ตอนที่ 73

"ไม่น่าแปลกที่เจ้าไม่ค่อยกลับสำนัก เจ้าซ่อนคนรักไว้ในบ้านหลังนี้หรือ?"

อวิ๋นฉีหลัวมีรอยยิ้มเย็นชา

ชายระยำผู้นี้!

ไหนเขาบอกว่ามีแค่ข้าคนเดียวในใจ และยังมอบจี้หัวใจสีแดงให้ข้า แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก?

ผู้ชายไม่มีดีเลยสักคนจริงๆ!

พอมองดวงตาขมขื่นของนาง ซูสือก็กลืนน้ำลาย

ทำไมข้าถึงรู้สึกเหมือนจักรพรรดินีมาร...กำลังหึง?

"ฝ่าบาทเข้าใจผิดแล้ว ไป่ชิงโตมากับผู้น้อยตั้งแต่เด็ก นางคือสาวใช้ที่ข้าพามาจากตระกูลซู สำหรับพรสวรรค์บ่มเพาะของนาง...มันเพิ่งถูกพบ"

ซูสืออธิบาย

ไป่ชิงพยักหน้าข้างเขา

แม้นางจะบื้อ แต่ก็ไม่ใช่คนโง่อย่างสมบูรณ์ มีแค่คนเดียวที่สามารถทำให้นายท่านของนางเรียกว่าฝ่าบาทได้

จักรพรรดินีมารขุมนรกในตำนาน ผู้เย็นชา โหดเหี้ยมและฆ่าไม่ยั้ง!

คิ้วของอวิ๋นฉีหลังขมวด

แสงดำวูบวาบในดวงตาขณะที่นางจ้องไป่ชิง

นางสามารถเห็นดวงตาสดใสคู่นั้นได้ ไป่ชิงบริสุทธิ์อยู่จริงๆ

หรือนางจะเป็นสาวใช้จริงๆ?

อวิ๋นฉีหลัวลังเล"งั้นอุ่นเตียงก็หมายถึง..."

ไป่ชิงหน้าแดง"ข้าแค่อุ่นเตียง ข้าไม่ได้ทำอะไรที่ไม่เหมาะสม'

อวิ๋นฉีหลัวโล่งใจ

ความขุ่นมัวในใจนางหายไป

"ฮึ่ม ดีที่เจ้ารู้ตัว"

"แค่ก"

ซูสือตบหน้าอกตัวเอง"ไม่ต้องห่วง ฝ่าบาท ข้าบริสุทธิ์เหมือนหยก ไม่ได้ลามก"

แก้มของอวิ๋นฉีหลัวแดงเล็กน้อย"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้าว่าเจ้าจะลามกไหม?"

หลังพูด นางก็เดินไปในโถง

การก้าวเดินของนางเบา กระโปรงส่ายไปมา

ซูสือกลืนน้ำลาย

จักรพรรดินีมารผู้นี้จะน่ารักเกินไปแล้ว!

ในโถง

อวิ๋นฉีหลัวนั่งอยู่ตำแหน่งหลัก

นางมองคนด้านหน้านาง ดวงตาแสดงความสับสน

"ทั้งหมดนี่..เจ้าบ่มเพาะมางั้นเหรอ?"

นางเห็นคนหกคนกำลังคุกเข่า ปราณพวกเขายิ่งใหญ่ พวกเขาล้วนเป็นผู้บ่มเพาะแก่นทองคำ

แม้พลังจะไม่มีค่าต่อหน้านาง มันก็ถือเป็นยอดฝีมือในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้!

มีกฏที่ไม่ต้องเขียนว่าผู้แข็งแกร่งไม่ควรแทรกแซงความเป็นไปของมนุษย์ธรรมดา

เจ้าเมืองในแคว้นตะวันตกเฉียงใต้ล้วนอยู่ในระดับแก่นทองคำ และแม้แต่ซูสือ ผู้เป็นแค่ระดับก่อตั้งรากฐานขั้นปลายก็ยังสามารถถือครองตำแหน่งเจ้าเมืองเฟิงซาได้

ผู้บ่มเพาะแก่นทองคำหกคน

เมืองเฟิงซาถือเป็นอันดับหนึ่งในแปดเมืองของตะวันตกเฉียงใต้!

