ตอนที่ 125

ซูสือเดินไปทางประตูวัง

ไม่มีใครขวางทางเขา ข้ารับใช้กับทหารวังไม่แปลกใจที่พบเจอเขาและก้มหัวทักทาย เห็นได้ชัดว่าเฟิงเฉาเกอสั่งพวกเขาไว้แล้ว

พอคิดถึงชุดหงส์สีเหลืองสด ความเย็นชาก็แวบผ่านตาของซูสือ

มีลูกให้นาง?

มันเป็นปกติสำหรับศัตรูที่จะวางแผนใส่กหัน แต่ผู้หญิงคนนี้คิดอะไรแบบนี้ออกมาจากสมองได้ไง?

"ทำลูกของเจ้าไปเองสิ!"

พอคิดถึงจักรพรรดินีที่นั่งบนบัลลังก์เหล็กในสภาพท้องโต มุมปากของซูสือก็ยกยิ้มอย่างชั่วร้าย

ภาพนี้งดงามมาก!

"ท่านอ๋องซู"

ตอนนี้ เสียงเรียกมาจากข้างหูเขา ขันทีสวมชุดหรูเดินมาหาเขา

ซูสือหยุดเดิน"ขันทีไท่หยาง?"

ขันทีสวมชุดตัวหรูผิวขาวไร้หนวดเครา สวมชุดลายงูแขนเสื้อยาวและมีดวงอาทิตย์สีแดงประทับบนหน้าอก

นั่นคือเหตุผลที่ทำไมถึงเรียกว่าขันทีไท่หยาง(ไท่หยางแปลว่าดวงอาทิตย์)

สองครั้ง เขาถูกอีกฝ่ายไปรับและพามายังวัง

ขันทีส่ายหัว"ข้าไม่ได้ชื่อไท่หยาง ข้าชื่อเว่ยจินซง"

"แค่ก!เว่ย เว่ยจินซง?"

ซูสือแทบสำลักน้ำลาย"ท่านขันที ท่านคือเว่ยจงเซียน เจ้าแห่งฉินซุยรึ?"

ผู้นำฝ่ายขันที คนทรยศ!!!!

ขันทีเว่ยหลั่งเหงื่อเย็น"ท่านอ๋อง โปรดอย่าพูดเล่นเลย!ข้าแค่หามเกี้ยว ข้าจะไปเรียกตัวเองว่าเจ้าแห่งฉินซุยได้อย่างไร!"

อ๋องซูผู้นี้มักพูดเกินจริง!

ก่อนอื่น เขาเรียกชื่อฝ่าบาท และตอนนี้ยังเรียกเขาว่าเจ้าแห่งฉินซุย ทำให้เขากลัวจนเกือบขาดใจตาย

ขันทีเว่ยปาดเหงื่อเย็น ไม่กล้าคิดถึงเรื่องนี้"ท่านอ๋องกำลังจะออกไปรหือ?"

ซูสือพยักหน้า"ข้ากำลังจะไปจวนสกุลเฉิน"

หลังได้รับมรดกตระกูลเฉินมา เขาต้องไปมอบคำอธิบายให้เฉินหวังฉวน

แต่ ใบหน้าของขันทีเว่ยกลับยากลำบาก"ท่านอ๋องไม่ควรไปที่นั่นก่อน"

ซูสือขมวดคิ้ว"มีอะไร?"

ขันทีเว่ยมองรอบๆและกระซิบ"ประมุขเฉินตอนนี้อยู่ที่จวนขององค์ชาย สถานการณ์วุ่นวายมาก มันดีกว่าที่ท่านอ๋องจะไม่เข้าไปยุ่ง"

"จวนขององค์ชาย?"

ดวงตาของซูสือเป็นประกาย"ดูเหมือนฝ่าบาทจะรู้ทั้งหมดใช่ไหม?"

ขันทีเว่ยตัวแข็ง"หรือว่าท่านอ๋อง..."

ซูสือไม่พูดอะไรอีกและเดินผ่านเขาไป

ด้านหลังซูสือ ดวงตาของขันทีเว่ยเต็มไปด้วยความตกใจ

อ๋องซูรู้อยู่แล้ว?

