ตอนที่ 267 ข้าไม่ยอม
กู่หยางปล่อยหมัดออกไป
เหมือนจะทำลายทุกสิ่งให้สลายแหลกเป็นผุยผง และกระแทกถังหลงให้กระเด็นออกไปได้โดยตรง!
ไม่มีข้อสงสัยแล้ว!
ในเรื่องของพลังนั้น ช่องว่างระหว่างทั้งสองเหมือนจะถูกพลิกจากฟ้าสู่ปฐพีแล้ว
ถังหลงไม่ใช่คู่ต่อสู้อีกต่อไป!
อั่ก!
กลางอากาศ
ถังหลงกระอักเลือดออกมา
แต่ถังหลงก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะชั้นยอดในการหลอมกาย ร่างกายก็แข็งแกร่งสุดขีดยิ่งนัก
ในอากาศเขาก็ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ
หากแต่เพียงโล่งใจ
ร่างกู่หยางก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาราวกับปีศาจอีกครั้ง
"อะไรกัน..."
ถังหลงตกใจ รีบยกหมัดขึ้นมาปัดป้อง
ตู้ม!
หมัดของกู่หยางฟาดลงอีกครั้ง!
ตู้ม!
ชั่วขณะนั้น บนสนามรบก็มีเสียงอันแปลกประหลาดขึ้นจนทั่ว
ทุกคนอ้าปากค้างมองฉากบนสนาม
ถังหลงที่ดูขึงขังในอดีต ตอนนี้ในมือของกู่หยางกลับราวกับลูกบอล ถูกอัดตามใจชอบ!
การโจมตีของกู่หยางราวกับสายฝนกระหน่ำ
ถังหลงไม่มีทางโต้ตอบได้เลย
ได้แต่ยกแขนขึ้นป้องตรงหน้าอก หวังว่าจะลดความเสียหายลงให้ได้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ในใจเขาก็ยังคงมีความร้อนรนเต็มร้อย!
"หากกู่หยางยกระดับตัวเองจากการต่อสู้ได้ เช่นนั้นข้าถังหลงก็ย่อมไม่มีทางด้อยกว่าเป็นแน่!"
เขากัดฟันคิดในใจ
เขามีร่างกายอันแข็งแกร่งจนน่าพิศวง ในการหลอมกายเขาก็เป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากที่สุด
เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะด้อยกว่ากู่หยางขนาดนั้น!
หากแต่...
ทว่าการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป
เขาก็พบความผิดปกติ!
ไม่มีการพัฒนาเลย!
ปราณโลหิตของเขาก็ไม่มีการเติบโตแม้แต่น้อย
ว่ากันว่าจากการต่อสู้ก็สามารถพัฒนาปราณโลหิตและร่างกายได้ ทำไมเขาทำไม่ได้?
‘ข้าทำไมได้รึ?’
ชั่วขณะนี้ถังหลงก็รู้สึกงงงันไปหมด
แต่ยังไม่ทันจะตกใจนาน เขาก็โดนกู่หยางฟาดออกไปด้วยหมัดเดียว
ข้างสนาม
เหล่าเยาวชนอัจฉริยะต่างไม่อยากมองแล้ว
"ช่างสาหัสเหลือเกิน! ตอนนี้ไม่เหมือคนแล้วด้วยซ้ำ!"
"กู่หยางไม่ได้เกรงใจเลยจริง ๆ!"
"ใครบอกให้ถังหลงเกือบทำร้ายภรรยาของกู่หยาง ทั้งที่รู้ว่าตัวเองสู้กู่หยางไม่ได้ แต่ก็ยังฝืนต่อสู้ ผลสุดท้ายเช่นนี้ก็ไม่แปลกนัก"
"ฮึ่ม... หน้าบวมเป็นหน้าหมูไปเสียแล้ว ช่างสาหัสยิ่งนัก!"
บางคนตำหนิ บางคนเยาะเย้ย
บางคนก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า
ขนาดนี้...
ช่างน่าสงสารจนไม่มีใครจำได้แล้วว่าเดิมทีเขาหน้าตาเป็นอย่างไร!
หากไม่นับใบหน้าที่บวมเบ่งเป็นหมู
ตอนนี้ทั่วตัวของถังหลงไม่มีที่ใดที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
ช่างน่าสงสาร ดวงตาก็เบิกโพลง หูก็ระบมไปหมด
ทำเอาหัวสมองชาไปหมด
"ไม่ได้ ข้าดูไม่ไหวแล้ว"
"นี่มันการทรมานชัด ๆ สำหรับถังหลงแล้วนี่มันการถูกทรมานโดยแท้!"
"คอยดูเถิด ถังหลงคงจะคิดว่าตัวเองก็สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดปราณโลหิตแบบกู่หยางได้กระมัง?"
"ดูเหมือนเขาคิดผิดไปหน่อย ความสามารถเหนือชั้นของกู่หยางนั้น จะเป็นไปได้อย่างไรกันที่คนธรรมดาอย่างถังหลงจะเทียบเคียงได้?"
"เฮอะ ก็เพราะเขาเป็นคนธรรมดาถึงได้คิดเช่นนั้น"
"เฮ้อ ช่างน่าสงสารนัก!"
หลายคนตำหนิกันไม่หยุด
พวกเขาพอจะเดาได้ว่าถังหลงคิดอะไรอยู่ ต่างพากันมองถังหลงด้วยสายตาสงสารยิ่งขึ้น
มังกรผู้เคยครองอันดับ 3 ในเมื่อก่อน ตอนนี้ก็พบศัตรูคู่ควรแล้ว
อันดับ 3 นี้... จะมีเจ้าของคนใหม่เสียแล้ว!
ในขณะเดียวกัน บรรดาเยาวชนอัจฉริยะอีกหลายคนก็รู้สึกหัวใจกระตุก
นี่มัน...
กู่หยางก็ลงไม้ลงมือหนักไปแล้ว!
หมัดแต่ละหมัดที่ฟาดลง โชคดีที่ถังหลงมีร่างกายแข็งแกร่ง หากเปลี่ยนเป็นคนธรรมดาอย่างพวกเขา คงจะหมอบราบกับพื้นแล้วร้องขอชีวิต!
แต่ถึงอย่างไร
ถังหลงก็มีแรงพอต้านทานได้สักพัก
เขารู้สึกเหมือนกล้ามเนื้อตัวเองจะฝ่อไปแล้ว
หากมันยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงไม่ได้เพิ่มพลัง แต่จะหดหายไปซะอีก!
ด้วยความตกใจ เขารีบบอกออกไปก่อนที่กู่หยางจะฟาดหมัดลงมาอีกหน "อ้าอ้าแพ้ (ข้ายอมแพ้)!"
ถังหลงผู้ถูกทุบจนเป็นหน้าหมูพูดจาก็แหบแห้ง
ข้ายอมแพ้ ถูกเขาออกเสียงเหมือน ข้าไม่ยอม เสียอีก
ได้ยินดังนั้น กู่หยางก็ขมวดคิ้ว
"โอ้? ยังจะสู้อีกหรือ?"
"ดูเหมือนเจ้าจะยังไม่ยอมแพ้นะ!"
กู่หยางพูดยิ้มเยาะ
แล้วฟาดหมัดลงไปอีกครั้ง
หมัดนี้ฟาดจนถังหลงจนตาลาย แทบจะล้มกลิ้งไปกับพื้น
เขาลุกขึ้นยืนอย่างงุนงง
พอเห็นกู่หยางกำลังจะเข้ามาใกล้ เขาก็ตกใจจนหน้าถอดสี สติหลุดไปทันใด รีบหันหลังวิ่งออกจากสนามประลองไปทันที
กู่หยางเห็นดังนั้นก็คิดออกแล้วว่าถังหลงต้องการจะบอกอะไร
"ที่แท้ไม่ใช่ข้าไม่ยอม แต่เป็นข้ายอมแพ้งั้นรึ ต้องขออภัยด้วย ข้าเข้าใจผิดไป หากมีอะไรให้ชดเชย ต่อไปหากต้องการต่อสู้กับข้าอีก ข้ายินดีเสมอ"
กู่หยางรีบพูดอธิบายด้วยสีหน้าเสียใจ
ได้ยินดังนั้น ถังหลงก็แทบร้องไห้ออกมา
นี่มันชดเชยแบบไหนกัน?
"ไม่...ไม่ต้องแล้ว!"
ถังหลงส่ายหัวรัว ๆ
ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์นี้ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าหัวเราะแทบตาย!"
"นี่คือครั้งแรกที่ถังหลงโดนซัดขนาดนี้ไม่ใช่รึ?"
"น่าสงสารมาก โดนฟาดจนปากแหว่ง ข้ายอมแพ้พูดเป็น ข้าไม่ยอม แล้วก็โดนหมัดอีกที!"
"การชดเชยของกู่หยาง มันช่าง... ถังหลงแม้จะชอบต่อสู้ แต่ใครจะไปชอบโดนรังแกเล่า!"
"ข้าเดาว่ากู่หยางจงใจแน่ ๆ !"
"น่าจะใช่!"
ได้ยินคำคาดเดาแบบนี้ กู่หยางก็ไม่รู้จะทำหน้าอย่างไรแล้ว
เขาพูดอย่างจริงใจแท้ ๆ
แต่ในเมื่อถังหลงไม่เอา เขาก็ไม่บังคับ
อีกฟากหนึ่ง
เหอชิงเซวียนและหลัวจิ่วเทียนก็ต่างอมยิ้มออกมา
"กู่หยางนี่ ช่างเป็นสัตว์ประหลาดจริง ๆ!"
"ใช่แล้ว ไม่เพียงแต่มีฝีมือในวิถีกระบี่และหมัดเท่านั้น แม้การหลอมกายก็ยังแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ มีหวังได้สำเร็จถึงขอบเขตจักรพรรดิเป็นแน่!"
ทั้งสองต่างพูดชมเชย มองไปที่กู่หยาง
เมื่อการต่อสู้ที่ถูกจับตามองระหว่างกู่หยางกับถังหลงจบลง การแข่งขันก็ดำเนินต่อไป
อัจฉริยะทีละคนถูกเรียกชื่อขึ้นแท่นประลอง
หากแต่เมื่อถึงคราวของเย่ชิงเฉิง ไม่ว่าจะเป็นใคร พอประกาศชื่อคู่ต่อสู้แล้วก็ต่างเปลี่ยนสีหน้าเป็นแตกตื่น
การลงมือต่อสู้นั้นต้องระวังเป็นพิเศษ เกรงว่าจะทำร้ายเย่ชิงเฉิงรุนแรงเกินไปแล้วโดนกู่หยางหมายหัว
หลังจากเห็นกู่หยางทุบตีถังหลงอย่างไม่ปรานีแล้ว เหล่าเยาวชนอัจฉริยะต่างก็ให้ฉายาแก่กู่หยางในใจว่า
คนนี้ช่างใจแคบนัก อย่าไปยุ่งด้วยเด็ดขาด!
แต่หากอยากจะไม่ยุ่งนอกจากการยอมแพ้ทันทีเมื่อเจอกู่หยางแล้ว
อีกวิธีหนึ่งก็คือพยายามเอาชนะเย่ชิงเฉิงโดยไม่ทำให้นางบาดเจ็บ!
ไม่อย่างนั้น...
หากโดนกู่หยางหมายตัวแล้วละก็
พวกเขาไม่ใช่ถังหลงที่ทนรับหมัดอันแสนน่าสะพรึงของกู่หยางได้!
แต่ถึงอย่างนั้น
เย่ชิงเฉิงก็ยังทำผลงานได้ดีพอสมควรในการต่อสู้ถัดมาอีกหลายรอบ
แม้ว่าเมื่อเจออัจฉริยะในอันดับ 20 ขึ้นไปของรายชื่อมรกตเร้นลับ นางจะแพ้ส่วนใหญ่
แต่พอเจออัจฉริยะที่อยู่อันดับหลัง 20 ลงไป
นางเอาชนะมาได้หมด!
"ไม่ผิดจากที่คาด สมที่เป็นภรรยาของกู่หยางจริง ๆ พลังและพรสวรรค์ก็ไม่ธรรมดา!"
"ถึงแม้คู่ต่อสู้ของเย่ชิงเฉิงจะระมัดระวังมือไปบ้าง แต่ฝีมือของนางก็ยังน่าทึ่งอยู่ดี!"
"หากไม่มีเหตุผิดปกติ เย่ชิงเฉิงน่าจะติดอันดับ 20 ไม่ยาก"
"ไม่เพียงแต่พลังและพรสวรรค์จะโดดเด่น ยังสวยงามขนาดนี้อีก ไม่ผิดจากที่คาดไว้เลย นี่แหละคู่ของกู่หยาง!"
"ช่างน่าอิจฉาจริง ๆ คู่เทพสามีภรรยาแท้ ๆ!"
หลายคนพูดชื่นชมกัน
อีกด้านหนึ่ง
เหอชิงเซวียนก็อุทานด้วยความประหลาด
"ก่อนหน้านี้ไม่ทันได้สังเกต ตอนนี้พอมาดู เย่ชิงเฉิงเปิดใช้พลังสายเลือดขอบเขตราชันบรรลุถึง 7 ส่วนแล้วหรือ?"
"สำหรับการเปิดใช้สายเลือดขอบเขตราชัน ทั่วสถาบันศักดิ์สิทธิ์มรกตเร้นลับ มีเพียงองค์ชายใหญ่แห่งต้าเหยียนเท่านั้นที่สูสีได้"
หลัวจิ่วเทียนก็พยักหน้าเห็นด้วย พลางกล่าวต่อไป
"หากไม่มีกู่หยาง เย่ชิงเฉิงย่อมเป็นอัจฉริยะหมายเลข 1 ของราชวงศ์เซวียนเหนี่ยวรุ่นนี้"
เหอชิงเซวียนถอนใจออกมา
ทั้งสองมองสบตากันก่อนจะส่งเสียงข่มขันออกมา
หลังจากการต่อสู้นี้จบลง
การแข่งขันต่อมาก็ไม่ค่อยน่าตื่นเต้นนัก
เพราะไม่มีเยาวชนอัจฉริยะชั้นยอดมาประลองกันอีก
ดังนั้นเยาวชนอัจฉริยะที่มาชมรอบข้างจึงรู้สึกเบื่อ ๆ
แต่โชคดีที่ไม่นานต่อมา การแข่งขันที่มีคุณภาพอีกหนึ่งคู่ก็ปรากฏขึ้น
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved