บทที่ 53 มีความลับอย่างอื่นงั้นเหรอ?
หลังจากพูดแบบนี้ออกไป กู่เจียงไห่ก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย
ใครก็ตามที่มีสายตาที่เฉียบแหลมจะเห็นว่าแม้ว่าหมู่บ้านเฉินจะมีคนน้อย แต่ประสิทธิภาพการต่อสู้ของพวกเขากลับแข็งแกร่งมาก เมื่อออกล่าพวกเขาก็ได้รับการเก็บเกี่ยวที่มากมาย
ในทางกลับกัน แล้วฝั่งของพวกเขาล่ะ?
ในที่สุดวันนี้พวกเขาก็ได้เหยื่อ แต่มันกลับถูกฉกไประหว่างทาง จากนั้นโชคดีที่พวกเขาได้พบกับผู้คนจากเฉินเจี่ยไจ้ และทำให้พวกเขาได้รับรู้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหนของห่วงโซ่อาหาร
โดยภายนอกแล้ว พวกเขานำผู้คนจากหมู่บ้านกู่เข้าร่วมกับหมู่บ้านเฉิน ซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย แต่ที่จริงแล้วเหมือนพวกเขากำลังกอดต้นขาของอีกฝ่ายอยู่
แต่มันก็ช่วยไม่ได้
พวกเขามีคนหนุ่มสาวและผู้ใหญ่วัยกลางคนอยู่น้อยเกินไป ทำให้ทุกฤดูหนาวหมู่บ้านของพวกเขาก็จะมีคนอดตาย และในปีนี้ก็ไม่น่าจะมีข้อยกเว้น
แต่หากพวกเขาได้เข้าร่วมเข้ากับหมู่บ้านเฉิน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้กินเนื้อสัตว์ แต่ขอแค่เพียงพวกเขาได้ดื่มซุปเพื่อเอาตัวรอดจากความอดอยากก็เพียงพอแล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเฉินกัวตงมีบุคลิกที่ดีและเป็นคนที่น่านับถืออย่างมาก
บรรยากาศกลายเป็นเงียบงันอีกครั้ง
ผู้คนจากกู่เจี่ยไจ้ก็หัวใจเต้นรัวอีกครั้ง และดวงตาของพวกเขาก็มีความตื่นเต้นอย่างควบคุมไม่ได้
แน่นอนว่าข้อเสนอของกู่เจียงไห่นี้พวกเขาไม่ได้คัดค้าน
หากสามารถเข้าร่วมกับเฉินเจี่ยไจ้ได้พวกเขาก็จะเป็นความสุขอย่างมาก
แต่หากอีกฝ่ายไม่ยอมตกลงล่ะ? นั่นก็พูดยาก เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็มีผู้หญิง เด็กและคนแก่ และอ่อนแออีกหลายสิบคนอยู่ข้างหลังพวกเขา และหากพวกเขาเป็นคนของเฉินเจี่ยไจ้ พวกเขาก็ต้องชั่งน้ำหนักให้ดีเหมือนกัน
และความจริงนี้ทุกคนก็สามารถรับรู้ได้
รวมถึงเฉินกัวตงด้วย เมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งนี้พวกเขาก็ดีใจมาก พี่น้องแซ่เว่ยจากไปและพาคนสองหรือสามคนไปด้วย ทำให้ในขณะนี้ทีมล่ายังขาดกำลังคนอย่างมาก
ถ้ากู่เจียงไห่และคนเหล่านี้เข้าร่วมด้วยมันจะเป็นการแก้ไขความต้องการเร่งด่วนนี้อย่างมาก
นอกจากนี้คนเหล่านี้ยังมีนิสัยที่ดีและควรค่าแก่ความไว้วางใจอีกด้วย
แต่เมื่อเขาคิดถึงผู้คนหลายสิบคนในหมู่บ้านของอีกฝ่ายเขาก็ลังเล
ในหมู่บ้านของเขาเองก็มีคนรอกินอาหารมากกว่าร้อยคน เหยื่อทั้งห้าที่นำกลับไปนี้ก็เพียงพอให้ทุกคนกินได้สักพัก แต่ถ้ามีอีกหลายสิบปากความกดดันที่ทับลงบนบ่าของพวกเขาก็จะมากขึ้นเป็นธรรมดา
บรรยากาศยังคงอึมครึม
หัวใจของกู่เจียงไห่และคนอื่น ๆ ตกลงทีละคนๆ
เมื่อเวลาผ่านไป รอยยิ้มบนใบหน้าของกู่เจียงไห่ก็ไม่มีเหลืออีกต่อไป
เขาเหลือบมองกู่เซ่อที่อยู่ด้านข้างๆ
และเขาก็ดูเหมือนลังเลว่าจะบอกเรื่องบางอย่างออกไปดีหรือไม่ ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของพวกเขา คาดว่าผู้คนของเฉินเจี่ยไจ้จะต้องดูถูกพวกเขาอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามในขณะนั้นก็มีเสียงของเด็กหนุ่มดังขึ้น
"พ่อ ข่าว่าท่านควรจะตกลงนะ"
ด้วยคำพูดที่ดังขึ้นอย่างกระทันหันเช่นนี้ ทำให้สายตาของทุกคนก็ตกลงไปที่เฉินฟานโดยไม่มีข้อยกเว้น
"เป็นเขานั่นเอง!"
กู่เจียงไห่และคนอื่น ๆ มีความสุขอย่างมากขึ้นมาในทันที
ความประทับใจของพวกเขาที่มีต่อเฉินฟานนั้นเหนือกว่าทุกคนในหมู่บ้านเฉิน พวกเขาไม่เคยคาดหวังว่าเขาจะเห็นด้วยในการให้พวกเขาเข้าร่วม
ทันใดนั้น ความตกใจก็ปรากฏขึ้นในม่านตาของพวกเขาอีกครั้ง
เมื่อกี้เขาเรียกเฉินกัวตงว่าอะไรนะ? พ่องั้นเหรอ?
เขากลายเป็นลูกชายของเฉินกัวตงงั้นหรือ?
เฉินฟานอธิบายให้ทุกคนฟังอย่างสบายๆว่า "ตอนนี้หมู่บ้านของเรายังขาดแคลนชายหนุ่มและผู้ชายวัยกลางคน โดยเฉพาะนักล่าที่มีประสบการณ์ แม้ว่าหวังปิง จ้าวเฟิงและคนอื่นๆจะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็ไม่มีประสบการณ์และจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝน ดังนั้นมันจะต้องใช้เวลามากและการเข้าร่วมของลุงกู่และคนอื่น ๆ ก็สามารถช่วยแก้ไขความต้องการเร่งด่วนนี้ได้"
"เสี่ยวฟานพูดถูก" หลิวหยงที่อยู่ด้านข้างพยักหน้า และพวกเขาก็คิดถึงเรื่องนี้เช่นกัน "แต่มัน..."
"ลุงหลิว ข้าเข้าใจสิ่งที่ท่านกำลังกังวล พวกท่านกลัวว่าคนเยอะและอาหารจะไม่เพียงพอใช่ไหม?"
เฉินฟานยิ้มเล็กน้อย “แต่ข้าไม่คิดว่ามีอะไรต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้ เมื่อจำนวนทีมล่าเพิ่มขึ้น มีความเป็นไปได้สูงที่เหยื่อจะถูกนำกลับไปมากขึ้นเช่นกัน และจะทำให้ผู้คนมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย"
ทุกคนพยักหน้า
ไม่ใช่ว่าคำพูดของเฉินฟานน่าเชื่อถือมากนัก แต่คนที่พูดคำเหล่านี้มีความสามารถที่จะโน้มน้าวใจทุกคนได้
"กัวตง เนื่องจากเสี่ยวฟานเห็นด้วย เราก็ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ"
"ใช่แล้ว ในเมื่อพี่กู่และคนอื่น ๆ ต้องการเข้าร่วมกับเรา ดังนั้นเราก็มาต้อนรับพวกเขากันเถอะ"
"เสี่ยวฟานพูดถูก" มีคนเห็นด้วยมากขึ้นเรื่อยๆ..
เฉินกัวตงพยักหน้า มองดูกู่เจียงไห่ด้วยรอยยิ้ม "พี่กู่ เจ้าตัดสินใจเด็ดขาดแล้วใช่ไหม? หากเจ้าคิดอย่างนั้นจริงๆ เรายินดีต้อนรับพวกเจ้าเข้าร่วมกับพวกเราด้วย"
นี่หมายความว่าพวกเขาตกลงแล้วใช่ไหม?
กู่เจียงไห่และคนอื่นๆมีความรู้สึกช้าเล็กน้อย
เดิมทีพวกเขาคิดว่าแม้ว่าอีกฝ่ายต้องการตกลง แต่พวกเขาก็ต้องผ่านการสนทนาบางอย่างหรือแม้แต่ต้องขอเวลาพิจารณากันอีกหลายวัน
แต่สุดท้ายแล้ว มันก็เหมือนกับคำว่า คำพูดของผู้แข็งแกร่งสามารถโน้มน้าวทุกคนได้ ในเมื่อชายหนุ่มในหมู่อีกฝ่ายพูดสองสามคำและผู้คนของเฉินเจี่ยไจ้ก็เห็นด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์
"เจียงไห่ เจียงไห่"
ชายที่อยู่ข้างๆ เขาเอามือแตะเขาแล้วเร่งเร้า "เจ้ายังงุนงงอะไร รีบตอบตกลงไปสิ"
"ใช่แล้ว เจียงไห่ มันจะสายเกินไปถ้าเขากลับใจนะ"
กู่เจียงไห่ตื่นขึ้นมาราวกับความฝัน และรีบพูดว่า "พี่ใหญ่เฉิน เรายินดีที่จะเข้าร่วมหมู่บ้านเฉินของท่าน และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะไม่มีหมู่บ้านกู่อีกต่อไป"
"ใช่แล้ว เราทุกคนจะกลายเป็นคนของเฉินเจี่ยไจ้"
หลายคนตะโกนอย่างตื่นเต้น
กู่เซ่อมีผิวบางและเขินอายเล็กน้อย
“ฮ่าๆ โอเค โอเค ทุกคนจะเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันในอนาคต"
เฉินกัวตงก็มีความสุขอย่างมากเช่นกัน
หลิวหยงและคนอื่น ๆ ก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
จากนี้ไปคนจะทีมล่าสัตว์จะมากขึ้น และหากพวกเขาเจออันตรายความกดดันก็จะน้อยลงมาก ไม่เพียงเท่านั้นแต่พวกเขายังได้เยาวชนรุ่นใหม่ที่แข็งแกร่ง เข้าไปในหมู่บ้านอีกด้วย ต้องทำให้หมู่บ้านเฉินมีชีวิตชีวามากขึ้นอย่างแน่นอน
และเป็นธรรมดาที่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต้องทำงานหนักมากขึ้น ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถช่วยเหลือคนจำนวนมากได้
"พี่ใหญ่เฉิน ชายหนุ่มคนนี้เป็นลูกของท่านงั้นหรือ?"
กู่เจียงไห่มองไปที่เฉินฟานด้วยรอยยิ้มและถามขึ้น
"ใช่"
"มันเป็นนักรบตั้งแต่เด็กจริงๆ"
กู่เจียงไห่ถอนหายใจ "พวกเราหลายคนกลืนความโกรธของเราต่อหน้าหมู่บ้านหลี่ แต่ชายหนุ่มคนนี้สามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้ด้วยตัวเอง น่าทึ่ง เขาน่าทึ่งมาก"
"ใช่แล้ว เขากลับสามารถน้าวธนูที่แรงถึงหนึ่งร้อยปอนด์ได้"
"แถมเขายังยิงมากกว่าสิบครั้งติดต่อกันนี่เป็นสิ่งที่คนธรรมดาทำไม่ได้อย่างแน่นอน!"
ผู้ชายที่เหลือต่างชื่นชมออกมาด้วยความยินดี
แน่นอนว่าพวกเขาต้องยินดี เพราะมีคนที่แข็งแกร่งอยู่ทีมล่าของพวกเขาแล้ว
เฉินฟานยิ้มให้พวกเขา และรอยยิ้มของเขาก็หยุดลงเมื่อดวงตาของเขาจ้องมองไปที่กู่เซ่อทางขวาสุด
เพราะกู่เซ่อดูเหมือนจะไม่มั่นใจเล็กน้อย
ชายหนุ่มคนนี้ผิดปกติเขาคิดกับตัวเอง
"ถูกต้องแล้ว เสี่ยวฟานเก่งที่สุดในทีมล่าของเรา"
เฉินกัวตงและคนอื่น ๆ ภูมิใจมากหลังจากได้ยินสิ่งนี้
เฉินกัวตงไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มบนใบหน้าได้ แต่เขายังคงพูดอย่างสุภาพว่า "ลูกชายของพี่กู่ก็ไม่เลวเลย เมื่อดูจากอายุของเขาแล้วเขาก็น่าจะอายุพอ ๆ กับเสี่ยวฟาน แต่เขากลับสามารถน้าวคันธนูแปดสิบปอนด์ได้ แม้แต่พวกเราก็ทำไม่ได้เช่นกัน"
เมื่อหลิวหยงพูดสิ่งนี้ ดวงตาของพวกเขาก็สว่างขึ้น
ใช่แล้ว ชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันใช่ไหม? เครดิตส่วนใหญ่ที่ทำให้คนของหมู่บ้านกู่สามารถอยู่รอดได้นานขนาดนี้ก็เนื่องมาจากเขาเช่นกัน
เพียงว่าแสงไฟแก็ซของกู่เซ่อถูกปกปิดโดยแสงดวงอาทิตย์ของเสี่ยวฟาน ทำให้พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ตอนนี้ในทีมของพวกเขามีผู้แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแล้ว การดำรงชีพในหมู่บ้านน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตอย่างแน่นอน
"พี่กู่ ถ้าเราเดาถูก ลูกชายของท่านก็เป็นนักรบเหมือนกันใช่ไหม?"
"เขาอยู่ในขอบเขตการชำระล้างร่างกายขั้นที่ 1 หรือป่าว?"
พวกเขาถามขึ้นอย่างสงสัย
"นี่…"
กู่เจียงไห่ดูลังเลและสีหน้าของเขาดูไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อย
กู่เจ๋อก้มศีรษะลงเล็กน้อยราวกับเขินอายที่จะยอมรับคำชมของทุกคน
"มีอะไรผิดปกติงั้นหรือ?"
เฉินกัวตงสงสัยว่า "มีอะไรผิดปกติกับสิ่งที่พวกเขาพูดไปหรือเปล่า? หากข้าทำให้พวกเจ้าขุ่นเคืองโปรดอย่าถือสา"
"ไม่ ไม่..มันไม่ใช่อย่างนั้น"
กู่เจียงไห่โบกมือครั้งแล้วครั้งเล่า "ไม่..ท่านพูดถูก แต่การที่เสี่ยวเซ่อสามารถน้าวธนูแปดสิบปอนด์ได้นั้น อันที่จริงยังมีความลับอย่างอื่นซ่อนอยู่"
"ความลับอย่างอื่นงั้นหรือ?"
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เฉินกัวตงและคนอื่นๆ ก็มองหน้ากันด้วยความตกตะลึง
เขาความหมายคืออะไร?
เป็นไปได้ไหมว่าชายหนุ่มคนนี้ยังคงซ่อนความลับบางอย่างอยู่อีก?
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved