ตอนที่ 184 ข้าจะสร้างมันขึ้นมาเอง

 ตอนที่ 184 ข้าจะสร้างมันขึ้นมาเอง

เมื่อกู่หยางตกลง ผู้อาวุโสใหญ่ก็โล่งอก ยิ้มอย่างสดใส

แม้ว่าคนรอบข้างจะไม่ได้ยินถ้อยคำที่พวกเขาสนทนากันอย่างชัดเจน

แต่พวกเขาก็พอจับใจความได้บ้าง

ดูเหมือนว่า…

กู่หยางกับสำนักหนึ่งมีเรื่องขัดแย้งกัน และผู้อาวุโสใหญ่ได้เสนอที่จะช่วยทำลายสำนักนั้น

เมื่อได้ยินเช่นนั้น

ทุกคนต่างก็อึ้งตะลึง

สำนักลักษณ์เหมันต์กำลังพยายามเอาใจกู่หยาง!

แต่นั่นก็เป็นเรื่องปกติ

ด้วยพรสวรรค์ของกู่หยางนี้ แม้แต่ในดินแดนมรกตก็ย่อมมีขุมอำนาจสูงสุดมากมายที่แย่งกันมาเอาใจเขา!

สำนักลักษณ์เหมันต์ควบคุมทั้งราชวงศ์เซวียนเหนี่ยว ย่อมต้องให้ความสนใจกู่หยางอย่างมาก!

นี่แหละคือการปฏิบัติต่ออัจฉริยะ!

พวกเขาก็รู้สึกถึงความตื่นเต้น

มองดูกู่หยางด้วยความอิจฉา

ต่อมาผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสสามได้จัดการแจกจ่ายรางวัลให้กับอัจฉริยะคนอื่น ๆ ตามลำดับรายชื่อเซวียนเหนี่ยว

แน่นอน

รางวัลของพวกเขาตามย่อมไม่สามารถเทียบเท่ากู่หยางที่สามารถเลือกรางวัลเองได้

ทว่ามันล้วนมาจากคลังสมบัติของราชวงศ์เซวียนเหนี่ยว

รางวัลทั้งหมดก็ไม่ถือว่าแย่

เมื่อรางวัลทั้งหมดถูกแจกจ่ายเสร็จ

สงครามร้อยแคว้นก็จบลงอย่างเป็นทางการ!

ต่อจากนั้นผู้ชมต่างก็ออกจากที่นั่ง

อัจฉริยะในรายชื่อเซวียนเหนี่ยวก็ต่างกันไปพักผ่อน

ก่อนออกไป เย่ชิงเฉิงมองกู่หยางอย่างลึกซึ้ง

ในดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

"ครั้งหน้า…ข้าจะต้องชนะเจ้า!"

นางเต็มไปด้วยความตั้งใจ จากนั้นก็หันหลังเดินออกไป

หลังจากนั้นผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสสามจึงจัดหาที่พักหรูหราให้กู่หยางและฉู่หลิงเอ้อร์

เพื่อให้กู่หยางและฉู่หลิงเอ้อร์พำนัก

ส่วนอัจฉริยะจากแคว้นฉู่

ก็ยังคงพำนักอยู่ที่บ้านเดิม

ต่อจากนั้นก็เริ่มต้นการเก็บรวบรวมวัตถุดิบสำหรับปรุงโอสถแก่นก่อกำเนิดให้กู่หยาง

สูตรโอสถไม่ยากที่จะจัดการ พวกเขามีอยู่แล้ว

แต่วัตถุดิบต่าง ๆ ต้องใช้เวลาสักหน่อยในการรวบรวม

"วัตถุดิบสำหรับปรุงโอสถแก่นก่อกำเนิดคงต้องใช้เวลาสักพักถึงจะรวบรวมครบ ยกเว้นดอกสามแก่นอาจจะยากหน่อย ต้องรอครึ่งปี"

ผู้อาวุโสใหญ่พูดขึ้น

กู่หยางตาเป็นประกาย

ช่างบังเอิญ

"ไม่เป็นไรขอรับท่านผู้อาวุโสใหญ่ ดอกสามแก่นข้ามี แค่ต้องการวัตถุดิบอื่น ๆ ก็พอแล้วขอรับ"

"นั่นก็ดีแล้ว เช่นนั้นภายในครึ่งเดือนหลังจากนี้ วัตถุดิบทั้งหมดก็คงพร้อม ถึงเวลานั้นข้าจะให้คนนำวัตถุดิบมาที่นี่"

"ขอบคุณท่านผู้อาวุโสใหญ่ขอรับ!"

เมื่อได้ยินนี้ กู่หยางก็ไม่อาจหยุดยิ้ม และขอบคุณผู้อาวุโสใหญ่

ผู้อาวุโสใหญ่ก็ยิ้มอย่างเข้าใจ

"เป็นเรื่องที่ควรทำอยู่แล้ว นี่ก็เป็นรางวัลของเจ้า"

"แต่เพียงแค่นี้ สำหรับผู้ที่ได้รับอันดับหนึ่งอย่างเจ้า…ยังคงดูน้อยไปหน่อย"

"กู่หยาง เจ้ายังมีความต้องการอื่น ๆ อีกหรือไม่"

ผู้อาวุโสใหญ่ถามต่อ

กู่หยางครุ่นคิดสักครู่

"วิชายุทธและวรยุทธ"

กู่หยางกล่าวขึ้น

"โอ แต่ข้าคิดว่าวิชายุทธและวรยุทธที่เจ้าฝึกฝนอยู่ระดับของมันก็สูงแล้ว หากต้องการ…มันคงต้องเป็นระดับราชันเลย"

ผู้อาวุโสใหญ่ตกใจเล็กน้อย

ไม่คิดว่ากู่หยางจะยังต้องการวิชายุทธและวรยุทธ

ทว่าก็รู้สึกสงสัย

กู่หยางยิ้ม

"ข้าไม่ได้ต้องการเพื่อฝึกฝน แต่เพื่อดูเพิ่มความเข้าใจในเส้นทางการบำเพ็ญเพียรของข้า"

"ข้าจะสร้างวิชายุทธและวรยุทธระดับราชันขึ้นมาเอง"

เมื่อกู่หยางพูดจบ

ผู้อาวุโสใหญ่ก็เบิกตาโต

อะ…

อะไรนะ

สร้างวิชายุทธและวรยุทธระดับราชันขึ้นมาเอง

หากคำพูดนี้มาจากคนอื่น

เขาต้องด่ากราดไปแล้ว

แต่คำพูดนี้…กลับมาจากกู่หยางคนนี้

ทำให้เขาไม่สงสัยเลย

ทันใดนั้น

เขาเหมือนกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงเบิกตาโต

"ประเดี๋ยว…กู่หยาง ไม่ใช่ว่าตอนนี้เจ้าฝึกฝนวิชายุทธและวรยุทธที่เจ้าสร้างขึ้นเองทั้งหมดหรือ"

ผู้อาวุโสใหญ่เอ่ยเสียงดัง

กู่หยางก็ไม่มีการปกปิด

ยิ้มและพยักหน้า

"แน่นอน ไม่อย่างนั้น…ข้าในแคว้นฉู่ที่มาจากที่ห่างไกล จะได้รับวิชาที่เหนือฟ้าเช่นนี้มาจากที่ใดได้"

เมื่อได้ยินคำตอบยืนยันจากกู่หยาง

ผู้อาวุโสใหญ่ก็กลอกตาไม่หยุด

ตัวเขาเองก็ถึงกับตะลึงสุดขีด

เรื่องนี้…

กู่หยางทำใหเขาตกใจหยุดเลยจริง ๆ!

ทั้งหมดนี้ให้ความรู้สึกช็อคกับเขา!

อายุเพียง 17 ปี…

มีฝีมือในขอบเขตหลอมรวมระดับ 13

และเดินออกมาจากทางที่เขาเปิดเอง!

ข้อสำคัญคือ…

เขายังสร้างวิชายุทธระดับเทพแท้ขึ้นมาด้วยตัวเอง!

และฝึกฝนจนสมบูรณ์!

นั่นคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด!

ต้องใช้ความเข้าใจแบบไหนกันนะถึงทำได้

หลังจากใช้เวลาหนึ่งช่วงเพื่อยอมรับเรื่องนี้

ผู้อาวุโสใหญ่ก็ให้คำมั่น

"การต้องการสร้างวิชายุทธและวรยุทธระดับราชันไม่ใช่เรื่องง่าย"

"ต้องการเรียนรู้ตำราจำนวนมาก แค่สำนักลักษณ์เหมันต์เราอาจจะไม่พอ"

"ดังนั้น ข้าจะขออนุญาตจากสำนัก และจะให้สิทธิ์สูงสุดกับเจ้า วิชายุทธและวรยุทธทั้งหมดของสำนักลักษณ์เหมันต์ เจ้าสามารถเรียนรู้ได้ตามต้องการ!"

เมื่อได้ยินผู้อาวุโสใหญ่พูดอย่างนี้

กู่หยางก็รีบโค้งคำนับและขอบคุณ

หลังจากพูดคุยเสร็จ

ผู้อาวุโสใหญ่ก็การลังเล

เขาหันหลังกลับไปสำนักเพื่อเรียกร้อง

เมื่อรู้ถึงความต้องการของกู่หยาง

สำนักลักษณ์เหมันต์ก็ไม่มีการลังเล

เปิดสิทธิ์ชั้นสูงสุดในศาลาคัมภีร์ให้กู่หยาง!

โดยศาลาคัมภีร์ชั้นที่ 11 คือสำหรับผู้ที่มีสถานะสูงสุดในสำนักลักษณ์เหมันต์เท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้า!

แต่ตอนนี้…

กู่หยางได้รับสิทธิ์เข้าไปในชั้นที่สูงที่สุดนั่นคือชั้น 11!

ข่าวนี้เผยแพร่ออกไปหลังจากนั้น

คนมากมายต่างพากันตกตะลึง!

ทั้งราชวงศ์เซวียนเหนี่ยวต่างถูกสำนักลักษณ์เหมันต์ควบคุม

สามารถพูดได้ว่าราชวงศ์แค่เป็นหุ่นเชิด

ไม่มีอำนาจแท้

ทรัพยากรต่าง ๆ ภายในราชวงศ์ก็ถูกสำนักลักษณ์เหมันต์ควบคุมทั้งหมด

ศาลาคัมภีร์เปิดให้กับขุมอำนาจต่าง ๆ ในราชวงศ์เซวียนเหนี่ยว

แต่นั่นจำกัดเพียงชั้น 3 ชั้นแรกเท่านั้น ชั้นที่ 3 ขึ้นไป…

มีเพียงอัจฉริยะบางส่วนเท่านั้นที่ได้รับสิทธิ์เข้าไป

และชั้นที่ 11 ไม่เคยมีใครนอกจากสำนักลักษณ์เหมันต์เข้าได้!

แต่ตอนนี้

กู่หยางกลับทำลายกฎนั้น!

ด้วยสถานะของคนนอก เขาประสบความสำเร็จในการได้รับสิทธิ์เข้าไปในศาลาคัมภีร์ชั้นที่ 11!

นี่ก็ทำให้คนมากมายตกใจ แต่รู้สึกว่ามันเหมาะสมแล้ว

เพราะ…

พรสวรรค์ของกู่หยาง ก็คุ้มค่าที่สำนักลักษณ์เหมันต์จะปั้นเขา!

เช่นนั้น

ในวันรุ่งขึ้นตอนเช้าตรู่

กู่หยางก็เดินทางไปที่ศาลาคัมภีร์ราชวงศ์เซวียนเหนี่ยวทันที