ตอนที่ 163

เกิดความเงียบปกคลุมทั่วลานไปชั่วขณะ และจากนั้นความโกลาหลก็ปะทุขึ้น

"อาณาจักรวิญญาณแรกก่อตั้ง?"

"เซิ่งจื่อทะลวงผ่านแล้วจริงๆ?"

"ถ้าข้าจำไม่ผิด มันดูเหมือนเซิ่งจื่อจะมาถึงอาณาจักรแก่นทองคำได้ไม่นานเองนะ'

"นี่คือพรสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสมบูรณ์?"

"หากมีเซิ่งจื่อเช่นนี้ สำนักเราจะต้องสามารถยึดครองเก้าภูมิภาคได้แน่!"

สีหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความตกใจ

วิถีการบ่มเพาะยากลำบาก และการทะลวงผ่านแม้กระทั่งอาณาจักรย่อยก็ยากลำบากมาก นับประสาอะไรกับอาณาจักรใหญ่ที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงมหาศาล

ต่อให้พวกเขาติดอยู่เป็นสิบปีหรือร้อยปี มันเป็นเรื่องปกติ

แต่สำหรับซูสือ มันไม่มีคอขวดอะไรเลย

ในเวลาแค่ไม่กี่เดือน เขาเลื่อนจากแก่นทองคำขั้นต้นเป็นอาณาจักรวิญญาณแรกก่อตั้ง!

แม้กระทั่งผู้อาวุโสกับสี่นักบุญก็ยังตาเหลือก

เสียงของเซินไป่หู่กระตุก"ต่อให้มันเป็นพรสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสมบูรณ์ มันก็ยังมากเกินไปไหม?"

พรสวรรค์กับกระดูกเต๋าคือตัวกำหนดขีดจำกัดของการบ่มเพาะ เพื่อเพิ่มอาณาจักร มันยังต้องผ่านการบ่มเพาะหนัก

จากแก่นทองคำเป็นวิญญาณแรกก่อตั้ง มีช่องว่างขนาดใหญ่ มันต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อสะสม

แต่ซูสือใช้แค่ไม่กี่เดือน?

เฟิงจงเฉวียส่ายหัว"มันดูเหมือนเซิ่งจื่อจะบ่มเพาะหนักกว่าที่เราคิด"

อู่เสวียนหมิงถอนหายใจ"พรสวรรค์ที่ไร้เทียมทาน แถมยังฝึกหนัก และสำคัญสุด หน้าตาดี...ข้าอิจฉามาก!"

หยูเจียวหลงจ้องมองเขาด้วยสายตาเหม่อลอย

นอกจากความตกใจ หัวใจนางยังมีความสุขและภาคภูมิใจ

ชายคนเดียวที่นางเคยกอดด้วย...เป็นคนที่สุดยอดมาก

ตอนนี้เซินไป่หู่เดินไปข้างนางแระกระซิบ"นักบุญหยู คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับซูสือ?"

หยูเจียวหลงพูด"สุดยอดอัจฉริยะ!ไม่ว่าจะเป็นสวรรค์หรือหัวใจ มันเป็นอะไรที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน"

เซินไป่หู่ส่ายหัว"ข้าไม่ได้พูดเรื่องนั้น'

เขาเปลี่ยนคำถาม"จากมุมมองของผู้หญิง คิดว่าซูสือเหมาะกับการเป็นสามีไหม?"

"หะ สามี?"

หยูเจียวหลงตัวแข็ง ดวงตาฉายแววตื่นตระหนก"ทำไมถึงถามเรื่องนี้?"

คนคนนี้ไม่มีทางรู้ถึงความสัมพันธ์ของนางกับซูสือใช่ไหม?!

เซินไป่หู่มองรอบๆและกระซิบ"อะแฮ่ม ข้าอยากให้อี้เหรินแต่งงานกับซูสือ'

ด้วยศักยภาพของซูสือ การใช้คำว่าอัจฉริยะยังกระจอกไป

ถ้ามีเวลา เด็กนี่จะไปถึงจุดสูงสุดแน่

ทั้งสองสามารถอยู่ด้วยกันได้

"อี้เหริน...แต่งกับซูสือ?"

สีหน้าของหยูเจียวหลงเปลี่ยนไป

แม้เซินอี้เหรินจะไม่ใช่หลานของนาง แต่อีกฝ่ายก็เรียกนางว่า'ท่านอาเล็ก'มาหลายปี

ทั้งสองถือได้ว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

ถ้าเซินอี้เหรินแต่งกับซูสือ ซูสือก็จะกลายเป็นหลานเขยนางเหรอ?

แล้วนางจะนอนกับเขาอีกได้ไง?

เซินไป่หู่ถาม"ในฐานะอาของนาง เจ้าคิดเห็นอย่างไร?"

หยูเจียวหลงกำหมัด"ข้าไม่เห็นด้วยอย่างแรง!"

"??"

เซินไป่หู่งุนงง"ทำไม?"

หยูเจียวหลงพูดเสียงเย็น"ไม่มีเหตุผล ข้าแค่ไม่เห็นด้วย!"

"นอกจากนี้ ข้าไม่ใช่อาของนาง เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น"

หลังพูด นางก็จากไป

เซินไป่หู่เกาหัว

"ปฏิกิริยานั้นมันเกินไปไหม?"

บนแท่น

พอมองซูสือที่ฝูงชนรายล้อม ดวงตาอวิ๋นฉีหลัวก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

มันแค่การบรรยายทั่วไป แต่เขากลับทะลวงผ่านได้จริง

ผู้บ่มเพาะวิญญาณแรกก่อตั้งวัยยี่สิบปี!

ตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้ ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน!

อวิ๋นฉีหลัวยืนขึ้น อยากไปข้างซูสือ แต่ก็ลังเลสักพักก่อนหยุด

ความเขินอายฉาบผ่านดวงตานางพอนางคิดถึงเรื่องเมื่อเช้า

"ข้าจะไม่ให้อภัยเขาเร็วนัก ไม่งั้นเขาจะได้ใจ!"

นางหายตัวไป

จวนเซิ่งจื่อ

ซูสือนั่งสมาธิ มีพลังปราณหมุนรอบตัว

สุดท้ายเขาก็สามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงได้หลังแยกเด่ียว

เขาเห็นระฆังโบราณลอยอยู่ในตันเถียนของเขา แผ่แสงน่ากลัว

มันแทบจะเป็นอันเดียวกับระฆังเก้าลี้ลับในโถงใหญ่

ควบคู่กับการตรัสรู้ นี่จึงรวมกัน

กล่าวได้ว่าสำนักยักษ์มารขุมนรกเกี่ยวข้องกับเคล็ดผสานเก้าวัฏจักรแห่งฟ้าดิน

"หนึ่งคือสำนักมารในปัจจุบัน อีกหนึ่งคือมรดกของจักรพรรดิโบราณที่หายตัวไป"

"ระหว่างทั้งสองมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่?"

ซูสืองุนนงง

เขาจดจ่อกับระฆังโบราณ ตระหนักว่าตัวระฆังอยู่ในสภาพผ่านการใช้งาน"หรือเพราะข้าอยู่แค่วัฏจักรแรก?"

"หรือระฆังเก้าลี้ลับมีมากกว่าหนึ่ง?"

ซูสือครุ่นคิดเงียบๆ

เดิมที เขายังไม่ถึงวัฏจักรที่สองของเคล็ดผสาน และมันไม่พอจะทะลวงผ่านไปอาณาจักรวิญญาณแรกก่อตั้ง

แต่ทำนองเต๋าได้แตะระฆังเก้าลี้ลับ

ด้วยเสียงระฆังที่ดัง มันจึงเกิดการตรัสรู้

เขาทะลวงผ่านมายังอาณาจักรวิญญาณแรกก่อตั้งโดยตรง

ตราโบราณที่เขียนบนนั้นขาดส่วนสำคัญไป

ตอนนี้ พลังปาณในตัวของเขามหาศาล และสัมผัสของเขาก็แข็งแกร่งกว่าเดิมหลายเท่า

วิถีบ่มเพาะแบ่งคร่าวๆได้เจ็ดอาณาจักร

ก่อตั้งรากฐาน แก่นทองคำ วิญญาณแรกก่อตั้ง ตัดวิญญาณ ประสานลึกล้ำ เทพจุติ และหลุดพ้น

แต่ละอาณาจักรมีสี่ขั้นย่อย ต้น กลาง ปลายและสมบูรณ์

แต่ละขั้นย่อยแสดงถึงช่องว่างขนาดใหญ่

ถ้าผ่านสายฟ้าลงทัณฑ์ได้ มันก็จะไปถึงจุดสูงสุดและกลายเป็นผู้ที่ทรงพลังสุดในโลก!

วิญญาณแรกก่อตั้งคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

นับจากนี้ไป ผู้บ่มเพาะต้องเสริมแกร่งแก่นแท้วิญญาณ

พอถึงจุดหนึ่ง วิญญาณดั้งเดิมของเราสามารถออกจากร่างได้ด้วย!

"แต่นี่ไม่ดูเหมือนอาณาจักรวิญญาณแรกก่อตั้งสำหรับข้า..."

ซูสือเดินไปทางระฆังโบราณภายในตันเถียนเขา

ระฆังบินออกจากตัวเขา?

มันมักรู้สึกแปลก

ระฆังนี้แปลก

ตอนนี้ มีเสียงเคาะหน้าต่าง

"ใคร?"

ซูสือเดินไปเปิดหน้าต่างอย่างสับสน พบเห็นหยูเจียวหลงยืนอยู่ด้านนอก

"นักบุญหยู?"

ซูสือสงสัย"ทำไมท่านไม่เข้าทางประตูหน้า?"

หยูเจียวหลงส่ายหัว"ข้าไม่อยากให้ไป่ชิงเห็น"

นางกระโดดเข้ามาอย่างชำนาญ

ซูสือ".."

ภายในห้อง ทั้งสองนั่งหันหน้าเข้าหากัน

หยูเจียวหลงพูด"ขอแสดงความยินดีกับเซิ่งจื่อด้วยที่ทะลวงผ่าน"

เกรงว่าเขาจะเป็นผู้บ่มเพาะวิญญาณแรกก่อตั้งที่อายุน้อยสุดแล้ว

ซูสือส่ายหัว"วิญญาณแรกก่อตั้งก็แค่วิญญาณแรกก่อตั้ง แต่ท่าน จู่ๆก็มาหาข้า มันเพราะพิษเย็นจู่โจมอีกแล้วหรือ?"

"เปล่า"

หยูเจียวหลงเงียบไปและถาม"เซิ่งจื่อมีอะไรปิดบังจากข้าไหม?"

ซูสือเงียบไป"ทำไมถึงพูดแบบนั้น?"

หยูเจียวหลงกัดริมฝีปากและกระซิบ"ข้ามาหาท่านคืนก่อน แตค่ท่านไม่กลับมาเลย...ท่าน เกลียดข้าหรือ?"