จวนขององค์ชาย

คนสองกลุ่มเผชิญหน้ากัน บรรยากาศตึงเครียด

ฉูชีมองกลุ่มคนจากหน่วยปราบมารและขมวดคิ้ว"เฉินชิงหลวน กล้าดียังไงถึงนำคนมาเหยียบจวนขององค์ชาย อยากก่อกบฏหรืออย่างไรกัน!"

ใบหน้าของเฉินชิงหลวนราบเรียบ"หน่วยปราบมารกำลังทำคดี ข้าหวังว่าองค์ชายฉูจะให้ความร่วมมือ"

"ทำคดี?"

ฉูชีกัดฟัน"เจ้ากำลังทำคดีที่จวนองค์ชายของข้า?"

ในฐานะสมาชิกตระกูลราชวงศ์ ฉูหยินมีฐานะสูง ใครจะกล้ารุกรานเขาในเมืองหลวง?

แต่ตอนนี้หน่วยปราบมารบุกเข้ามา!

ข่าวนี้กระจายไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว!

ถนนเต็มไปด้วยเสียงเท้า เหล่าเสนาบดีกับขุนนางทุกลำดับชั้นรีบมาทันทีที่ได้ยินข่าว

เสียงของฉูชีแหลมสูง"บุกเข้ามาในจวนองค์ชาย นี่เป็นการกระทำที่อุกอาจ!ประมุขเฉินต้องให้คำชี้แจง!"

"ข้ามาแล้ว เจ้าอยากได้ยินอะไรละ"

ฝูงชนแหวกและชายวัยกลางคนก็ค่อยๆก้าวเข้ามา

มันคือเฉินหวังฉวน!

รูม่านตาของฉูชีหดลง

เฉินหวังฉวนมาเอง!

นี่ดูไม่ถูกต้อง

เสียงของฉูชีสั่น"ประมุขเฉิน..."

"องค์ชายเสด็จ!"

ฝูงชนตะโกนลั่น

เห็นชายร่างกำยำในชุดลายมังกรสีเหลืองเข้มเดินเข้ามา

องค์ชายฉูหยิน!

ทั้งสองเหมือนขุนเขาลูกใหญ่ กลิ่นอายข่มกันไม่ลง!

อากาศเงียบไปหลายอึดใจ

ฉูหยินขมวดคิ้ว" มีเหตุผลอะไรถึงเรียกคนมามากขนาดนี้ ปรมาจารย์เฉิน?"

เฉินหวังฉวนพูดอย่างไม่แยแส"มาทำคดี"

"ไม่ว่าข้าจะไปก่ออาชญากรรมอะไร ต่อให้พวกเจ้าอยากสืบ มันก็ควรเป็นหน้าที่ของผู้แทนนครหลวง ไม่ใช่อำนาจของหน่วยปราบมาร"

ฉูหยินยืนกอดอกและใบหน้าก็เย็นชา"ถ้าปรมาจารย์เฉินถอยไป ข้าจะแกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่งั้น ข้าจะไปคุยต่อหน้าฝ่าบาท!"

"ใช่แล้ว"

"ประมุขเฉิน นี่ไม่เป็นไปตามกฏหมาย"

"องค์ชายเฉินสูงส่ง การดูถูกตระกูลราชวงศ์เท่ากับการก่ออาชญากรรมร้ายแรง"

เหล่าเสนาบดีที่สนิทกับองค์ชายพูด

โดยไม่พูดอะไร เฉินหวังฉวนหยิบเอาม้วนกระดาษสีทองออกมา

"โองการสวรรค์?"

ฝู.ชนตัวแข็ง จากนั้นก็รีบคุกเข่า แม้กระทั่งฉูหยินกับลูกชายก็ยังคุกเข่า

"ฝ่าบาทมีบัญชา!"

"คดีเมืองหวงหยวนจะอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของหน่วยปราบมาร ใครก็ตามที่กล้าแทรกแซงคดี ไม่ว่าจะมีฐานะเป็นอะไรก็จะถูกโทษประหาร!"

เสียงของเฉินหวังฉวนดังชัด สะท้อนในจวนองค์ชาย

บูม!

เหมือนมีพายุสายฟ้าโหมจากพื้น

หัวใจทุกคนเต้นกระหน่ำ!

คดีเมืองหวงหยวน?