"ลูกน้องระดับแก่นทองคำหกคน อัจฉริยะระดับสุดยอดขั้นสมบูรณ์หนึ่งคน"

เดิมอวิ๋นฉีหลัวตั้งใจจะให้ซูศือเป็นแม่ทัพสบายๆ แต่นางไม่คิดเลยว่าเขาจะบริหารได้ดีขนาดนี้!

ความชื่นชมปรากฏในดวงตานาง

"ดีมาก เจ้าสมกับเป็นชายที่จักรพรรดินีผู้นี้ตั้งความหวังและชื่นชม"

ซูสือพูดอย่างถ่อมตน"มันต้องขอบคุณฝ่าบาทข้าถึงได้รับความสำเร็จนี้"

อวิ๋นฉีหลัวจงใจขมวดคิ้ว"เจ้ากำลังประจบข้า?"

นางไม่เคยทำอะไรให้เขาทั้งนั้น

ซูสือรีบพูด"ฝ่าบาทเข้าใจผิด ผู้น้อย.."

"แต่ไม่เป็นไร"

ดวงตาคู่งามของอวิ๋นฉีหลัวทอประกาย"ข้าจะฝึกเจ้าอย่างดีในอนาคต"

ซูสือใจเต้นเร็ซ

ทำไมจักรพรรดินีมารผู้นี้ถึงเย้ายวนได้ขนาดนี้นะ?

ตอนนี้ อวิ๋นฉีหลัวมองไป่ชิงแล้วถาม

"เจ้ามีพรสวรรค์มาก เจ้าสนใจเข้าร่วมสำนักของข้าไหม?"

จักรพรรดิมารขุมนรกเชิญเป็นการส่วนตัว

เท่าที่รู้มา มีแค่ซูสือถึงได้รับเกียรตินี้

ไป่ชิงไม่ตอบ แต่กก้มหัว"ข้ารับใช้แค่นายท่านของข้า"

"เจ้าภักดี"

อวิ๋นฉีหลัวไม่โกรธและถามซูสือ"เช่นนั้น เจ้าอยากให้นางเข้าร่วมสำนักไหม?"

ซูสือลังเลและส่ายหัว"ข้าขอบคุณข้อเสนอของท่าน แต่ข้าไม่อยากเอาชิงเอ๋อร์มาร่วมความบาดหมางระหว่างฝ่ายธรรมะและฝ่ายมาร นางมีพรสวรรค์ระดับสุดยอดขั้นสมบูรณ์ นางจะเป็นจ้านชิงเฉิงคนที่สอง การดำรงอยู่ของสุดยอดอัจฉริยะอีกคนในวิถีมารมีแต่จะสร้างความปั่นป่วนในเก้าภูมิภาค และถ้าราชวงศ์กับฝ่ายธรรมะลงมือกับไป่ชิง ข้าเกรงว่าผลที่ตามมาจะร้ายแรง"

"อืม ข้าเข้าใจ"

อวิ๋นฉีหลัวพยักหน้า ไม่บังคับ

ซูสือพูดอย่างระวัง"ฝ่าบาทไม่โกรธหรือ?"

เหนือสิ่งอื่นใด เขาได้ปฏิเสธคำเชิญของจักรพรรดินีมาร

อวิ๋นฉีหลัวยิ้ม"ข้าไม่โกรธอยู่แล้ว แค่มีเจ้าก็พอแล้ว'

หลังพูด นางก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดและรีบเปลี่ยนคำพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ"ข้าหมายความว่า ข้ามีเจ้าเป็นศิษย์คนเดียวก็พอแล้ว'

ไป่ชิงตกตะลึง

ไหนพูดกันว่าจักรพรรดินีมารเป็นคนที่เย็นชาและไร้หัวใจ?

แต่ผู้หญิงด้านหน้าานงทั้งสวยและมีเสน่ห์นางไม่มีใครสามารถละสายตาไปจากนางได้

..

ดินแดนเมฆา

บนยอดเขาสูงทะลุเมฆ

คนสองคนนั่งเผชิญหน้ากัน

ทั้งสองร่างนั้นยังมีเมฆหมอกปกคลุมและเสียงก็เหมือนห่างไกล"ชิงเฉิง เจ้าทะลวงผ่านแล้วรึ?"

จ้านชิงเฉิงพยักหน้า"มีโอกาสมากมายในภูเขาเทียนฉวี และศิษย์ก็เข้าสู่ระดับแก่นทองคำขั้นกลางแล้ว"

"ไม่เลว"

ซือคงหลานเยวี่ยพูดอย่างพอใจ"ดูเหมือนการเดินทางครั้งนี้จะไม่เสียเปล่า"

จากนั้นนางก็ถาม"แล้วซูสือละ?"

จ้านชิงเฉิงตอบ"ซูสือได้อันดับหนึ่งทุกการทดสอบ และอาณาจักรก็เข้าสู่แแก่นทองคำขั้นปลายแล้ว ไม่มีใครสามารถทัดเทียมเขาได้"

อากาศกลายเป็นเงียบ

หลังผ่านไปนาน ซือคงหลานเยวี่ยก็ถอนหายใจ"ข้ากลัวว่าจะไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้ในอนาคต"

อวิ๋นฉีหลัวปกป้องซูสือเหมือนไข่ในหิน เฟิงเฉาเกอจะไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าาม

แต่ถ้าเด็กนี่ได้เติบโต มันจะเป็นผลดีหรือผลร้ายต่อโลกกัน?

จ้านชิงเฉิงลังเล"อาจารย์ จริงๆแล้วซูสือไม่ใช่คนเลว.."

ซือคงหลานเยวี่ยสงสัย"เจ้าหมายความว่าอย่างไร?"

จ้านชิงเฉิงพูด"ในอาณาจักรลับ ซูสือช่วยเหลือข้าตั้งหลายครั้ง ไม่เพียงจะช่วยเหลือศิษย์ให้ผ่านการทดสอบ แต่ยังช่วยชีวิตของทุกคนด้วย"

"ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ศิษย์คงตายในอาณาจักรลับไปแล้ว"

สัตว์ประหลาดที่แกล้งเป็นจักรพรรดิโบราณและอาณาจักรลับที่พังทลาย..

ถ้าไม่ใช่เพราะซูสือ หลายคนจะโดนกลบฝังไปพร้อมวังเซียน

ซือคงหลานเยวี่ยตัวแข็ง"จริงรึ?"

จ้านชิงเฉิงพยักหน้า"เป็นความจริง"

พอเห็นว่านางไม่ได้โกหก ซือคงหลานเยวี่ยก็เงียบไป

นั่นเป็นช่วงเวลาดีสุดที่ฝ่ายมารจะได้กำจัดความภาคภูมิใจของฝ่ายธรรมะแท้ๆ

แต่ไม่เพียงซูสือจะไม่หันคมดาบใส่นาง แต่ยังช่วยชีวิตนาง?

อวิ๋นฉีหลัวคือผู้หญิงที่เย็นชาและบ้าคลั่ง มองชีวิตมนุษย์เหมือนหญ้า นางจะฝึกฝนศิษย์เช่นนี้ได้อย่างไร?

เมฆม้วนตัว เห็นได้ชัดว่าไม่สงบ

"ไม่น่าแปลกที่เจ้ากับเฉินชิงหลวนจะขวางหานเฉิน ซูสือคือผู้มีพระคุณต่อเจ้าจริงๆงั้นรึ?"

"เขายังเป็น........"

จ้านชิงเฉิงไม่กล้าพูดออกมา

พอคิดถึงสิ่งที่เกิดในภูเขาเทียนฉวี ดวงตานางก็เย็นชา"ซูสือไม่ได้ทำอะไรชั่วร้าย แค่เพราะพรสวรรค์ของเขาแข็งแกร่งเกินไป เขาเลยสมควรตายหรือ?"

"เฟิงเฉาเกอไร้เหตุผลเกินไปแล้ว!"

ซือคงหลานเยวี่ยส่ายหัว"สำหรับราชวงศ์ ไม่มีอะไรดีอะไรชั่วหรอก ตราบเท่าที่ราชวงศ์ถูกคุกคาม ทั้งหมดคือศัตรู"

ดวงตาของจ้านชิงเฉิงสว่างวาบและพูดอย่างระวัง"อาจารย์ ทำไมเราไม่เอาตัวซูสือมาเป็นพวกเราละ?"

ซือคงหลานเยวี่ย"หือ?"