ตอนที่ 266 คู่ผสานสัตว์ร้าย

เมื่อบินมาได้ประมาณ 10 นาทีหลังจากที่ยืนยันได้ว่าปลอดภัยแล้ว

หลิน ยูที่อยู่บนหลังของมังกรราชาปิศาจ ก็สั่งให้ร่อนลงจอดบเนินทรายที่ซ่อนอยู่ นำสมบัติ 2 ชิ้นได้เขาเพิ่มได้รับจึ้นมาตรวจสอบ

มันทำให้อดแปลกใจไม่ได้

ในบรรดาสมบัติทั้ง 2 นั้นไม่มีชิ้นใดที่เป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพ

แต่มันดันเป็นโทเค็นทหารมีรูปภาพแมงป่อง และอีกอันเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนที่มีสีม่วงและสีแดงอย่างละครึ่ง

หลิน ยู หยิบโทเค็นขึ้นมาตรวจสอบดูก่อน

ในเวลานั้นเอง หน้าต่างข้อมูลก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

[โทเค็นทหาร : แมงป่องดำเพลิงปฐพี (เผ่าสัตว์ร้าย)]

[ระดับ : ระดับ 7]

[หมายเหตุ : หลังจากใช้งานแล้ว ท่านจะสามารถปลดล๊อกทหารเผ่าสัตว์ร้าย แมงป่องดำเพลิงปฐพีได้]

[ความต้องการ : ดินแดนระดับ 7 , พลังเวทย์ 25000 แต้ม]

มันไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากได้

มันเป็นทหารประเภทเดียวกับราชาแม่งป่องดำ

ในด้านของพลังต่อสู้ มันค่อยข้างแข็งแกร่งทีเดียว

สิ่งที่สำคัญคือ หลิน ยู พบความเข้ากันได้ของทหารตัวนี้กับวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนที่อยู่ด้านข้าง

[วัตถุศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดน : เพลิงพิษเหลียวหยวน (เผ่าสัตว์ร้าย) ]

[ระดับ 1 : พลังโจมตีธาตุพิษ +5% , พลังโจมตีธาตุไฟ +5%]

[ระดับ 2 : พลังโจมตีธาตุพิษ +5% , พลังโจมตีธาตุไฟ +5%]

[ระดับ 3 (ปลดล๊อก) : พลังโจมตีธาตุพิษ +5% , พลังโจมตีธาตุไฟ +5%]

[ระดับ 4 (ปลดล๊อก) : สกิลดินแดน "เพลิงพิษจุติ"]

[เพลิงพิษจุติ (ใช้งาน) : ธาตุพิษและธาตุไฟจะผสานรวมเป็นธาตุเดียวกัน ระยะเวลาแสดงผล 30 วินาที คูลดาวน์ 15 นาที]

[คุณลักษณะของดินแดน : หากอยู่ภายในอาณาเขต ทหารที่อยู่ฝ่ายเดียวกันทั้งหมดจะได้รับ พลังโจมตีธาตุพิษ +5% , พลังโจมตีธาตุไฟ +5% ระดับของมันจะเพิ่มขึ้นตามระดับของพลังความศรัทธา]

แมงป่องดำเพลิงปฐพีและวัตถุศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนเพลิงพิษเหลียวหยวนมาจากที่เดียว

ราวมันถูกสร้างมาเพื่อนวัตถุศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนชิ้นนี้โดนเฉพาะ

เมื่อระดับพลังความศรัทธาเพิ่มขึ้นถึงระดับ 4 หรือก็คือเมื่อเขาอยู่ระดับ 9 เขายังได้รับสกิลดินแดนเพิ่มอีกด้วย

เพลิงพิษจุติ!

พิษและไฟผสานรวมกัน

กล่าวอีกอย่างเมื่อเขาโจมตีไป 1 ครั้งนี้ การโจมตีของเขาที่มีธาตุเหล่านี้ผสานอยู่ พลังโจมตีของมันจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากบัพของวัตถุศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดน

มันนับว่าเป็นสกิลดินแดนที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

เมื่อถึงเวลาที่เขาขายมันราชาของมันจะต้องสูงขึ้นอย่างแน่นอนหากเขาขายมันพร้อมกัน

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เขานั้นไม่ได้ขาดแคลนพลังเวทย์ ดังนั้นเขาจึงจะดูว่าเขาสามารถแลกเปลี่ยนเป็นสมบัติบางอย่างที่เผ่าพฤกษาได้หรือไม่ มันคงจะดีไม่น้อยหากมันแทนที่ด้วยวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพ

หลังจากที่ครุ่นคิด

หลิน ยู ก็ได้เก็บโทเค็นทหารและวัตถุศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนกลับไปและมองไปที่หน้าต่างทรัยากร

พลังเวทย์ของเขาเพิ่มขึ้นถึง 16.5 ล้าน  ความก้าวหน้าของพลังงานต้นกำเนิดก็เกิน 1 ใน 3 ไปแล้วมันอยู่ที่ 35%

หากเขายังล่าด้วยความเร็วระดับนี้ เขาคงจะสะสมมันจนเต็มได้อย่างรวดเร็วอย่างแน่นอน

ตอนที่เขาได้รับต้นกำเนิดธรรมชาติมา เขารู้สึกราวกับได้รับของขวัญแห่งธรรมชาติ

แม้ว่าเขาจะยังไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร

แต่คิดว่า มันต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

หรือว่า

ต้นกำเนิดธรรมดาชาติของเขานั้นจะแตกต่างจากต้นกำเนิดของราชันคนอื่นๆ?

ถ้าอย่างนั้นเขาต้องลองค้นหาข้อมูลให้มากกว่านี้

นอกจากนี้ยังมีเครื่องหมายของของขวัญธรรมชาติที่อยู่บนร่างกายของเขาอีกด้วย ซึ่งเขาสามารถรับรู้ความจริงเกี่ยวกับมันได้ที่อาณาจักรเอลฟ์เท่านั้น

เขาไม่รู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ที่นั้น

หลิน ยู ยกมือขวาขึ้นมา มองไปยังรอยสักรูปใบไม้ที่อยู่หลังมืออย่างเงียบๆ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

ผ่านไปสักพักก็มีสายลมเย็นๆพัดมา

ขัดจังหวะการใช้ความคิดของเขา

หลิน ยู เงยหน้าขึ้นมองไปยังท้องฟ้าเขาพบว่าดวงอาทิตย์สีแดงอ่อนกำลังค่อยๆเคลื่อนไปยังทิศตะวันตก ดูเหมือนว่าเวลาใกล้หมดลงแล้ว

"ดูเหมือนวันนี้ฉันคงมาจะได้แค่นี้ซินะ..."

เดิมทีเขาคิดว่าวันนี้เขาจะสามารถข้ามทะเลทรายได้ในวันเดียว

กลายเป็นว่าทะเลทรายนี้กว้างใหญ่กว่าที่เขาคิดเอาไว้ซะอีก

เมื่อรู้สึกได้ว่าอุณหภูมิรอบตัวเขาเริ่มลดลง เขารู้ว่าเขาไม่สามารถอยู่ที่นี้ได้อีกต่อไปแล้ว

ไม่อย่างนั้น หากเขาต้องค้างคืนบนทะเลทรายนี้ อากาศมันจะหนาวถึงขีดสุด และเขาอาจพบเจอกับอันตรายได้ทุกเมื่อ

หลังจากที่คิดดูแล้ว

เขาก็ขึ้นไปขี่มังกรราชาปิศาจอีกครั้ง มุ่งหน้าไปยังทางเข้าของภูมิภาคหลัก

จนกระทั่งฟ้าเริ่มมืดลง

ในที่สุดเขาก็มาถึงเมืองศักดิ์สิทธิ์แหละอาณาจักนลับและเทเลเพอร์ตกลับไปยังดินแดน

ทันทีที่เขากลับถึงดินแดน เขาก็ได้รับข้อความส่วนตัวถึง 4 ข้อความมันปรากฏบนหน้าต่างช่องแชทส่วนตัวของเขาในทันที

"น้องหลิน ยู เรือเหาะได้มาถึงอย่างปลอดภัยแล้ว"

"เรือเหาะมาถึงแล้ว พร้อมที่กลับไปในวันพรุ่งนี้"

"เรือเหาะได้มาถึงแล้ว ทุกอย่างปล่อยภัยดี"

"ฮ่าฮ่า พี่หลิน ข้าได้รับเรือมาแล้ว!"

หลิน ยู ประหลาดใจไม่น้อย

ข้อความเหล่านี้มาจากราชันที่เปิดเส้นทางการบินกับเขา

เมื่อมองดูเวลา ดูเหมือนจะถูกส่งมาตอนช่วงเย็น มันใช้เวลาทั้งหมด 10 ชั่วโมงในการเดินทาง

เรือเหาะเวทย์มนต์ทุกลำได้รับการปรับแต่งมาอย่างเป็นพิเศษมันสามารถเร่งความเร็วได้สูงสุดมากกว่า 300 กม/ชม ซึ่งเทียบเท่ากับการเดินทางประมาณ 3000 กิโลเมตร

นี้เป็นเพียงระยะทางแบบเส้นตรงจากชายแดนไปยังพื้นที่ส่วนกลางของอาณาจักร หากเขาต้องการเดินทางไปทั่วทั้งอาณาจักร เขาเกรงว่ามันต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าหรืออาจจะ 3 เท่า

ดูเหมือนว่า อาณาจักรหวงหวู่นี้ จะใหญ่กว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก

นี้เป็นเพียงอาณาจักรที่เล็กที่สุดนะเนี้ย

เขาไม่รู้จริงๆหากเป็นอาณาจักรที่มีขนาดใหญ่มันจะมีราชันอยู่ทั้งหมดกี่คนกัน

หลิน ยู อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ เขาตอบเหล่าราชันทั้ง 4 ในเวลาเดียวกัน

สำหรับเรือเหาะเวทย์มนต์ที่เหลือของ ซ่ง เหล่ย นั้น

เป็นเพราะว่าดินแดนของเขานั้นแข็งแกร่งที่สุด และอยู่ใกล้กับจุดศูนย์กลางของอาณาจักรมากที่สุด ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย

แน่นอนว่า เวลาล่วงเลยมาถึงช่วงหัวค่ำ ซง เหล่ย ก็ส่งข้อความมาแจ้งว่าเรือเหาะได้เดินทางถึงดินแดนของเขาอย่างปลอดภัยแล้ว

ณ จุดนี้ เส้นทางการบินทั้ง 5 ได้ประสบความสำเร็จในการเดินทางเรียบร้อยแล้ว ทำให้หลิน ยู ถอนหายไปใจออกมาอย่างโล่งอก

หลังจากพูดคุยกับราชันเหล่านั้นอีกกี่คำ เขาก็ไปที่ฐานทัพนำวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพที่ได้รับมาวันนี้ใส่ลงบนแท่นของเอลฟ์ผู้ส่งสาสน์ เขาเดินมายังใต้ต้นไม้โลกนั่งพักผ่อนขณะกินอาหารไปด้วย

"บ้าเอ้ย! อัตราการได้รับวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพจากอาณาจักรลับนี้ต่ำเป็นบ้า! ข้าเคลียร์มันถึง 5 ครั้ง แต่ข้าไม่ได้รับวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพแม้แต่ชิ้นเดียว!"

"เจ้าแค่ 5 ครั้งงั้นเหรอ!? ข้าเคลียร์มันไปถึง 8 ครั้งได้โทเค็นทหารมาเพียงอันเดียวมันไม่คุ้มกับค่าเข้าแม้แต่น้อย"

"ดูเหมือนทุกคนจะเข้าใจแล้วซินะ วันนี้ข้าก็เพิ่มได้พิมพ์เขียวมาอันเดียว มันไม่มีวี่แววของวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพแม้แต่น้อย"

"อาณาจักรลับบ้านั้นมันยากเกินไป วันนี้ข้าไปเดินเล่นภายในภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์มา ผลก็คือมีเหล่าราชันจำนวนมาก รุมล้อมมอนสเตอร์ราชันแต่ละตัวเอาไว้ ข้าไม่ได้อะไรกลับมาเลยแม้แต่อย่างเดียว"

"มอนสเตอร์ราชันงั้นหรอ เพียงแค่ไปสัมผัสมันก็ได้รับพลังเวทย์ 100000 แต้มตอนมันตายแล้วไม่ใช่งั้นเหรอ?"

"ฮ่าฮ่า ข้าก็เข้าไปแตะมันแล้วก็หลบหนีออกมาเลย!"

ข้อความค่อยเด้งขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในช่องแชทภูมิภาค

อาจจะเป็นเพราะในวันนี้มีมอนสเตอร์ราชันปรากฏตัวขึ้น ทำให้ราชันระดับ 7 และระดับ 8 ที่ปกติไม่ค่อยส่งข้อความ ค่อยๆปรากฏตัวขึ้นทีละคน

พูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขาในวันนี้ ไม่ก็บ่นเดียวกับความยากของอาณาจักรลับ

เหล่าราชันหน้าใหม่ที่เห็น การต่อสู้ที่รุนแรงจากข้อความเหล่านั้นพวกเขาก็ตัวสั่นไม่กล้าพูดออกมา

สุดท้ายมันก็ได้กลายเป็นการชุมชนย่อยๆไป มีบ่นออกมาบ้างว่าสมบัติที่ดรอปออกมานั้นน้อยนิดยิ่งนัก

"แต่ดูเหมือนข้าได้ยินมาว่าเมื่อเช้านี้ หยาน ลี่ และ ซือถู เจี้ยน ได้ต่อสู้กับราชันบางคนจากโลกอู๋ซาง"

ในเวลานั้นเอง ก็ได้มีข้อความนี้ปรากฏขึ้นทำให้พวกเขาเข้าใจการสนทนาครั้งใหม่ทันที

ทันทีที่ข้อความนี้ออกมา เหล่าราชันก็ได้พูดเรื่องนี้กันต่อทันที

"หยาน ลี่ กับ ซือถู เจี้ยน? พวกเขาสองคนที่อยู่บนจุดสูงสุดของอาณาจักรลับใช่ไหม?"

"ใช่แล้ว ความแข็งแกร่งของพวกเขาสามารถติด 1 ใน 10 อันดับของราชันระดับ 7 แห่งโลกดึกดำบรรพ์"

"ว่าไงนะ 10 อันดับแรก?"

"มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นจริงๆ ข้าได้ยินหลายคนพูดถึง ไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้นที่ต่อสู้ แต่ยังมีราชันเผ่าพฤกษาที่ทรงพลังอีกด้วย"

"ราชันเผ่าพฤกษา? หรือว่าจะเป็นหลิน ยู ที่อยู่อันดับ 3!?"

หัวข้อของการสนทนาเหล่านั้นค่อยๆไปไกลขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดมันก็มาถึงหลิน ยู

จากนั้นพวกเขาก็ประหลาดใจที่พบว่า

ภายในอาณาจักรหวงหวู่นี้ มีราชันเผ่าพฤกษาระดับ 7 ที่ชื่อหลิน ยู ด้วยนิ

ครั้งนี้เหล่าราชันถึงกับเบิกตากว้าง พวกเขาตกตะลึงอย่างแท้จริงๆ ได้แต่เดากันไป ว่าใช้คนๆเดียวกันหรือไม่!?

แต่ที่พวกเขารู้นั้น

หยาน ลี่ และ ซือถู เจี้ยน นั้นมีชื่อเสียงมาจากอย่างนานภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรลับเป็นที่รู้จักของผู้คนนับไม่ถ้วน

คนที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับ 2 คนนั้น อย่างน้อยต้องเป็นราชันหน้าเก่า ไม่ว่าพวกเขาจะคิดอย่างไร ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะที่จะเป็นราชันจากอาณาจักรเล็กๆของพวกเขา

ในไม่ช้าพวกเขาก็ปฏิเสธความคิดนี้ไป มีเพียงไม่กี่คนที่ยังคงสงสัยอยู่

ยกตัวอย่างเช่น เจ้าเมืองทั้งหลายที่อยู่รอบๆเมืองหวงซา รวมถึงเจ้าเมืองทั้ง 5 ที่เปิดเส้นทางการบินกับเมืองหวงซา

เพราะพวกเขาทั้งหมดนั้น ติดต่อกับ หลิน ยู เป็นการส่วนตัว

"มันต้องเป็นเข้า!"

ภายในปราสาทเมืองซวนเย่

เมิ่ง ชิงกัง นั่งอยู่ภายในปราสาทเจ้าเมืองด้วยท่าทางที่เคร่งขรึม

เขาไม่เหมือนกับราชันคนอื่นๆ

หลังจากที่เจรจากันครั้งสุดท้าย ก็ได้มีการติดต่อกันอย่างมากมายระหว่างเมืองซวนเย่กับ เมืองหวงซา

ดังนั้เขาจึงมีความเข้าใจเกี่ยวกับความรวดเร็วในการพัฒนาของเมืองหวงซาได้เป็นอย่างดี

ในช่วงเวลาเพียงแค่ 1 เดือนหลังจากที่สงครามหมื่นโลกสิ้นสุดลง ประชากรภายในอาณาเขตก็ขยายออกจาก 10000 เป็นมากกว่า 100000 คน

นอกจากนี้เขายังมีผู้ฝึกตนระดับ 9 ค่อยปกป้องดินแดนอยู่ด้วย

นั้นคือผู้ฝึกตนระดับ 9 เลยนะ!!

เมื่อตอนที่ลูกน้องของเขารายงานข่าวกลับมาก่อนหน้านี้ แม่แต่ตัวเขาก็ยังตกใจไม่น้อยเลย

ราชันระดับ 7 สามารถเชิญผู้ฝึกตนระดับ 9 ให้มาเข้าร่วมกับดินแดนของเขาได้อย่างไรกัน?

หากเขาบอกว่านี้เป็นอาณาเขตของราชันที่เพิ่งอัพเกรดขึ้นเป็นระดับ 7 ต้องไม่มีใครเชื่ออย่างแน่นอน

ถึงแม้เข้าจะไม่อยากเชื่อแค่ไหน แต่ความจริงก็ได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เขาทำได้เพียงเชื่อเท่านั้น

หลิน ยู คนนี้ต้องเป็นหลิน ยู ที่ทุกคนพูดถึงอย่างแน่นอน!

ด้วยการมีของตัวตนที่น่าหวาดกลัวนี้ เขาสามาถก้าวขึ้นไปเป็นสิบอันดับแรก ของราชันระดับ 7 แห่งโลกดึกดำบรรพ์ได้อย่างแน่นอน!

"เข้ามาเร็ว!"

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เมิ่ง ชิงกัง ก็ได้ตะโกนออกไปนอกประตูทันที

หลังจากนั้นไม่นาน ลูกน้องของเขาที่รออยู่หน้าห้องก็ได้เข้ามา

"พวกเจ้าไป บอกผู้การเมืองให้จัดเตรียม เสบียงอาหารที่ซื้อมาเมือง 2 3 วันก่อน ส่งไปยังเมืองหวงซาพรุ่งนี้เช้า"

"นายท่าน ไหนท่านบอกต้องการเก็บไว้ครึ่งหนึ่งไม่ใช่หรือขอรับ?"

ลูกน้องของเขาถามด้วยความสงสัย

"ไม่เป็นไร ส่งพวกมันทั้งหมดไปที่เมืองหวงซา เพราะเมื่อเร็วๆนี้ พวกเขายังหาซื้ออาหารจำนวนมากในราชาถูก กล่างอีกอย่างคือพวกเขาต้องการสร้างสัมพันธุ์กับเพื่อนบ้าน"

"เอาละ สั่งให้ผู้การไปจัดการเดี๋ยวนี้!!"

เสียงถอนหายใจดังออกมา ลูกน้องของเขารีบออกไปทันที

หลังจากที่มองดูลูกน้องของเขาเดินออกไป ในที่สุดเมิ่ง ชิงกังถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเปิดหน้าต่างส่วนตัวเพื่อติดต่อกับราชันคนอื่นๆ

"เหล่าจาง เกี่ยวกับการซื้อธัญพืชครั้งล่าสุด ข้าอยากคุยกับท่านอีกซักครั้ง..."

.....

หลิน ยู ที่นั่งอยู่ในดินแดนเป้นธรรมดาที่เขาจะเห็นการสนทนาของราชันเหล่านั้น

แต่เขาไม่ได้สนใจหรือกังวลใจแม้แต่น้อย

อย่างไรก็ตาม บนรายชื่อการจัดอันดับแห่งอาณาจักรลับนั้นไม่ปรากฏอาณาจักร มันไม่มีทางที่คนเหล่านั้นจะแน่ใจว่าเป็นเขา

คิดว่าเมื่อรายการจัดอันดับถูกรีเซ็ตในเดือนหน้า ก็จะเหลือคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จำเขาได้

เพราะฉะนั้น

สิ่งที่ขาดไม่ได้ในโลกนี้จริงแล้วคือความแข็งแกร่ง!!