ตอนที่ 229 กระโดด
อัจฉริยะฟ้าประทานที่อยู่อันดับท้ายบางส่วนเห็นภาพนี้แล้ว ใบหน้าก็ซีดขาว
ดูเหมือนว่า
พวกเขาจะประมาทการทดสอบของสถาบันศักดิ์สิทธิ์มรกตเร้นลับเกินไป
อีกด้านหนึ่ง ชายชราในชุดเขียวไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่แปลกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เลย
ในเวลาเดียวกัน
อัจฉริยะฟ้าประทานที่อยู่ระดับหัวแถวของสิบราชวงศ์ใหญ่ เช่น ฉู่เสินเซียว ก็เริ่มก้าวขึ้นบันไดไปข้างหน้า
เมื่อก้าวเท้าขวาขึ้นบนบันไดแรก พวกเขาก็รับรู้ได้ถึงพลังกดดันน่าสะพรึงกลัวกดลงมาเหนือศีรษะ
พวกเขาสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
แต่พลังกดดันนี้ยังไม่เพียงพอจะทำให้พวกเขาถอยหนีไป
จากนั้น พวกเขาก็ก้าวขึ้นบันไดไปเรื่อย ๆ ความเร็วแม้จะไม่มาก แต่ก็ไม่มีอุปสรรคใด ๆ
เห็นเช่นนี้
อัจฉริยะฟ้าประทานอื่น ๆ ของสิบราชวงศ์ใหญ่ก็ออกตัวขึ้นบันไดไปเช่นกัน
มีทั้งอัจฉริยะฟ้าประทานที่โดนกดจนปลิวกระเด็นออกไป และที่ทนรับพลังกดดันน่าสะพรึงกลัวไหว ใช้ความพยายามอย่างหนักหน่วงในการก้าวไปข้างหน้า
ส่วนอัจฉริยะฟ้าประทานชั้นยอดอย่างอวิ๋นเทียนหมาน ก็ดูสบาย ๆ มั่นคงไม่หวั่นไหวใด ๆ
ความเร็วของพวกเขายังเร็วกว่าอัจฉริยะฟ้าประทานอื่น ๆ เป็นอย่างมาก
เห็นภาพนี้
"ไม่ผิดจากที่คาด สถาบันศักดิ์สิทธิ์มรกตเร้นลับนี่ช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ การทดสอบที่ดูเหมือนง่ายแสนง่าย กลับจัดแบ่งระดับความสามารถของอัจฉริยะฟ้าประทานได้อย่างชัดเจน"
"ดูเหมือนการทดสอบครั้งนี้จะไม่ต่างจากครั้งก่อนมากเท่าไหร่"
"กู่หยางยังไม่ได้เริ่มอีกหรือ?"
ผู้อาวุโสที่อยู่ด้านนอกอดถอนใจไม่ได้
ต่อมา สายตาทุกคนก็มองไปที่กู่หยาง
ตอนนี้ กู่หยางยังไม่รีบร้อนขึ้นบันได
แต่ยืนอยู่กับที่ เหลือบมองบันไดวิถียุทธตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่ง
ถัดมา
ภาพที่ทำให้ทุกคนตาค้างปากหวอก็เกิดขึ้น
ขากู่หยางงอเล็กน้อย กล้ามเนื้อที่ขาก็พองโตขึ้น
ดูจากท่าทางและสายตาของเขา
ดูเหมือนกู่หยางจะตั้งใจกระโดดขึ้นไปเลย
"กู่หยางคงจะไม่คิดจะกระโดดขึ้นไปถึงยอดบันไดในครั้งเดียวกระมัง"
"ถึงเขาจะมีพลังแข็งแกร่งมาก มีพลังแข็งแกร่งกว่าอวิ๋นเทียนหมาน แต่...ด้วยพลังล้วน ๆ จะข้ามพลังกดดันของพลังกดดันที่เข้มข้นของบันไดวิถียุทธย่อมเป็นไปไม่ได้"
"ใช่แล้ว ดูอวิ๋นเทียนหมานที่เดินนำหน้าสุดสิ ความเร็วของเขาก็ชะลอลงมากแล้ว"
"บันไดวิถียุทธยิ่งสูงขึ้น ความเข้มข้นของพลังกดดันก็ยิ่งน่าสะพรึงกลัวยิ่งขึ้น การกดดันนี่...มันมาจากระดับจิตวิญญาณโดยตรง"
ผู้อาวุโสหลายคนขมวดคิ้ว บ้างส่ายหน้า บ้างเย้ยหยัน
พวกเขาส่วนใหญ่ล้วนรู้สึกว่าสิ่งที่กู่หยางทำนี่เป็นความฝันลม ๆ แล้ง ๆ
ผู้อาวุโสใหญ่ของราชวงศ์เซวียนเหนี่ยวก็งุนงงไปชั่วขณะ
กู่หยางทำอะไรนอกเหนือความคาดหมายอีกแล้ว!
ส่วนกู่หยางจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น...
ตามตรง เขาก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก
แต่พอนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาที่กู่หยางทำได้ เขาก็อดลังเลใจไม่ได้
ในเวลาเดียวกัน
ชายชราในชุดสีเขียวที่ไม่เคยแสดงท่าทีใด ๆ ก็หันสายตามองกู่หยางอย่างอดไม่ได้
ใบหน้าอันแก่ชราแสดงความประหลาดใจเล็กน้อย
ในดวงตาอันลึกลับและมืดมนนั้นก็ฉายแววสนใจ
และก็ในตอนที่คนจำนวนมากจ้องมองกู่หยางอยู่นั้น
ตอนนี้กู่หยางก็เตรียมพร้อมเสร็จสิ้น
พลังในขาทั้งสองระเบิดออกมาทันที
จากนั้นร่างของเขาก็พุ่งขึ้นไปราวกับลูกปืนใหญ่ ก้าวเดียว...ก็ข้ามบันไดไปหลายสิบขั้น
พลังกดดันน่าสะพรึงกลัวประทุขึ้นจากทุกสารทิศ
แต่กู่หยางกลับเหมือนไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ
ร่างของเขาพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วพริบตา
กู่หยางก็แซงหน้าเย่ชิงเฉิงและอวิ๋นเทียนหมานที่อยู่ข้างหน้าสุดไปแล้ว พุ่งตรงไปยังจุดสูงสุดของบันได ประตูหินบานนั้น!
ที่นี่เป็นช่วงสุดท้ายของบันได
และที่นี่ พลังกดดันนั้นน่าสะพรึงกลัวถึงขีดสุด
แม้แต่อัจฉริยะฟ้าประทานชั้นยอด ที่นี่ก็ต้องก้าวเดินอย่างระมัดระวัง แม้กระทั่งวิ่งก็ทำไม่ได้!
แต่กู่หยาง...
ไม่เพียงแต่ไม่หยุด แต่ยังพุ่งตัวขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว!
ฟึ่บ!
กระโดดขึ้นไปครั้งเดียว กู่หยางก็มาปรากฏตัวบนขั้นบันไดสุดท้ายของบันไดวิถียุทธในพริบตา ลงสู่พื้นอย่างมั่นคง
ยืนอยู่ตรงหน้าประตูหินบานนั้นแล้ว!
เมื่อภาพนี้ปรากฏขึ้นมา
ไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโสนำทีมจากราชวงศ์ต่าง ๆ หรืออัจฉริยะฟ้าประทานรุ่นใหม่ ตอนนี้ต่างตาเบิกโพลงมองกู่หยางที่ยืนอยู่หน้าประตูหินอย่างไม่อยากเชื่อ
"เกิด...เกิดอะไรขึ้น"
"กู่หยางผ่านไปแล้ว?"
"ข้าไม่ได้ตาฝาดใช่หรือไม่ เขากระโดด...ขึ้นไปเลยหรือ?"
"แค่เดินก็ต้องทนรับพลังกดดันอันน่าสะพรึงกลัวขนาดนั้นแล้ว ถ้ากระโดดขึ้นไป ย่อมน่ากลัวกว่าใช่หรือไม่ กู่หยาง...เขาทำได้อย่างไร"
ครั้งนี้ อัจฉริยะฟ้าประทานชั้นยอดของสิบราชวงศ์ใหญ่ต่างหน้าเปลี่ยนสีไปมาก
พวกเขามองกู่หยางด้วยสายตาตกตะลึงยิ่ง
แต่เดิมพวกเขาก็คิดแล้วว่าการที่ตนเองวิ่งบนบันไดนี้นับว่าแข็งแกร่งมาก
และยิ่งไปสู่ด้านบนมากเท่าไหร่ พลังกดดันที่พวกเขาต้องทนรับก็ยิ่งน่าสะพรึงกลัวมากขึ้นเท่านั้น
ถึงกู่หยางจะเก่งแค่ไหน การที่จะแซงหน้าพวกเขาก็น่าจะต้องใช้เวลาบ้าง
แต่แล้ว?
กู่หยางกลับกระโดดขึ้นไปเลย?
มันจะสมเหตุสมผลได้อย่างไร
แค่เดินก็น่ากลัวขนาดนี้แล้ว
ถ้ากระโดด จะยิ่งน่ากลัวกว่าอีก
พวกเขารู้สึกตกตะลึงในใจยิ่งนัก
อวิ๋นเทียนหมานก็ตาค้างเช่นกัน
แล้วร่างกำยำของเขาก็สั่นเทิ้มเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ จากนั้นก็แย้มยิ้มกว้าง
"ฮ่าฮ่าฮ่า สมที่เป็นพี่ใหญ่! ช่างแตกต่างจากคนอื่นอย่างสิ้นเชิง!"
"ข้าก็ต้องไม่ช้าเกินไปเช่นกัน!"
พูดจบ อวิ๋นเทียนหมานก็กัดฟันอดทนรับพลังกดดันเหนือศีรษะ เร่งความเร็วขึ้นบันไดไป
เย่ชิงเฉิงเห็นเช่นนี้ ในดวงตาก็ฉายแววชื่นชมออกมา
แล้วก็ขบกรามงาม ๆ ของตนเองเบา ๆ รีบปีนขึ้นบันไดไปเช่นกัน
อีกด้านหนึ่ง มีเสียงสูดลมหายใจดังมาเป็นระลอก
"นี่มัน..."
ผู้อาวุโสทั้งหลายตาค้างกันหมด
พวกเขามองกู่หยางด้วยสายตาประหลาดใจเหลือเชื่อ
"กู่หยางอยู่บนยอดแล้วจริง ๆ"
"เขาทำได้อย่างไรกัน"
"น่าเหลือเชื่อยิ่งนัก! พลังกดดันน่าสะพรึงขนาดนั้นถึงไม่อาจหยุดเขาได้เชียวหรือ"
ผู้อาวุโสทั้งหลายส่งเสียงประหลาดใจและตกตะลึงดังมาเป็นระลอก
เห็นได้ชัดว่า...
ภาพเช่นนี้สำหรับพวกเขาแล้วช่างน่าตกใจเกินไป
และเมื่อพวกเขามองอัจฉริยะฟ้าประทานที่ยังคงพยายามไต่บันไดอยู่ข้างล่าง ความตกตะลึงในใจก็ยิ่งรุนแรงขึ้น
"นี่..."
ผู้อาวุโสใหญ่ของราชวงศ์เซวียนเหนี่ยวเองก็นิ่งอึ้ง
เขาไม่คิดเลยว่า...
กู่หยางจะทำได้จริง ๆ!
แถมยัง...ง่ายดายเพียงนั้นที่
ราวกับว่าพลังกดดันอันน่าสะพรึงกลัวนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขาเลย!
"ช่างเป็นสัตว์ประหลาดโดยแท้"
แม้เขาจะไม่อาจเข้าใจว่ากู่หยางทำได้อย่างไร
แต่ก็อดอุทานในใจไม่ได้อยู่ดี
สัตว์ประหลาด!
สัตว์ประหลาดเกินไป!
นอกจากผู้อาวุโสของสิบราชวงศ์ใหญ่แล้ว
แม้แต่ชายชราในชุดสีเขียวยังแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา
มองกู่หยางอย่างไม่อยากเชื่อ
"มีอัจฉริยะฟ้าประทานถึงขั้นนี้ด้วยหรือ"
ชายชราในชุดสีเขียวเผยแววตาเหลือเชื่อออกมา
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved