ตอนที่ 47

อาณาเขตของจักรวรรดิหลินหลางกว้างใหญ่ไพศาล แบ่งเป็นเก้าภูมิภาค

สามภูมิภาคทางใต้ของที่ราบกลางโดนยึดโดยหมู่มาร ส่วนอีกหกภูมิภาคที่เหลืออยู่ภายใต้การควบคุมของราชวงศ์

ภูมิภาคเหนือ ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของทวีปเฉิงเทียน มีทั้งหมด 18 เมืองและมีดินแดนที่อุดมสมบูรณ์

ซูสือกับเซินอี้เหรินบินไปตามเส้นทางที่สั้นสุด แต่มันก็ต้องใช้เวลากว่าสามวันถึงไปถึงชายแดนของภูมิภาคเหนือ

ขนาดของเก้าภูมิภาคใหญ่โตมาก

เมืองหลินเฟิง

คนสองคนบินเหนือท้องฟ้า ก้มมองเมืองที่ปกคลุมด้วยหิมะใต้เท้าพวกเขา

"สุดท้ายก็มาถึง"

เซินอี้เหรินดูเหนื่อยเล็กน้อย

แม้นางจะมีหินปราณคอยเติมพลังปราณและไม่ขาด แต่จิตใจนางก็เหนื่อยล้าหลังเดินทางติดต่อกันหลายวัน

แต่ความหยิ่งที่ฝังลงกระดูกทำให้นางไม่ยอมพัก

ถ้าซูสือสามารถทำได้ แล้วทำไมนางจะทำไม่ได้?

จากก้นบึ้งของหัวใจ นางไม่อยากโดนชายคนนี้ดูถูก

พอมองใบหน้าซีดๆของนาง ซูสือก็พูด"มันไม่ไกลจากภูเขาเทียนฉวี ข้าเองก็เหนื่อยอยู่ มาหาโรงเตี๊ยมพักกันก่อนเถอะ'

เซินอี้เหรินถอนหายใจโล่งอกและพยักหน้า"ก็ได้"

ข่าวของสมบัติที่โผล่เหนือภูเขาเทียนฉวีกระจายไปทั่วเก้าภูมิภาค

วิถีมาร วิถีธรรมะ ราชวงศ์กับผู้บ่มเพาะพเนจรต่างเร่งไปภูมิภาคเหนือ

ไม่มีใครอยากพลาดโอกาส ต่อให้จะได้แค่เศษซุป

เมืองแออัดมาก ผู้บ่มเพาะเดินแบกดาบแบกกระบี่อยู่ทั่วถนน

พวกเขาค้นหาทุกโรงเตี๊ยมในเมือง แต่ไม่มีห้องว่างสักห้อง

เซินอี้เหรินดูเหนื่อย

นางอยากอาบน้ำอุ่นและทิ้งตัวนอนบนเตียง

แต่ปากนางยังแข็ง"จริงๆแล้ว ข้าไม่ได้เหนื่อยอะไร ทำไมเราไม่ไปนอกเมืองและหาที่ทำสมาธิละ"

ซูสือเมินนาง

ทันใดนั้น เขาก็เห็นบางสิ่งและยิ้ม"มา ข้าพบที่ดีๆแล้ว'

"หืม?"

เซินอี้เหรินสับสน

แต่ก็ยังตามเขาไป

พอเห็นหมู่ตึกที่สวย หรูหราและสว่างด้านหน้านาง พร้อมกับเสียงหัวเราะและกลิ่นน้ำมันหอมระเหยจากด้านใน มุมปากของนางก็กระตุก

"นี่คือที่ดีดีที่เจ้าว่า?"

นี่มันหอคณิกาไม่ใช่หรือไง?

เขากล้าดียังไงพานางมาสถานที่สกปรกเยี่ยงนี้?!

ซูสือส่ายหัว"มันก็แค่ที่พัก ไม่ได้สกปรกอย่างที่เจ้าคิด"

"แต่.."

เซินอี้เหรินยังลังเล

ซูสือยื่นมือ"แน่ใจนะว่าไม่อยากมา?งั้นข้าจะได้เข้าไปพักคนเดียว"

เซินอี้เหรินพูด"ก็ได้ แต่เราแค่จะเข้าไปพักเท่านั้น อย่าได้คิดทำอะไรน่ารังเกียจเชียว"

"ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ใช่คนแบบนั้น"

ซูสือรับปาก

ทั้งสองเดินเข้าไปในหอรื่นรมย์

พอมองฉากแปลกตาและสว่างสดใสด้านหน้า เซินอี้เหรินก็สะดุ้ง

แม้นางจะไม่กลัวฟ้าดิน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นางมายังสถานที่เช่นนี้

จากนั้นหญิงสาวแต่งหน้าจัดเต็มก็ฉีกยิ้มตอนเห็นทั้งสองเดินเข้ามาและพูดอย่างกระตือรือร้น"สวัสดี พ่อหนุ่มรูปงาม เจ้าดูเหมือนคนต่างถิ่น นี่คงเป็นครั้งแรกที่เจ้ามาที่นี่ใช่ไหม?"

พอเห็นเซินอี้เหรินข้างๆ ดวงตาของแม่เล้าก็ดูแปลกใจ

พาสาวมาหอคณิกาเนี่ยนะ?

ซูสือโยนแท่งทองไป"ข้าขอจองสองห้องชั้นบน แล้วก็ถังน้ำร้อนสองถัง อย่าให้ใครมารบกวนพวกเราด้วย"

เซินอี้เหรินถอนหายใจโล่งอก

"ไม่มีปัญหาเจ้าค่ะ"

แม่เล้ายิ้ม

แม้ทั้งสองจะแปลก แต่เงินคือเจ้านาย ใครจะมีปัญหากับทอง?

"ท่านลูกค้า เชิญชั้นบนเจ้าค่ะ"

แม่เล้านำทางทั้งสองขึ้นบันไดไป

ตอนนี้ บนราวบันไดของชั้นหนึ่ง ซูสือสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งและรูม่านตาของเขาก็หดลง!

มันเป็นนาง!

ซูสือดูเหมือนจะจำอะไรได้ เขาแหงนมอง แต่ก็เห็นแค่แผ่นหลังของนาง

...

ในห้อง

ซูสือนั่งสมาธิ รับรู้ถึงพลังปราณที่ไหลเวียนอย่างอิสระภายในตัวเขา

มันต้องพูดว่าการซื้อพระสูตรเป็นทางเลือกที่ฉลาดสุดของเขาแล้ว

ด้วยการบ่มเพาะทุกวัน และพรสวรรค์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสมบูรณ์ พลังของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ไม่นานหลังเขาทะลวงผ่านไปอาณาจักรแก่นทองคำ ตอนนี้ฐานบ่มเพาะของเขาก็มั่นคงและอยู่ไม่ไกลจากขั้นกลางแล้ว

แต่ทว่า เพื่อรักษาระดับพลังบ่มเพาะนี้ไว้ การพึ่งพาพลังปราณในอากาศอย่างเดียวไม่พอและต้องการหินปราณ

โชคดี เขาได้ของดีมาเยอะในเมืองอวี่หลิน มากพอจะอยู่ได้อีกสักพัก

"ดูเหมือนการเป็นศิษย์สืบทอดจะไม่เลวร้าย อย่างน้อย ข้าก็ไม่ขาดหินปราณ"

ซูสือลูบคางครุ่นคิดเงียบๆ

ก็อก ก็อก

ตอนนี้ มีเสียงเคาะประตู"นายท่าน ถังอาบน้ำพร้อมแล้วเจ้าค่ะ"

"เข้ามา"

ประตูห้องถูกผลักเปิด คนใช้สองคนเดินแบกถังอาบน้ำเข้ามา ตามด้วยสาวน้อยหน้าตาสะสวย

"ผู้น้อย อันหงโต้วมาบริการนายท่านเจ้าค่ะ"

สาวโค้งตัวอย่างสวยงาม

คนใช้สองคนยิ้ม"นี่คืออ่างดอกไม้จากหอรื่นรมย์ของเรา ขอให้เพลิดเพลิน นายท่าน"

จากนั้น ทั้งสองก็ถอยออกไป ทิ้งไว้แค่สองคนในห้อง

ซูสือขมวดคิ้ว"ข้าจำได้ว่าไม่ได้สั่งให้ใครมาบริการ"

อันหงโต้วหน้าแดงเล็กน้อยและพูดอย่างเขินอาย"ผู้น้อยเห็นท่านอยู่บนชั้นแรกและต้องเสน่ห์ท่านแต่แวบแรก ข้าเลยอดใจไม่ไหวอยากมาเจอท่าน หวังว่าท่านจะไม่ถือสา"

ซูสือลูบคาง"เข้าใจได้ ยังไงซะ หนุ่มหล่ออย่างข้าถือว่าหาได้ยากจริงๆ"

อันหงโต้วปิดปากและยิ้ม"นายท่านเป็นคนตลกดีนะเจ้าค่ะ"

นางเดินไปด้านหลังซูสือ มือหยกของนางนวดบ่า คอของเขาอย่างชำนาญ

ซูสือหลับตาผ่อนคลาย"มาพูดให้ชัดเจนก่อนล่วงหน้านะ ข้าไม่มีเงินให้เจ้า."

"การได้ใช้ค่ำคืนร่วมกับหนุ่มหล่ออย่างท่าน ผู้น้อยเต็มใจ"

อันหงโต้วขยับปากมาใกล้หูเขา เสียงของนางชวนให้เขาคันหัวใจ"ผู้น้อยคืออี้จี แต่ข้าอยากบริการท่าน"(อี้จีคือนางคณิกาที่ขายแต่ศิลปะ ไม่ขายร่างกาย)

นางเต็มใจมอบตัวเองให้ซูสือ

"ดี"

ซูสือชื่นชม"ไม่ว่าจะเป็นลมหายใจหรือเสียง สัดส่วนทุกอย่างดีหมด และมันดูเหมือนว่าเจ้าจะผ่านการฝึกมาอย่างดี"

"แต่เจ้ายังมีข้อผิดพลาดสองข้อ"

อันหงโต้วตัวแข็งและพูดอย่างสับสน"นายท่านหมายความว่าอย่างไร?"

"เจ้าปกปิดพลังบ่มเพาะไว้อย่างดี แม้แต่ข้าก็ไม่ทันสังเกตเห็นแต่แรก แต่เจ้าไม่ควรใช้วิชาเสน่ห์ของเจ้ามาล่อลวงข้า"

"นอกจากนั้น'

ซูสือแสยะยิ้ม"ข้ารับใช้สองคนนั้นยังอยู่ที่หน้าประตู ข้าเกรงว่าพวกเขาคงกำลังรอสัญญาณของเจ้าสินะ?"

ดวงตาของนางเปลี่ยนไป

"ลงมือเลย!"

มีดโผล่จากฝ่ามือนางและแทงใส่เขาเหมือนงูฉก!

แต่ซูสือไวกว่า เขาคว้าข้อมือนุ่มของนางไว้

"นี่คือหอคณิกา และเจ้าก็มาพูดพล่ามไร้สาระว่าไม่ต้องการเงินเนี่ยนะ?"

รอยยิ้มของซูสือเย็นชามาก"เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือไง?"

กร็อบ!

เส้นเอ็นฉีกขาดและข้อมือเรียวของนางก็หักทันที!