณสมบัติแล้ว.

หยวนเจี่ยหงที่พยักหน้าให้กับประมุขเกาะเสวียนกงและประมุขทะเลหลวนซิง”ขอบคุณ.”

เขาที่กวาดตามองเหล่าผู้บัญชาภพทุกคนที่แสดงความยินดี,เอ่ยออกมาว่า”งานวันเกิดของหยวนโหมวใกล้เข้ามาแล้ว,ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมดื่มฉลอง.”

เหล่าผู้บัญชาภพทุกคน,ที่กล่าวประจบประแจงออกมาทันที.

“แน่นอน,ต้องไปอย่างแน่นอน!”

“ท่านจ้าวจิ่วซิงเชิญ,พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างมาก!”

เหล่ายอดฝีมือจ้าวพิภพขั้นสุดท้ายเผยยิ้มให้กับหยวนเจี่ยหง,”เจ้าเด็กแซ่ลู่ หากว่าได้ข่าวเรื่องการต่อสู้ครั้งนี้,คงหวาดกลัวเยี่ยวรดกางเกงไปแล้วเป็นแน่!”

ทุกคนต่างก็หัวเราะเสียงดัง.

“ข้าคิดว่าเวลานี้คงอกสั่นขวัญหายหนีหางจุกตูดไปแล้วล่ะ!”บรรพชนชรานิกายราชามังกร,หลงเทียนเห่าที่หัวเราะสนุกไปกับทุกคน.

จ้าวจิ่วซิง หยวนเจี่ยหงโบกมือ,เอ่ยออกมาว่า”กลับเมืองจิ่วซิง!”

“น้อมรับบัญชา!”ยอดฝีมือของเมืองจิ่วซิงกล่าวตอบรับเสียงดัง,จนทำให้คลื่นทะเลจื่อซิงเกิดสั่นไหวเป็นระลอกคลื่น.

ยอดฝีมือเกาะเสวียนกง,ทะเลหลวนซิง,นิกายราชามังกร,และคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ,จ้าวจิ่วซิงเอ่ยออกมาว่า”งานฉลองวันเกิดพรุ่งนี้,จะเฉลิมฉลองเป็นเวลาสิบวัน!”

ฉลองสิบวัน!

เสียงของหยวนเจี่ยหงที่ดังก้องไปทั่ว.

เหล่ายอดฝีมือเมืองจิ่วซิงต่างก็กล่าวตอบรับด้วยความเคารพ.

ข่าวเรื่องที่จ้าวจิ่วซิงชนะซุนเจิ้งเต๋อนั้น,กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว,สั่นสะเทือนไปทั่วโลก.

ทั่วทั้งพิภพจิ่วซิงที่ร้อนระอุขึ้นมาทันที.

แม้แต่พิภพรอบข้างยังเผยความตื่นเต้นยินดีด้วย.

ทุกเมืองต่างก็พูดคุยเรื่องของการต่อสู้ของจ้าวจิ่วซิงและซุนเจิ้งเต๋อไม่หยุด.

ลู่อี้ผิง,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำและคนของเขาเดินทางไปยังเมืองจิ่วซิ่ง,เองก็ได้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องจ้าวจิ่วซิงเอาชนะซุนเจิ้งเต๋อเช่นกัน.

“ในเวลานั้นจ้าวจิ่วซิงได้ใช้หมัดเทวะจิ่วซิง,ปรากฏดวงดาวเก้าดวงทำให้สวรรค์และปฐพีเปลี่ยนสี,ทลายฝ่ามือทมิฬของซุนเจิ้งเต๋อ,พุ่งทะลวงเกราะเทวะสมบัติจิตวิญญาณสวรรค์สองชั้น,ไม่อาจต้านได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว.”

“เกาะเทวะสองชั้นของซุนเจิ้งเต๋อที่ระเบิดเป็นรูเก้ารูที่หน้าอก,ร่างกายเกือบระเบิดตามไปแล้ว.”

“ไม่ ๆ,ข้าได้ยินมาว่าซุนเจิ้งเต๋อนั้นสวมเกาะเทวะจิตวิญญาณสวรรค์สามชั้น,ยังไม่อาจป้องกันได้เลย!”

“ซุนเจิ้งเต๋อ,ยอดฝีมือทำเนียบเทพลำดับสิบ,ไม่อาจต้านได้แม้แต่หมัดเดียวของจ้าวจิ่วซิง,บาดเจ็บสาหัส! ขอบเขตเทพโบราณแข็งแกร่งจริง ๆ,ท่านจ้าวจื่อซิงไร้เทียมทานแล้ว.”

ผู้คนมากมายต่างก็พูดคุยกันออกรส.

“พรุ่งนี้งานวันเกิดท่านจ้าวจิ่วซิง,เจ้าคนแซ่ลู่นั่นบอกว่าจะมาเด็ดหัวท่านเจ้าจิ่วซิง,ได้ยินเรื่องการต่อสู้เวลานี้,ข้าคิดว่า คงหวาดกลัวไม่กล้ามาแล้วล่ะ!”

ทุกคนต่างหัวเราะเสียงดังเมื่อพูดเรื่องดังกล่าว.

เวลานี้,ในสายตาของทุกคน,เอ่ยถึงเรื่องลู่อี้ผิงมาเด็ดศีรษะจ้าวจิ่วซิง ได้กลายเป็นเรื่องตลกไปแล้ว.

ลู่อี้ผิงที่ผ่านเมืองหลายเมือง,ต่างก็ได้ยินผู้คนพูดคุยเรื่องเดียวกัน.

เช้าวันถัดมา,ดวงตะวันที่ส่องแสงสว่าง.

วันนี้ฟ้าเปิดท้องฟ้าสว่างโล่ง งดงามเป็นอย่างมาก.

เมืองจิ่วซิงที่ดูคึกคัก,เพราะว่าวันนี้เป็นงานวันเกิดของจ้าวจิ่วซิง,หยวนเจี่ยหงนั่นเอง.

ยอดฝีมือมากมายทั่วทุกสารทิศต่างก็เดินทางมายังเมืองจิ่วซิง,แน่นอน เพราะว่า ก่อนหน้านี้มีผู้คนจำนวนมากที่เดินทางมาชมงานประลองระหว่างหยวนเจี่ยหงและซุนเจิ้งเต่อ,ทำให้พวกเขาแทบทุกคนเข้าร่วมงานเลี้ยงของหยวนเจี่ยหงกันทั้งหมด.

จ้าวจิ่วซิงหยวนเจี่ยหงที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ห้องโถงวังจิ่วซิง,ใบหน้ายิ้มแย้ม,พร้อมกับยกแก้วสุราฉลองกับเหล่ากลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ ที่เข้าร่วมงาน.