ตอนที่ 124

"ไม่มีอะไรเกิดขึ้น?"

เฟิงเฉาเกอตัวแข็ง

ซูสือเกาหัว"ข้าจำอะไรไม่ได้เลย ใครจะไปรู้กันถ้าท่านไม่พูด?"

เฟิงเฉาเกอหัวเราะเสียงเย็น"ความคิดของอ๋องซูสุดยอดยิ่ง!เจ้ากำลังบอกว่าการที่ข้าถูกเจ้าล่วงละเมิดไม่เคยเกิดขึ้น?"

ซูสือครุ่นคิด"เอาเป็นว่าข้าเปลือยกายให้ท่านดูดีไหม เราจะได้หายกัน?"

เฟิงเฉาเกอกัดฟัน"ใครอยากเห็นเจ้าเปลือยกาย?ข้าไม่อยากทำให้ตาของข้าแปดเปื้อน!'

ซูสือพูด"งั้นท่านอยากทำอะไร?"

เฟิงเฉาเกอพูด"ตามกฏของหลินหลาง อาชญากรรมนี้มีโทษถึงตาย!ต่อให้เจ้าคือเซิ่งจื่อและมีอวิ๋นฉีหลัวหนุนหลังก็ตาม"

"เจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้าไม่กล้าฆ่าเจ้า?"

จิตสังหารของเฟิงเฉาเกอเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง และแรงกดดันมหาศาลก็กดทับเหมือนขุนเขา

ซูสือหน้าไม่เปลี่ยนสี"ถ้าท่านอยากฆ่าข้า ท่านคงทำไปแล้ว จะมาเสียเวลาพูดทำไม?พูดมาตรงๆเถอะ ท่านอยากทำอะไร?"

สีหน้าของเฟิงเฉาเกอชะงักค้าง

ชายคนนี้น่ารำคาญและฉลาดเป็นกรด...

นางถอนแรงกดดัน เอนพิงเก้าอี้และพูดตรงๆ"ข้าอยากได้เจ้า"

"อยากได้ข้า?"

ซูสือตัวแข็งทื่อ"ข้าแค่เห็นท่านอาบน้ำ การที่ข้าต้องมอบร่างกายข้าให้ท่านคืนไม่มากเกินไปหน่อยเรหอ/"

เฟิงเฉาเกอขมวดคิ้ว"เจ้าพูดเรื่องอะไร?ข้าอยากให้เจ้าอยู่ในเมืองหลวงและช่วยข้าปกครองโลก ไม่ใช่กลายเป็นอ๋องแค่ในนาม"

ซูสือส่ายหัว"ท่านควรรู้ชัดว่าข้าไม่สนใจเรี่องนี้"

"ข้ารู้'

"ความทะเยอทะยานของเจ้าคือการเดินบนวิถีเซียน"

เฟิงเฉาเกอมองเขา"แต่เจ้าเคยสงสัยไหมว่าทำไมข้าถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้แม้ข้าจะยุ่งกับการปกครองบ้านเมือง?"

ซูสือส่ายหัว

เขาคิดไม่ออกจริงๆ

"มีเต๋านับพัน และทั้งหมดก็มุ่งหน้าไปทางเดียวกัน แล้วอำนาจปกครองจะไม่ใช่หนึ่งในเต๋าได้อย่างไร?"

เฟิงเฉาเกอพูด"เพื่อไปถึงจุดสูงสุด ถือครองโลกในมือ และเพิ่มพลังมังกรเข้าสู่กาย นี่คือวิถีของจักรพรรดิ!'

ซูสือพลันเข้าใจ"ท่านหมายถึงการทะลวงผ่านพันธนาการด้วยพลังปราณ?"

เฟิงเฉาเกอพยักหน้า"ไม่อย่างนั้น ทำไมอวิ๋นฉีหลัวถึงอยากครองบัลลังก์นี้ละ?จริงๆแล้ว สิ่งที่นางสู้ไม่ใช่อำนาจ แต่เป็นพลังปราณอันยิ่งใหญ่ของมังกรแท้จริงในเก้าภูมิภาค!"(พลังปราณอันยิ่งใหญ่หมายถึงทรัพยากรไม่รู้จบ ส่วนมังกรแท้จริงหมายถึงเต๋าจักรพรรดิ)

ซูสือสงสัย"แล้วทำไมท่านถึงบอกข้า/"

เฟิงเฉาเกอมองเขา"เพราะเจ้าไม่ต้องสู้เพื่อมัน ตราบเท่าที่เจ้าอยู่ข้างกายข้า สักวันหนึ่ง ข้าจะส่งมอบทั้งจักรวรรดิให้เจ้า"

คนที่ทรงพลังสุดไม่ได้หมายความว่าจะอยู่เป็นนิรันดร์

ถ้าราชวงศ์อยากอยู่รอดเป็นนิรันดร์ มันก็ต้องมีผู้สืบทอด

"อืม วางแผนถึงอนาคตสินะ?'

ซูสือส่ายหัว"ตำแหน่งจักรพรรดิ ท่านจะมอบมันให้ข้า คนนอกเนี่ยนะ?"

เฟิงเฉาเกอไม่โกรธ"ข้าไม่มีคู่ครองหรือทายาท เจ้าคิดว่าข้าจะมอบอาณาจักรให้ใครละ?"

ในตระกูลราชวงศ์มีแต่ความปั่นป่วนเพราะขาดรัชทายาท

นางคือผู้ปกครองอาณาจักร มีมงกุฏในมือ แต่ฮาเร็มยังว่างและไม่มีชายหน้าไหนสักคน ใครจะมาสืบทอดบัลลังก์?

ซูสือยักไหล่"ไม่ใช่ว่ายังมีองค์ชายฉู?"

"ฉูหยิน?"

เฟิงเฉาเกอพ่นลม"เขาคือพวกไม่เอาไหน โกงกินบ้านเมืองข้าจะส่งมอบอาณาจักรไปอยู่ในมือคนเช่นนี้ได้ไง?"

ถ้าไม่ใช่เพราะมีสายเลือดราชวงศ์ นางคงฆ่าฉูหยินด้วยมือนางไปแล้ว

"เจ้าคือวีรชน มีพรสวรรค์สูงส่ง และยังเข้าใจเจตจำนงกระบี่ห่าวหราน"

เฟิงเฉาเกอถอนหายใจ."ข้าไม่สามารถหาใครที่เหมาะสมไปกว่าเจ้าได้"

ซูสือลูบจมูก

เขาอายกับคำชมของอีกฝ่าย

"แต่ข้าไม่สนใจจริงๆ"

เฟิงเฉาเกอดูเหมือนจะคิดไว้อยู่แล้วว่าเขาต้องปฏิเสธ"ไม่เป็นไร ข้าจะให้อีกทางเลือกกับเจ้า"

ซูสือพูดอย่างอยากรู้"ทางเลือกอะไร?"

เฟิงเฉาเกอมองเขา"ในเมื่อเจ้าไม่อยากเป็นผู้สืบทอด งั้นก็ให้กำเนิดลูกแก่ข้าสักคน"

"ว่าไงนะ?"

ซูสือตกใจ"ให้กำเนิดลูก?!"

ซูสือมองท้องแบนราบของนางและลำคอก็แห้ง"..นี่ไม่ดีกระมั้ง?"

ร่วมรักโดยปราศจากความโรแมนติก การทิ้งเมล็ดพันธุ์ไว้โดยปราศจากความรักคือความชั่วร้าย

เรื่องแบบนี้เขาทำไม่ได้จริงๆ

เฟิงเฉาเกอสังเกตเห็นสายตาเขา ความอายและความโกรธปรากฏในดวงตานาง"ข้าอยากได้เด็กจากเจ้า แต่ใครบอกว่าต้องทำกับข้า?เจ้ามีความคิดโรคจิตพรรค์ไหนในหัวเจ้ากัน?"

นางคือจักรพรรดินี นางจะนั่งบนบัลลังก์เย็นขณะอุ้มท้องโตได้ไง?

ชายคนนี้กล้ามาก!

ซูสือถอนหายใจโล่งอก"ข้าเบาใจขึ้นเยอะ"

เฟิงเฉาเกอมองเขา"ไม่ใช่ว่าเจ้าสนิทกับเฉินชิงหลวนหรือไง?นางเกิดมาพร้อมกายกระบี่ และเจ้าก็มีพรสวรรค์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสมบูรณ์ พรสวรรค์สายเลือดของเจ้าจะต้องแข็งแกร่งมาก'

"นอกจากนี้ พวกเจ้าสองคนเหมาะกันมาก ตราบเท่าที่เจ้าทิ้งทายาทไว้ให้ข้า ข้าจะเลี้ยงเขาให้เป็นจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่"

นางคิดว่าความคิดนี้ดีมาก

มันจะมอบผู้สืบทอดให้นางและแก้ไขความกังวลในอนาคตให้นาง ผูกมัดซูสือกับราชวงศ์เข้าด้วยกัน

ซูสือเงียบไปนานและถอนหายใจ"ไม่น่าแปลกที่ท่านแต่งตั้งข้าเป็นอ๋องและย้ำว่าต้องรับมัน ท่านคิดถึงทายาทข้าไว้แต่แรกแล้ว"

เขาคิดว่าเขามองออกหมด แต่ไม่คิดว่าความคิดของจักรพรรดินีผู้นี้จะล้ำลึกขนาดนี้

เฟิงเฉาเกอดูเป็นธรรมชาติ""นี่จะเป็นประโยชน์แก่เจ้า ไม่มีผลเสียอะไร"

นางไม่สามารถคิดหาเหตุผลใดที่อีกฝ่ายจะปฏิเสธได้

ซูสือมองนางอย่างเย็นชา"ท่านรู้ถึงความแตกต่างระหว่างท่านกับจักรพรรดินีมารไหม?"

เฟิงเฉาเกองุนงง"ยังไง?"

"ความจริงใจ"

"แม้จักรพรรดินีมารจะชั่วร้ายและก่อกบฏ แต่หัวใจนางไม่ซับซ้อน มะระหวานยังสำคัญต่อนางมากเสียยิ่งกว่าเต๋า"

"และท่านคือผูู้สูงส่ง มีศักดิ์ฐานะ นั่งบนบัลลังก์ แต่หัวใจกลับเย็นเหมือนเหล็ก เต็มไปด้วยแผนการและผลประโยชน์เท่านั้น"

ซูสือพูดอย่างไม่แยแส"สำหรับหลินหลาง ท่านอาจเป็นจักรพรรดินีที่ดี แต่สำหรับข้า การอยู่ให้ห่างจากท่านนั้นดีสุด"

วินาทีที่เขาเข้าเมืองหลวงเว่ยหยาง อีกฝ่ายก็วางแผนใส่เขาแล้ว และตอนนี้ยังมีความคิดเข้าหาเฉินชิงหลวน

นี่ทำให้เขาไม่พอใจ

หลังพูดเขาก็มองนางอีกครั้ง เดินตรงออกวัง

ขุนนางหญิงดันผ่านมาพอดี

พอเห็นซูสือออกจากห้องนอนของฝ่าบาท ขากรรไกรนางก็แทบตกถึงพื้น

"ทำไมซูสือถึงอยู่นี่?หรือว่าจะเป็นฝ่าบาท...เป็นไปไม่ได้!"

ดวงตาของขุนนางหญิงเต็มไปด้วยความตกใจ

นางเดินเข้าห้องนอน เห็นเฟิงเฉาเกอนั่งตัวแข็งบนเก้าอี้ ราวกับนางเป็นรูปปั้น

ขุนนางหญิงเดินไปหานาง แต่ตกใจกับฉากตรงหน้า

นางเห็นดวงตาของเฟิงเฉาเกอเปียกชุ่ม กัดริมฝีปากตัวเอง สีหน้านางโกรธและเศร้าเล็กน้อย

นางไม่เคยเห็นฝ่าบาทแสดงสีหน้าเช่นนี้มาก่อน!

"ฝ่าบาท ฝ่าบาท?"

เฟิงเฉาเกอกุมชุดตัวเองและพูดเขาบอกว่าหัวใจข้าเย็นเหมือนเหล็ก"

"สำนักยักษ์มารขุมนรกคิดร้ายกับจักรวรรดิข้า ข้าจะแค่ดูเฉยๆได้ไง?"

"ข้าแค่ขอให้เขามอบลูกให้ข้า แต่เขาไม่อยาก ทำไมเขาถึงพูดแบบนั้น?"

พอเห็นสายตาเศร้าหมองของจักรพรรดินี ขุนนางหญิงก็กลืนน้ำลาย

ลูก?

พอคิดถึงซูสือที่เพิ่งเดินออกห้องนอนนางไป หนังศีรษะของนางก็ชาด้าน

"ข้าไม่ขอพูด ฝ่าบาท ข้าไม่ขอพูด!"