"ไม่มีอะไรเกิดขึ้น?"
เฟิงเฉาเกอตัวแข็ง
ซูสือเกาหัว"ข้าจำอะไรไม่ได้เลย ใครจะไปรู้กันถ้าท่านไม่พูด?"
เฟิงเฉาเกอหัวเราะเสียงเย็น"ความคิดของอ๋องซูสุดยอดยิ่ง!เจ้ากำลังบอกว่าการที่ข้าถูกเจ้าล่วงละเมิดไม่เคยเกิดขึ้น?"
ซูสือครุ่นคิด"เอาเป็นว่าข้าเปลือยกายให้ท่านดูดีไหม เราจะได้หายกัน?"
เฟิงเฉาเกอกัดฟัน"ใครอยากเห็นเจ้าเปลือยกาย?ข้าไม่อยากทำให้ตาของข้าแปดเปื้อน!'
ซูสือพูด"งั้นท่านอยากทำอะไร?"
เฟิงเฉาเกอพูด"ตามกฏของหลินหลาง อาชญากรรมนี้มีโทษถึงตาย!ต่อให้เจ้าคือเซิ่งจื่อและมีอวิ๋นฉีหลัวหนุนหลังก็ตาม"
"เจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้าไม่กล้าฆ่าเจ้า?"
จิตสังหารของเฟิงเฉาเกอเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง และแรงกดดันมหาศาลก็กดทับเหมือนขุนเขา
ซูสือหน้าไม่เปลี่ยนสี"ถ้าท่านอยากฆ่าข้า ท่านคงทำไปแล้ว จะมาเสียเวลาพูดทำไม?พูดมาตรงๆเถอะ ท่านอยากทำอะไร?"
สีหน้าของเฟิงเฉาเกอชะงักค้าง
ชายคนนี้น่ารำคาญและฉลาดเป็นกรด...
นางถอนแรงกดดัน เอนพิงเก้าอี้และพูดตรงๆ"ข้าอยากได้เจ้า"
"อยากได้ข้า?"
ซูสือตัวแข็งทื่อ"ข้าแค่เห็นท่านอาบน้ำ การที่ข้าต้องมอบร่างกายข้าให้ท่านคืนไม่มากเกินไปหน่อยเรหอ/"
เฟิงเฉาเกอขมวดคิ้ว"เจ้าพูดเรื่องอะไร?ข้าอยากให้เจ้าอยู่ในเมืองหลวงและช่วยข้าปกครองโลก ไม่ใช่กลายเป็นอ๋องแค่ในนาม"
ซูสือส่ายหัว"ท่านควรรู้ชัดว่าข้าไม่สนใจเรี่องนี้"
"ข้ารู้'
"ความทะเยอทะยานของเจ้าคือการเดินบนวิถีเซียน"
เฟิงเฉาเกอมองเขา"แต่เจ้าเคยสงสัยไหมว่าทำไมข้าถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้แม้ข้าจะยุ่งกับการปกครองบ้านเมือง?"
ซูสือส่ายหัว
เขาคิดไม่ออกจริงๆ
"มีเต๋านับพัน และทั้งหมดก็มุ่งหน้าไปทางเดียวกัน แล้วอำนาจปกครองจะไม่ใช่หนึ่งในเต๋าได้อย่างไร?"
เฟิงเฉาเกอพูด"เพื่อไปถึงจุดสูงสุด ถือครองโลกในมือ และเพิ่มพลังมังกรเข้าสู่กาย นี่คือวิถีของจักรพรรดิ!'
ซูสือพลันเข้าใจ"ท่านหมายถึงการทะลวงผ่านพันธนาการด้วยพลังปราณ?"
เฟิงเฉาเกอพยักหน้า"ไม่อย่างนั้น ทำไมอวิ๋นฉีหลัวถึงอยากครองบัลลังก์นี้ละ?จริงๆแล้ว สิ่งที่นางสู้ไม่ใช่อำนาจ แต่เป็นพลังปราณอันยิ่งใหญ่ของมังกรแท้จริงในเก้าภูมิภาค!"(พลังปราณอันยิ่งใหญ่หมายถึงทรัพยากรไม่รู้จบ ส่วนมังกรแท้จริงหมายถึงเต๋าจักรพรรดิ)
ซูสือสงสัย"แล้วทำไมท่านถึงบอกข้า/"
เฟิงเฉาเกอมองเขา"เพราะเจ้าไม่ต้องสู้เพื่อมัน ตราบเท่าที่เจ้าอยู่ข้างกายข้า สักวันหนึ่ง ข้าจะส่งมอบทั้งจักรวรรดิให้เจ้า"
คนที่ทรงพลังสุดไม่ได้หมายความว่าจะอยู่เป็นนิรันดร์
ถ้าราชวงศ์อยากอยู่รอดเป็นนิรันดร์ มันก็ต้องมีผู้สืบทอด
"อืม วางแผนถึงอนาคตสินะ?'
