บทที่ 51 กู่เจียงไห่เจ้ายังต้องการเหยื่อของเจ้าไหม?
"...???"
พวกลี่เจี่ยไจ้และคนอื่น ๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลย และพวกเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจอย่างมาก
อยู่ดีๆตาเฒ่าหลี่ทำไมเขาถึงบินได้?
"ฟิ้ว!"
เสียงหวีดหวิวก็ดังขึ้นอีกครั้ง
คราวนี้เป็นเฒ่าจี่ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอันตรายกำลังมาถึง เขาเพียงรู้สึกเจ็บปวดเฉียบพลัน ราวกับว่ากระดูกทั้งหมดในร่างกายของเขาแตกกระจายออก
"นี่มันอะไรกัน..?"
ทันใดนั้นหลี่ซ่งก็ตัวสั่นและมองไปข้างหน้า หลังจากนั้นสีหน้าของความกลัวอย่างสุดขีดก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา และเขาก็เปิดปากขึ้นแต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร
ก็มีเสียง "ฉึบ" ดังขึ้น
ลูกธนูแทงทะลุหน้าอก และเสียงกรีดร้องก็ดังก้องไปทั่วผืนป่า
"ระวัง!!"
ในที่สุดก็มีคนตอบสนองและคำรามออกมา
"อ้าก!"
"อ้ากก!"
เสียงกรีดร้องอีกสองครั้งดังขึ้นติดต่อกัน
มีอีกสองคนถูกลูกธนูยิงเสียชีวิตทันที
ในชั่วพริบตานั้น เกือบครึ่งหนึ่งของทีมล่าทั้งสิบสามคนของหลี่เจี่ยไจ้ก็หายไป และคนที่เหลือของหลี่เจี่ยไจ้ก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยซ้ำ
แต่กู่เจียงไห่และคนอื่นๆของกู่เจี่ยไจ้ต่างก็พากันตกตะลึง
มันคือชายหนุ่มที่อยู่ปลายทีมล่าของเฉินเจี่ยไจ้ ดูเหมือนเขาจะพุ่งเข้าหาพวกหลี่เจี่ยไจ้ในขณะที่ยิงธนูไปด้วย
และมันไกลเกินไปสำหรับพวกเขาที่จะเห็นการกระทำเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม ผู้คนจากหลี่เจี่ยไจ้ก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้าทีละคน แม้แต่คนแรกยังอยู่ในอากาศ คนที่สองก็บินขึ้นไปแล้ว จากนั้นก็คนที่สามและคนที่สี่
ทุกอย่างก็เหมือนกับภาพสโลว์โมชั่นในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์
เหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผากของกู่เซ่อ
เป็นไปได้ยังไง? นี่เป็นไปได้ยังไง?
เขาเคยให้ความสนใจเป็นพิเศษกับเฉินฟานมาก่อน เนื่องจากเขาเป็นนักธนูเหมือนกันและตอนนั้นเขาก็สงสัยว่าเขากำลังถือคันธนูที่มีแรงน้าวถึงหนึ่งร้อยปอนด์อยู่ แต่ตอนนี้ภาพตรงหน้าเขาก็ยืนยันว่ามันเป็นธนูที่มีแรงน้าวหนึ่งร้อยปอนด์จริงๆ มิฉะนั้นนักธนูทั้งสองคนของหลี่เจี่ยไจ้จะไม่สามารถต่อสู้กลับเช่นนี้ได้อย่างไร?
ไม่ เขาเกรงว่าพวกเขาไม่รู้ตัวก่อนที่จะมีเวลาได้โต้ตอบอะไรเลยด้วยซ้ำ
ผู้ชายคนนี้เร็วเกินไป! ยิงธนูด้วยความรุนแรงขนาดนี้ แถมยังห้าดอกติดต่อกันในเวลาอันสั้น เขาไม่ต้องการไหล่ของเขาอีกแล้วเหรอ? ไม่ ดูเหมือนเขาจะหยุดแล้ว เขาควรจะหมดแรง…
"ปะ..เป็นไปได้ยังไง!"
ครู่ต่อมาเขาก็ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ
เขาเห็นชายหนุ่มคนนั้นเริ่มเดินมาข้างหน้าอีกครั้งและยิงธนูออกมา เมื่อมีเสียงฟิ้วดังขึ้นก็จะมีร่างหนึ่งบินออกไปไม่ไกลนัก พร้อมกับเสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นมาอย่างน่าสังเวช
แม้แต่คนที่ซ่อนตัวอยู่หลังโล่กลมก็ไม่รอด เพราะโล่ก็ถูกยิงทะลุ และลูกธนูแทงทะลุหัวใจของเขาพร้อมกับปลายลูกธนูก็มีเลือดหยด
หนึ่ง สอง สาม สี่…
ผู้คนล้มลงมากขึ้นเรื่อยๆ และความเร็วในการยิงของชายหนุ่มก็ช้าลงเรื่อยๆ ตอนนี้แม้หลังจากยิงธนูไปแล้ว เขาก็หยุดพักด้วยการก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวก่อนจะยิงธนูลูกถัดไป
"อย่าฆ่าข้า! อย่าฆ่าข้า!"
มีคนโยนอาวุธของพวกเขาทิ้งและวิ่งหนีออกไปไกลอย่างรวดเร็วพร้อมตะโกนออกมา
"ได้โปรดเถอะ ข้ายังมีแม่วัยแปดสิบและลูกสามขวบกำลังรอข้ากลับไปอยู่"
มีคนตกใจมากจนก้าวขาไม่ออกก็มี เขาคุกเข่าลงกับพื้นแล้วประสานมือไว้บนหัวพร้อมกับน้ำตาไหลอาบหน้า
"ข้าจะฆ่าเจ้า!"
แต่บางคนก็สลัดความกลัวออกไป พวกเขาหยิบหอกขึ้นมาแล้ววิ่งไปข้างหน้าเพื่อย่นระยะให้ใกล้ที่สุดเพื่อที่จะขว้างหอกออกไป
เพียงแต่ว่าพวกเขาทั้งหมดลืมสิ่งที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าสองขาของคน ๆ หนึ่งจะสามารถวิ่งเร็วกว่าลูกธนูได้อย่างไร และสุดท้ายคนเหล่านี้ก็จ่มลงไปในบ่อเลือดของตัวเอง
หากใช้ประโยคหนึ่งเพื่ออธิบายการต่อสู้ครั้งนี้ มันคงเป็นการสังหารหมู่อยู่ฝ่ายเดียว
ด้วยเสียงกรีดร้องครั้งสุดท้าย พื้นที่รกร้างที่ว่างเปล่าก็ตกอยู่ในความเงียบงันอีกครั้ง
"ข้ารู้สึกเสียใจหรือป่าวในการฆ่าคนเหล่านี้งั้นเหรอ?"
เฉินฟานวางธนูลงและพึมพำออกมา
“ไม่เลย ในโลกที่โหดร้ายนี้ถ้าเขาไม่ฆ่าพวกมัน พวกมันก็จะฆ่าเขา”
ตอนนี้เขาได้ตัดสินใจแล้ว เขาจะไม่เป็นคนใจอ่อนอีกต่อไป เพื่อไม่ให้คนของเขาต้องตกตายไปและเพื่อที่จะจบปัญหาที่ไม่รู้จบนี้
เฉินกัวตลและคนอื่น ๆ ที่อยู่ข้างหน้ามองฉากนี้ด้วยสายตาที่ซับซ้อน
บางครั้งชีวิตมนุษย์ก็เปราะบางจริงๆ แม้จะเป็นเพียงกระดาษแผ่นเดียวก็ตาม
แต่คนของหลี่เจี่ยไจ้เหล่านี้จะสามารถตำหนิใครได้? พวกเขาสามารถตำหนิตัวเองได้เท่านั้น
ส่วนด้านหลังนั้น กู่เจียงไห่และคนอื่น ๆ ยืนอยู่กับที่อย่างตกตะลึงราวกับว่าพวกเขาถูกฟ้าผ่า
นี่เป็นความฝันหรือป่าว? คนของหลี่เจียไจ้ตายแล้ว! พวกเขาตายกันหมดแล้ว! แถมพวกยังถูกยิงโดยคนๆเดียว คนๆเดียวจะทำลายทั้งทีม!
"ใช่แล้ว มันเป็นเขานั่นเอง ชายหนุ่มถือธนูคนนั้" มีคนพูดอย่างตะกุกตะกักขึ้น
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ หลายคนก็มองดูเฉินฟานที่อยู่ในระยะไกลด้วยความตกตะลึงอย่างยิ่ง พวกเขารู้สึกเหมือนแผ่นดินถล่มและคลื่นสึนามิถล่มอยู่ในใจ
มันเป็นเขา! มันกลับกลายเป็นเขานั่นเอง!
พวกเขาพึ่งดูถูกดูแคลนชายหนุ่มคนนี้ที่เพิ่งวิ่งหนีเหมือนสุนัขหุบหาง แต่ไม่มีใครคิดว่าความแข็งแกร่งของเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้!
ต่อให้พวกเขาเกลียดพวกหลี่เจี่ยไจ้ขนาดไหน แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ถูกนอกจากความสงสารและสมเพชเท่านั้น
แต่ในเมื่อเขาแข็งแกร่งมาก ทำไมเมื่อกี้เขาถึงวิ่งหนีไปอย่างนั้นล่ะ? พวกคนเฉินเจี่ยไจ้ก็เหมือนกัน
สายลมพัดปลิวไป
กู่เจี่ยไจ้ก็ตกตะลึงอย่างมาก
เข้าใจแล้ว!
เขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว
เฉินกัวตงและคนอื่นๆ กำลังแสดงอยู่! พวกเขาจงใจแสร้งทำเป็นว่าขี้ขลาดและหวาดกลัวเพื่อให้ผู้คนของลี่เจียไจ้ประมาทและเข้าสู่ระยะยิงของพวกเขา!
เมื่อถึงเวลานั้น แม้ว่าผู้คนของลี่เจียไจ้จะตระหนักรู้ได้ แต่มันก็สายเกินไป พวกเขาทำได้เพียงวิ่งออกไปจากระยะ 100 เมตรด้วยความสิ้นหวังเท่านั้น
และเหยื่อพวกนี้พวกคนของเฉินเจี่ยไจ้นั้นโชคไม่ดีเลย แต่เป็นชายหนุ่มที่ยิงพวกมันด้วยลูกธนูของเขา และพวกเขายังมีลางสังหรณ์ว่าฉากเหยื่อที่ถูกยิงนั้นน่าจะไม่แตกต่างไปจากปัจจุบันมากนัก
นี้มันแข็งแกร่งจนไร้สาระแค่ไหนกัน?
กู่เจียงไห่แสดงรอยยิ้มเยาะในตนเองออกมา
เขาเคยคิดว่าถ้าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือเขาก็สามารถให้ความช่วยเหลือได้ แต่สุดท้ายแล้วด้วยความแข็งแกร่งขนาดนี้ทำไมพวกเขาถึงต้องการความช่วยเหลือจากเขาด้วยล่ะ? เขากลัวในสายตาอีกฝ่ายการช่วยเหลือของเขามันจะเป็นอุปสรรคมากกว่าเสียอีก?
และคนที่น่าสงสารที่สุดคือผู้คนจากหลี่เจียไจ้
เป็นเรื่องง่ายสำหรับคนอื่นที่จะยิงพวกเขา แต่พวกเขาไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลยและทำได้เพียงหลบหลีกอย่างเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตามพวกหลี่เจี่ยไจ้คิดว่าอีกฝ่ายอ่อนแอและถูกจัดการได้ง่าย ดังนั้นจึงติดตามพวกเขามาอย่างประขันชิด
แม้แต่ตอนที่คนของเฉินเจี่ยไจ้เลือกที่จะยอมแพ้และหลบหนีต่อไป
แต่พวกหลี่เจี่ยไจ้กลับรู้สึกกระหยิ่มยิ้มเยาะในใจมากขึ้น และสุดท้ายเขาก็ได้รับผลที่ตามมาแล้วตอนนี้
นี่อาจเป็นวัฏจักรของสวรรค์ และผลกรรมที่พวกเขาทำไม่ดี ได้ย้อนมาตอบสนองพวกเขาแล้ว
เขาหันกลับมายิ้มเจื่อนๆ “ไปเถอะ เราควรกลับได้แล้ว”
เนื่องจากผู้คนของหลี่เจี่ยไจ้ได้พากันหลบหนีออกไปแล้ว จึงไม่มีประโยชน์ที่พวกเขาจะอยู่ที่นี่
กล่าวอีกนัยหนึ่ง การมาของพวกเขาก็ไม่มีความหมายอะไรเลยในตอนนี้
"เอ๊ะ?"
ชายที่อยู่ตรงข้ามเขาเบิกตากว้างและพูดอย่างไม่เต็มใจ "แต่เหยื่อของเราล่ะ..."
"นั่นคือเหยื่อของพวกเฉินเจี่ยไจ้แล้ว ไม่ใช่ของเรา"
กู่เจียงไห่ขัดจังหวะเขา
หลายคนก้มหัวลงเมื่อได้ยินคำพูดนี้
ใช่แล้ว มันเป็นของที่พวกเฉินเจี่ยไจ้แย่งมาจากพวกหลี่เจี่ยไจ้ แม้ว่าเดิมทีมันจะเป็นเหยื่อของเขาและคนอื่น ๆ แต่มันก็แตกต่างออกไปตอนนี้ หลังจากมันผ่านมือคนของหลี่เจี่ยไจ้แล้ว
หากพวกเขากล้ากลับไปขอ พวกเขาไม่กลัวว่าจะถูกกวาดล้างจนราบคาบเหมือนคนของหลี่เจียไจ้งั้นหรือ?
หรือแม้ว่าผู้คนของเฉินเจี่นไจ้จะเต็มใจคืนเหยื่อให้พวกเขา ต้องถามว่าพวกเขาจะกล้ารับหรือไม่ดีกว่า?
จากนั้นพวกเขาก็เดินกลับตามทางที่พวกเขามาและจากไปอย่างหดหู่ใจ
"แต่ก็ยังมีเรื่องดีๆอยู่"
กู่เจียงไห่ปลอบใจคนของเขา "ทีมล่าของหลี่เจี่ยไจ้ได้ถูกทำลายไปแล้ว จากนี้ไปเมื่อเราจะออกมาล่าสัตว์ ทำให้เราไม่ต้องกังวลกับการถูกปล้นเหยื่ออีกต่อไปแล้ว"
"ใช่แล้ว ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเฉินกัวตงและคนอื่นๆ โดยเฉพาะชายหนุ่มคนนั้น"
"ข้าไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไร.. หากเรามีโอกาสได้เจอเขาในอนาคตต้องขอขอบคุณเขาให้มากไว้มาก"
"ใช่แล้วล่ะ"
ผู้ใหญ่หลายคนถอนหายใจด้วยอารมณ์ซับซ้อน และมีรอยยิ้มบนใบหน้าพวกเขาไม่มากก็น้อย
ในทางกลับกัน เด็กหนุ่มกู่เซ่อก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้
คนที่อายุเท่าข้าแข็งแกร่งขนาดนี้เลยงั้นเหรอ? ความเร็วในการยิงของเขานั้นน่ากลัวและความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาก็น่าทึ่งอย่างมาก
เขาอาจเป็นนักรบขอบเขตการชำระล้างร่างกายขั้นที่ 1 ไม่สิ เขาน่าจะเป็นนักรบขอบเขตการชำระล้างร่างกายขั้นที่สองมากกว่า
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกไม่เต็มใจเล็กน้อย หากเขามีอาหารเพียงพอ พละกำลังของเขาอาจไม่ด้อยไปกว่าคนๆนี้ก็เป็นได้
"ตาเฒ่ากู่! กู่เจียงไห่!"
ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังเขา
กู่เตียงไห่ผงะอย่างมาก มีเสียงแว่วๆป่าว? มีคนเรียกชื่อเขาอย่างนั้นเหรอ?
มันคงจะเป็นเพราะเขาหลอนไปหรือป่าว? เขาส่ายหัวแล้วก้าวไปข้างหน้า
ส่งผลให้เสียงด้านหลังดังขึ้นเรื่อยๆ
“กู่เจียจื่อ! อย่าพึ่งไป!"
"กลับมาก่อน! กลับมา!"
"เจ้าไม่ต้องการเหยื่อของเจ้าแล้วหรือ?"
ราวกับมีคลื่นขนาดใหญ่สาดซัดเข้ามาในจิตใจของเขา
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved