ตอนที่ 177

บทที่ 177 : การทำลายสวรรค์และปฐพี เนื้อแท้เซียนทอง

เมฆดำปกคลุมท้องฟ้าเป็นวงรัศมีหลายสิบลี้ สายฟ้าสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนแหวกว่ายอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆดำ

โลกที่เคยมืดมนกลับมาสว่างขึ้นอีกครั้งภายใต้แสงสว่างของสายฟ้าเส้นหนาทึบ

ฉากดังกล่าวอยู่เหนือเกินกว่าจินตนาการของมนุษย์

พวกเขาแหงนมองฟ้าแลบบนท้องฟ้าและฟังเสียงฟ้าร้องดังกึกก้อง พวกเขารู้สึกราวกับว่าจิตใจของพวกเขาได้รับการชำระให้สะอาดและปลอดโปร่งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็รู้สึกว่าทุกสิ่งในใจของพวกเขานั้นถูกสวรรค์มองเห็นทะลุปรุโปร่ง

มันไม่มีที่ให้ซ่อน!

ภายใต้แสงสว่างของอัสนีสีทอง ยักษ์สีม่วงดำก็ส่งเสียงคำรามอย่างเจ็บปวด

“ อ๊ะ! ศักดิ์สิทธิ์! นักบุญศักดิ์สิทธิ์!”

มันยกมือขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้สายฟ้าฟาดลงบนตัวมัน

แต่สิ่งนี้ก็ไร้ประโยชน์

ภายใต้สายฟ้าที่เต็มไปด้วยพลังหยางบริสุทธิ์ ควันสีม่วงดำรอบตัวเขาก็เดือดพล่านในทันที

ราวกับว่าหยดน้ำได้ตกลงบนเหล็กร้อนแดงและเปล่งเสียงไอระเหยออกมา

“ โฮกกกกกก!”

มังกรเพลิงปล่อยเสียงคำรามของมังกรออกมา และในที่สุดมันก็ใช้โอกาสนี้เพื่อหลุดพ้นออกจากพันธนาการของยักษ์สีม่วงดำ มันฟื้นคืนอิสรภาพและบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

ในเวลาเดียวกัน สายฟ้าก็ฟาดลงมาจากบนท้องฟ้าและตกลงบนร่างของมัน

บู้มมมมม!

พร้อมกับเสียงที่ดังสนั่น สายฟ้าสีทองและเปลวเพลิงสีแดงเข้มผสานเข้ากับร่างของมังกรเพลิง

ภายใต้การผสมผสานของสายฟ้าและเปลวเพลิงทั้งสอง ความแข็งแกร่งของมันก็พุ่งทะยานสูงขึ้นในทันที มันพุ่งตรงจากขอบเขตก่อเกิดรากฐานขั้นกลางไปยังจุดสูงสุดของขอบเขตก่อเกิดรากฐาน

นี่เป็นขอบเขตที่เปรียบได้กับพระพุทธเจ้าแห่งโลกเบื้องบน!

แม้ว่าจะเป็นเพียงการปรับปรุงชั่วคราว แต่มันก็ยังเป็นการอัพเกรดความแข็งแกร่งครั้งใหญ่

อย่างไรก็ตาม มังกรเพลิงก็ไม่ได้โต้กลับยักษ์ในทันที

มันยังคงมองอีกฝ่ายด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง มันมองหาโอกาสที่จะโจมตี

ภายใต้การรับรู้วิญญาณของมังกรเพลิง ยักษ์สีม่วงดำนี้ก็มีพลังมหาศาล

แม้ว่ามันจะแข็งแกร่งขึ้นแล้ว แต่มันก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย

“ ไปปกป้องสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่นี่”

ทันใดนั้นมังกรเพลิงก็ได้ยินเสียงของซุยเฮ็ง ในขณะเดียวกัน มันก็สัมผัสได้ว่าร่างกายของมันถูกเสริมไปด้วยพลังปราณลึกลับ

นั่นคือพลังของแก่นแท้ทองคำ!

มังกรเพลิงมองไปรอบๆ ด้วยความสับสน แต่มันก็ไม่เห็นซุยเฮ็ง

จากนั้นมันก็ทำตามคำสั่งของซุยเฮ็งและขยายร่างมังกรเพลิงขนาดใหญ่ของมันขึ้น มันปล่อยเปลวเพลิงที่ไม่มีที่สิ้นสุดออกมาปกคลุมมณฑลหลางหยา

ต่างจากเปลวเพลิงที่เต็มไปด้วยพลังทำลายล้างในตอนที่ทำการโจมตี เปลวเพลิงที่ปล่อยออกมาจากมังกรเพลิงในครั้งนี้นั้นเต็มไปด้วยแสงสว่างและความอบอุ่น

แสงดังกล่าวส่องลงมาจากฟากฟ้า ไม่เพียงแต่มันจะไม่ทำให้ผู้คนตื่นตระหนกเท่านั้น แต่มันยังทำให้ทุกคนรู้สึกสบายใจอีกด้วย

ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างหมอบกราบไปยังบนฟ้า พวกเขาคิดว่าเซียนได้ลงมาแล้ว

เซียนมนุษย์และเซียนปฐพีจำนวนมากในเมืองต่างก็มองไปที่ฉากตรงหน้านี้ด้วยความตกใจอย่างมาก

“ เคล็ดวิชาเซียน! นี่มันเคล็ดวิชาเซียนของจริง!”

พวกเขาอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา

พวกเขารู้สึกว่าเขาไม่คู่ควรที่จะถูกเรียกว่าเซียนเลย ความแตกต่างนั้นมีมากเกินไป

มันเหมือนกับความแตกต่างระหว่างสวรรค์และปฐพี!

ในขณะนี้ สายฟ้าที่ดูเหมือนจะควบแน่นมาจากเจตจำนงแห่งสวรรค์ก็ได้ฟาดตกลงมา

อสรพิษสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนที่แต่เดิมแหวกว่ายอยู่ในเมฆฝนฟ้าคะนองได้รวมตัวกันกลายเป็นสายฟ้าที่มีความหนาพันฟุต!

สายฟ้าหนาพันฟุตหมายถึงอะไร?

ราวกับว่าภูเขาสีทองขนาดใหญ่ที่เชื่อมระหว่างท้องฟ้าและผืนดินได้พังทลายลงมา ราวกับว่าเสาที่ค้ำจุนสวรรค์ได้พังทลายลงมาด้วยความพิโรธของสวรรค์!

ในชั่วพริบตา มันก็กลืนกินยักษ์สีม่วงดำโดยไม่มีการต่อต้านใดๆ

มันง่ายเหมือนคลื่นทะเลกลืนผืนทราย

ทันทีหลังจากนั้น พื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เปลือกโลกในรัศมีหลายสิบลี้ถูกเจาะทะลุในทันที

สายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนเทลงบนพื้นและยิงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ราวกับว่าสายฟ้าหลายพันล้านสายได้ระเบิดออกมาจากพื้นดิน

ภูเขาที่เป็นลูกคลื่นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ภายใต้สายฟ้าที่ฟาดลงมาจำนวนนับไม่ถ้วน

อย่างไรก็ตาม มันก็แตกต่างจากยอดเขาที่ถูกมังกรเพลิงทุบทำลาย

ในขณะนี้ มันก็ไม่เหลือแม้แต่เศษซากของภูเขา พวกมันทั้งหมดถูกบดขยี้กลายเป็นผุยผงด้วยสายฟ้าอันไร้ที่สิ้นสุด

พวกมันไม่เหลืออยู่อีกแล้ว!

ในชั่วพริบตา พื้นที่ในรัศมี 50 ลี้โดยรอบก็กลายเป็นทะเลสายฟ้า พายุที่น่าสะพรึงกลัวพัดโหมกระหน่ำ พื้นดินแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และภูเขาก็พังทลายลง ต้นไม้จำนวนนับไม่ถ้วนลุกเป็นไฟหลังจากโดนฟ้าผ่า และเปลวเพลิงกองมหึมาก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ควันและฝุ่นถูกพายุใหญ่กวาดขึ้นไปและกระจายไปทุกทิศทุกทางด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก

ราวกับว่าฝุ่นที่ไม่มีที่สิ้นสุดกำลังพลุ่งพล่านอยู่ในสายลม

ท้องฟ้าควรจะมืด

อย่างไรก็ตาม ภายใต้การส่องสว่างของสายฟ้าที่สว่างจ้า ทุกคนก็สามารถเห็นฉากทำลายล้างโลกนี้ได้อย่างชัดเจน

ในขณะนี้ เสาสายฟ้าสีทองที่เชื่อมต่อระหว่างสวรรค์และปฐพีก็เป็นเหมือนกับหินโม่ขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างจักรวาล มันเป็นตัวแทนของความพิโรธของสวรรค์และต้องการจะบดขยี้ทุกสิ่งบนโลกนี้

พลังทำลายล้างที่สั่นสะเทือนโลกนี้เป็นเหมือนคลื่นที่ซัดสาดด้วยความเร็วเหนือเสียงและซัดเข้าหามณฑลหลางหยา

วัชพืชและต้นไม้ตลอดทางที่เป็นป่าเขาถูกพัดปลิวไปในทันที ควัน เศษซาก และฝุ่นละอองที่ไม่มีวันหมดสิ้นถูกพัดไปยังมณฑลหลางหยา

ทุกคนต่างเฝ้าดูฉากนี้ด้วยความหวาดผวา

ขณะเดียวกัน ร่างยาวของมังกรเพลิงก็ได้หดตัวลงเหลือเจ็ดนิ้วในทันที สายฟ้าที่อยู่บนร่างของมันเองก็ถูกดับลง และมังกรทั้งตัวก็มืดสลัวและเกือบจะตกลงมาจากท้องฟ้า

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามันจะหมดเรี่ยวแรงไปแล้ว แต่มันก็ยังใช้พลังของสายฟ้าและไฟเพื่อต้านทานคลื่นแรงระเบิดที่สั่นสะเทือนโลกนี้เอาไว้

ภายใต้การคุ้มครองของมังกรเพลิง ผู้คนในเปลวเพลิงจึงไม่ได้รับอันตรายใดๆ เลย

เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง ความสงบค่อยๆ กลับคืนสู่โลก

เมื่อเมฆดำทะมึนบนท้องฟ้าหายไป สายฟ้าที่เชื่อมต่อโลกกับสวรรค์ก็ได้จางหายไปด้วยเช่นกัน พายุเฮอริเคนที่รุนแรงได้สลายไปและปรากฏการณ์ต่างๆ ก็ได้สิ้นสุดลง

ในขณะนี้ หวังตงหยาง, พยัคฆ์ขาว, เว่ยอี้และคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองในที่สุดก็มองเห็นฉากด้านนอกได้อย่างชัดเจน หลังจากพายุฝนฟ้าคะนองผ่านพ้นไป ข้างนอกมณฑลหลางหยาจะกลายเป็นเช่นไร?

ฉากนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง

ทางเหนือของเมืองหลางหยา เดิมเป็นพื้นที่ราบยาว 30 ลี้ เส้นทางเองก็ราบเรียบเช่นกัน ข้างหน้าของมันเป็นยอดเขาสูงและต่ำนับเป็นระยะทาง 50 ลี้

เขาที่เตี้ยที่สุดนั้นสูง 1,000 ฟุต และเขาที่สูงที่สุดนั้นสูงถึง 5,000 ฟุตด้วยซ้ำ

แต่กระนั้น ในตอนนี้ ทิวทัศน์นี้ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง

ในสายตาของทุกคน พื้นที่ว่างเปล่าอันไร้ที่สิ้นสุดก็ได้ปรากฎขึ้น พวกเขามองไปทางเหนือและเห็นว่าภูเขาทั้งหมดได้หายไป!

พวกมันถูกสายฟ้าที่ทำลายล้างจนราบเป็นหน้ากลอง!

ไม่!

มันไม่ได้ราบเป็นหน้ากลอง แต่มันก่อตัวเป็นหลุมขนาดใหญ่ที่มีความลึกอันไร้ที่สิ้นสุด!

“ นี่ นี่ นี่ นี่มันเกินจริงไปไกลแล้ว!”

“ โอ้พระเจ้า เป็นไปได้ยังไงกัน? มันเป็นไปได้ยังไง!?”

“ บ้าไปแล้ว ปาฏิหารณ์ นี่มันปาฏิหาริย์!”

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาในขณะที่พวกเขามองดูเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยปากที่อ้าปากค้าง ชั่วขณะหนึ่ง พวกเขาก็ไม่สามารถหาคำใดมาอธิบายได้แน่ชัด และทำได้เพียงตกตะลึงไปโดยไม่รู้ตัว

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นพลังเช่นนี้

ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยแม้แต่จะจินตนาการถึงมัน

มันน่ากลัวเกินไป!

ไม่ว่าจะเทพองค์ใดหรือพระพุทธเจ้าองค์ใด เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังทำลายล้างโลกเช่นนี้ พวกมันก็ล้วนไร้ประโยชน์

“ นี่คือผลงานของท่านเซียนผู้สูงส่งสินะ” หวังตงหยางหายใจเข้าลึกๆ และในที่สุดก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขาจดจ่อและพูดว่า “ ในโลกนี้ ข้าก็เกรงว่ามันจะมีเพียงท่านเซียนผู้สูงส่งเท่านั้นที่จะสามารถมีพลังเช่นนี้ได้”

“ ใช่เขาจริงๆ หรอ?” เว่ยอี้ยังคงตกตะลึงในขณะที่เขาถอนหายใจ “ เขาเป็นเทพเซียนจริงๆ ใช่ไหม!”

“ ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณ ขอบคุณ…” พยัคฆ์ขาวลูบหน้าอกเบาๆ ราวกับว่าเขาดีใจที่ยอมจำนนและคุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะตายไปแล้วแน่ๆ

ตระกูลขุนนางอื่นๆ เองก็แสดงความดีใจ

กลับกัน ทุกคนจากสำนักเซียนต่างก็หน้าซีด

หากผู้ควบคุมสายฟ้าเป็นคนที่ทำลายยักษ์สีม่วงดำลงได้นั้นคือซุยเฮ็งจริงๆ... งั้นพวกเขาทั้งหมดก็ตายแน่!

“ โฮฏกกกก!”

แต่ในขณะนี้ มังกรเพลิงที่บินอยู่ในอากาศก้ได้ปล่อยเสียงคำรามออกมา ร่างของมันลุกเป็นไฟอีกครั้งในขณะที่มันมองไปที่หลุมลึกทางทิศเหนือด้วยความระมัดระวัง

เสียงและการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันนี้ทำให้ทุกคนหวาดกลัวขึ้นมาในทันที

เป็นไปได้ไหมว่ายักษ์สีม่วงดำจะยังมีชีวิตอยู่?

เป็นไปได้อย่างไร!

ภายใต้สายฟ้าฟาดที่น่าสะพรึงกลัว มันก็ไม่ควรจะมีอะไรรอดไปได้!

อย่างไรก็ตาม หลังจากสายฟ้าที่ไม่มีที่สิ้นสุดได้ผ่านพ้นไป กระแสลมสีม่วงดำก็ได้ปรากฏขึ้นจากอากาศบางและรวมตัวกันที่ด้านล่างของหลุมลึก

“ อ๊ากก! นักบุญศักดิ์สิทธิ์ นักบุญศักดิ์สิทธิ์! อ๊าาาา!!”

เสียงของมันยังคงเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและความประหลาด มันระเบิดเสียงใส่แก้วหูของทุกคนในมณฑลหลางหยา

ทันใดนั้น ร่างยักษ์สีม่วงดำก็เดินออกมาจากหลุมลึกอย่างช้าๆ ร่างกายของมันยังคงปล่อยควันสีม่วงดำออกมา

มันสามารถมองเห็นแสงสีทองจางๆ รอบตัวมันได้

“ เขายังมีชีวิตอยู่! เขายังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร!”

ทุกคนทั้งในและนอกมณฑลหลางหยาพูดพร้อมกัน พวกเขาทั้งหมดตกตะลึงอย่างมากกับสถานการณ์นี้ มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร!

บู้มมมมมม!

ในขณะนี้ เสียงดังโครมครามก็ดังลงมาจากฟากฟ้า

ในเวลาเดียวกัน แสงสีเขียวก็ส่องผ่านท้องฟ้า และในชั่วพริบตา มันก็ได้เดินทางข้ามระยะทางหลายพันกิโลเมตรและมาถึงท้องฟ้านอกมณฑลหลางหยา

วิชาแสงทะยานหมื่นลี้!

นี่คือชายหนุ่มที่ดูมีอายุประมาณ 20 ปี เขาหล่อเหลาและสวมเสื้อคลุมสีเขียว เขาเหยียบอากาศเปล่าราวกับเซียนที่เสด็จลงมาจากสวรรค์ทั้งเก้า

มันคือซุยเฮ็ง!

“ ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะยังไม่ตายแม้จะเผชิญหน้ากับวิชาห้าดวงใจอัสนีสวรรค์ที่ฉันใช้พลังไป 30% แล้ว” เขามองลงไปที่ยักษ์สีม่วงดำด้านล่างและขมวดคิ้ว

“ เขามีเนื้อแท้เซียนทองอยู่ในร่างกายของเขาจริงๆ!”