ตอนที่ 74

"กลายเป็นหนึ่งในพวกเรา?"

ซือคงหลานเยวี่ยสับสน"หมายความว่าอย่างไร?"

จ้านชิงเฉิงวิเคราะห์"ซูสือใจดีและมีพรสวรรค์มาก ไม่น่าเสียดายหรือที่คนเช่นนี้จะกลายเป็นมาร?"

"ถ้าอาจารย์รับเขาเป็นศิาย์ เขาจะมีตัวตนของฝ่ายธรรมะ นั่นไม่เท่ากับการลดพลังของวิถีมารหรือ?"

จ้านชิงเฉิงพูดโน้มน้าว

ถ้าซูสือเข้าร่วมศาลาเทียนจี ทั้งสองก็จะได้เจอหน้ากันทุกวัน

โดยปราศจากช่องว่างระหว่างวิถีธรรมะกับมาร มันเป็นไปได้ที่พวกนางจะอยู่ด้วยกัน

ยิ่งจ้านชิงเฉิงคิด นางยิ่งมีความสุข และแทบหัวเราะ

"เจ้าคิดว่าอวิ๋นฉีหลัวโง่หรือไง?ไม่มีทางที่นางจะปล่อยอัจฉริยะเช่นนั้นมาง่ายๆ"

"นอกจากนี้.."

ซือคงหลานเยวี่ยพูดอย่างไม่พอใจ"ข้าจะรับผู้ชายเป็นศิษย์ได้ยังไง?ข้าจะอยู่ร่วมกับสิ่งสกปรกเช่นนั้นได้ยังไง?"

จ้านชิงเฉิงพูด"ซูสือไม่ได้สกปรก เขาหอมจะตาย!"

"??'

ซือคงหลานเยวี่ยขมวดคิ้ว"เจ้าพูดอะไรของเจ้า?"

จ้านชิงเฉิงก้มหัวและพึมพำเสียงเบา"เขาตัวหอมมาก ถ้าท่านไม่เชื่อข้า ท่านก็ไปดมเองเลย"

ตัวของซูสือหอมเป็นพิเศษ มันทำให้คนใจเต้นด้วยตอนคุย และทำให้รู้สึกสบายใจตอนเขาเงียบ

อาจารย์ไม่เข้าใจเลย!

ซือคงหลานเยวี่ยพูด"เจ้าจะถูกกักบริเวณหนึ่งเดือน ไปซะ!"

"..."

จ้านชิงเฉิงเดินลงบันไดด้วยใบหน้าขมขื่น

พอมองแผ่นหลังนาง ซือคงหลานเยวี่ยก็แค่นเสียงเย็น

"นางชักจะเติบใหญ่ กล้าดียังไงมาเสนอแนะให้ข้าไปดมกลิ่นผู้ชาย?"

"ไม่ต้องดมก็รู้ว่าเหม็น!"

"แต่ข้อเสนอนางที่ให้พาซูสือมาฝั่งเรา..."

ซือคงหลานเยวี่ยครุ่นคิด

นี่ไม่ใช่ไม่น่าฟัง

มีข้อตกลงโดยปริยายระหว่างฝ่ายธรรมะและฝ่ายมารว่าพวกเขาไม่สามารถจงใจฆ่าผู้สืบทอดหลักได้ ไม่งั้นจะเป็นสัญญาณของสงคราม

แต่ถ้าซูสือถูกพามาฝ่ายธรรมะและชีวิตไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย ข้าเชื่อว่าอวิ๋นฉีหลัวจะไม่มีที่ให้ระบาย

"การพาดาวมารมาฝ่ายธรรมะคือความคิดที่ดี'

"แต่ข้าจะรับผู้ชายเป็นศิษย์ได้ยังไง?"

"แต่สำนักธรรมะอื่นอาจไม่คู่ควรกับซูสือ.."

เมฆม้วนตัวอยู่สักพัก

...

เมืองเฟิงซา จวนแม่ทัพ

ด้านในห้อง

ซูสือนั่งสมาธิ

เขาคิดว่าจักรพรรดินีมารจะกลับหลังเดินเที่ยวรอบเมือง เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะบอกว่านางงเหนื่อยและจะพักที่นี่

เขาไม่กล้าหย่อนยานและสั่งไป่ชิงให้ทำความสะอาดห้องรับรองให้นาง

"ข้ารู้สึกว่านางชักแปลกขึ้น"

ซูสือลูบคาง

ตอนนางอยู่กับเขา บางครั้งนางจะเขินอาย บางครั้งโกรธ ราวกับนางเป็นเด็กสาวที่กำลังตกหลุมรัก

แต่ตอนอยู่ที่ตีนเขาเทียนฉวี กลิ่นอายทรงพลังนั่นได้บอกความจริง นี่พิสูจน์ว่านางยังเป็นจักรพรรดินีมารที่ทำให้โลกหวั่นเกรง

"ไม่มีทางที่จักรพรรดินีมารจะชอบข้าหรอก ใช่ไหม?"

ความคิดกล้าหาญผุดในหัวเขา แต่จากนั้นเขาก็ส่ายหัว

อย่าไร้สาระ จักรพรรดินีมารจะตกหลุมรักได้ไง?

ข้าเกรงว่าไม่มีใครในโลกนี้จะกล้ามีความคิดแบบนั้น!

แต่ จักรพรรดินีมารก็ดีกับเขามากจริงๆ

ตอนสี่นักบุญไม่อยู่ อวิ๋นฉีหลัวไม่ลังเลเลยที่จะมาปกป้องเขาเอง

นี่ทำให้เขาประทับใจ

"ข้าฆ่าบุตรฟ้าประทาน เย่เซียวแล้วและเพิ่มความรุ่งเรืองของสำนักยักษ์มารขุมนรก นี่ควรจะเป็นสิ่งตอบแทน"

ครั้งนี้ ระหว่างการได้รับมรดกของจักรพรรดิโบราณ การเก็บเกี่ยวถือว่าดี

พลังดวงดาว ไฟสวรรค์ฟ้าคราม อาณาจักรบ่มเพาะที่เพิ่ม วิชารับรู้ปราณมังกรแท้จริง...

นอกจากนี้ เขายังได้รับแต้มโครงเรื่องจำนวนมาก

เปิดแผงระบบ

[เจ้าของ : ผู้สังหารบุตรฟ้าประทาน ซูสือ]

[สถานะ : เต็มไปด้วยเลือดและปราณ]

[พรสวรรค์ : ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสมบูรณ์]

[ฐานบ่มเพาะ : อาณาจักรแก่นทองคำ(ขั้นปลาย)]

[เคล็ดบ่มเพาะ : เคล็ดลมหายใจขุมนรก เคล็ดบ่มเพาะเทพขุมนรก

[แต้มโครงเรื่อง : 341]

341 แต้ม

ถือว่าเยอะ!

ซูสือสูดหายใจ

แม้มันจะไม่พอซื้อเคล็ดบ่มเพาะที่ดีสุด แต่เขาก็มีแล้วหนึ่ง

จากแหวนเขา เขาหยิบตำราโบราณขาดๆมา

[ท่านจะเรียนรู้เคล็ดผสานเก้าธาตุแห่งฟ้าดินหรือไม่?]

"แน่นอน!"

ซูสือไม่ลังเล

แค่เรียนมัน เขาใช้ถึงสามร้อยแต้ม เคล็ดบ่มเพาะนี้ต้องทรงพลังมากแน่

แต้มโครงเรื่องถูกหัก

ตำราโบราณลอยในอากาศ หน้ากระดาษพลิกเองและอักขระโบราณก็ดูเหมือนจะบินมาหาซูสือ

เหมือนรอยสัก มันสลักบนตัวเขา

บูม!

แสงปรากฏขึ้น!

ราวกับจักรวาลถือกำเนิด เป็นแสงแรกของฟ้าดิน!

แสงเบ่งบานและดูเหมือนจะมีเสียงของเต๋าในหูเขา ข้อมูลนับไม่ถ้วไหลเข้าทะเลจิตสำนึก

แสงแรกของฟ้าดิน

วิชานี้มีเก้าวัฏจักร

มันคือการฝังเมล็ดพันธุ์แท้จริงภายในตัวมันเอง ใช้ฟ้าดินเป็นเตาหลอม ใช้ตัวเองเพื่อหลอมเม็ดยาและสุดท้ายก็จะเห็นอาณาจักรแห่งการสรรค์สร้าง!

พอระดับบ่มเพาะสูง มันจะสามารถเห็นการสร้างของโลกได้ และประสบกับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดของหยินหยาง

กายแท้จริงจะถูกเห็นผ่านมิติ

หยินกับหยางพลิกกลับ และกายแท้จริงจักเปิดเผย!

ดวงตาของซูสือปิดสนิทขณะที่ตัวเขาลอยในอากาศ และไฟสวรรค์ฟ้าครามก็ปะทุออกมาเอง ราวกับกำลังหลอมร่างกายเขาให้เป็นเม็ดยา!

เสื้อผ้าของเขาถูกเผาไหม้ ผนึกโบราณบนตัวเปล่งแสง!

วัฏจักรแรกของการผสมผสานธาต :

วัชระถูกหลอมโดยไฟและไฟก็สร้างรูปแบบแท้จริงของมัน!

ห้องรับรองด้านข้าง

อวิ๋นฉีหลัวกำลังนอนบนเตียง ถือกระจกสัมฤทธิ์ไว้ในมือ ชื่นชมจี้รูปหัวใจบนคอนาง

บางครั้ง นางจะยิ้ม

"ซูสือตาถึงจริงๆ นี่เหมาะกับข้ามาก"

มันไม่ใช่สมบัติศักดิ์สิทธิ์อะไร แต่ตอนนี้นางกลับชอบมันยิ่งกว่าสิ่งใด

ผิวของหยกลูบสบายมือ และแก้มของนางก็แดงเล็กน้อย

แม้นางจะมีตำแหน่งสูงส่ง นางก็ไม่เคยได้รับของขวัญมาก่อน

ตอนนางคิดว่าเขายังคิดถึงนางแม้จะอยู่มรดกของจักรพรรดิโบราณ หัวใจนางก็เหมือนไหน้ำผึ้ง

จากนั้นจมูกนางก็ยับย่น

"แต่ต้องมีกลิ่นฉาวระหว่างเขากับเฉินชิงหลวนแน่!"

"เซินซิวเคยบอกว่าซูสือพาตัวเฉินชิงหลวนไป หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างทั้งสอง?"

ดวงตาของอวิ๋นฉีหลัวเปล่งแสงเย็น

"ฆ่านางทิ้งดีไหม?"

"พลังของเฉินหวังฉวนถือว่าสูง แต่เขาไม่มีทางหยุดข้าได้"

นางลูบคางและเริ่มคิดอย่างจริงจัง

สุดท้าย นางก็ส่ายหัว

"ไม่ดี ถ้าซูสือรู้ เขาจะต้องโกรธข้าแน่"

"คนคนนี้ต้องระวังตัวมาก"

ตอนนี้ นางรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวจากห้องข้างๆ หัวใจนางเต้นกระหน่ำทันที

"ไม่มีทางที่สาวใช้นั่นจะไปอุ่นเตียงอีกมั้ง?"

พอคิดแบบนี้ นางก็นั่งก้นไม่ติดเตียง

นางลุกขึ้น เดินออกห้อง

นางไปห้องข้างๆและผลักเปิดประตูไปอย่างเบามือ

ภาพด้านหน้าทำให้นางหน้าแดงขึ้นมาทันที!

"ทำไมเขาถึงไม่สวมชุด?"