ตอนที่ 92

“ดาบขนนกฤดูใบไม้ร่วงสามารถติดอันดับได้จริงหรือ” โจวชู กล่าวด้วยความประหลาดใจ “ดาบนี้เพิ่งหลอมขึ้นไม่นานมานี้ ไม่มีแม้แต่ความสำเร็จในการต่อสู้”

“ผู้ดูแลโจว ข้าเกรงว่าท่านจะประเมิน ศาลาหุบเขาสวรรค์ ต่ำไป” หยางหงยิ้ม(ของเปลี่ยนเป็นศาลานะครับ)

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ตราบใดที่ดาบของท่านปรากฏต่อหน้าผู้คน มันจะไม่รอดพ้นสายตาของ ศาลาหุบเขาสวรรค์ ไม่มีใครรู้ว่าสายลับของพวกเขาคือใคร ผู้คนรอบตัวเรา แม้แต่รองผู้การเฉิงกับข้า อาจเป็นสายลับจาก ศาลาหุบเขาสวรรค์”

“ที่พูดเกินจริงไปไหม?” โจว ชู กล่าว “อาณาจักรต้าเซี่ย ยอมให้สายลับของพวกเขาอยู่จริงหรือ”

เขาจำได้ว่าเมื่อ อาณาจักรต้าเซี่ย ระดมกำลังเพื่อกำจัดสายลับของ อาณาจักรต้าเว่ย พวกเขาได้ก่อให้เกิดการนองเลือด

“ข้าไม่รู้ว่าทางราชสำนักกำลังคิดอะไร แต่ตามความเข้าใจของข้า ศาลาหุบเขาสวรรค์ ไม่ได้เป็นของอาณาจักรใด พวกเขาไม่เคยทำอะไรมากไปกว่าการเผยแพร่การจัดอันดับอาวุธยุทโธปกรณ์ ดังนั้นจึงไม่มีอาณาจักรใดที่จะโจมตีพวกเขา” หยางหง กล่าว

“ประการที่สอง ไม่มีใครรู้ว่า ศาลาหุบเขาสวรรค์ มีสายลับกี่คน การกำหนดเป้าหมายจะสร้างผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้นทุกอาณาจักรจึงยอมรับการมีอยู่ของพวกเขาโดยปริยาย”

โจวชู พยักหน้า คำอธิบายของ หยางหง อาจไม่จำเป็นต้องเป็นความจริง แต่ฟังดูสมเหตุสมผล ไม่มีประโยชน์ที่จะสืบสวนเรื่องนี้

ยังไงก็ตาม เขาสนใจอันดับอาวุธมาตรฐานนี้มาก หากเป็นการจัดอันดับที่มีความน่าเชื่อถือจริง ๆ หากดาบขนนกฤดูใบไม้ร่วงสามารถเข้าสู่การจัดอันดับได้ ก็จะสามารถสร้างชื่อให้ตัวเองได้

ในเวลานั้น ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะไม่มีกองทัพในอาณาจักรไม่ซื้อพวกมัน

“คู่มือการจัดอันดับอาวุธยุทโธปกรณ์ของ ศาลาหุบเขาสวรรค์ ออกปีละครั้ง?” โจว ชู ถาม

"ใช่. อันดับอาวุธมาตรฐานจะออกในเดือนตุลาคมของทุกปี คู่มือจัดอันดับอาวุธยุทโธปกรณ์จะออกในภายหลัง โดยปกติในเดือนกุมภาพันธ์ของปีถัดไป” หยางหงพยักหน้า “ตอนนี้สิ้นเดือนกันยายนแล้ว อีกไม่กี่วันก็จะถึงเดือนตุลาคมแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น จะมีการประกาศอันดับอาวุธมาตรฐานฉบับใหม่”

“เหลืออีกไม่กี่วันแล้ว” โจว ชู พูดเสียงเบา

ไม่เป็นไรที่จะรอสองสามวัน สองสามวันไม่ได้สร้างความแตกต่างมากนัก

“ศาลาหุบเขาสวรรค์ เมื่อพวกเขาประกาศ ไม่มีใครคิดจะติดตามพวกเขาเลยหรือ?” โจว ชู ถามด้วยความสงสัย

อำนาจของราชสำนักไม่ได้อ่อนแอ และอาณาจักรอื่น ๆ บนแผ่นดินก็มีอำนาจมากเช่นกัน ค่อนข้างแปลกที่อาณาจักรเหล่านี้ไม่รู้ที่มาของ ศาลาหุบเขาสวรรค์

“มีคนเคยลองมาก่อน” หยางหง กล่าว “แต่มันไม่มีประโยชน์ ไม่มีใครติดตามที่มาของ แผ่นศิลาสวรรค์ ที่ใช้โดย ศาลาหุบเขาสวรรค์ได้ เพื่อประกาศอันดับอาวุธ ไม่มีใครรู้ว่าอักษรเหล่านั้นปรากฏบนศิลาได้ยังไง”

“มีคนเฝ้าศิลาสวรรค์ทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อดูว่ามีใครเข้าใกล้หรือไม่ แต่ไม่มีใครค้นพบอะไรเลย”

“ศิลาสวรรค์?” โจว ชู กล่าว

“ศิลาสวรรค์ เป็นก้อนหินสูงหนึ่งร้อยฟุต ทุก ๆ ปี เมื่อถึงเวลา อักษรต่าง ๆ จะปรากฏบนศิลาสวรรค์เอง นี่คืออันดับอาวุธ”

“กล่าวอีกนัยหนึ่งคือไม่มีใครเคยเห็นผู้คนจาก ศาลาหุบเขาสวรรค์? ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเป็นคนเดียวหรือเป็นกลุ่ม?” โจว ชู ถาม

หยางหงพยักหน้า

“น่าสนใจ” โจว ชูพึมพำ องค์กรลึกลับหรืออาจจะเป็นบุคคลลึกลับสามารถประกาศอันดับที่ทุกคนยอมรับได้

นี่ไม่ใช่สิ่งที่กองกำลังธรรมดาสามารถทำได้

ยังไงก็ตาม เมื่อเขานึกถึงการมีอยู่ของพลังเหนือธรรมชาติในโลกนี้ มันก็ดูไม่แปลกนัก

ใครจะรู้ว่ามีพลังประหลาดอะไรอยู่ในโลกนี้?

ตามที่ โจวชู รู้ ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่เหนือระดับสามล้วนมีความสามารถที่เหลือเชื่อ

“ผู้ตรวจการหยาง ศิลาสวรรค์ที่ท่านพูดถึงอยู่ที่ไหน? เราจะรู้ได้ยังไงเมื่ออันดับอาวุธปรากฏขึ้น” โจว ชู ถาม

“ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น ไม่เพียงแต่อาณาจักรต้าเซี่ยเท่านั้น แต่อาณาจักรอื่นๆ ทั้งหมดจะส่งคนไปที่ศิลาสวรรค์ เมื่ออันดับอาวุธถูกเผยแพร่ มันจะเผยแพร่ไปทั่วทวีปทันที ถึงตอนนั้นคงยากที่จะไม่รู้” หยางหง กล่าว “สำหรับ ศิลาสวรรค์ มันอยู่บนชายฝั่งของทะเลไม่มีที่สิ้นสุด”

สถานที่ที่ หยางหง พูดถึงอยู่ห่างจาก อาณาจักรต้าเซี่ย หนึ่งหมื่นไมล์ คงเป็นไปไม่ได้ที่ โจวชู จะมองเห็นมันด้วยตาของเขาเอง

ดูเหมือนว่าเขาจะทำได้เพียงรอให้อันดับอาวุธเผยแพร่ไปทั่วโลกก่อน เขาถึงจะรู้ว่าดาบขนนกฤดูใบไม้ร่วงสามารถเข้าสู่การจัดอันดับได้หรือไม่

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ แม้ว่าจะมีอาวุธมาตรฐานมากมายในโลกนี้ แต่ดาบขนนกฤดูใบไม้ร่วง จะสามารถติดอันดับได้อย่างแน่นอน

ไม่เพียงแต่ดาบขนนกฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้นแต่ยังรวมถึงดาบแหวนร้อยชั้น ดาบสังหารม้า และดาบปักฤดูใบไม้ผลิ…

มีเพียง ดาบพยัคฆ์ เท่านั้นที่อ่อนแอกว่าเล็กน้อย แม้ว่ามันจะอ่อนแอกว่า แต่ก็ไม่ได้อ่อนแออย่างแน่นอน

“ผู้ตรวจการหยาง ถ้าอาวุธที่ข้าพัฒนาอยู่ในอันดับต้น ๆ ของอันดับอาวุธมาตรฐาน นั่นจะถือเป็นการนำเกียรติยศมาสู่อาณาจักรหรือไม่?

“ราชสำนักจะให้รางวัลอย่างงามหรือไม่”

“นี่…” หยางหงเปิดปากของเขา เขาไม่เคยได้ยินรางวัลดังกล่าวมาก่อน

“ลืมมันซะ องค์จักรพรรดิตระหนี่เหลือเกิน ข้าจะไม่คึดถึงมัน” โจวชูพึมพำขณะส่ายหัว

ถ้าเขาให้รางวัลเป็นหนังสือไร้ประโยชน์อีกจำนวนหนึ่ง มันคงน่าเสียดาย

แม้ว่าเสียงของ โจวชู จะเงียบ แต่ หยางหง ก็ยังได้ยินอย่างชัดเจน

เขาแอบกลอกตาและก่นด่าในใจ ในโลกนี้ มีเพียงนายน้อยรองของตระกูล มี่ เท่านั้นที่กล้าพูดว่าองค์จักรพรรดิตระหนี่…

“ขอบคุณมากสำหรับท่านทั้งสองคน ถ้าไม่ใช่เพราะท่านทั้งสองคน ข้าคงไม่รู้จริงๆว่ามีสถานที่เช่น ศาลาหุบเขาสวรรค์ และสิ่งต่างๆเช่นอันดับอาวุธในโลกนี้” โจวชู ยกถ้วยขึ้นและยิ้ม

“ท่านใจดีเกินไป ผู้ดูแลโจว” หยางหง และ เฉิงหย่ง ยกแก้วขึ้นพร้อมกัน

สิ่งเหล่านี้ไม่ใช้ความลับ แม้ว่าพวกเขาจะไม่พูด โจวชูก็จะรู้ไม่ช้าก็เร็ว

“ใช่ ท่านสองคนรู้จัก ช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญ จู ชวนเฟิง มากแค่ไหน” โจว ชูถามอย่างสบายๆ

“ช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญ จู ชวนเฟิง?” เฉิงหย่ง พูดก่อน

"ใช่." โจวชู พยักหน้า

“ช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญ จู เป็นบุคคลในตำนานของ อาณาจักรต้าเซี่ย” เฉิงหย่ง กล่าวอย่างจริงจังด้วยสีหน้าเคารพ “หากเรากำลังพูดถึงช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญ จู ภูมิหลังของเขาก็คล้ายกับท่าน ผู้ดูแลโจว”

ทันทีที่เขาพูดเรื่องนี้ เขารีบอธิบายว่า “ข้าไม่ได้บอกว่าท่านมีภูมิหลังต่ำต้อย…”

“ท่านไม่จำเป็นต้องอธิบาย ข้าเข้าใจ. เล่าต่อ" โจวชู ส่ายหัวของเขา

หยางหง มอง โจวชู และ เฉิงหย่ง อย่างแปลกประหลาด เขาคิดว่า เฉิงหย่ง ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของ โจวชู

ดูเผินๆ เขาดูเหมือนจะเป็น ช่างตีเหล็กฝึกหัด แต่ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือนายน้อยรองของตระกูล มี่

ทำไมเขาถึงกลายเป็น ช่างตีเหล็กฝึกหัด เขาอาจจงใจ

เฉิงหย่ง กล่าวต่อว่า “ในตอนแรก ช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญ จู เป็นช่างตีเหล็กในหมู่คนทั่วไป เขาเป็นช่างตีเหล็กที่ช่วยผู้คนในการตีหม้อเหล็ก จอบ และมีดทำครัว”

“ต่อมา มีคนบอกว่าเขาบังเอิญไปช่วย ปรมาจารย์ช่างตีเหล็ก จากนั้นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กคนนั้นก็ถ่ายทอดเทคนิคการตีเหล็กให้กับเขา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาเริ่มตำนานของเขา”

“ในเวลาเพียงห้าปี เขาก็กลายเป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็ก ในอีกสามปี เขาก็กลายเป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กระดับสูง ในเวลาไม่ถึงสิบปี เขาก็สร้างอาวุธระดับสวรรค์ได้สำเร็จและกลายเป็นช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญ!(ช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญ ใครมีชื่อที่ดีกว่านี้แนะนำได้นะครับ)

“ตั้งแต่วินาทีที่เขาได้สัมผัสกับเทคนิคการตีอาวุธที่แท้จริง เขาก็กลายเป็นช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญภายในเวลาไม่ถึงยี่สิบปี ว่ากันว่าความเร็วของเขาจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญทั้งหมด”

“นอกจากนี้ ช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลของพวกเขา ในทางกลับกัน ช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญ จู นั้นแตกต่างออกไป เขาก้าวหน้าอย่างแท้จริงโดยปราศจากการสนับสนุนใดๆ”

ขณะที่ โจวชู ฟังคำอธิบายของ เฉิงหย่ง เขาเริ่มเปรียบเทียบตัวเองกับ จู ชวนเฟิง ที่เขารู้จัก

จู ชวนเฟิง ที่เขาสัมผัสด้วยนั้นเป็นคนที่กดขี่ข่มเหงและไม่มีเหตุผล เขาค่อนข้างไร้ยางอาย

ยังไงก็ตาม สิ่งนี้ดูเหมือนจะขัดแย้งกับการทำงานหนักของเขา

สำหรับคนที่จะไต่ระดับจากระดับต่ำสุดไปสู่ตำแหน่งช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญระดับสูงสุด นี่ไม่ใช่สิ่งที่ถูกกำหนดโดยพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว

บุคคลเช่นนี้อาจไม่ใช่คนดีหากเขาถูกตัดสินโดยศีลธรรมดั้งเดิม

ยังไงก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนแบบนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน

จู ชวนเฟิง น่าจะน่ากลัวกว่าคำอธิบายของ เฉิงหย่ง ถ้าเขานำอาวุธระดับสวรรค์เหล่านั้นออกมาจากในห้องลับของเขา มันจะทำให้โลกต้องตกตะลึง โจว ชูคิด เขาไม่ได้งมงายเกี่ยวกับการตีเหล็ก

แม้กระทั่งสำหรับช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญระดับสูง จำนวนอาวุธระดับสวรรค์ที่พวกเขาสามารถสร้างขึ้นได้ในช่วงชีวิตของพวกเขายังมีจำกัด

ช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญระดับทั่วไปสามารถสร้างอาวุธระดับสวรรค์ได้สามถึงห้าชิ้นในช่วงชีวิตของพวกเขา และนี่คือความสำเร็จแล้ว

เพื่อที่จะสามารถสร้างอาวุธระดับสวรรค์ได้สิบชิ้นหรือมากกว่านั้น เขาต้องเป็นช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญระดับแนวหน้าอย่างแน่นอน

จู ชวนเฟิง มีอาวุธระดับสวรรค์เจ็ดชิ้นในห้องลับของเขา นอกเหนือจากที่เขาเคยเปิดเผยต่อสาธารณะแล้ว มันเกินสิบไปแล้ว

ด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้ อาจไม่มีใครใน อาณาจักรต้าเซี่ย ที่เทียบเคียงเขาได้

แม้แต่ทั่วทั้งทวีป มีคนไม่กี่คนที่เหนือกว่าเขาเมื่อพูดถึงการสร้างอาวุธระดับสวรรค์

แต่ทำไม จู ชวนเฟิง ถึงเก็บอาวุธระดับสวรรค์ไว้เป็นความลับ?

แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจขาย แต่ก็ไม่ได้อธิบายว่าทำไมเขาถึงไม่ประกาศผลการหลอมสร้างของเขา

ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย แม้ว่า จู ชวนเฟิง ต้องการที่จะทิ้งไพ่ตายไว้สำหรับตัวเขาเอง แต่อาวุธระดับสวรรค์หนึ่งหรือสองชิ้นก็เพียงพอแล้ว เซเว่นมีมากเกินไป

“เป็นไปตามที่รองผู้การเฉิงกล่าว” หยางหงกล่าวเสริม “ก่อนที่ ช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญ จู จะกลายเป็นช่างตีเหล็ก เขาเป็นช่างตีเหล็กในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังจากได้รับคำสอนเพียงไม่กี่วันจากปรมาจารย์ช่างตีเหล็ก ปรมาจารย์ช่างตีเหล็ก นับไม่ถ้วนมองว่าเขาเป็นตัวอย่างของพวกเขา ข้าได้ยินมาว่าในอีกไม่กี่ปี ช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญ จู อาจกลายเป็น ช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญ ที่แข็งแกร่งที่สุดใน อาณาจักรต้าเซี่ย”

“ปรมาจารย์ช่างตีเหล็กที่เขาช่วยชีวิตไว้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ในสอนเพียงไม่กี่วัน เขาก็ได้สร้างช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญ” โจว ชู กล่าว(ประมาณว่าสอนไม่กี่วันแล้วก็เก่งขนาดนี้)

หยางหง และ เฉิงหย่ง ตกตะลึง ไม่เคยมีใครคิดเรื่องนี้จากมุมนี้ ว่ากันว่า ช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญ จู มีพรสวรรค์อย่างมาก แต่มีเพียงไม่กี่คนที่พูดถึงปรมาจารย์ช่างตีเหล็กที่สอนเขา

“ท่านรู้หรือไม่ว่าปรมาจารย์ช่างตีเหล็กคนนั้นคือใคร? เขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่?” โจวชู ถามด้วยเสียงต่ำ

“ข้าไม่รู้จริงๆ” หยางหง ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว “ข้าได้ยินข่าวลือนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ข้าไม่เคยได้ยินใครพูดถึงชื่อของปรมาจารย์ช่างตีเหล็กคนนี้เลย”

“ช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญ จู ได้กล่าวถึงประสบการณ์นี้หลายครั้งในที่สาธารณะ แต่เขาไม่เคยเอ่ยชื่อปรมาจารย์ช่างตีเหล็กที่เขาปฏิบัติเป็นอาจารย์ของเขา หรือเขาเพียงต้องการเก็บผู้มีเกียรติไว้เป็นความลับ”

“ผู้ดูแลโจว หากท่านสนใจตำนานของ ช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญ จู ทำไมท่านไม่ไปที่แผนกเอกสารสำคัญดูล่ะ รายละเอียดของ ช่างตีเหล็กผู้เชียวชาญ ทุกคนจะถูกบันทึกไว้” หยางหง กล่าวเสริม

ฝากติดตามเพจ "นักแปลลูกอ่อน" ด้วยนะครับ ผิดพลาดประการใดเม้นบอกกันได้นะครับ จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น

ตอนนี้เรามีกลุ่มแล้วนะครับ ในกลุ่มลับลงขั้นต่ำวันละ7-10ตอนเว็บลงวันละ2