ตอนที่ 47

"อะไร? ทำไมเจ้าไม่ไปปล้นล่ะ” ซุนกงผิงเบิกตากว้าง “ไม่ใช่ว่าเราจะไม่จ่ายค่าอาวุธจากแผนกหลอมอาวุธ ทำไมเราต้องดูแลอาหารของเจ้าด้วย”

“ผู้ตรวจการศักดิ์สิทธิ์ซุน เจ้าเข้าใจความหมายของการหลอมสร้างหรือไม่” โจว ซู กลอกตา

“ถ้าเจ้าต้องการ ดาบพยัคฆ์ หรือ ดาบแหวนร้อยชั้น หรือแม้แต่ ดาบสังหารม้า ก็ไม่ใช่ปัญหา เจ้าสามารถไปที่แผนกหลอมอาวุธเพื่อซื้อมันได้ ต้องจ่ายเพิ่มถ้าเจ้าต้องการอาวุธที่สำหรับสำนักผู้ตรวจการศักดิ์สิทธิ์?”

“ข้าขอแค่อาหารและเครื่องดื่ม นี่เป็นราคามิตรภาพแล้ว”

สำนักผู้ตรวจการศักดิ์สิทธิ์ เหมือนกับสามกองทัพของ อาณาจักรต้าเซี่ย พวกเขาสามารถซื้ออาวุธได้โดยตรงจากแผนกหลอมอาวุธ โดยธรรมชาติแล้วมีขั้นตอนบางอย่าง

ภายใต้สถานการณ์ปกติ พวกเขาสามารถเลือกอาวุธมาตรฐานอะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการจากแผนกหลอมอาวุธ ยังไงก็ตาม แผนกหลอมอาวุธจะไม่พัฒนาอาวุธมาตรฐานสำหรับพวกเขาโดยเฉพาะ

บริการปรับแต่งมีให้บริการในแผนกหลอมอาวุธ เช่นกัน แต่มีให้บริการเฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเท่านั้น

นักสู้ระดับทั้งหมดใน อาณาจักรต้าเซี่ย สามารถขอให้ปรมาจารย์ช่างตีเหล็กในแผนกหลอมอาวุธสร้างอาวุธให้ได้ และค่าธรรมเนียมอาจแตกต่างกัน

ดังนั้น คำพูดของ โจวชู จึงสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง แม้แต่ซุนกงผิงก็ทำได้เพียงกลอกตาไปที่เขา

“ถ้าอย่างนั้น เจ้าจะพัฒนาอาวุธเส็จได้เมื่อไหร่?”

“ข้าไม่สามารถให้เวลาที่แน่นอนได้” โจว ชู กล่าว “อาจจะเป็นวัน อาจจะเป็นเดือน หรืออาจจะเป็นปี”

“คิดว่าข้าโง่เหรอ” ซุน กงผิง พูดด้วยความโกรธ “ลาก่อน ข้าจะไม่มาพบเจ้าอีก!”

ซุนกงผิงเดินออกไปด้วยความโกรธ

หลังจากเดินออกไป เขาก็ได้ยินโจวชูตะโกนจากด้านหลัง “อย่าลืมจ่ายเงิน!”

เขาสะดุดและเดินเร็วขึ้น

โจวชู ยิ้มในขณะที่เขาลูบท้องและออกจาก โรงเตี๊ยมอมตะ

ด้วยความพึงพอใจ

“เจ้าหมายความว่าเจ้าได้รายชื่อคนทรยศ?”

ในค่าย กองทัพพยัคฆ์ นอกเหนือจาก กองทัพพยัคฆ์ แล้ว หม่า เฟิงจาง จาก สำนักผู้ตรวจการศักดิ์สิทธิ์ และผู้ตรวจการศักดิ์สิทธิ์อีกสองสามคนก็อยู่ที่นี่เช่นกัน

เฉิงหย่ง กำลังรายงานกับ เฉิง ว่านหลี่

“กล่าวอีกนัยหนึ่ง ศัตรูสร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่เพียงเพื่อที่จะได้รายชื่อกลับคืน?” ดวงตาของ หม่า เฟิงจาง เป็นประกายในขณะที่เขาครุ่นคิด

“แล้วรายชื่อล่ะ” เฉิง ว่านลี่ กล่าว

“รายชื่ออยู่กับผู้อาวุโสคนนั้น” เฉิงหย่ง ดูรู้สึกผิด เขาลืมรายชื่อในตอนนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ลืม แต่เขาก็ไม่สามารถขอได้ภายใต้สถานการณ์นั้น

"เจ้า!" เฉิง ว่านหลี่ โกรธมาก

เฉิงหย่ง ก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิด

“รายชื่ออะไร” หม่าเฟิงจางถาม “เจ้าเห็นรายชื่อนั้นหรือยัง”

“มันเป็นรายชื่อลอบสังหาร” เฉิงหยงกล่าว “ในตอนนั้น ข้าเห็นเพียงบางส่วนเท่านั้น ข้าจำทุกอย่างไม่ได้ เป็นรายการลอบสังหารที่มุ่งเป้าไปที่พรสวรรค์รุ่นเยาว์ของ อาณาจักรต้าเซี่ย นักสู้ที่มีพรสวรรค์และช่างตีเหล็กที่มีพรสวรรค์ในหมู่พวกเขา…”

เฉิงหย่ง อธิบายสิ่งที่เขาจำได้

หม่า เฟิงจาง และ เฉิง ว่านหลี่ มองหน้ากันและเห็นความตกใจในดวงตาของกันและกัน

หากเป็นเพียงรายชื่อชนชั้นสูงของ อาณาจักรต้าเซี่ย พวกเขาจะไม่แปลกใจมากนัก ยังไงก็ตาม เฉิงหย่ง กล่าวว่ายังมีการลอบสังหารที่เฉพาะเจาะจงอีกด้วย

ตามสิ่งที่ เฉิงหย่ง จำได้ รายชื่อรวมถึงการเตรียมการล่วงหน้าสำหรับการลอบสังหาร เช่นเดียวกับผู้ทรยศที่ซ่อนอยู่รอบตัวคนเหล่านั้น

“กองทัพพยัคฆ์ สังหารคนทรยศไปมากมายแล้วในครั้งนี้ ข้าไม่คิดว่าจะยังมีคนซ่อนอยู่มากมายขนาดนี้” เฉิง ว่านลี่พึมพำ

“สิ่งนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้” หม่าเฟิงจางพูดด้วยเสียงต่ำ “อาณาจักรต้าเซี่ย ยังปลูกฝังสายลับจำนวนมากในหลายอาณาไม่ใช่หรือ? เราจะไม่สามารถกำจัดพวกมันทั้งหมดได้ แม้ว่าเราจะฆ่าพวกมันทั้งหมด แต่อีกไม่นานก็จะมีสายลับคนใหม่”

“หากสิ่งที่รองผู้การเฉิงพูดเป็นความจริง ผู้คนจำนวนมากกำลังตกอยู่ในอันตราย หากเราไม่สามารถรับเอารายชื่อมาได้ ผลที่ตามมาจะเลวร้าย”

การแสดงออกของ หม่า เฟิงจาง เคร่งขรึม มีคนมีพรสรรค์มากมายใน อาณาจักรต้าเซี่ย หากพวกเขาต้องปกป้องพวกเขาทุกคน แม้ว่าราชสำนักอาณาจักรต้าเซี่ย จะทำได้ ก็ต้องใช้กำลังคนและทรัพยากรมากมาย

แต่ถ้าพวกเขาปล่อยเรื่องนี้ไว้ ชนชั้นสูงของ อาณาจักรต้าเซี่ย จะต้องตายด้วยน้ำมือของศัตรูกี่คน?

สำหรับ อาณาจักรต้าเซี่ย นี่เป็นการสูญเสียที่ทนไม่ได้อย่างแน่นอน

แน่นอน พวกเขายังสามารถรวบรวมพรสวรรค์รุ่นเยาว์ที่มีชื่อเสียงทั้งหมดของ อาณาจักรต้าเซี่ย เข้าด้วยกันเพื่อปกป้องพวกเขา แต่ถ้าเกิดขึ้นก็จะกระทบกระเทือนกิจการของตนเป็นอันมาก นอกจากนี้ พวกเขาจะต้องปกป้องพวกเขาไปอีกนานแค่ไหน?

วิธีที่ดีที่สุดคือค้นหารายชื่อและกำจัดคนทรยศที่อยู่ในรายชื่อ!

“รองผู้การเฉิง ให้ข้าถามเจ้า เจ้าเห็นคนที่ช่วยชีวิตเจ้าไหม” หม่า เฟิงจาง ถามด้วยเสียงต่ำ

เดิมทีเขาเพียงต้องการค้นหาผู้เชี่ยวชาญลึกลับด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่ตอนนี้เขาต้องตามหาเขาให้พบ

รายชื่อนี้จะส่งผลต่อชะตากรรมของ อาณาจักรต้าเซี่ย ในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า!

"ไม่." เฉิงหย่ง ส่ายหัว “ใบหน้าของผู้อาวุโสถูกปกปิดไว้”

หม่าเฟิงจางถอนหายใจ อีกฝ่ายไม่เต็มใจเปิดเผยตัวตนของเขา

มันจะไม่ง่ายเพื่อค้นหาบุคคลนี้ในเมืองหลวง

หากผู้เชี่ยวชาญเช่นนั้นต้องการปกปิดตัวตนของเขา ใครจะหาเขาเจอได้ง่ายๆ?

“แม่ทัพเฉิง เราจะแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กองทัพพยัคฆ์ จะยังคงสังหารผู้ทรยศต่อไป สำนักผู้ตรวจการศักดิ์สิทธิ์ จะดำเนินการและพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อปกป้องคนที่มีพรสวรรค์ที่เป็นที่รู้จักทั้งหมดของ อาณาจักรต้าเซี่ย ข้าจะเข้าไปในวังตอนนี้และขอความช่วยเหลือจากพระองค์—”

โรงหลอมที่ 0…

เมื่อ โจวชู กลับมา อาวุธที่หลอมสร้างชุดแรกได้ถูกส่งมอบไปแล้ว

จาง อี้เป่ย อู๋เหล่าหลิว(พี่หกหวู่)ละคนอื่น ๆ ไม่ทำให้ผิดหวัง มีมากกว่าครึ่งที่ทำสำเร็จ

ช่างตีเหล็กฝึกหัดเหล่านี้สามารถหลอมได้วันละครั้งเท่านั้น หากพวกเขาทำสำเร็จ พวกเขาจะสามารถสร้างอาวุธได้ หากพวกเขาล้มเหลว พวกเขาทำได้เพียงรอพรุ่งนี้เท่านั้น

ยังไงก็ตาม เนื่องจากมีคน 40 คนหลอมรวมกัน หากพวกเขาทำสำเร็จในครั้งเดียว พวกเขาสามารถผลิตอาวุธได้ 40 ชิ้น

นี่เป็นข้อดีของการตีเหล็กแบบรวมเป็นหนึ่ง

มีดาบพยัคฆ์ 200 เล่มและดาบแหวนร้อยชั้น 100 เล่มแต่ไม่มีดาบสังหารม้าแม้แต่เล่มเดียว

โจว ชู ไม่ผิดหวังมากนัก ความยากในการหลอมดาบสังหารม้านั้นสูงกว่าสองอันแรก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะไม่ทำสำเร็จในวันแรก

ครั้งนี้เพื่อให้ภารกิจสำเร็จ เขาแบ่งจางอี้เป่ยและคนอื่นๆ ออกเป็นหลายกลุ่ม

สิบคนรับผิดชอบในการตีดาบ ดาบพยัคฆ์ หากพวกเขาทำสำเร็จวันละครั้ง พวกเขาจะสามารถสร้าง ดาบพยัคฆ์ ได้ 400 เล่มในหนึ่งวัน 3000เล่มไม่ใช่ปัญหา

มี15คน2ทีมที่รับผิดชอบ ดาบแหวนร้อยชั้น และ ดาบสังหารม้า ดาบแหวนร้อยชั้นต้องการ 1,000 เล่ม ในขณะที่ดาบสังหารม้าต้องการ 500 เล่ม

เมื่อพิจารณาถึงอัตราความสำเร็จของการหลอมอาวุธทั้งสองนี้แล้ว โจว ชูได้ทุ่มเทกำลังคนส่วนใหญ่ไปกับอาวุธเหล่านี้

ยังเหลือเวลาอีกกว่าครึ่งเดือน จากสถานการณ์ปัจจุบัน การทำภารกิจให้สำเร็จคงไม่ใช่เรื่องยาก

เขาวางอาวุธรวมทั้งดาบสังหารม้าที่เขาสร้างขึ้นเข้าไปในห้องเก็บของ

ดาบมากกว่าครึ่งของกองทัพพยัคฆ์ ถูกทำลาย ข้าจะต้องหลอมอีกชุดหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าจะมี ดาบพยัคฆ์ 100เล่มที่ข้าได้สร้างขึ้นที่นั่น

ข้ากำลังจะหลอมสร้างดาบสังหารม้าให้ถึงจำนวนสูงสุด ข้าสงสัยว่าอาวุธต่อไปจะเป็นอะไร นอกจากนี้ ดาบสังหารม้ายังไม่ได้สังหารใครเลย ข้าสงสัยว่าข้าจะได้รับประโยชน์อะไร? มันจะเป็นเทคนิคการฝึกฝน วิชาดาบ หรืออย่างอื่น?

หัวใจของ โจวชู เต็มไปด้วยความคาดหวังในขณะที่เขาตัดสินใจเกี่ยวกับงานตีเหล็กในวันรุ่งขึ้น

แทนที่ ดาบพยัคฆ์ และเพิ่มพลังของ ดาบสังหารม้า!

หลังจากกลับไปที่ห้องของเขา โจวชูกำลังจะเข้านอน ทันใดนั้นเขาก็เห็นเสื้อผ้าสกปรกที่เขาโยนไว้ที่มุมห้องเสื้อผ้าที่เขาสวมในตอนกลางวันเปื้อนเลือดเมื่อเขาฆ่าชายชุดดำ

ข้าเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว! โจว ชู ทุบหัวของเขาและดึงม้วนกระดาษเปื้อนเลือดออกมาจากกองเสื้อผ้า

ชายในชุดดำโจมตีกลุ่มของ เฉิงหย่ง เพื่อสิ่งนี้ใช่ไหม

ก่อนหน้านี้เขาใส่ของชิ้นนี้ไว้ในกระเป๋า หลังจากนั้นเขาลืมส่งคืนให้เฉิงหยง เมื่อเขาเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาก็โยนมันทิ้งที่นี่โดยไม่ได้ตั้งใจและลืมมันไปเลย

ด้วยความอยากรู้อยากเห็น โจว ชูจึงเปิดคัมภีร์เปื้อนเลือด

ม้วนกระดาษทำจากผ้าไหม และเลือดบนนั้นเป็นของเฉิงหยงหรือคนอื่น

เขาเปิดออกและเห็นวตัวหนังสือเต็มไปหมด

“หลู่ เหวินซวง ลูกสาวคนสุดท้องของตระกูล หลู่ แห่ง ชิงโจว อาณาจักรต้าเซี่ย เธอก้าวขึ้นสู่ระดับที่เก้าเมื่ออายุเก้าขวบ จากนั้นเธอก็ก้าวขึ้นหนึ่งระดับต่อปี และกลายเป็นปรมาจารย์ระดับสามที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของอาณาจักรเมื่ออายุสิบห้าปี มีความหวังสำหรับเธอที่จะไปถึงระดับหนึ่งในอนาคต เมื่อสิบปีก่อน อาณาจักรต้าเว่ย ส่งเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาที่ตระกูล ลู่ และเธอก็กลายเป็นสาวใช้ส่วนตัวของ หลู่เหวินซวง…”

เปลือกตาของ โจวชู กระตุก ปรมาจารย์ระดับสามอายุสิบห้าปี?

ซุน กงผิง เป็นเพียงนักสู้ระดับเก้าเมื่ออายุสิบแปดปี เขามีหน้าไปคุยโวว่าเป็นอัจฉริยะได้ยังไง?

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ คนรับใช้ส่วนตัวของ หลู่เหวินซวง มาจาก อาณาจักรต้าเว่ย?

โจวชู เพิ่งได้ยินชื่อของ อาณาจักรต้าเว่ย เมื่อไม่นานที่ผ่านมา อาณาจักรต้าเว่ย เป็นหนึ่งในสิบอาณาจักรบนแผ่นดินนี้และยังเป็นศัตรูของ อาณาจักรต้าเซี่ย

พวกเขาคงไม่ใจดี ขนาดส่งสาวใช้ไปหาอัจฉริยะอาณาจักรต้าเซี่ยหรอก จริงไหม?

โจวชู ยังคงอ่านต่อไป

“ซือ ซ่งเทา อายุ 28 ปี อัจฉริยะแห่งการตีเหล็ก เมื่ออายุ 25 ปี เขาสร้างอาวุธระดับ ดาบซ่งเต่า เขามีชื่อเสียงตั้งแต่ในการสร้างดาบระดับมี จื่อเหวินครั้งแรก…”

“มี่ จื่อเหวิน(ยังไม่แน่ใจว่าแซ่ มี่หรือป่าว MI) อายุ 32 ปี นักยุทธศาสตร์การทหารอัจฉริยะ สงสัยว่าจะเป็นผู้สืบทอดของ เหมิงไป๋ คนขับรถม้าของเขาเป็นบุตรชายของเสนาบดีกรมการสงครามแห่งอาณาจักรต้าเว่ย…”

“…”

โจวชู ตกตะลึงขณะที่เขาอ่านต่อ

ในรายการนี้ดูเหมือนว่าอัจฉริยะทั้งหมดของ อาณาจักรต้าเซี่ย จะถูกบันทึกไว้

จุดประสงค์ของรายละเอียดเบื้องหลังชื่ออัจฉริยะเหล่านี้คืออะไร?

ลูกชายของเสนาบดีกรมการสงครามแห่งอาณาจักรต้าเว่ย มา อาณาจักรต้าเซี่ยเพื่อเป็นคนขับรถม้า?

เหตุใด อาณาจักรต้าเว่ย จึงฝังตัวหมากว้รอบ ๆ อัจฉริยะเหล่านี้?

โจวชูเคยดูหนังสายลับมาก่อนในชีวิต ไม่ว่าปฏิกิริยาของเขาจะจืดชืดแค่ไหน แม้แต่เขาก็สามารถบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

เห็นได้ชัดว่า อาณาจักรต้าเว่ย ได้วางสายลับไว้รอบ ๆ อัจฉริยะเหล่านี้เพื่อจัดการกับพวกเขา

อัจฉริยะในรายการนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ถ้าพวกเขาทั้งหมดตาย อัจฉริยะใน อาณาจักรต้าเซี่ย อาจจะหายไปทั้งหมด

“ซุนกงผิง อายุ 18 ปี ลูกชายของ เว่ยหยวนโหว (ผมหาไปตำแหน่งในราชการจีนสมัยก่อนมาละ ภาษาENGแม่งเอายสทางยุโรปมาเฉยผมต้องไปนั้งหายศของจีนมา) แห่ง อาณาจักรต้าเซี่ย ความสามารถของเขาใน วิถียุทธ์ นั้นโดดเด่น เพื่อเสริมสร้างรากฐานของเขา พ่อของเขาระงับฐานการฝึกฝนของเขาเป็นเวลาห้าปี ตอนนี้เขาได้ก้าวไปสู่ระดับที่เก้าแล้วและกำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ภายในสิบปี เขามีโอกาสไปถึงระดับสาม…”

ในตอนท้ายของรายการ โจวชูเห็นชื่อที่คุ้นเคย

ซุนกงผิงเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง!

ลูกชายของเว่ยหยวนโหว? นายน้อยโหว?

ไม่น่าแปลกใจที่เขารู้จัก หยิน หวู่โหย่ว

ยังมีอีก?

คำที่อยู่ข้างหลังชุ่มไปด้วยเลือดและพร่ามัวเล็กน้อย

โจว ชูยกมันขึ้นและตรวจสอบอย่างรอบคอบชั่วขณะหนึ่งก่อนที่จะเห็นสิ่งที่เขียนอยู่บนนั้น

“โจวชู อายุ 16 ปี ผู้ดูแลโรงหลอม อาณาจักรต้าเซี่ย แผนกหลอมอาวุธ จากภูมิหลังที่ต่ำต้อย เขาเคยเป็นช่างตีเหล็กฝึกหัดในโรงหลอมที่ 97 ของ อาณาจักรต้าเซี่ย เขาหลอมสร้าง ดาบพยัคฆ์ ด้วยตัวเองและสร้างเทคนิคร้อยชั้นเพื่อสร้างดาบแหวนร้อยชั้นและดาบสังหารม้า เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้ดูแลโรงหลอมโดยเสนาบดีกรมสรรพาวุธ คำแนะนำ: ให้ฆ่าทันที!”

เครื่องหมายกากบาทสีแดงปรากฏบนชื่อของ โจวชู.. มันเป็นภาพที่น่าตกใจ!

อันนี้ความรู้เล็กๆน้อยๆ

กงเปรียบได้กับ เจ้าพระยา ไม่ใช่สมเด็จเจ้าพระยา (สมเด็จเจ้าพระยา นี่ถือว่าเป็นอ๋องแล้ว)

ราชบุตรเขยมีศักดิ์ต่ำกว่าอ๋อง เวลาเจออ๋องยังต้องแสดงความเคารพอ๋อง น่าจะใกล้เคียงกับ กว๋อกง ใส่ชุดขุนนางขั้น1 เหมือนกว๋อกง

กง โหว ป๋อ จื่อ หนาน (เทียบกับบรรดาศักดิ์ไทย ก็ เจ้าพระยา พระยา พระ หลวง ขุน)

อันนี้เทียบกับฝั่งยุโรป "ดยุก" "มาร์ควิส" "เอิร์ล" "ไวเคานต์""บารอน"

ฝากติดตามเพจ "นักแปลลูกอ่อน" ด้วยนะครับ ผิดพลาดประการใดเม้นบอกกันได้นะครับ จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น

ตอนนี้เรามีกลุ่มแล้วนะครับ ในกลุ่มลับลงขั้นต่ำวันละ4ตอนเว็บลงวันละ2