สีหน้าของอันหงโต้วเปลี่ยนไป
นางพยายามดึงมือหนี แต่ช้าไป
ฝ่ามือของซูสือเต็มไปด้วยพลังและเส้นเอ็นนางก็ขาด และข้อมือนางก็โดนจับหักจนโค้งงอในมุมที่น่ากลัว!
แขนของนางห้อยตก กระดูกขาวสามารถเห็นได้ชัด
ซูสือถอนหายใจ”น่าเสียดาย ถึงแม้ฝีมือการนวดของเจ้าจะดีก็เถอะ”
“มารร้ายจากสำนักมาร ตายซะ!”
ดวงตานางเต็มไปด้วยจิตสังหารขณะที่เปิดปากและแทงมีดอย่างดุร้าย!
ปัง!
ประตูห้องถูกกระแทกเปิด
ข้ารับใช้สองคนคำรามพลางพุ่งใส่ซูสือ
บูม!
เกิดเสียงดังในอากาศ
การเคลื่อนไหวของทั้งสามหยุดชะงัก แรงกดดันกลายเป็นหนักอึ้งจนทนไม่ได้ และทั้งสามก็ไม่อาจขยับตัวได้สักนิดไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน
ทั้งหมดที่สามารถเห็นได้คือเงาพวกเขาถูกดึงไว้ด้วยเส้นด้าย ซึ่งปลายเส้นดายถูกซูสือเหยียบไว้แน่น
วิชาลับขุมนรก บ่วงเงา!
ซูสือขมวดคิ้ว”ใครส่งพวกเจ้ามา?”
คนเหล่านี้อ่อนแอมาก
ถ้าศาลาเทียนจีหรือราชวงศ์อยากฆ่าเขา พวกเขาต้องไม่ใช่วิธีกระจอกแบบนี้แน่ อย่างน้อยยอดฝีมืออาณาจักรวิญญาณแรกก่อตั้งก็ควรลงมือเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ผิดพลาด
แต่ถ้าไม่ใช่พวกเขา แล้วใครที่แค้นเขา?
ซูสือคิดและถาม”พวกเจ้ามาจากสำนักเทียนอี้รึ?”
ใบหน้าของหงโต้วซีดขณะที่นางกัดฟัน”เจ้ามารร้าย เจ้าทำร้ายผู้สืบทอดของสำนักข้าและฆ่าผู้อาวุโสของข้า ตอนนี้เจ้ายังกล้ามาถึงถิ่นของข้า?เจ้าไม่มีความเคารพสำนักของข้าเลย!”
“ข้าเข้าใจแล้ว”
ซูสือได้สติ”งั้นนี่ก็คือที่พักของสำนักเทียนอี้?”
“ยังต้องถามอีก?!”
“..”
ซูสือเงียบไป
“ใครจะไปคิดละว่าสำนักฝ่ายธรรมะจะเปิดหอคณิกา?”
สถานที่อย่างโรงเตี๊ยม โรงชาและโรงหนังถึงเหมาะกับการปกปิดตัวตนและสอดส่องข้อมูล
ตอนเขาฟื้นจากบาดแผล โรงยาซึ่งเหมือนโรงหนังแท้จริงแล้วคือที่อยู่ของศาลาเทียนจี
พอมาคิดดู มันปกติที่สำนกเทียนอี้จะมีหอคณิกา
อันหงโต้วหัวเราะ”ข้าได้ส่งคนไปแจ้งสหายเต๋าของข้าแล้ว พวกเขาจะมาถึงในไม่ช้า!เจ้าหนีไม่พ้นหรอก ทำไมเจ้าไม่ยอมจำนนแต่โดยดีเสียละ..”
แครก!
หัวของอันหงโจ้วถูกจับบิด180องศา
ตาของนางยังเต็มไปด้วยความสับสนและไม่อยากเชื่อ
ชายคนนี้ควรจับนางเป็นตัวประกันไม่ใช่เหรอ?
ทำไมเขาถึงไม่เล่นตามกฏ?
ซูสือส่ายหัว”ข้าเกลียดการโดนขู่ ต่อให้คนที่ขู่จะเป็นสาวงามก็ตาม”
การเมตตาศัตรูเท่ากับการโหดร้ายต่อตัวเอง
พลังปราณหลั่งใหลจากใต้ฝ่าเท้าเขา และเงาของเขาก็พลันกระจายไป
ข้ารับใช้อีกสองตายทันที
ซูสือถอนหายใจ”ข้าแค่อยากพักผ่อน ทำไมมันถึงยากนัก?”
ทันใดนั้น เขาก็จำอะไรได้และวิ่งออกห้องไปเหมือนสายฟ้า
“ไม่ดีแล้ว เซินอี้เหรินอาจอยู่ในอันตราย!”
..
ห้องอบอวลไปด้วยไอน้ำ
เซินอี้เหรินกำลังแช่อ่าง ดูผ่อนคลายมาก
น้ำอุ่นล้างความเหนื่อยล้าและทำให้เลือดลมคืนสู่แก้มที่ซีดเซียวของนาง
นางเล่นกับกลีบดอกไม้บนผิวน้ำ และยิ้ม”ซูสือฉลาดไม่เบา เขายังคิดที่จะมาหอคณิกาเพื่อพัก”
“แต่ดูจากหน้าตาผ่อนคลายของเขา เขาต้องมาสถานที่สกปรกแบบนี้บ่อยแน่”
“ฮึ่ม ไม่มีผู้ชายดีๆสักคน”
ขณะที่นางกำลังคิด ประตูก็ถูกกระแทกเปิด
“พี่สาวเซิน ข้ามาช่วยแล้ว!”
“ใครกัน?”
เซินอี้เหรินดีดตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ทั้งสองสบตากัน
“กรี้ดดด!”
เสียงกรีดร้องแหลมสูงดังไปทั่วหอคณิกา
ดวงตาของซูสือแข็งค้าง”ข้า ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังอาบน้ำ…”
เซินอี้เหรินหยิบผ้าเช็ดตัวมาขวางด้านหน้านางและพูดอย่างเขินอายปนโกรธ”อย่ามอง หันไปซะ!’
“อึก!”
ซูสือหมุนตัว ยังมึนงงเล็กน้อย
นี่อันตรายเกินไป!
“สารเลว ข้าจะฆ่าเจ้า!”
เซินอี้เหรินที่แต่งตัวเสร็จกระโจนใส่เขาเหมือนเสือสาวและกัดแขนซูสืออย่างดุร้าย
ใบหน้าของซูสือเขียวปั้ด
“ข้ามาที่นี่เพื่อช่วยเจ้านะ!”
“เจ้าช่วยข้าจากการอาบน้ำ?เจ้าคิดว่าข้าจะจมน้ำตายหรือไง?!”
“..นี่คือที่พักของสำนักเทียนอี้ มีคนเข้ามาฆ่าข้า!”
“ข้าไม่เชื่อ!”
เซินอี้เหรินกัดเขาต่อไม่ยอมปล่อย
ซูสือรู้ว่าเขาผิดและไม่อยากใช้พลังปราณทำร้ายนาง ทั้งสองจึงอยู่ในสภาพนั้น
ตอนนั้นเอง มีเสียงเท้าวุ่นวายด้านนอกประตู
“มารซูสือนั่นอยู่นี่!”
“ค้นทีละห้อง”
“ระวัง เขามีสหาย!”
ก่อนทั้งสองจะได้ตอบสนอง กลุ่มคนก็กรูเข้ามา
เฉินชิงหลวนที่สวมชุดเขียวอยู่ท่ามกลางพวกนั้นด้วย
“...”
พอเห็นท่าทางประหลาดของทั้งสอง ฝูงชนก็เบิกตากว้าง บรรยากาศเงียบและอึดอัด
ดวงตาของเฉินชิงหลวนสั่นเล็กน้อย”พวกเจ้าสองคน….”
ซูสือตีเซินอี้เหริน”ปล่อยข้า มีคนมา”
เซินอี้เหรินปล่อยเขาและเช็ดปาก แก้มของนางแดงเล็กน้อย
ชายชราเครายาวชี้ซูสือและคำราม”ซูสือ หงโต้วตายเพราะเจ้าใช่หรือไม่?”
“ใช่”
ซูสือไม่ปฏิเสธ
ตัวของเฉินชิงหลวนสั่นเล็กน้อย
“เจ้ามารร้าย จงชดใช้ด้วยชีวิตเจ้าเสีย!”
กลิ่นอายของชายชราเครายาวปะทุ และฝู.ชนด้านหลังเขาก็ระเบิดพลังปราณ
ซูสือหน้าไม่เปลี่ยน”พยายามแตะต้องข้า?จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าข้าตายที่นี่ ทั้งสำนักเทียนอี้จะโดนกวาดล้างและกระดูกจะกลายเป็นภูเขา!”
ชายชราตัวสั่นด้วยความโกรธ แต่ใบหน้าก็แสดงความลังเล
ซูสือคือสุดยอดอัจฉริยะวิถีมาร
ถ้าเขาฆ่าเขาในที่สาธารณะ จักรพรรดินีมารต้องไม่อยู่เฉย
ตอนพวกเขาคิดถึงตัวตนนั้น ซึ่งทำลายเก้าภูมิภาคได้ พวกเขาก็กลัว
แม้สำนักเทียนอี้จะมีความบาดหมางลึกซึ้งกับวิถีมาร มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเต็มใจแบกรับความพิโรธของจักรพรรดินีมาร
“ผู้ตรวจการหลวงเฉิน ซูสือกล้าฆ่าคนในเมือง ท่านต้องให้ความยุติธรรมแก่เรื่องนี้!’
ชายชราโยนมันร้อนให้เฉินชิงหลวน
เมืองหลินเฟิงอยู่ภายใต้การควบคุมของราชวงศ์ และในฐานะผู้ตรวจการของหน่วยปราบมาร เฉินชิงหลวนย่อมมีหน้าที่รักษาความสงบในเมือง
เฉินชิงหลวนลดหัว
นางเพิ่งมาถึงเมืองหลินเฟิงแต่ก็ได้รับข่าวการปรากฏของซูสือ นางจึงรีบมาโดยไม่ได้คิดอะไร
นางไม่คิดว่าตอนทั้งสองเจอกัน มันจะเป็นสถานการณ์นี้
“ซูสือ ทำไมเจ้าถึงฆ่าคนในเมือง?”
เฉินชิงหลวนถามเสียงต่ำ
ซูสือพูด”อันหงโต้วอยากฆ่าข้า ข้าควรยืนเฉยให้ข้าหรือไง?”
“โกหก!”
“เห็นได้ชัดว่าเจ้าหลงความงามของหงโต้ว!”
“เขาจีบศิษย์พี่อัน แต่นางยอมตายดีกว่าทำตามเขา มารผู้นี้เลยโกรธและฆ่านาง!”
“ใช่ ต้องเป็นเช่นนั้นแน่”
“ศิษย์พี่อันผู้น่าสงสาร”
ฝู.ชนวิจารณ์
พวกเขายังอธิบายว่ามันสมเหตุสมผล
ทั้งหมดคือคนของฝ่ายธรรมะ ใครจะเชื่อที่มารพูด?
ชายชราหัวเราะเสียงเย็น”เจ้าบอกว่าหงโต้วอยากฆ่าเจ้า แล้วเจ้ามีหลักฐานอะไร?”
พอเจอกับการรุม ซูสือกลับยังไม่แยแส”ไม่มีหลักฐาน ขึ้นอยู่กับว่าพวกเจ้าจะเชื่อหรือไม่”
“แน่นอนว่าข้าไม่เชื่อ..”
“ข้าเชื่อ”
ท่ามกลางสายตาตกใจของทุกคน เฉินชิงหลวนพูดขึ้น”ข้าเชื่อที่ซูสือพูด”
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved