ตอนที่ 82

ทั้งวัน เส้นประสาทของอวี่เหรินเอ๋อร์ตึงมาก

หลังนางสวมห่วงอสูร พลังปราณนางจะถูกสะกด และความเหนื่อยล้าจะปกคลุม

นางผล็อยหลับไปเหมือนทารกในอ้อมกอดอบอุ่นของเขา

ซูสือรู้ใจและไม่ปลุกนาง หลังออกจากเรือ เขาก็อุ้มนางกลับไปจวนแม่ทัพ ตั้งใจจะให้นางพักก่อน

ผลลัพธ์คือ...

อวิ๋นฉีหลัวยืนทำหน้าขึงขังอยู่ด้านหน้าเขา

ทำไมจักรพรรดินีมารถึงกลับมาอีก/

"อะแฮ่ม ตื่น อย่าเพิ่งนอน"

ซูสือเขย่าจิ้งจอกน้อยในอ้อมแขน

ปากของอวี่เหรินเอ๋อร์เผยอ นางพึมพำบางอย่างและเปลี่ยนท่าเป็นกอดคอเขา

พอสังเกตเห็นใบหน้าที่ยิ่งเย็นชาขึ้นของอวิ๋นฉีหลัว ซูสือก็บีบหางจิ้งจอกของนาง

"อ้าาา!!!"

ตัวของอวี่เหรินเอ๋อร์กระตุก

นางลืมตาและบิดตัว"คนสารเลว เจ้าบีบหางข้าอีกแล้ว--"

มุมปากซูสือกระตุก"ทำไมเจ้าไม่ลงไปก่อนละ?"

"มีอะไร?"

เหมือนรู้ตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางมองเหลียวหลังอย่างสับสน

นางเห็นสาวงามผู้หนึ่งกำลังมองนางอย่างเย็นชา

อากาศเย็นกระจายจากกระดูกสันหลังนางขึ้นหัว และสัญชาตญาณเผ่าคนนอกก็บอกนางว่าผู้หญิงคนนี้อันตรายมาก!

แม้กระทั่งผู้นำเผ่าที่ทรงพลังอย่างมากของนางก็ไม่เคยมอบความรู้สึกนี้ให้นาง!

อวี่เหรินเอ๋อร์ซ่อนหลังซูสือและพูด"พี่ชายซูสือ นางเป็นใคร?"

ซูสือไม่ตอบ

เขาก้มหัวให้ผู้หญิงผิวเนียนด้านหน้า"ฝ่าบาท"

"ฝ่าบาท?"

อวี่เหรินเอ๋อร์ตัวแข็ง จากนั้นหัวก็แทบระเบิด

"จะ-จักรพรรดินีมาร?!"

จักรพรรดินีมารผู้เลือดเย็น โหดเหี้ยมและชั่วร้ายจากขุมนรกที่เข่นฆ่าคนเหมือนดื่มนน้ำคนนั้นนะเหรอ?

ขาของอวี่เหรินเอ๋อร์กลายเป็นอ่อนแรง

ในภูเขาเทียนฉวี นางซ่อนตัวในป่า และเห็นพลังของจักรพรรดินีมารกับตา

ด้วยประกาศิตสวรรค์ในปาก คำพูดนางคือกฏ!

แม่ทัพทหารหลวงที่เก่งกาจยังเกือบเป็นเถ้าธุลี!

ตอนนี้คนที่น่ากลัวเช่นนั้นกำลังยืนอยู่ด้านหน้านาง?

สีหน้าของอวิ๋นฉีหลัวไม่แยแส"เจ้าไปเมืองเฉียนหยางมาไม่ใช่หรือไง?"

ซูสือพยักหน้า"ข้าไปเมืองเฉียนหยางจริงๆ"

อวิ๋นฉีหลัวถามอีกครั้ง"แล้ว?"

ซูสือพูดตรงๆ"ข้าไปงานประมูลและฆ่าคนไปสองคน"

"งานประมูล?"

อวิ๋นฉีหลัวพูด"เจ้าเลยนำจิ้งจอกนี่กลับมา?"

ซูสือเกาหัว"นั่นไม่ใช่ มันควรเรียกว่าเก็บมาข้างทาง.."

ดวงตาของอวิ๋นฉีหลัวหรี่ลง"เผ่าจิ้งจอกชิงฉิว ขุนนางของเผ่าคนนอก และยังมีกายกระดูกสวรรค์แห่งเสน่หา พรสวรรค์ไม่น้อยกว่าระดับสูงขั้นสมบูรณ์ เจ้าบอกว่าเก็บมา?"

"งั้นทำไมไม่ไปเก็บมาให้ข้าสักคนละ?"

เผ่าจิ้งจอกชิงฉิวคือเผ่าขุนนางท่ามกลางคนนอก!

เด็กสาวคนนี้มีพรสวรรค์มากและถือเป็นอัจฉริยะท่ามกลางคนนอก อัจฉริยะเช่นนี้จะปรากฏในเมืองมนุษย์แสนอันตรายได้ไง?

ยิ่งไปกว่านั้น ดูจากความสนิทสนมแล้ว ความสัมพันธ์ต้องไม่ธรรมดา!

อวี่เหรินเอ๋อร์ถูกดึงไปหานางและลอยในอากาศเหมือนหุ่นเชิด

อวิ๋นฉีหลัวถามเสียงเย็น"เจ้าชื่ออะไร?"

อวี่เหรินเอ๋อร์พูดด้วยเสียงสั่นเครือ"ข้าชื่ออวี่เหรินเอ๋อร์"

"แล้วอวี่หยวนเป็นอะไรกับเจ้า?'

"อึก นั่นคือพ่อของข้า"

"งั้นเจ้าก็เป็นลูกสาวของผู้นำ"

ดวงตาของอวิ๋นฉีหลัวระเบิดจิตสังหาร"ตอนนี้สถานการณ์ที่ชายแดนตึงเครียดมาก ถ้าเจ้าตายในจักรวรรดิหลินหลาง มันจะเป็นเหมือนการเทน้ำมันบนกองไฟ เผ่าคนนอกจะไม่มีวันหยุด จากนั้นเฟิงเฉาเกอจะต้องคลุ้มคลั่ง"

"สำนักของข้าสามารถฉวยโอกาสโจมตีจากทางเหนือและใต้เพื่อโอบล้อมได้ สู้แย่งที่ราบกลางและโจมตีวังหลวง!"

"เพื่อความยิ่งใหญ่ของสำนักข้า..."

อวี่เหรินเอ๋อร์ตัวสั่นกลัว น้ำตารวมกันในดวงตากลมโตของนาง นางตะโกนเสียงดัง

"ข้าไม่อยากตาย ข้ายังไม่ได้แต่งงานเลย!"

"ฮึก พี่ชายซูสือ หากไม่มีข้า ท่านก็ควรอยู่ดีกินดี"

"ตอนข้าตาย โปรดนำศพข้ากลับไปดินแดนคนเถื่อนด้วย และอย่าลืมเผาน่องไก่ให้ข้าทุกปีในวันครบรอบวันตายของข้า ข้าได้ยินว่ามันมืดและเย็นมากที่นั่น แถมยังไม่มีอาหาร..ฮึก!!!"

นางพูดพล่ามไม่หยุดปากและน้ำตาก็ไหลเหมือนน้ำพุ

ซูสือพูดอย่างหน่ายใจ"ฝ่าบาท นางขี้กลัวมาก อย่าทำให้นางกลัวเลย"

อวิ๋นฉีหลัวจ้องเขา"เจ้าคิดว่าข้าพูดเล่น?"

ซูสือส่ายหัว"ฝ่าบาทไม่ใช่คนโหดขนาดนั้น"

อวิ๋นฉีหลัวแค่นเสียงเย็น"ข้าเย็นชาและโหดเหี้ยม เข่นฆ่าคนเหมือนถอนหญ้า ไม่มีใครในโลกจะโหดเหี้ยมไปกว่าข้า!"

"แต่ข้ารู้ว่ามันแค่ภาพที่แสดง ฝ่าบาทดูเย็นชาก็จริง แต่ภายในอ่อนโยนและงดงาม"

อวิ๋นฉีหลัว : OVO?

นางดูสับสน"เจ้าพูดเรื่องอะไร?!"

มันชัดเจนว่านางเย็นชาและโหดเหี้ยมจนแม้แต่ผู้อาวุโสกับสี่นักบุญก็ยังไม่กล้าสบตานาง

แต่ในสายตาซูสือ นางอ่อนโยนและงดงาม?

โกหก!

ซูสือยักไหล่"ข้าพูดจากใจของข้า"

ไม่ว่าจักรพรรดินีมารจะปฏิบัติกับคนอืนอย่างไร นางก็ดีกับเขามากจริงๆ

อวิ๋นฉีหลัวเงียบ

หลังผ่านไปนาน นางก็ยกฝ่ามือและมิติก็บิดเบี้ยว เผยให้เห็นที่ราบกว้างใหญ่ในความมืดมิด!

"อาณาจักร อาณาจักรคนเถื่อน?"

อวี่เหรินเอ๋อร์อึ้ง

ก่อนนางจะได้ตอบสนอง อวิ๋นฉีหลัวก็โยนนางเข้าไปตรงๆ

ราวกับเดินทางข้ามผ่านห้วงมิติเวลา อวี่เหรินเอ๋อร์ไปถึงอาณาจักรคนเถื่อนทันที และตกจากที่สูง

ปัง!

นางตกลงบนหญ้านุ่ม และยังมึนงง

ข้ารอด?

พอมองรอยแยกที่ค่อยๆปิดตัว ซูสือก็พูดด้วยรอยยิ้ม"ขอบคุณฝ่าบาทที่เมตตา"

นางเมินและเดินไปด้วยมือที่ไพล่หลัง

ซูสือยืนอย่างอึดอัด

หลังจากนั้นไม่นาน อวิ๋นฉีหลัวก็กลับไปประตูและพูด"เจ้ารออะไร ทำไมยังไม่ตามข้ามาอีก?"

ซูสือตัวแข็ง"ผู้น้อยจะกลับไปกับฝ่าบาท?"

"เจ้าไม่อยากรึ?"

"แน่นอนว่าต้องอยากอยู่แล้ว"

ซูสือรีบตามไป

ทั้งสองบินขึ้นฟ้าไปทางใต้

พอมองทิวทัศน์ที่ค่อยๆเคลื่อนด้านใต้พวกเขา ซูสือก็สงสัย"ฝ่าบาท ทำไมเราไม่ข้ามมิติเอา?"

ฝ่าบาทถึงขั้นสามารถข้ามไปยังอาณาจักรคนเถื่อนได้ในพริบตา ไม่ใช่ว่าการกลับไปสำนักจะง่ายเหมือนการกระพริบตาเหรอ?

ดวงตาของอวิ๋นฉีหลัวเป็นประกาย"ทำแบบนั้นเปลืองแรงมากไป ข้าใช้ติดต่อกันไม่ได้ ข้าใช้มันไปแล้ว ตอนนี้เลยทำได้แค่บินช้าๆ"

"โอ้?"

ทั้งสองบินกันเงียบๆ บรรยากาศเงียบสงัด มีแค่เสียงลมคลอเคลียหู

หลังจากนั้นไม่นาน อวิ๋นฉีหลัวก็พลันถามขึ้นมา"เจ้าชอบภูตจิ้งจอกเหรอ?"

"หือ?"

ซูสือเสียสมดุลและเกือบตกจากฟ้า