ตอนที่ 271 มอบกระบี่

 ตอนที่ 271 มอบกระบี่

ผู้คนต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นบนเวที

พวกเขามองไปยังสองยอดฝีมือขอบเขตราชันที่ยืนอยู่กลางอากาศด้วยความตกตะลึง

"ไม่นานย่อมได้เป็นราชัน ในอนาคตต้องได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิอย่างแน่นอน"

"กู่หยางเป็นสัตว์ประหลาดถึงขั้นนี้ได้แล้วเช่นนั้นหรือ?"

"น่าสะพรึงนัก ในต้าเหยียนเราก็ยังไม่มีผู้ก้าวข้ามไปสู่ขอบเขตจักรพรรดิได้"

"ก็ได้ยินไม่ใช่หรือ? ถ้ามีทรัพยากรเพียงพอ! การก้าวไปสู่ขอบเขตจักรพรรดินั้นทรัพยากรที่ต้องใช้ จะต้องมหาศาลเกินจินตนาการมากแน่แท้!"

ผู้คนมากมายถอนหายใจอย่างตกใจ

พวกเขาต่างหันไปมองกู่หยางที่อยู่อีกด้าน ด้วยความตกตะลึงเป็นอย่างมาก

ส่วนหลัวเหยียนเทียน องค์ชายใหญ่แห่งต้าเหยียนก็มีสีหน้ายุ่งยาก

"ขอบเขตจักรพรรดิ?"

เขาเอ่ยปากเบา ๆ กำหมัดเข้าหากันไปอย่างช้า ๆ

ม่านตาจ้องไปที่กู่หยาง แววตายังเปี่ยมด้วยความมั่นใจ

"ถึงจะเป็นเช่นนั้น แต่...เรื่องในอนาคตใครจะรับรองได้?"

กู่หยางตอนนี้เพิ่งจะเข้าสู่ขอบเขตห้วงสมุทรแก่นแท้ระดับ 13 ขั้นสูงสุดเท่านั้น ยังไม่ได้ทะลวงไปสู่ขอบเขตแก่นสุญตาด้วยซ้ำ ระยะทางที่จะไปสู่ขอบเขตราชัน ก็ยังห่างไกล

ไม่ต้องพูดถึงขอบเขตจักรพรรดิเลย!

ส่วนกู่หยางที่ยืนอยู่บนเวที พอได้ยินบทสรรเสริญจากสองยอดฝีมือขอบเขตราชัน ถึงกับตกใจ

เขาก็คิดไม่ถึงว่าสองยอดฝีมือขอบเขตราชันจะมองโลกในแง่ดีกับตัวเองขนาดนี้

แต่ตัวเขาเองก็ค่อนข้างมีท่าทีเรียบเฉย

ด้านล่าง

เซวียนเยว่มองดูภาพนี้ถึงกับตาค้าง

นึกถึงครั้งก่อนที่ตัวเองยังกล้าสงสัยในพลังของกู่หยางอยู่เลย ตอนนี้มองดู ...

นางได้ประเมินพลังของกู่หยางผิดถนัด!

เมื่อคิดเช่นนี้ สายตาก็พลันหันไปมองเย่ชิงเฉิงที่อยู่ข้าง ๆ

ในตอนนี้เย่ชิงเฉิงเงยหน้ามองกู่หยางอย่างคลั่งไคล้และลึกซึ้ง

และแล้ว...ก็เกิดภาพแปลกประหลาดขึ้นทันใด!

กระบี่วิญญาณระดับสูงขั้นสมบูรณ์ที่อยู่ในมือของกู่หยาง ตอนนี้ ถึงกับสั่นเทิ้มเล็กน้อย

เคร๊ง!

กระบี่แตกสลาย

แล้วก็แตกละเอียดเป็นเสี่ยง ๆ ร่วงหล่นบนพื้น

"ทนไม่ไหวแล้วเช่นนั้นหรือ?"

เห็นเช่นนี้ สายตาของกู่หยางเองก็เผยแววหมดหนทางออกมา

สัจธรรมทลายสวรรค์สำเร็จขั้นยิ่งใหญ่ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก

แม้แต่กระบี่วิญญาณระดับสูงขั้นสมบูรณ์ก็ยากจะทานทนได้

มองดูด้ามกระบี่ที่เหลืออยู่ในมือ กู่หยางถอนหายใจเบา ๆ เดินส่ายหน้า

ดีที่เขาได้กระบี่ตัดสวรรค์มาจากสุสานกระบี่ก่อนหน้านี้ แถมกระบี่ตัดสวรรค์ก็ยังมีช่องทางที่จะเติบโตได้อีก

ดังนั้น...

ชั่วคราวนี้ก็ไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลเรื่องอาวุธแล้ว

เห็นกระบี่วิญญาณระดับสูงของกู่หยางพังทลายลงเช่นนี้

ก็ยิ่งทำให้ผู้คนต่างหวาดผวาไม่น้อยเช่นกัน

"นี่ก็คือความน่าสะพรึงของสัจธรรมระดับสูงสุดขั้นยิ่งใหญ่เช่นนั้นหรือ?"

"แม้แต่กระบี่วิญญาณระดับสูงขั้นสมบูรณ์ก็ทนพลังขนาดนี้ไม่ไหว!"

"ช่างน่าสะพรึงกลัวจริง ๆ!"

พวกเขาไม่เคยเห็นใครที่สามารถตรัสรู้สัจธรรมระดับสูงสุดสำเร็จขั้นยิ่งใหญ่มาก่อน จึงอดรู้สึกตกตะลึงและสะเทือนใจไม่ได้

ส่วนอีกฝั่ง

เหอชิงเซวียนและหลัวจิ่วเทียนเห็นเช่นนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

"พลังสัจธรรมพิเศษระดับสูงสุดสำเร็จขั้นยิ่งใหญ่นั้นสูงเกินไป กระบี่วิญญาณระดับสูงไม่อาจทนไหวแน่นอน!"

"เช่นนั้นแล้ว ให้ถือเป็นของขวัญพบหน้าที่เราทั้งสองคนมอบให้เจ้าเลยแล้วกัน!"

พูดจบ เหอชิงเซวียนก็กำลังจะหยิบของออกมาจากแหวนเก็บของ

เห็นเช่นนี้ กู่หยางก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย

"ท่านคณบดี ข้าขอล่วงเกินได้หรือไม่"

"คือกระบี่วิญญาณระดับราชันหรือไม่ขอรับ?"

กู่หยางพูดว่าขอล่วงเกิน แต่ประโยคถัดมา กลับทำให้ผู้คนถึงกับผงะ

ตายจริง...

ท่าทางอย่างนี้จะเรียกว่าล่วงเกินได้อย่างไร?

ได้ยินคำพูดนี้ของกู่หยาง

เหอชิงเซวียนถึงกับมุมปากกระตุกเล็กน้อย

"แค่ก แค่ก พูดเล่นหรือ กระบี่วิญญาณระดับราชันไม่ใช่ผักปลาวางขายอยู่ตามท้องถนน ย่อมไม่ใช่!"

เหอชิงเซวียนกระแอมสองครั้งแล้วส่ายหน้า

จากนั้นก็โบกมือเล็กน้อย กระบี่สีเขียวเร้นลับเข้มได้ถูกเขาจับไว้ในมือโดยตรง

"นี่คือกระบี่มรกตเร้นลับ เมื่อครั้งตอนข้ายังหนุ่มได้หลอมขึ้นมาเอง แต่ก่อนตอนข้าพึ่งก้าวข้ามไปสู่ขอบเขตราชัน ก็ยังได้ใช้มาสักระยะหนึ่ง ต่อมาเมื่อหลอมกระบี่วิญญาณระดับราชันได้ ก็เลยเก็บมันไว้แทน"

"วีรบุรุษย่อมเหมาะกับของวิเศษ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กระบี่เล่มนี้ก็เป็นของเจ้าแล้ว!"

เหอชิงเซวียนจับกระบี่ในมือมองอย่างใจลอยไปชั่วขณะ จากนั้นก็โบกมือเล็กน้อย ส่งกระบี่มรกตเร้นลับให้กู่หยาง!

เห็นเช่นนี้

ผู้คนมากมายต่างเบิกตากว้าง

"กระบี่วิญญาณระดับสูงสุดให้ไปเฉย ๆ เช่นนั้นหรือ!?"

"ช่างน่าอิจฉาจริง ๆ! นี่ก็คือการเอาใจอัจฉริยะฟ้าประทานระดับแนวหน้าเลยหรือ?"

"นั่นมันกระบี่วิญญาณระดับสูงสุดไม่ใช่รึ! ตอนนี้ข้ายังใช้กระบี่วิญญาณระดับกลางอยู่เลย!"

"ถ้าข้าได้กระบี่วิญญาณระดับสูงสุดเล่มนึงจะดีเพียงใดกัน!"

อีกฝั่งหนึ่งโหยวเฟิงที่กำลังเยียวยาบาดแผลเห็นเช่นนี้ แววตาเต็มไปด้วยความอิจฉา

กระบี่วิญญาณระดับสูงสุดที่ยอดฝีมือขอบเขตราชันเคยใช้มา... ช่างล้ำค่ายิ่งนัก!

ราคาสูงลิบล่อน!

น่าเสียดายที่มันไม่ได้เป็นของเขา!

วืด!

กระบี่มรกตเร้นลับร่อนลงมาถึงตรงหน้ากู่หยางโดยตรง

เห็นเช่นนี้

กู่หยางก็ยื่นมือออกไป รับกระบี่มรกตเร้นลับไว้

"กระบี่วิญญาณระดับสูงสุดขั้นสมบูรณ์?"

พอกระบี่อยู่ในมือ กู่หยางก็รู้ได้ทันทีว่ากระบี่มรกตเร้นลับเล่มนี้ไม่ธรรมดา!

นี่มันกระบี่วิญญาณระดับสูงสุดขั้นสมบูรณ์!

นับว่าดีมากแล้ว!

กู่หยางก็ค่อนข้างพึงพอใจ

"ถึงจะเสียดายที่ไม่ใช่กระบี่วิญญาณระดับราชัน แต่ก็ขอบคุณท่านคณบดีขอรับ"

กู่หยางป้องมือใส่เหอชิงเซวียน

แต่ยังคงมีความเสียดายอยู่บ้าง

พอคนอื่นได้ยินคำพูดนี้

ต่างก็มีสีหน้าไม่ดีกันเป็นแถว

กระบี่วิญญาณระดับสูงสุดขั้นสมบูรณ์ยังไม่พอใจอีกหรือ?!

ไม่รู้หรือว่าข้างล่างมีหลายคนแทบจะแย่งกัน!?

ไม่ต้องพูดถึงพวกเขา แม้แต่อัจฉริยะที่ติดอันดับในรายชื่อมรกตเร้นลับ ก็มองกู่หยางด้วยสายตาอิจฉาริษยาไม่น้อย

ส่วนเหอชิงเซวียนและหลัวจิ่วเทียนพอได้ยินคำพูดของกู่หยาง ก็อดขำออกมาไม่ได้

ไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจแม้แต่น้อย

"เอาเถอะ กู่หยาง เจ้ารู้เรื่องเกี่ยวกับกระบี่วิญญาณระดับราชันน้อยเกินไป"

"การจะหลอมกระบี่วิญญาณระดับราชันเล่มหนึ่งนั้น ยอดฝีมือขอบเขตราชันระดับต้น ย่อมหาทรัพยากรได้ไม่เพียงพอ!"

"ต้องสะสมไปอีกนานแสนนาน ถึงจะหลอมกระบี่วิญญาณระดับราชันได้เล่มหนึ่ง"

"จำนวนกระบี่วิญญาณระดับราชัน แม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตราชันเองก็หาได้ยากยิ่ง เจ้าคิดว่าการหลอมกระบี่วิญญาณระดับราชันสามารถทำได้ง่าย ๆ หรือ?"

เหอชิงเซวียนอธิบายด้วยรอยยิ้ม

นี่ก็ทำให้คนไม่น้อยต่างตกตะลึง

เรื่องนี้ คนส่วนใหญ่ก็ไม่รู้กัน

พวกเขาก็นึกไม่ถึงว่า...

ที่แท้กระบี่วิญญาณระดับราชัน ถึงได้หายากยิ่งกว่ายอดฝีมือขอบเขตราชันเสียอีก!

กู่หยางก็ค่อนข้างแปลกใจนิดหน่อย

"ยากลำบากถึงเพียงนี้เลยหรือ?"

กู่หยางพึมพำเบา ๆ แต่ไม่ได้ใส่ใจมากนัก

สำหรับเขาแล้ว... ก็ไม่ได้ยากลำบากอะไร

เขาแค่ต้องทำให้กระบี่ตัดสวรรค์เติบโตเป็นระดับราชันก็พอ!

เขาต้องการให้กระบี่ตัดสวรรค์เติบโตเป็นระดับราชัน... พอทะลวงไปถึงขอบเขตแก่นสุญตาก็ทำได้แล้ว!

การปรับแต่งนับล้านปี

เขาไม่เชื่อว่าจะทำให้กระบี่ตัดสวรรค์เติบโตเป็นระดับราชันไม่ได้!

กู่หยางหันสายตากลับมา ก้าวเดินลงจากเวที

เหอชิงเซวียนและหลัวจิ่วเทียนก็กลับไปยังที่เดิมแล้วเช่นกัน

เพราะการแข่งขันลานฝ่ายในก็ยังไม่จบลง

กู่หยางกลับมาข้าง ๆ เย่ชิงเฉิง ก็เห็นเซวียนเยว่อดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปอีกสองสามก้าว มองกู่หยางด้วยสีหน้าตกใจจนขนลุก

แม้กระทั่งหวาดผวานิดหน่อย

ส่วนกู่หยางเองก็ไม่ได้สนใจเซวียนเยว่

เย่ชิงเฉิงซุกไซ้เข้าไปในอ้อมกอดของกู่หยางอย่างตื่นเต้น

"สามีของข้า เจ้าเก่งจริง ๆ!"

"แน่นอนอยู่แล้ว" กู่หยางหัวเราะเบา ๆ

ท่ามกลางการหยอกล้อกันท่าทีหวานชื่นของทั้งสอง

การประลองก็ยังดำเนินต่อไป

แต่เบื้องหลังนั้น...

การต่อสู้ที่ปรากฏมาก็ค่อนข้างไร้สาระ

สิ่งที่ควรกล่าวถึง...

ก็คือในภายหลังกู่หยางต้องเผชิญหน้ากับเย่ชิงเฉิง

แต่รอบนี้เองก็ไม่ได้ต่อสู้กัน

เย่ชิงเฉิงไม่อยากโดนรังแก

ดังนั้นทั้งสองไม่ได้ขึ้นเวทีเลย ผลการต่อสู้ก็ปรากฏแล้ว

แต่หลังจากนั้น...

ในฐานะอันดับหนึ่งในรายชื่อมรกตเร้นลับ หลัวเหยียนเทียนองค์ชายใหญ่ของต้าเหยียน ในที่สุดก็ได้ขึ้นประลอง!

ก่อนหน้านี้ พอเจอหลัวเหยียนเทียนเป็นคู่ต่อสู้ เกือบทุกคนก็เลือกยอมแพ้โดยสมัครใจ

แต่ครั้งนี้...เขาเผชิญหน้ากับถังหลงที่อยู่อันดับ 3!

ถังหลงมองด้วยความระแวงระวัง

เขาไม่เคยต่อสู้กับหลัวเหยียนเทียน

เพราะเขาแพ้ให้กับโหยวเฟิงตลอด ไม่มีปัญญาไปท้าอันดับหนึ่งอย่างหลัวเหยียนเทียนได้

สู้กับอันดับ 2 ยังสู้ไม่ได้ แล้วจะมีสิทธิ์อะไรไปสู้กับอันดับ 1?

แต่ครั้งนี้...เขาอยากท้าทายดูสักหน่อย!

ในที่สุดแม้แพ้ ก็อยากดูว่าห่างจากอันดับหนึ่งมากเพียงใด

การต่อสู้ครั้งนี้ ก็เรียกความสนใจจากผู้คนมากมายเช่นกัน