ซูสือส่ายหัว"ตำแหน่งจักรพรรดิ ท่านจะมอบมันให้ข้า คนนอกเนี่ยนะ?"
เฟิงเฉาเกอไม่โกรธ"ข้าไม่มีคู่ครองหรือทายาท เจ้าคิดว่าข้าจะมอบอาณาจักรให้ใครละ?"
ในตระกูลราชวงศ์มีแต่ความปั่นป่วนเพราะขาดรัชทายาท
นางคือผู้ปกครองอาณาจักร มีมงกุฏในมือ แต่ฮาเร็มยังว่างและไม่มีชายหน้าไหนสักคน ใครจะมาสืบทอดบัลลังก์?
ซูสือยักไหล่"ไม่ใช่ว่ายังมีองค์ชายฉู?"
"ฉูหยิน?"
เฟิงเฉาเกอพ่นลม"เขาคือพวกไม่เอาไหน โกงกินบ้านเมืองข้าจะส่งมอบอาณาจักรไปอยู่ในมือคนเช่นนี้ได้ไง?"
ถ้าไม่ใช่เพราะมีสายเลือดราชวงศ์ นางคงฆ่าฉูหยินด้วยมือนางไปแล้ว
"เจ้าคือวีรชน มีพรสวรรค์สูงส่ง และยังเข้าใจเจตจำนงกระบี่ห่าวหราน"
เฟิงเฉาเกอถอนหายใจ."ข้าไม่สามารถหาใครที่เหมาะสมไปกว่าเจ้าได้"
ซูสือลูบจมูก
เขาอายกับคำชมของอีกฝ่าย
"แต่ข้าไม่สนใจจริงๆ"
เฟิงเฉาเกอดูเหมือนจะคิดไว้อยู่แล้วว่าเขาต้องปฏิเสธ"ไม่เป็นไร ข้าจะให้อีกทางเลือกกับเจ้า"
ซูสือพูดอย่างอยากรู้"ทางเลือกอะไร?"
เฟิงเฉาเกอมองเขา"ในเมื่อเจ้าไม่อยากเป็นผู้สืบทอด งั้นก็ให้กำเนิดลูกแก่ข้าสักคน"
"ว่าไงนะ?"
ซูสือตกใจ"ให้กำเนิดลูก?!"
ซูสือมองท้องแบนราบของนางและลำคอก็แห้ง"..นี่ไม่ดีกระมั้ง?"
ร่วมรักโดยปราศจากความโรแมนติก การทิ้งเมล็ดพันธุ์ไว้โดยปราศจากความรักคือความชั่วร้าย
เรื่องแบบนี้เขาทำไม่ได้จริงๆ
เฟิงเฉาเกอสังเกตเห็นสายตาเขา ความอายและความโกรธปรากฏในดวงตานาง"ข้าอยากได้เด็กจากเจ้า แต่ใครบอกว่าต้องทำกับข้า?เจ้ามีความคิดโรคจิตพรรค์ไหนในหัวเจ้ากัน?"
นางคือจักรพรรดินี นางจะนั่งบนบัลลังก์เย็นขณะอุ้มท้องโตได้ไง?
ชายคนนี้กล้ามาก!
ซูสือถอนหายใจโล่งอก"ข้าเบาใจขึ้นเยอะ"
เฟิงเฉาเกอมองเขา"ไม่ใช่ว่าเจ้าสนิทกับเฉินชิงหลวนหรือไง?นางเกิดมาพร้อมกายกระบี่ และเจ้าก็มีพรสวรรค์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสมบูรณ์ พรสวรรค์สายเลือดของเจ้าจะต้องแข็งแกร่งมาก'
"นอกจากนี้ พวกเจ้าสองคนเหมาะกันมาก ตราบเท่าที่เจ้าทิ้งทายาทไว้ให้ข้า ข้าจะเลี้ยงเขาให้เป็นจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่"
นางคิดว่าความคิดนี้ดีมาก
มันจะมอบผู้สืบทอดให้นางและแก้ไขความกังวลในอนาคตให้นาง ผูกมัดซูสือกับราชวงศ์เข้าด้วยกัน
ซูสือเงียบไปนานและถอนหายใจ"ไม่น่าแปลกที่ท่านแต่งตั้งข้าเป็นอ๋องและย้ำว่าต้องรับมัน ท่านคิดถึงทายาทข้าไว้แต่แรกแล้ว"
เขาคิดว่าเขามองออกหมด แต่ไม่คิดว่าความคิดของจักรพรรดินีผู้นี้จะล้ำลึกขนาดนี้
เฟิงเฉาเกอดูเป็นธรรมชาติ""นี่จะเป็นประโยชน์แก่เจ้า ไม่มีผลเสียอะไร"
นางไม่สามารถคิดหาเหตุผลใดที่อีกฝ่ายจะปฏิเสธได้
ซูสือมองนางอย่างเย็นชา"ท่านรู้ถึงความแตกต่างระหว่างท่านกับจักรพรรดินีมารไหม?"
เฟิงเฉาเกองุนงง"ยังไง?"
"ความจริงใจ"
"แม้จักรพรรดินีมารจะชั่วร้ายและก่อกบฏ แต่หัวใจนางไม่ซับซ้อน มะระหวานยังสำคัญต่อนางมากเสียยิ่งกว่าเต๋า"
"และท่านคือผูู้สูงส่ง มีศักดิ์ฐานะ นั่งบนบัลลังก์ แต่หัวใจกลับเย็นเหมือนเหล็ก เต็มไปด้วยแผนการและผลประโยชน์เท่านั้น"
ซูสือพูดอย่างไม่แยแส"สำหรับหลินหลาง ท่านอาจเป็นจักรพรรดินีที่ดี แต่สำหรับข้า การอยู่ให้ห่างจากท่านนั้นดีสุด"
วินาทีที่เขาเข้าเมืองหลวงเว่ยหยาง อีกฝ่ายก็วางแผนใส่เขาแล้ว และตอนนี้ยังมีความคิดเข้าหาเฉินชิงหลวน
นี่ทำให้เขาไม่พอใจ
หลังพูดเขาก็มองนางอีกครั้ง เดินตรงออกวัง
ขุนนางหญิงดันผ่านมาพอดี
พอเห็นซูสือออกจากห้องนอนของฝ่าบาท ขากรรไกรนางก็แทบตกถึงพื้น
"ทำไมซูสือถึงอยู่นี่?หรือว่าจะเป็นฝ่าบาท...เป็นไปไม่ได้!"
ดวงตาของขุนนางหญิงเต็มไปด้วยความตกใจ
นางเดินเข้าห้องนอน เห็นเฟิงเฉาเกอนั่งตัวแข็งบนเก้าอี้ ราวกับนางเป็นรูปปั้น
ขุนนางหญิงเดินไปหานาง แต่ตกใจกับฉากตรงหน้า
นางเห็นดวงตาของเฟิงเฉาเกอเปียกชุ่ม กัดริมฝีปากตัวเอง สีหน้านางโกรธและเศร้าเล็กน้อย
นางไม่เคยเห็นฝ่าบาทแสดงสีหน้าเช่นนี้มาก่อน!
"ฝ่าบาท ฝ่าบาท?"
เฟิงเฉาเกอกุมชุดตัวเองและพูดเขาบอกว่าหัวใจข้าเย็นเหมือนเหล็ก"
"สำนักยักษ์มารขุมนรกคิดร้ายกับจักรวรรดิข้า ข้าจะแค่ดูเฉยๆได้ไง?"
"ข้าแค่ขอให้เขามอบลูกให้ข้า แต่เขาไม่อยาก ทำไมเขาถึงพูดแบบนั้น?"
พอเห็นสายตาเศร้าหมองของจักรพรรดินี ขุนนางหญิงก็กลืนน้ำลาย
ลูก?
พอคิดถึงซูสือที่เพิ่งเดินออกห้องนอนนางไป หนังศีรษะของนางก็ชาด้าน
"ข้าไม่ขอพูด ฝ่าบาท ข้าไม่ขอพูด!"
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved