ตอนที่ 219 ปรับแต่งสายเลือดอีกครั้ง

มองดูนกอินทรีตัวใหญ่ทั้งสองที่น่ารักน่าชักอยู่ด้านหน้า กู่หยางรู้สึกขบขันเล็กน้อย

เขาส่ายหน้า

แล้วก็เริ่มใช้ความสามารถมองชะตากรรม สำรวจดูว่าสายเลือดอินทรีศักดิ์สิทธิ์เขียวเข้มบรรพกาลที่อินทรีวิญญาณเพลิงได้รับการถ่ายทอดมานั้นมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่

พอมองดูแล้วก็ตกใจไม่น้อย

สายเลือดอินทรีศักดิ์สิทธิ์เขียวเข้มบรรพกาลนี้...

มาจากยุคโบราณเมื่อ 200,000 กว่าปีก่อน!

เห็นเช่นนี้ กู่หยางก็ใจเต้นแรง

การปรับแต่งครั้งนี้อาจยังไม่สามารถทำให้สายเลือดหวนคืนสู่บรรพบุรุษได้ทั้งหมด

เขาส่ายหัวเล็กน้อย

หลังจากนั้นก็วางมือลงบนศีรษะของอินทรีวิญญาณเพลิงวัยเจริญพันธุ์

"เริ่มจากเจ้าก่อนละกัน"

พอมือขวาแตะลงบนศีรษะอินทรีวิญญาณเพลิงในทันที

กู่หยางก็ขยับความคิดเล็กน้อย

"ปรับแต่งสายเลือดอินทรีศักดิ์สิทธิ์เขียวเข้มบรรพกาล เวลา...หนึ่งแสนปีก่อน!"

ทันทีที่ยืนยันการปรับแต่ง

อินทรีวิญญาณเพลิงวัยเจริญพันธุ์ก็เบิกตากว้าง

ถัดมา

มันส่งเสียงร้องคำรามน่าสะพรึงกลัวออกมาทันที!

เสียงร้องคำรามนั้น...

เหมือนมีมาตั้งแต่อดีตกาล

หนักแน่นและกว้างใหญ่

เหมือนมีร่องรอยของกาลเวลา

ในขณะเดียวกัน

ขนของมันก็เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ขนสีขาวดั่งหยกเดิม ตอนนี้ปรากฏลวดลายประหลาดและโบราณ

ลวดลายเหล่านี้คล้ายเส้นเลือดแผ่ขยายไปทั่วทุกขน

เพิ่มความหนักหน่วงและโบราณขึ้นมาทันตา!

มองไกลออกไป อินทรีวิญญาณเพลิงวัยเจริญพันธุ์นี้แทบจะเรียกว่าอินทรีวิญญาณเพลิงอีกไม่ได้แล้ว

นี่มัน...

เกือบจะเหมือนอินทรีศักดิ์สิทธิ์เขียวเข้มบรรพกาล!

"ฮึ่ม!"

อินทรีวิญญาณเพลิงวัยเจริญพันธุ์เหมือนจะรู้สึกได้ถึงสายเลือดกลับสู่บรรพบุรุษอีกครั้ง

จึงร่อนขึ้นฟ้าด้วยความตื่นเต้น และกางปีกออกบินวนไปมา แหวกอากาศราวกับเจ้าแห่งท้องฟ้า

บ้างก็ปีกทั้งสองกระพือแรง ส่งพายุกระหน่ำ

แหลมคมและเหี้ยมโหด!

ในขณะเดียวกัน

ตอนนี้พลังอำนาจของอินทรีวิญญาณเพลิงวัยเจริญพันธุ์ก็พุ่งพรวดไปถึงขอบเขตแก่นสุญตาระดับ 10 ขั้นสูงสุด!

"แค่สายเลือด 3 ส่วน ก็มีพลังที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้แล้วหรือ?"

มองอินทรีวิญญาณเพลิงวัยเจริญพันธุ์โบยบินอยู่บนท้องฟ้า

กู่หยางก็อดที่จะรู้สึกอึ้งไม่ได้

แต่ที่เขารู้สึกถึงเช่นกันคือ...

การปรับแต่งสายเลือดแสนปี กลับทำให้สายเลือดกลับสู่บรรพบุรุษได้เพียง 3 ส่วนเท่านั้น

นี่ทำให้เขารู้สึกคาดไม่ถึงเล็กน้อย

แต่พอคิดดูดี ๆ

สายเลือดที่อินทรีวิญญาณเพลิงวัยเจริญพันธุ์ปลุกขึ้นมาในครั้งแรกนั้นบางเบาอย่างมาก

รากฐานก็เลวร้าย

ดังนั้นต่อให้เป็นแสนปี...ก็ยากที่จะทำให้กลับสู่บรรพบุรุษได้ 10 ส่วน

"ขอบคุณเจ้านาย!"

หลังจากร่อนวนด้วยความตื่นเต้นครู่หนึ่ง อินทรีวิญญาณเพลิงวัยเจริญพันธุ์ก็ค่อย ๆร่อนลงมา ร่างกายใหญ่โตกลับหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว

สุดท้ายกลายเป็นนกตัวเล็ก ๆ พอดีมือ

ยืนอยู่บนไหล่ของกู่หยาง

"หืม? เรียนรู้ความสามารถในการแปลงร่างแล้วหรือ?" กู่หยางเห็นดังนั้นตาก็สว่างวาบ

"ใช่แล้วเจ้านาย นี่คือพลังที่มาจากสายเลือด แต่เสียดายที่ข้ายังใช้ไม่คล่องพอ"

เสียงอินทรีวิญญาณเพลิงวัยเจริญพันธุ์นั้นไพเราะยิ่งนัก

ได้ยินดังนั้น กู่หยางก็พยักหน้าเล็กน้อย

หลังจากนั้นสีหน้าก็ชะงักไปนิด

พูดถึงเรื่องนี้...

เขาเอาจับนกอินทรีนี้มาตั้งนาน ดูเหมือนจะไม่เคยถามพวกมันเลยว่ามีชื่อหรือเปล่า?

คิดได้ดังนั้น เขาก็รู้สึกอายขึ้นมานิดหน่อย

จากนั้นก็ถามไป

"พูดถึงเรื่องนี้ พวกเจ้ามีชื่อหรือไม่?"

"ไม่มี เจ้านาย ในที่สุดท่านก็จะตั้งชื่อให้พวกข้าแล้วหรือ"

พอได้ยินกู่หยางถาม ทั้งสองตัวก็ดูตื่นเต้นขึ้นมาในทันที

สุดท้ายแล้ว อินทรีวิญญาณเพลิงก็เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีจำนวนน้อยมาก

การติดต่อกันเองก็จะไม่มีการใช้ชื่อ

ก็เลยไม่มีชื่อ

"เช่นนั้น...ข้าจะตั้งชื่อให้พวกเจ้าเอง"

กู่หยางลูบจมูกเบา ๆ

เขาจับอีกฝ่ายมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว กลับลืมเรื่องชื่อ

ตนเองในฐานะเจ้านายดูเหมือนจะทำหน้าที่ไม่ดีนัก

หลังจากคิดครู่หนึ่ง

กู่หยางก็เงยหน้าขึ้นพูด "ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าก็ชื่อชิงหยวน ส่วนตัวเล็กชื่อชิงหลวน"

หยวนหมายถึงเหยี่ยว หลวนหมายถึงหงส์

เมื่อเทียบกับพรสวรรค์ของแม่ลูกสองตัว

ตัวเล็กมีพรสวรรค์เหนือกว่าอย่างชัดเจน

ชื่อก็เหมาะกับพวกมัน

"ขอบคุณเจ้านายที่ตั้งชื่อให้!" พอได้ยินกู่หยางพูดจบ

ชิงหยวนกับชิงหลวนก็พยักหน้าติดกัน พูดด้วยความดีใจ

"ชิงหยวน เจ้ารู้สึกอย่างไรกับพลังของตนเอง?"

กู่หยางมองไปที่ชิงหยวนบนไหล่แล้วถามไป

"เพราะเจ้านาย แม้ชิงหยวนตอนนี้อยู่แค่ขอบเขตแก่นสุญตาระดับ 10 แต่ถ้าบำเพ็ญเพียรไปอีกพักหนึ่ง ก็จะก้าวเข้าสู่ขอบเขตมรณะชีวันได้ หากปลดปล่อยสายเลือดอินทรีศักดิ์สิทธิ์เขียวเข้มบรรพกาลออกมาทั้งหมด ขอบเขตมรณะชีวันก็คงทำอะไรข้าไม่ได้!"

ชิงหยวนพูดด้วยความตื่นเต้นยิ่ง

เห็นได้ชัด มันค่อนข้างพอใจกับการเพิ่มขึ้นของพลังตนเอง

ก่อนพบกู่หยาง มันอยู่แค่ขอบเขตห้วงสมุทรแก่นแท้ระดับ 10 ขั้นสูงสุด

แต่ตอนนี้...

เพิ่งผ่านไปไม่กี่เดือน

มันก็มีพลังเทียบเท่าขอบเขตมรณะชีวันแล้ว!

การพัฒนาแบบนี้ เป็นสิ่งที่มันไม่เคยกล้าจินตนาการถึงมาก่อนเลย!

ดังนั้นมันจึงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เป็นพาหนะของกู่หยาง

ถึงแม้จะเรียกว่าพาหนะ แต่กู่หยางก็ไม่เคยขี่มันเลย

แต่มันก็รู้ดี

ในอนาคต

มีแต่ลูกสาวของมันเท่านั้นที่จะอยู่เคียงข้างเจ้านายได้นานกว่า

สายเลือดในตัวมันเองบางเบาเกินไป

แต่อย่างตอนนี้ มันก็พอใจมากแล้ว

"ไม่เลว"

ได้ยินดังนั้น กู่หยางพยักหน้าอย่างพอใจ

ด้วยชิงหยวน ร่วมกับค่ายกลพิทักษ์สี่ทิศเร้นลับที่เขาตั้งไว้ในสำนักเมฆาคล้อย

ยอดฝีมือขอบเขตมรณะชีวันก็ยากจะบุกทะลวงได้ง่าย ๆ!

"ต่อไป ก็ถึงตาชิงหลวน"

กู่หยางรู้สึกซาบซึ้งครู่หนึ่ง แล้วก็หันไปมองลูกอีกตัวหนึ่ง

ชิงหลวนแน่นอนว่าพร้อมแล้ว

มันมีแววตาตื่นเต้นสุด ๆ

แล้วก็ก้มหัวใหญ่โตยักษ์ลงมาเหมือนกัน

กู่หยางยื่นมือไปแตะบนนั้นอย่างเชื่องช้า

จิตใจขยับเล็กน้อย

"ปรับแต่งสายเลือดอินทรีศักดิ์สิทธิ์เขียวเข้มบรรพกาล ระยะเวลา...หนึ่งแสนปีที่แล้ว!"

ในทันทีที่การปรับแต่งจบลง

พลังปราณโลหิตที่ไหลทะลักก็ระเบิดออกมาจากตัวของชิงหลวน

พลังปราณโลหิตคลอบคลุมสวรรค์

ครอบคลุมนับแสนลี้!

พลังที่น่าสะพรึงกลัวยากจะคาดคิด ปกคลุมไปทั่วสำนักเมฆาคล้อย

ศิษย์สำนักเมฆาคล้อยทุกคนต่างเผยสีหน้าสะพรึงกลัว เงยหน้ามองท้องฟ้า ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จิตใจสั่นระรัว

ด้านล่างสำนักเมฆาคล้อย มีผู้บำเพ็ญเพียรผ่านไปผ่านมาในเมืองวายุทมิฬ พอโดนความผิดปกติที่มาเยือนอย่างกะทันหันนี้ก็ทำให้ตกใจจนตัวสั่น

คุกเข่าบนพื้น สวดภาวนาขอไม่ให้เกิดเรื่อง

ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่...

ขอไม่ให้เกิดเรื่องก็พอ!

โชคดีที่ความผิดปกตินี้ไม่ได้ดำเนินต่อนาน

อีกไม่นานก็จางหายไปอย่างสิ้นเชิง

แต่ในตอนนี้...

กู่หยางก็มองไปยังชิงหลวนที่เปลี่ยนอย่างสิ้นเชิงตรงหน้า

ตอนนี้จะหาร่องรอยของอินทรีวิญญาณเพลิงในตัวชิงหลวน ก็คงไม่เจอแล้ว

มันมีขนสีเขียวเข้มที่ศีรษะ

ทุกขนยังเงางามราวกับหยก

ลวดลายบนนั้นแผ่ออกมาเป็นแสงสีเขียวเข้ม

แผ่ปีกออกไป ก็มีแสงระยิบระยับนับหมื่นตามมา

น่าเกรงขามอย่างยิ่ง

เห็นเช่นนี้

กู่หยางในใจก็ดีใจไม่น้อย

เพราะไม่เหมือนกับชิงหยวน...

การปรับแต่งสายเลือดแสนปีครั้งนี้ ทำให้ชิงหลวนหวนคืนสู่บรรพบุรุษได้โดยสมบูรณ์

อีกนัยหนึ่งคือ...

ตอนนี้ชิงหลวนไม่ใช่อินทรีวิญญาณเพลิงอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นอินทรีศักดิ์สิทธิ์เขียวเข้มบรรพกาลตัวจริง!

ในเวลาเดียวกัน

พลังของชิงหลวนก็พุ่งพรวดไปถึงขอบเขตแก่นสุญตาระดับ 12 แล้ว!

เห็นดังนี้ ในใจกู่หยางมีก็แต่ความดีใจ

เขาไม่คิดเลยว่า...

สายเลือดในตัวชิงหลวนจะมีความเข้มข้นเกินคาด

จากการปรับแต่งสายเลือดชิงหยวนแล้ว เขายังคิดว่าครั้งนี้ ชิงหลวนก็คงยังไม่สามารถหวนคืนสู่บรรพบุรุษได้สมบูรณ์

"ขอบคุณเจ้านาย!"

ร่างใหญ่โตของชิงหลวนหดเล็กลงในพริบตา

กลายเป็นเด็กสาวอายุ 17-18 ปี

แต่ดูเหมือนยังใช้ไม่คล่องเท่าไหร่

ทั่วร่างจึงเต็มไปด้วยขนที่มีลวดลายสีเขียวเข้ม

มองดูแล้วกลับมีความงามอันประหลาด

"นี่ เจ้าเปลี่ยนเป็นร่างนี้ได้อย่างไร"

กู่หยางกระแอมพร้อมถามขึ้น

หากชิงหลวนไม่เปลี่ยนร่างก็คงไม่เป็นไร พอเปลี่ยนแล้ว...

กลับมีความงามเทียบฉู่หลิงเอ้อร์กับเย่ชิงเฉิงแล้ว