นั่นคือแผนสมคบคิดของเจ้าเมือง เกาฟานกับเผ่าเสือเหรอ?มันสืบจบไปแล้วนี่

คดีความถูกรื้่อขึ้นมาใหม่ และพวกเขาก็มาจวนองค์ชายเพื่อสืบคดี?

หรือว่า...

ฝ่าบาทจะสงสัยองค์ชายฉู?

ดวงตาของพวกเขาปิดความกลัวไม่มิด

เฉินหวังฉวนมองฉูหยิน"องค์ชายฉูมีอะไรจะพูดหรือไม่?"

ใบหน้าของฉูหยินไร้อารมณ์ แต่ดวงตากลับดำมืด"ในเมื่อเป็นประสงค์ของฝ่าบาท ข้าก็จะร่วมมือ แต่ถ้าประมุขเฉินไม่พบอะไร ข้าจะไปขอความยุติธรรมจากฝ่าบาท!'

"องค์ชายฉูมีอิสระจะทำตามใจชอบ"

เฉินหวังฉวนยกมือ"ค้นหาได้!'

กลุ่มคนของหน่วยปราบมารขานรับ

ทหารของตระกูลราชวงศ์ไม่กล้าหยุดพวกเขา ได้แต่มองดูพวกเขาค้นหวัง ไม่เว้นแม้แต่ห้องนอนของผู้หญิง

จากองค์หญิงไปจนถึงสาวใช้ ทุกคนถูกพาไปรวมกันที่สวน ถูกคุมตัวเหมือนเป็นนักโทษ

ตัวของเฉินหวังฉวนอยู่ในอากาศ และสัมผัสของเขาก็ปกคลุมทั้งจวนองค์ชาย

มันดูเหมือนจวนองค์ชายจะต้องถูกขุด!

ใบหน้าของฉูหยินดำมืด

สำหรับคนฐานะเช่นเขา นี่ถือเป็นเรื่องหยามเกียรติ!

"เฉินหวังฉวน ข้าจะต้องไต่สวนเจ้าในศาล!"

ฝูงชนหดหัว มันชัดเจนว่าองค์ชายฉูหยินโกรธจริงๆ!

ตอนนี้ เสียงดังจากด้านนอกประตู

"อะแฮ่ม ทุกคน ขออภัย"

ผู้คนหันไปมอง เห็นชายชุดขาวเดินเข้ามา

"ท่านอ๋อง!"

"อ๋องซู ท่านมาที่นี่ทำไม?"

กลุ่มเสนาบดีดูตื่นเต้น

เขาเป็นที่โปรดปรานโดยฝ่าบาท และเป็นขุนนางคนเดียวที่สามารถพักในวังที่ห่างไกลนั้นได้!

ความโปรดปรานของฝ่าบาทเป็นที่ยืนยัน!

"เหมือนพวกเจ้านั่นแหละ ข้ามาดูเรื่องสนุก"

ซูสือถาม"ข้าสงสัยว่าองค์ชายฉูไปก่ออาชญากรรมอันใด?"

"ชู่ว เรื่องนี้ไม่อาจสรุปได้ ท่านอ๋องโปรดระวังคำพูดด้วย"

"ใช่ มันยังอยู่ภายใต้การสืบสวน ไม่ว่าจะเป็นจริงไหม เรายังไม่รู้'

"เขาเป็นองค์ชายเชียวนะ!"

พอเจอกับคำเตือนหวังดีของพวกเขา ซูสือก็ยิ้ม"องค์ชายแล้วไง?องค์ชายก็สามารถก่ออาชญากรรมได้เหมือนคนธรรมดา ถ้าเขาผิด งั้นเขาก็สมควรโดนลงโทษ"

"นอกจากนี้ ถ้าก้นขององค์ชายฉูสะอาดจริง ทำไมฝ่าบาทถึงออกคำสั่งให้สืบ?"

ไม่มีเสียงใด

ทุกคนกลืนน้ำลายและถอยหลังไปสองก้าว

ขันทีเว่ยที่ตามมากุมขมับ

อ๋องซูก็ยังเป็นอ๋องซู คำพูดของเขาไม่น่าแปลกใจเลย

ตอนนี้ ซูสือเห็นร่างคุ้นเคยและดวงตาก็เป็นประกาย เขาโบกมือ

"ผู้ตรวจการหลวงเฉิน!"