โจวโจวมองไปยังทักษะพรสวรรค์ของคำสาปโลหิตมรณะและพยักหน้าเล็กน้อย
ทักษะนี้ไม่ได้ไร้ประโยชน์ซะทีเดียวจากจำนวนครั้งที่มันสามารถใช้งานได้
จากนั้นเขาก็มองไปยังความสามารถต่อไป
[ชื่อพรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์: ความต้านทานพิษระดับตำนาน]
[ระดับ: ระดับตำนานขั้นสูง]
[รายละเอียด: ในฐานะราชาหมื่นคำสาป ท่านจะมีความต้านทานต่อพิษที่มีระดับต่ำกว่าระดับตำนาน]
พรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์นี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน
ในทวีปจื้อเกา มันมีพืชและสัตว์ที่มีพิษอยู่มากมายในโลกอันกว้างใหญ่แห่งนี้
ด้วยพรสวรรค์นี้ อย่างน้อยเขาก็จะไม่ต้องกลัวต่อพิษที่ต่ำกว่าระดับเทพเจ้าในอนาคต
สำหรับความสามารถที่ถูกปลุกขึ้นมาอีก 3 อัน อย่างคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์หมื่นคำสาปเล่มหนึ่งก็เป็นคัมภีร์ลับเฉพาะสำหรับเผ่าพันธุ์ราชาหมื่นคำสาป มันได้บันทึกความรู้เกี่ยวกับพิษ การควบคุมแมลงคำสาป และความรู้เกี่ยวกับแมลงคำสาปเอาไว้
เรียกได้ว่ามันคือสารานุกรมสำหรับการใช้แมลงคำสาปเลยก็ว่าได้
อย่างไรก็ตาม แม้สารานุกรมนี้จะถือเป็นข้อมูลที่ลึกซึ้งมากในหมู่เผ่าพันธุ์ราชาหมื่นคำสาป แต่มันก็เป็นเพียงข้อมูลธรรมดาๆ ในสายตาของเผ่าพันธุ์จักรพรรดิหมื่นคำสาปและแม้กระทั่งเผ่าพันธุ์เทพหมื่นคำสาป
สำหรับเนื้อหาส่วนต่อไปของคัมภีร์นี้ เมื่อเขาเลื่อนระดับเผ่าพันธุ์เป็นเผ่าพันธุ์จักรพรรดิหมื่นคำสาปแล้วก็จะปลุกคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์หมื่นคำสาปเล่มสองขึ้นมาได้ และเมื่อกลายเป็นเผ่าพันธุ์เทพหมื่นคำสาปแล้วก็จะปลุกคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์หมื่นคำสาปเล่มสามต่อไป!
ซึ่งเมื่อได้มาครบสามเล่มแล้ว คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์นี้จึงจะสมบูรณ์
“เผ่าพันธุ์เทพหมื่นคำสาปอาจจะไกลเกินไปสำหรับฉัน แต่ถ้าเป็นเผ่าพันธุ์จักรพรรดิหมื่นคำสาป ฉันก็อาจจะลองดูได้”
โจวโจวคิด
สำหรับความรู้ที่ได้จากมรดกทั่วไปและมรดกลับของเผ่าพันธุ์ราชาหมื่นคำสาป มันก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึง
ในเวลานั้นเอง ร่างกายของเขาก็สั่นขึ้นมาในทันใด และเขาก็รู้สึกว่าสายเลือดของเขาดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย
สีหน้าของโจวโจวเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาได้สติกลับมา
“เกิดอะไรขึ้น?!”
จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
นี่เป็นเพราะเขาตระหนักได้ว่าสายเลือดมนุษย์แห่งความโกลาหลของเขาได้ปรับเปลี่ยนพรสวรรค์จิตวิญญาณต้นกำเนิดของเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เขาตรวจสอบมัน
หลังจากถูกปรับเปลี่ยนโดยสายเลือดมนุษย์แห่งความโกลาหล ในอนาคต เขาก็สามารถเลือกไม่ส่งโลกใบเล็กๆ ในร่างกายของเขาเข้าไปยังโลกสรรพเผ่าพันธุ์ได้ถ้าเขาตาย
กลับกัน เขาสามารถเลือกเก็บมันไว้ในศพของเขาและให้โลกใบเล็กๆ นี้คงอยู่ต่อไปได้ในร่างกายของเขา
โจวโจวสับสนเล็กน้อย
มันมีประโยชน์อะไรกัน?
เขาคิดอยู่ชั่วขณะแต่ก็ไม่ได้มีเงื่อนงำอะไร ดังนั้นเขาจึงหยุดคิดเกี่ยวกับมัน
หลังจากนั้น เขาก็คิดอยู่สักพักและพบว่ามันไม่มีอะไรให้ทำอีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงยืนขึ้นและเดินออกจากวังของลอร์ดไปยังร้านค้าแห่งลอร์ด
เมื่อเขามาถึง เขาก็พบว่าโจวเฉิงมินกำลังรอเขาอยู่นานแล้ว อีกฝ่ายกำลังนั่งอยู่หน้าโทรทัศน์ และถือจอยเกมรออยู่แล้ว
ดวงตาของเขาเปล่งประกายขึ้นเมื่อเขาเห็นโจวโจว
“ในที่สุดท่านก็มา ข้ารออยู่นานแล้ว!”
โจวเฉิงมินยืนขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มและดึงโจวโจวให้ไปนั่งข้างๆ เขา จากนั้นเขาก็ไม่ได้ยื่นจอยเกมให้โจวโจวทันที แต่เขากลับเลื่อนโต๊ะเล็กๆ มาวางไว้ข้างๆ โจวโจว ซึ่งมันก็มีขนมขบเคี้ยวอยู่บนโต๊ะตัวนั้นเต็มไปหมด
เนื้อแผ่น มาร์ชเมลโลว์ ลูกตาลกรอบ ข้าวแต๋น…
โจวโจวมองดูขนมเหล่านี้ด้วยสีหน้าแปลกๆ
ตาเฒ่า นายเผยอายุออกมาแล้วสินะ!
เขาไม่คิดมากเกี่ยวกับมันและถามออกไป
“วันนี้พวกเราจะเล่นเกมอะไรกันดี?”
“ท่านเลือกเลย”
โจวเฉิงมินกล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็หยิบเอาแผ่นเกมจำนวนมากออกมาจากชั้นใต้โทรทัศน์
เกมนินจาเต่า กระรอกรบ นินจาแมว กองทัพเขียว ทุบน้ำแข็ง…
มันมีเกมคลาสสิกทุกประเภทอยู่ภายใน
“เจ้าไปเอาแผ่นเกมพวกนี้มาจากไหนกัน?”
โจวโจวประหลาดใจเล็กน้อยที่ได้เห็นแผ่นเกมจำนวนมากมายขนาดนี้
“ข้าไปเอามันมาจากดาวเคราะห์สีน้ำเงิน”
โจวเฉิงมินตอบอย่างสบายๆ จากนั้นเขาก็มีปฏิกิริยาในทันใดและเบิกตากว้างพร้อมกับปิดปากของตัวเองทันที
โจวโจวดูจะตกใจ
“ดาวเคราะห์สีน้ำเงิน! เจ้าไปที่ดาวเคราะห์สีน้ำเงินมาเหรอ?!”
เขาลุกขึ้นทันทีด้วยความตื่นเต้น
แม้ว่าดาวเคราะห์สีน้ำเงินจะไม่ใช่โลก แต่เขาก็อยู่บนดาวเคราะห์สีน้ำเงินที่คล้ายกับโลกมากๆ มาหลายปี ดังนั้นเขาจึงยังมีความผูกพันต่อมันอยู่
ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงอยากรู้ความเป็นไปของดาวเคราะห์สีน้ำเงินในตอนนี้
“ทำไมท่านถึงได้ตื่นเต้นขนาดนี้? นั่งลงก่อนสิ มาเล่นเกมกันก่อน”
โจวเฉิงมินพยายามจะเปลี่ยนเรื่อง
อย่างไรก็ตาม โจวโจวก็ไม่ได้ถูกหลอกง่ายๆ
“เจ้ากลับไปที่ดาวเคราะห์สีน้ำเงินมา ดาวเคราะห์สีน้ำเงินเป็นยังไงบ้าง? เจ้าพาข้ากลับไปยังดาวเคราะห์สีน้ำเงินกับเจ้าด้วยได้ไหม? ในอนาคตพวกเราจะกลับไปยังดาวเคราะห์สีน้ำเงินได้ไหม?”
โจวโจวถามออกมาติดๆ
ใบหน้าของโจวเฉิงมินฉายแววความสิ้นหวัง
“ท่านถามข้าแล้วข้าจะไปถามใคร?” เขาตอบ
“เจ้าต้องรู้อะไรบ้างสิ!” โจวโจวไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงหรือไม่ แต่ภายนอกเขาดูมั่นใจมาก
“ข้าไม่รู้”
“เจ้ารู้”
“ข้าไม่รู้จริงๆ!”
โจวโจว: “…”
เขามองไปที่อีกฝ่ายและคิดอยู่ชั่วขณะ จากนั้นเขาก็กัดฟันและกล่าวว่า
“ถ้าเจ้าเล่าเรื่องดาวเคราะห์สีน้ำเงินให้ข้าฟัง ข้าจะมาเล่นเกมกับเจ้าอีกสามวันเลย”
ดวงตาของโจวเฉิงมินเปล่งประกายขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็แสร้งทำเป็นจนใจ
“ข้าไม่รู้จริงๆ”
“ห้าวัน!”
“ไม่ว่าท่านจะถามข้ายังไง แต่ข้าก็ไม่รู้ ข้าจะโกหกท่านไปทำไม?”
“10 วัน!”
“14 วัน! 2 สัปดาห์!”
โจวเฉิงมินพูดออกมาในทันใด
“ตกใจ!”
ใบหน้าของโจวโจวปรากฏความดีใจขึ้นมา
ด้วยความแข็งแกร่งของร่างกายของเขาในตอนนี้ มันไม่เป็นปัญหาอะไรเลยสำหรับเขาที่จะไม่ต้องนอนไปตลอดชีวิตที่เหลือ เหตุผลว่าทำไมเขาจึงยังนอนอยู่ทุกวันก็เป็นเพราะความเคยชินของร่างกายนั้นยากที่จะเปลี่ยน นอกจากนี้ ตอนกลางคืนยังมีหมอกสีชาดด้วย ดังนั้นมันจึงไม่ง่ายสำหรับเขาที่จะออกไปข้างนอก
เมื่อเขาไม่มีอะไรทำ เขาก็ย่อมทำตามความเคยชินและไปนอน
แต่ในตอนนี้ที่เขามีโอกาสได้รับข้อมูลที่สำคัญเช่นนี้ด้วยราคาที่เล็กน้อยขนาดนี้ เขาจึงมีความสุขมากๆ
เมื่อเห็นเช่นนี้ โจวเฉิงมินก็ถอนหายใจออกมาและกล่าวว่า
“อันที่จริงท่านไม่จำเป็นต้องคิดถึงบ้านเกิดมากขนาดนั้นก็ได้ ตราบใดที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านก็จะมีโอกาสได้กลับไปในอนาคต”
“งั้นดาวเคราะห์สีน้ำเงินเป็นยังไงบ้างในตอนนี้?”
โจวโจวถาม
“ดาวเคราะห์สีน้ำเงินในตอนนี้อยู่ในสภาวะหยุดนิ่ง มันมีแค่เด็กและคนแก่อยู่เท่านั้น เพราะเด็กและคนแก่เหล่านี้ไม่ได้ถูกเลือกให้กลายเป็นลอร์ดเพราะพวกเขาไม่มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมในศึกชิงเจ้าแห่งลอร์ด ปัจจุบันพวกเขาอยู่ในสภาวะหยุดนิ่งเหมือนกับดาวเคราะห์สีน้ำเงิน พวกเขาย่อมไม่เป็นอะไร”
โจวเฉิงมินลังเลอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะพูดออกมา
“มันยังมีโอกาสที่จะกลับไปยังดาวเคราะห์สีน้ำเงินในอนาคตอยู่เหรอ? โอกาสอะไร?”
โจวโจวพยักหน้าและถามด้วยความสงสัย
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้ารู้แค่ว่ามันมีโอกาสที่ท่านจะได้กลับไปยังดาวเคราะห์สีน้ำเงิน แต่มันจะเป็นโอกาสแบบไหนนั้น ท่านต้องไปถามเจตจำนงสูงสุดเอาเอง”
โจวเฉิงมินกล่าว
โจวโจวไม่ลังเลและถามเจตจำนงสูงสุดทันที ซึ่งมันก็ไม่ตอบกลับมา
“เจตจำนงสูงสุดไม่ตอบข้า”
โจวโจวพูดอย่างหมดหนทาง
“ข้าบอกได้เลยว่ามีบางอย่างที่ไม่น่าพิศมัยเกี่ยวกับอนาคต” โจวเฉิงมินเม้มปาก
โจวโจวเกาหัวอย่างอดไม่ได้
“เจ้ารู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง?” โจวโจวคิดอยู่ชั่วขณะและถามออกมาอีกครั้ง
“ข้าเป็นสหายร่วมชีวิตกับพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเทวะ ดังนั้นข้าจึงทำงานอยู่ภายใต้เจตจำนงสูงสุด มันไม่เห็นแปลกอะไรที่ข้าจะรู้ข้อมูลภายในบ้างหนิ?”
โจวเฉิงมินพูดอย่างใจเย็น
โจวโจวพูดไม่ออกและอิจฉา
คนในสินะ!