"ไม่น่าแปลกที่เจ้าไม่ค่อยกลับสำนัก เจ้าซ่อนคนรักไว้ในบ้านหลังนี้หรือ?"
อวิ๋นฉีหลัวมีรอยยิ้มเย็นชา
ชายระยำผู้นี้!
ไหนเขาบอกว่ามีแค่ข้าคนเดียวในใจ และยังมอบจี้หัวใจสีแดงให้ข้า แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก?
ผู้ชายไม่มีดีเลยสักคนจริงๆ!
พอมองดวงตาขมขื่นของนาง ซูสือก็กลืนน้ำลาย
ทำไมข้าถึงรู้สึกเหมือนจักรพรรดินีมาร...กำลังหึง?
"ฝ่าบาทเข้าใจผิดแล้ว ไป่ชิงโตมากับผู้น้อยตั้งแต่เด็ก นางคือสาวใช้ที่ข้าพามาจากตระกูลซู สำหรับพรสวรรค์บ่มเพาะของนาง...มันเพิ่งถูกพบ"
ซูสืออธิบาย
ไป่ชิงพยักหน้าข้างเขา
แม้นางจะบื้อ แต่ก็ไม่ใช่คนโง่อย่างสมบูรณ์ มีแค่คนเดียวที่สามารถทำให้นายท่านของนางเรียกว่าฝ่าบาทได้
จักรพรรดินีมารขุมนรกในตำนาน ผู้เย็นชา โหดเหี้ยมและฆ่าไม่ยั้ง!
คิ้วของอวิ๋นฉีหลังขมวด
แสงดำวูบวาบในดวงตาขณะที่นางจ้องไป่ชิง
นางสามารถเห็นดวงตาสดใสคู่นั้นได้ ไป่ชิงบริสุทธิ์อยู่จริงๆ
หรือนางจะเป็นสาวใช้จริงๆ?
อวิ๋นฉีหลัวลังเล"งั้นอุ่นเตียงก็หมายถึง..."
ไป่ชิงหน้าแดง"ข้าแค่อุ่นเตียง ข้าไม่ได้ทำอะไรที่ไม่เหมาะสม'
อวิ๋นฉีหลัวโล่งใจ
ความขุ่นมัวในใจนางหายไป
"ฮึ่ม ดีที่เจ้ารู้ตัว"
"แค่ก"
ซูสือตบหน้าอกตัวเอง"ไม่ต้องห่วง ฝ่าบาท ข้าบริสุทธิ์เหมือนหยก ไม่ได้ลามก"
แก้มของอวิ๋นฉีหลัวแดงเล็กน้อย"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้าว่าเจ้าจะลามกไหม?"
หลังพูด นางก็เดินไปในโถง
การก้าวเดินของนางเบา กระโปรงส่ายไปมา
ซูสือกลืนน้ำลาย
จักรพรรดินีมารผู้นี้จะน่ารักเกินไปแล้ว!
ในโถง
อวิ๋นฉีหลัวนั่งอยู่ตำแหน่งหลัก
นางมองคนด้านหน้านาง ดวงตาแสดงความสับสน
"ทั้งหมดนี่..เจ้าบ่มเพาะมางั้นเหรอ?"
นางเห็นคนหกคนกำลังคุกเข่า ปราณพวกเขายิ่งใหญ่ พวกเขาล้วนเป็นผู้บ่มเพาะแก่นทองคำ
แม้พลังจะไม่มีค่าต่อหน้านาง มันก็ถือเป็นยอดฝีมือในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้!
มีกฏที่ไม่ต้องเขียนว่าผู้แข็งแกร่งไม่ควรแทรกแซงความเป็นไปของมนุษย์ธรรมดา
เจ้าเมืองในแคว้นตะวันตกเฉียงใต้ล้วนอยู่ในระดับแก่นทองคำ และแม้แต่ซูสือ ผู้เป็นแค่ระดับก่อตั้งรากฐานขั้นปลายก็ยังสามารถถือครองตำแหน่งเจ้าเมืองเฟิงซาได้
ผู้บ่มเพาะแก่นทองคำหกคน
เมืองเฟิงซาถือเป็นอันดับหนึ่งในแปดเมืองของตะวันตกเฉียงใต้!
"ลูกน้องระดับแก่นทองคำหกคน อัจฉริยะระดับสุดยอดขั้นสมบูรณ์หนึ่งคน"
เดิมอวิ๋นฉีหลัวตั้งใจจะให้ซูศือเป็นแม่ทัพสบายๆ แต่นางไม่คิดเลยว่าเขาจะบริหารได้ดีขนาดนี้!
ความชื่นชมปรากฏในดวงตานาง
"ดีมาก เจ้าสมกับเป็นชายที่จักรพรรดินีผู้นี้ตั้งความหวังและชื่นชม"
ซูสือพูดอย่างถ่อมตน"มันต้องขอบคุณฝ่าบาทข้าถึงได้รับความสำเร็จนี้"
อวิ๋นฉีหลัวจงใจขมวดคิ้ว"เจ้ากำลังประจบข้า?"
นางไม่เคยทำอะไรให้เขาทั้งนั้น
ซูสือรีบพูด"ฝ่าบาทเข้าใจผิด ผู้น้อย.."
"แต่ไม่เป็นไร"
ดวงตาคู่งามของอวิ๋นฉีหลัวทอประกาย"ข้าจะฝึกเจ้าอย่างดีในอนาคต"
ซูสือใจเต้นเร็ซ
ทำไมจักรพรรดินีมารผู้นี้ถึงเย้ายวนได้ขนาดนี้นะ?
ตอนนี้ อวิ๋นฉีหลัวมองไป่ชิงแล้วถาม
"เจ้ามีพรสวรรค์มาก เจ้าสนใจเข้าร่วมสำนักของข้าไหม?"
จักรพรรดิมารขุมนรกเชิญเป็นการส่วนตัว
เท่าที่รู้มา มีแค่ซูสือถึงได้รับเกียรตินี้
ไป่ชิงไม่ตอบ แต่กก้มหัว"ข้ารับใช้แค่นายท่านของข้า"
"เจ้าภักดี"
อวิ๋นฉีหลัวไม่โกรธและถามซูสือ"เช่นนั้น เจ้าอยากให้นางเข้าร่วมสำนักไหม?"
ซูสือลังเลและส่ายหัว"ข้าขอบคุณข้อเสนอของท่าน แต่ข้าไม่อยากเอาชิงเอ๋อร์มาร่วมความบาดหมางระหว่างฝ่ายธรรมะและฝ่ายมาร นางมีพรสวรรค์ระดับสุดยอดขั้นสมบูรณ์ นางจะเป็นจ้านชิงเฉิงคนที่สอง การดำรงอยู่ของสุดยอดอัจฉริยะอีกคนในวิถีมารมีแต่จะสร้างความปั่นป่วนในเก้าภูมิภาค และถ้าราชวงศ์กับฝ่ายธรรมะลงมือกับไป่ชิง ข้าเกรงว่าผลที่ตามมาจะร้ายแรง"
"อืม ข้าเข้าใจ"
อวิ๋นฉีหลัวพยักหน้า ไม่บังคับ
ซูสือพูดอย่างระวัง"ฝ่าบาทไม่โกรธหรือ?"
เหนือสิ่งอื่นใด เขาได้ปฏิเสธคำเชิญของจักรพรรดินีมาร
อวิ๋นฉีหลัวยิ้ม"ข้าไม่โกรธอยู่แล้ว แค่มีเจ้าก็พอแล้ว'
หลังพูด นางก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดและรีบเปลี่ยนคำพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ"ข้าหมายความว่า ข้ามีเจ้าเป็นศิษย์คนเดียวก็พอแล้ว'
ไป่ชิงตกตะลึง
ไหนพูดกันว่าจักรพรรดินีมารเป็นคนที่เย็นชาและไร้หัวใจ?
แต่ผู้หญิงด้านหน้าานงทั้งสวยและมีเสน่ห์นางไม่มีใครสามารถละสายตาไปจากนางได้
..
ดินแดนเมฆา
บนยอดเขาสูงทะลุเมฆ
คนสองคนนั่งเผชิญหน้ากัน
ทั้งสองร่างนั้นยังมีเมฆหมอกปกคลุมและเสียงก็เหมือนห่างไกล"ชิงเฉิง เจ้าทะลวงผ่านแล้วรึ?"
จ้านชิงเฉิงพยักหน้า"มีโอกาสมากมายในภูเขาเทียนฉวี และศิษย์ก็เข้าสู่ระดับแก่นทองคำขั้นกลางแล้ว"
"ไม่เลว"
ซือคงหลานเยวี่ยพูดอย่างพอใจ"ดูเหมือนการเดินทางครั้งนี้จะไม่เสียเปล่า"
จากนั้นนางก็ถาม"แล้วซูสือละ?"
จ้านชิงเฉิงตอบ"ซูสือได้อันดับหนึ่งทุกการทดสอบ และอาณาจักรก็เข้าสู่แแก่นทองคำขั้นปลายแล้ว ไม่มีใครสามารถทัดเทียมเขาได้"
อากาศกลายเป็นเงียบ
หลังผ่านไปนาน ซือคงหลานเยวี่ยก็ถอนหายใจ"ข้ากลัวว่าจะไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้ในอนาคต"
อวิ๋นฉีหลัวปกป้องซูสือเหมือนไข่ในหิน เฟิงเฉาเกอจะไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าาม
แต่ถ้าเด็กนี่ได้เติบโต มันจะเป็นผลดีหรือผลร้ายต่อโลกกัน?
จ้านชิงเฉิงลังเล"อาจารย์ จริงๆแล้วซูสือไม่ใช่คนเลว.."
ซือคงหลานเยวี่ยสงสัย"เจ้าหมายความว่าอย่างไร?"
จ้านชิงเฉิงพูด"ในอาณาจักรลับ ซูสือช่วยเหลือข้าตั้งหลายครั้ง ไม่เพียงจะช่วยเหลือศิษย์ให้ผ่านการทดสอบ แต่ยังช่วยชีวิตของทุกคนด้วย"
"ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ศิษย์คงตายในอาณาจักรลับไปแล้ว"
สัตว์ประหลาดที่แกล้งเป็นจักรพรรดิโบราณและอาณาจักรลับที่พังทลาย..
ถ้าไม่ใช่เพราะซูสือ หลายคนจะโดนกลบฝังไปพร้อมวังเซียน
ซือคงหลานเยวี่ยตัวแข็ง"จริงรึ?"
จ้านชิงเฉิงพยักหน้า"เป็นความจริง"
พอเห็นว่านางไม่ได้โกหก ซือคงหลานเยวี่ยก็เงียบไป
นั่นเป็นช่วงเวลาดีสุดที่ฝ่ายมารจะได้กำจัดความภาคภูมิใจของฝ่ายธรรมะแท้ๆ
แต่ไม่เพียงซูสือจะไม่หันคมดาบใส่นาง แต่ยังช่วยชีวิตนาง?
อวิ๋นฉีหลัวคือผู้หญิงที่เย็นชาและบ้าคลั่ง มองชีวิตมนุษย์เหมือนหญ้า นางจะฝึกฝนศิษย์เช่นนี้ได้อย่างไร?
เมฆม้วนตัว เห็นได้ชัดว่าไม่สงบ
"ไม่น่าแปลกที่เจ้ากับเฉินชิงหลวนจะขวางหานเฉิน ซูสือคือผู้มีพระคุณต่อเจ้าจริงๆงั้นรึ?"
"เขายังเป็น........"
จ้านชิงเฉิงไม่กล้าพูดออกมา
พอคิดถึงสิ่งที่เกิดในภูเขาเทียนฉวี ดวงตานางก็เย็นชา"ซูสือไม่ได้ทำอะไรชั่วร้าย แค่เพราะพรสวรรค์ของเขาแข็งแกร่งเกินไป เขาเลยสมควรตายหรือ?"
"เฟิงเฉาเกอไร้เหตุผลเกินไปแล้ว!"
ซือคงหลานเยวี่ยส่ายหัว"สำหรับราชวงศ์ ไม่มีอะไรดีอะไรชั่วหรอก ตราบเท่าที่ราชวงศ์ถูกคุกคาม ทั้งหมดคือศัตรู"
ดวงตาของจ้านชิงเฉิงสว่างวาบและพูดอย่างระวัง"อาจารย์ ทำไมเราไม่เอาตัวซูสือมาเป็นพวกเราละ?"
ซือคงหลานเยวี่ย"หือ?"
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved