ตอนที่ 477 : ทักษะผู้กล้าของเฟิงลั่ว! ชนะอย่างมั่นคง!

โจวโจวยิ้มออกมา

แม้ว่ายุยงแปรพักตร์ของเขาจะส่งผลกับแค่คนๆ เดียวในคราวนี้ แต่หมอนั่นก็เป็นคนของเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิด!

เผ่าพันธุ์ที่มีระดับสายเลือดแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสรรพเผ่าพันธุ์!

การได้เขามาเป็นพวกเทียบได้กับการได้รับผู้มีพรสวรรค์ระดับเทพที่ได้รับบัตรผ่านการเป็นจิตวิญญาณเทพเจ้ามาแล้วเลย!

ไม่เลวๆ!

โจวโจวพึงพอใจมาก

มันไม่สูญเปล่าเลยที่เขาได้เก็บยุยงแปรพักตร์ของเขาไว้ใช้ในตอนนี้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาก็ทำให้สีหน้าของเขาต้องเปลี่ยนไปในทันที

ระลอกแสงโปร่งใสรอบตัวอดัม เทพแห่งมิติและกาลเวลา ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังแอนเซล จู่ๆ ก็แผ่กระจายไปทุกทิศทุกทางอย่างรวดเร็ว

ในชั่วพริบตา มันก็ได้ครอบคลุมพื้นที่ 1 กิโลเมตร

ด้วยระยะขนาดนี้ เขาก็ดูเหมือนจะได้เปิดโลกของเขาเอง และทหารทุกคนที่พุ่งเข้าไปที่ขอบของโลกนี้ก็ได้หายไปในความว่างเปล่า

“ถอย!”

ไป่อี้ตอบสนองอย่างรวดเร็วและสั่งการทันที

ในเวลาเดียวกัน อู๋ซินและลั่วเซิงก็ได้สั่งการให้ทหารทั้งหมดถอยออกมาจากระลอกคลื่นนี้ทันทีผ่านทักษะผู้กล้าทั้งสองอันของพวกเขาอย่างบัญชาการกองทัพตามชอบใจและเทพภูตผีบัญชาทัพ

ด้วยความช่วยเหลือของทักษะบัญชาการทัพสองอันนี้ ในที่สุดทหารกว่าแปดล้านคนก็ถอยออกมายังจุดปลอดภัยได้หลังจากสูญเสียทหารไปกว่า 100,000 คน

“ช่างเป็นทักษะควบคุมกองทัพที่ทรงพลังจริงๆ ทักษะแห่งกฎเกณฑ์ของข้าอย่างพิภพเนรเทศได้ผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเองเหรอ?”

เมื่ออดัมเห็นเช่นนี้ เขาก็อดเลิกคิ้วขึ้นมาไม่ได้

โลกใบเล็กๆ ของเขามีพลังมิติและเวลาเป็นรากฐานของกฎเกณฑ์

ดังนั้นเขาจึงเชี่ยวชาญพลังเทวะในด้านมิติและกาลเวลานับตั้งแต่ที่เขาถือกำเนิด เขาคือเทพแห่งมิติและกาลเวลาเทียมนั่นเอง!

ในแง่ของความสามารถโลกใบเล็ก เขาเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดอัจฉริยะในประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดเลย!

เขาไม่ได้ทำให้พรสวรรค์ของเขาต้องสูญเปล่า

แม้ว่ากฎเกณฑ์แห่งมิติและกาลเวลาจะเป็นกฎเกณฑ์ที่ยากจะทำความเข้าใจที่สุด แต่เขาก็ยังอาศัยความสามารถในการเข้าใจของเขาเพื่อทำความเข้าใจทักษะกฎเกณฑ์แห่งมิติและกาลเวลาก่อนเมื่อเขาได้รับการศึกษาจากเผ่าพันธุ์

จากนั้น เขาก็เข้าใจทักษะผู้กล้าหลายอันติดต่อกันในระหว่างการเติบโตของเขา ส้รางความตกตะลึงให้กับทั้งเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิด!

สมาชิกทุกคนของเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดต่างก็ถือว่าเขาเป็นความหวังของเผ่าพันธุ์เลย!

จนกระทั่งเขากลายมาเป็นลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์

พิภพเนรเทศคือหนึ่งในทักษะแห่งกฎเกณฑ์ของมิติและกาลเวลาที่เขาได้บรรลุ!

มันสามารถขับไล่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ใกล้กับภาพจำลองของโลกใบเล็กอันนี้ให้ไปยังรอยแยกแห่งมิติได้

รอยแยกแห่งมิติคือสถานที่อันตรายสุดหยั่ง มันมีกระทั่งการปั่นป่วนของมิติ กระแสมิติอันรุนแรง และกระทั่งมอนสเตอร์แห่งมิติอยู่เต็มไปหมด

ในใจของเขา ทหารเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่หลุดลอยออกไปยังรอยแยกมิติก็เรียกได้ว่าตายไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม โจวโจวที่อยู่ไกลออกไปก็ไม่คิดเช่นนั้น

หลังจากที่ผู้เที่ยงแท้ได้ใช้พิภพเนรเทศ เขาก็สัมผัสได้ว่าทักษะแห่งกฎเกณฑ์นี้ดูเหมือนจะเกี่ยวพันกับรอยแยกแห่งมิติด้วยการรับรู้ธาตุมิติของเขา

เมื่อทหารเหล่านี้ที่ตกอยู่ในผลของทักษะพิภพเนรเทศได้หายไป โจวโจวก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและนึกถึงความเชื่อมโยงที่คลุมเครือระหว่างทักษะกฎเกณฑ์ของอีกฝ่ายและรอยแยกแห่งมิติ เขาเดาคร่าวๆ

ถ้าลอร์ดทั่วไปพบเจอกับภาพฉากนี้ พวกเขาก็น่าจะไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยทหารเหล่านี้ที่หลุดลอยไปยังรอยแยกแห่งมิติได้ อย่างไรก็ตาม โจวโจวก็มีราตรีประดับดาว 11 ลำที่สามารถใช้การอำพรางระหว่างมิติได้!

ดังนั้นเขาจึงสั่งการให้เหวินหยาควบคุมราตรีประดับดาวทั้งหมดเข้าไปยังรอยแยกแห่งมิติผ่านการอำพรางระหว่างมิติเพื่อค้นหาทหารที่หายไป!

ในไม่ช้า เหวินหยาก็ส่งข้อความมาหาเขา

“ท่านลอร์ด ข้าพบตัวทหารแล้วเจ้าค่ะ อย่างไรก็ตาม ข้าก็พบทหารแค่ 80,000 กว่าคนและได้นำพวกเขาขึ้นมาบนยานบินแล้ว”

เหวินหยารายงาน

โจวโจวอดสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ไม่ได้เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเหวินหยา

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้สูญเสียทหารไปมากมายขนาดนี้

“พยายามอย่างเต็มที่เพื่อรวบรวมร่างของทหารและให้สาวกใช้คาถาชุบชีวิตขั้นต้นเพื่อชุบชีวิตเหล่าทหารที่สามารถชุบชีวิตได้ พวกเราต้องจัดการเรื่องเงินบำนาญและการดูแลครอบครัวของผู้พลีชีพ!”

โจวโจวเงียบไปชั่วขณะก่อนที่จะสั่งการ

“เจ้าค่ะท่านลอร์ด!”

เหวินหยากล่าวออกมาด้วยความเคารพทันที

โจวโจวพยักหน้าและมองไปยังผู้เที่ยงแท้ที่อยู่ไกลออกไปอย่างเยือกเย็น

ด้านนอกของพิภพเนรเทศ

ไป่อี้ อู๋ซิน และคนอื่นๆ มองไปยังบาเรียป้องกัน

พวกเขาต่างก็รู้ว่าพวกเขาอยากจะโจมตีผู้เที่ยงแท้ที่อยู่ภายใน แต่พวกเขาก็ต้องทะลวงผ่านพิภพเนรเทศไปก่อน

“มันมีแค่ทักษะแห่งกฎเกณฑ์เท่านั้นที่สามารถตีฝ่าทักษะแห่งกฎเกณฑ์ได้”

ในเวลานั้นเอง เจ้าเหนือหัวก็พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ

ทุกคนเงียบไป

ทักษะแห่งกฎเกณฑ์?

นอกเหนือจากมังกรแสงศักดิ์สิทธิ์อินเจซอลที่เชี่ยวชาญทักษะแห่งกฎเกณฑ์อย่างแสงสัมบูรณ์แล้ว มันก็ไม่มีใครที่เชี่ยวชาญทักษะแห่งกฎเกณฑ์อีก

อย่างไรก็ตาม แสงสัมบูรณ์ก็เป็นทักษะแห่งกฎเกณฑ์ประเภทสนับสนุนและไม่สามารถใช้ทำลายพิภพเนรเทศที่อยู่เบื้องหน้าได้เลย

ในเวลานั้นเอง

“ให้ข้าลองดูหน่อย”

จักรพรรดิผู้พิชิตสิบทิศเฟิงลั่วยืนขึ้นและพูดออกมา

ในตอนนี้เฟิงลั่วได้ทะลวงระดับเป็นระดับเหนือสามัญขั้นกลางแล้ว ร่างกายของเขาสูงขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นด้วย พลังของเขาไม่อาจหยั่งรู้ได้เหมือนกับปรมาจารย์เต๋าเลย

เขามองไปยังพิภพเนรเทศที่อยู่ตรงหน้าของเขาและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นเขาก็ชูกระบี่สีแดงเข้มขนาดใหญ่ระดับเหนือสามัญขั้นกลางในมือของเขาขึ้น

ตู้ม!

ออร่าที่พลุ่งพล่านปะทุออกมาจากร่างกายของเขาและกวาดไปทุกทิศทาง

ปราณกระบี่ที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งถูกควบแน่นบนกระบี่สีแดงเข้มขนาดใหญ่ของเขา

“นี่มัน ทักษะแห่งกฎเกณฑ์ของกฎเกณฑ์แห่งวรยุทธ์งั้นเหรอ?”

เจ้าเหนือหัวอดอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจไม่ได้เมื่อมันสัมผัสได้ถึงออร่าแห่งกฎเกณฑ์ที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากอีกฝ่าย

กฎเกณฑ์นี้สามารถบรรลุได้โดยเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่เข้าใจในวรยุทธ์เป็นจำนวนมากเท่านั้น

มันมีแค่ผู้ฝึกยุทธ์เท่านั้นที่สามารถบรรลุมันได้

ความเข้าใจ นิสัยใจคอ พื้นฐาน และโอกาส ล้วนเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้!

มันไม่คาดคิดเลยว่าชายที่ดูธรรมดาผู้นี้จะสามารถบรรลุมันได้จริงๆ

มันไม่รู้เลยว่าเฟิงลั่วได้รับมรดกผู้กล้าทั้งหมดของจักรพรรดิผู้พิชิตสิบทิศรุ่นก่อนอย่างซุนอู๋มาแล้ว

เขาและเฟิงลั่วต่างก็เป็นผู้คลั่งไคล้ในวรยุทธ์ และซุนอู๋ก็ได้ใช้อำนาจของอาณาจักรทั้งอาณาจักรเพื่อหล่อเลี้ยงรากฐานศิลปะการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ของเขาเมื่อเขายังมีชีวิตอยู่

ปัจจัยทุกประเภทที่รวมกันและการสะสมของผู้กล้าสองรุ่นได้ทำให้เฟิงลั่วบรรลุทักษะกฎเกณฑ์แห่งวรยุทธ์นี้เมื่อไม่มีใครให้ความสนใจ!

“ทักษะแห่งกฎเกณฑ์ หนึ่งกระบี่ไร้เทียมทาน!” เฟิงลั่วตะโกนออกมา

เขาเหวี่ยงกระบี่ลงไปในทันใด

ตู้ม!

พลังงานกระบี่สีทองยาว 10,000 เมตรพุ่งออกมา

ใบกระบี่ได้ถูกสลักเอาไว้ด้วยลวดลายหนาแน่น

ถ้าคนธรรมดาได้มองมันจากระยะไกล พวกเขาก็คงจะคิดว่ามันคืออักษรรูนที่ลึกลับมาก

อย่างไรก็ตาม ถ้าได้มองใกล้ๆ พวกเขาก็จะพบว่าพวกมันไม่ใช่อักษรรูนลึกลับเลย แต่พวกมันคือลวดลายของคำบนวรยุทธ์ที่ถูกสลักไว้บนปราณกระบี่!

พลังงานกระบี่สีทองนี้ตวัดเข้าใส่พิภพเนรเทศ

หวือ!

การโจมตีนี้พุ่งเข้าใส่บาเรียระลอกคลื่นแสงโปร่งใสและเจาะช่องโหว่พิภพเนรเทศขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม เมื่อเฟิงลั่วอยากจะขยับไปอีกก้าว เขาก็ตระหนักได้ว่าไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน แต่เขาก็ไม่สามารถขยับพลังงานกระบี่นี้ไปได้อีก

เมื่อเนซาริโอ้เห็นภาพฉากนี้ มันก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้าและพ่นลมหายใจมังกรสีดำเข้าใส่ช่องว่างนั้นทันที

ลมหายใจมังกรหายนะ!

ลมหายใจมังกรนี้สามารถทำลายทุกสิ่งที่สามารถทำลายได้ทั้งหมด!

หลังจากเนซาริโอ้เลื่อนระดับขึ้นเป็นระดับเพชรขั้นต้น พลังของลมหายใจมังกรหายนะนี้จึงแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก!

ทักษะแห่งกฎเกณฑ์พิภพเนรเทศของผู้เที่ยงแท้ได้เกิดความเสียหายขึ้นอยู่แล้ว และพลังแห่งกฎเกณฑ์ก็ไม่ได้สมบูรณ์อีกต่อไป ดังนั้นเมื่อลมหายใจมังกรหายนะของเนซาริโอ้เข้าปะทะกับมัน ช่องว่างนั้นจึงขยายใหญ่ขึ้นทันที

ในขณะที่ช่องว่างขยายใหญ่ขึ้น ลำแสงสีเลือดสายหนึ่งก็พุ่งเข้าไปทันทีและพุ่งเข้าใส่บาเรียแสงของพิภพเนรเทศเพื่อลอบสังหารผู้เที่ยงแท้!

มันคือเทพดาบราคชาซารัตติกาลซวีอัน!

เขาได้รอเวลานี้มานานแล้ว!

ผู้เที่ยงแท้เลิกคิ้วขึ้นและกำลังจะยกมือขึ้นเพื่อจัดการกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญคนนี้

แต่ในเวลานั้นเอง แอนเซลที่เดิมทีอยู่ในสภาพถูกผนึกไว้ด้วยศรผนึกวิญญาณก็ฉีกหน้ากากของเขาออกเช่นกัน

“ตาย!”

ลูกบอลสายฟ้าที่เต็มไปด้วยพลังเทวะสายฟ้าก็ควบแน่นขึ้นในมือของเขาในทันใด จากนั้นเขาก็หันศีรษะไปมองผู้เที่ยงแท้ด้วยสีหน้าดุดัน ในเวลานั้น เขาก็ตบลูกบอลในมือไปที่หน้าอกของผู้เที่ยงแท้อย่างรวดเร็ว

เมื่อผู้เที่ยงแท้เห็นภาพฉากนี้ ในที่สุดอารมณ์ที่เคยสงบนิ่งของเขาก็เปลี่ยนไป

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่สามารถตอบสนองได้ทัน

ดาบของซวีอันได้พุ่งลงมาจากท้องฟ้าแล้ว ก่อนที่ผู้เที่ยงแท้จะทันได้ตอบสนอง มันก็ได้ตัดศีรษะของเขา

ลูกบอลสายฟ้าในมือของแอนเซลก็ได้ปะทะเข้ากับร่างของเขาด้วย ทำให้ร่างกายของเขาสั่นไหวและหยุดเคลื่อนไหวก่อนที่เขาจะทันได้โจมตีสวนกลับ

“ตายแล้วเหรอ?!”

“หมอนั่นตายแล้วเหรอ??? พวกเราสังหารอดีตลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดได้แล้วเหรอ?!”

“โอ้พระเจ้า ผู้เที่ยงแท้ตายไปทั้งแบบนั้นเหรอ?! ฮ่าๆๆ หัวหน้าพันธมิตรสุดยอดจริงๆ!”

เมื่อสมาชิกของพันธมิตรเห็นเช่นนี้ พวกเขาก็ตื่นเต้นมากจนพวกเขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ลงได้

อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้ตระหนักเลยว่าสีหน้าของโจวโจวยังจริงจังมากอยู่

นั่นเป็นเพราะเขาไม่เห็นการแจ้งเตือนเรื่องการสังหารเลย!

ในเวลานั้นเอง โลกก็ดูเหมือนจะถูกกดปุ่มหยุดชั่วคราว

ทุกคนดูเหมือนจะเห็นอะไรบางอย่างและมองไปยัง ‘ศพ’ ของผู้เที่ยงแท้ด้วยความงุนงง

ผู้เที่ยงแท้ที่เดิมทีถูกสังหารไปแล้วดูเหมือนจะได้ย้อนเวลารอบๆ ตัวเขา

ส่วนที่ไหม้เกรียมบนหน้าอกของเขาที่ได้รับบาดเจ็บจากพลังสายฟ้าเทวะได้จางหายไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งกลับมาเป็นปกติ

รอยดาบสีโลหิตบนจุดตายของเขาเองก็ดูเหมือนจะถูกย้อนเวลากลับไปด้วยและหายไปอย่างรวดเร็ว

“โชคดีที่ข้าได้ประทับทักษะแห่งกฎเกณฑ์อย่างเวลาหวนคืนไว้บนตัวข้าก่อนที่ข้าจะมา มิฉะนั้นข้าก็คงจะตายไปแล้ว”

พระบิดาที่ฟื้นกลับขึ้นมาถอนหายใจออกมา

จากนั้นเขาก็มองไปที่โจวโจวและยิ้ม

“ข้าได้ใช้เวลาหวนคืนไปแล้ว และสถานที่แห่งนี้ก็อันตรายมากๆ ข้าคงไม่รั้งอยู่ในสถานที่อันแสนอันตรายนี้อีก”

“เจ้าทรงพลังมากเลย และเหนือกว่าจินตนาการของข้าไปด้วย อันที่จริงข้าก็มีวิธีการและไพ่ตายอื่นอยู่ แต่ข้าก็ไม่อยากจะต่อสู้กับเจ้าจนตายอยู่ที่นี่ เพราะมันไม่มีความจำเป็นอะไร มันก็แค่รางวัลสำหรับกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ข้าจะถือว่าครั้งนี้เป็นความพ่ายแพ้ของข้าก็แล้วกัน”

“แต่ศึกชิงเจ้าแห่งลอร์ดที่แท้จริงก็เพิ่งเริ่มขึ้นเท่านั้น ไว้พวกเราจะตัดสินผู้ชนะกันเมื่อพวกเราพบกันอีกในอนาคต เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะต้องเป็นฝ่ายชนะแน่ๆ”

ด้วยเหตุนั้นเอง เขาก็ทำมือเป็นรูปตราผนึกด้วยมือทั้งสองข้างและร่ายคาถา จากนั้นร่างของเขาก็ค่อยๆ หายไปจากสมรภูมิ

โจวโจวขมวดคิ้ว

“ดูเหมือนว่าเขาจะไม่อยู่บนสมรภูมิสุดท้ายแล้ว แต่ได้กลับไปยังโลกแห่งความเป็นจริงแล้วสินะ?”

โจวโจวพึมพำกับตัวเอง

จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่งในทันใด

เขามองดูเวลาก่อน จากนั้นเขาก็พบว่ามันเหลือเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแล้วก่อนที่สมรภูมิสุดท้ายจะสิ้นสุดลง

นอกจากนี้ ผู้เที่ยงแท้ยังได้จากไปแล้ว!

เจ้าล่าสวรรค์ก็ได้หนีไปแล้ว!

พระบิดาและเจ้าเหนือหัวก็ได้พ่ายแพ้ต่อเขาด้วยเช่นกัน

ในตอนนี้ ลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ระดับแนวหน้าเพียงคนเดียวที่เขาให้ความสำคัญในสมรภูมิทั้งหมดก็คือมหาเทพที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างของคะแนนระหว่างเขาและมหาเทพก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก

มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่มหาเทพจะแซงหน้าเขาไปได้เมื่อมันไม่มีลอร์ดระดับสูงให้เขาจัดการอีก

มันคงยากมากๆ ที่มหาเทพจะแซงหน้าเขาไปได้ด้วยการสังหารลอร์ดเป็นจำนวนมาก เพราะมันเหลือเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแล้ว

มันต้องฆ่าอีกกี่คนกัน?

มันเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะแซงหน้าเขาไปได้

ซึ่งก็หมายความว่า

“ฉันได้ที่หนึ่งแล้วแน่ๆ?!”

โจวโจวประหลาดใจระคนดีใจ