ตอนที่ 172 : กองกำลังลึกลับของแดนต้องห้ามพายุทราย! สาวใช้สองพี่น้อง!

ในห้องนั่งเล่นของที่พำนักแห่งลอร์ด

โจวโจว ลู่หรูอี้ และจางหลานเซิงนั่งลง

สำหรับสมาชิกคนอื่นๆ ของทีมทหารรับจ้างดับดารา พวกเขาถูกจัดให้อยู่ในห้องอื่นเพราะพวกเขามีจำนวนเยอะมาก

“เล่าข้อมูลที่เจ้าได้รับมาเกี่ยวกับแดนต้องห้ามพายุทราย”

โจวโจวตรงเข้าประเด็นทันที

“เจ้าค่ะท่านลอร์ด!”

ลู่หรูอี้กล่าวด้วยความเคารพ

“พวกเราเริ่มตรวจสอบในทันทีที่เมื่อพวกเรากลับไป ในตอนแรกพวกเราก็ไม่พบอะไรเลย แต่ในภายหลัง พวกเราได้ออกภารกิจพิเศษเพื่อสำรวจแดนต้องห้ามพายุทรายในสมาคมนักผจญภัย หลังจากนั้นพวกเราจึงได้รับข้อมูลวงในบางส่วนมา”

“ผู้ที่ให้ข้อมูลคือหลานชายของรองประธานสมาคมนักผจญภัยของเรา ตอนนี้เขาคือนักผจญภัยระดับเงินขาวขั้นต้นแล้ว ตามที่เขาบอก แดนต้องห้ามพายุทรายไม่ใช่ดินแดนต้องห้ามมาตั้งแต่แรก ว่ากันว่าอันตรายของแดนต้องห้ามพายุทรายนั้นไม่ได้รุนแรงมากเมื่อมันปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกในอดีตเมื่อนานมาแล้ว”

“เหล่าผู้เชี่ยวชาญของสมาคมนักผจญภัยและอาณาจักรเคยจัดทีมที่ทรงพลังเข้าสู่แดนต้องห้ามพายุทรายแล้ว ความแข็งแกร่งโดยเฉลี่ยของทีมนี้อยู่เหนือกว่าระดับทองคำเหลือง ในตอนนั้นความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ถือว่าเป็นที่สุดแล้ว”

“ในช่วงแรก ทีมนี้ยังคงสามารถสื่อสารกับโลกภายนอกได้หลังจากเข้าสู่แดนต้องห้ามพายุทราย อย่างไรก็ตาม การสื่อสารของทีมนี้ก็หายไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากผ่านไปเพียงหนึ่งวันหนึ่งคืน สองวันต่อมาสมาชิกของสมาคมนักผจญภัยคนหนึ่งก็หนีออกจากแดนต้องห้ามพายุทรายได้ สมาชิกของสมาคมนักผจญภัยคนนี้เป็นรองประธานของสมาคมนักผจญภัยที่ข้าพูดถึงเมื่อครู่ เขาบอกผู้คนในตอนนั้นว่าแดนต้องห้ามพายุทรายไม่ใช่ดินแดนของมนุษย์”

“ในส่วนที่ลึกที่สุดของสถานที่แห่งนี้คืออาณาจักรอันเดดที่ก่อตัวขึ้นด้วยความเกลียดชังและความโดดเดี่ยว สถานที่แห่งนั้นเกลียดชังและปฏิเสธทุกสิ่งมีชีวิตจากโลกภายนอก ซึ่งคนอื่นๆ ในทีมสำรวจก็ถูกสังหารโดยกองทัพอันเดดในนั้น เขาเป็นแค่คนเดียวที่รอดชีวิตมาได้ด้วยสมบัติพิเศษที่เขานำมาจากสมาคมนักผจญภัย”

“ต่อมา ว่ากันว่าคนของอาณาจักรได้ส่งทีมที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษเพื่อสำรวจแดนต้องห้ามพายุทรายหลังจากที่พวกเขารู้เรื่องนี้ มันมีแม้กระทั่งผู้กล้าอยู่ในทีมนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ตระหนักได้ว่ามีเพียงพายุทรายที่ไม่มีที่สิ้นสุดในแดนต้องห้ามพายุทรายเท่านั้นเมื่อพวกเขาไปถึง พวกเขาไม่เห็นทางเข้าอื่นและพวกอันเดดเลย ในท้ายที่สุดเรื่องนี้จึงไม่ได้รับการคลี่คลาย และกลายเป็นหนึ่งในปริศนาที่ยังไม่ได้ไขของอาณาจักรออโรร่า”

ลู่หรูอี้กล่าว

โจวโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย

อาณาจักรอันเดดที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นและความเดียวดายงั้นเหรอ?

อาณาจักรของเขาอยู่ติดกับกองกำลังที่เร้นลับเช่นนั้นงั้นเหรอ?

“ข้อมูลนี้น่าเชื่อถือไหม?”

โจวโจวถาม

“มันน่าจะเชื่อถือได้ มันยังมีภารกิจในการนำกระดูกและวัตถุโบราณของบรรพบุรุษจากแดนต้องห้ามพายุทรายอยู่ในสมาคมนักผจญภัยอยู่เลย ภารกิจดังกล่าวจัดอยู่ในประเภทภารกิจระดับเหนือสามัญขั้นสูงในบรรดาภารกิจทั้งหมดของสมาคมนักผจญภัย”

“แม้ว่าจะยังไม่มีนักผจญภัยคนไหนทำภารกิจนี้ได้สำเร็จ แต่มันก็ยังคงอยู่ มันน่าจะเป็นเพราะญาติและเพื่อนของผู้ตายไม่เต็มใจ หรือเพราะฝ่ายอื่นๆ ไม่เต็มใจที่จะเปิดเผยความลับของแดนต้องห้ามพายุทรายเป็นแน่”

โจวโจวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งและทันใดนั้นก็มีความคิดโผล่ขึ้นมาในใจของเขา

ถ้าฝ่ายนี้มีอยู่จริงและไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ งั้นคาราวานเร้นลับที่มีพรสูงสุด—สิทธิ์ในการผ่านไม่จำกัดจะสามารถเข้าไปได้ไหม?

โจวโจวคิดเกี่ยวกับมันและรู้สึกว่าเขาน่าจะลองดู!

ด้วยความสามารถของเจิ้งฝูกุ่ยและคนอื่นๆ แม้ว่าพวกเขาจะเข้าไปไม่ได้จริงๆ มันก็ไม่น่าเป็นปัญหาสำหรับพวกเขาในการป้องกันตัวเอง

เขาได้สติกลับมาและมองไปยังลู่หรูอี้

“พวกเจ้าทำได้ดีมาก พรุ่งนี้ไปรับรางวัลความดีความชอบของกองทัพจากผู้อาวุโสเจิ้งได้เลย นอกจากนี้ข้าจะมอบรางวัลให้แก่เจ้าเพื่อเป็นทรัพยากรในการพัฒนาทีมทหารรับจ้างดับดาราในฐานะลอร์ดด้วย”

โจวโจวโบกมือขวาของเขา

แกนหมอกระดับเงินขาว 500 ชิ้น ใบเปลี่ยนอาชีพทหารแต่ละประเภท 500 ใบ และใบเปลี่ยนอาชีพนักอัญเชิญศพทราย 500 ใบปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเขาสองคน

“เอารางวัลพวกนี้ไปพัฒนาตัวเองและทีมทหารรับจ้างดับดาราซะ ในอนาคต ถ้าพวกเจ้าเจอข้อมูลที่มีค่าอะไรอีกก็ส่งมันมาที่เมืองตะวันสาดแสง ข้าจะดูด้วยตัวเองถ้ามันเป็นข้อมูลที่สำคัญ และมอบรางวัลให้อีกถ้าคิดว่ามันเป็นข้อมูลที่ดี”

“พวกเจ้าต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองด้วย มิฉะนั้นข้าก็คงจะไม่สามารถมอบรางวัลดีๆ ให้กับพวกเจ้าได้”

โจวโจวกล่าว

ลู่หรูอี้และคนอื่นๆ ต่างก็อยู่ในระดับบรอนซ์เขียวเท่านั้น การมอบแกนหมอกระดับเงินขาวให้พวกเธอก็ถือว่าเป็นขีดจำกัดแล้ว มิฉะนั้นมันคงจะเป็นการเสียของเปล่าๆ ถ้าให้สิ่งที่พวกเธอไม่สามารถใช้งานได้ไป

มันไม่เลวเลยที่พวกเธอสามารถก้าวขึ้นมาสู่ระดับบรอนซ์เขียวได้ในระยะเวลาสั้นๆ เช่นนี้ แต่โจวโจวก็ย่อมหวังว่าพวกเธอจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก

เมื่อลู่หรูอี้และจางหลานเซิงได้ยินเช่นนี้ พวกเธอก็รู้สึกละอายใจและตื่นเต้นขึ้นมาทันที

พวกเธอเพิ่งได้รับแกนหมอกระดับเงินขาวมา 500 ชิ้น และใบเปลี่ยนอาชีพอีก 1,000 ใบ!

โจวโจวรู้สึกถูกจำกัดเมื่อให้รางวัลแก่พวกเธอเพราะความแข็งแกร่งของพวกเธอต่ำเกินไป

เขาต้องรวยขนาดไหนถึงพูดแบบนี้?

เมื่อได้ยินคำพูดของโจวโจว พวกเธอก็รู้สึกว่าเขากำลังเป็นกังวลเพราะเขาไม่รู้ว่าจะใช้แกนหมอกที่มียังไงดี

ซึ่งโจวโจวก็เป็นกังวลจริงๆ

เขามีแกนหมอกอยู่เป็นจำนวนมากในมือ การขายผลกำไรบางส่วนจากฟาร์มมอนสเตอร์ในทุกๆ วันก็ทำให้เขาได้แกนหมอกระดับเหล็กดำมากว่าสิบล้านชิ้นแล้ว

มันทำให้เขาร่ำรวยยิ่งขึ้นเมื่อรวมกับไอเท็มดรอปและผลกำไรอื่นๆ ที่ได้จากการต่อสู้ประจำวันภายใต้อิทธิพลของการดรอปอันสมบูรณ์แบบ

ดังนั้นเขาจึงต้องการใช้แกนหมอกเพื่อลองในทุกๆ อย่างที่เขาเห็น

มิฉะนั้นเขาคงจะไม่สามารถทำอะไรกับแกนหมอกที่มีอยู่ในมือได้เลย

เขาจะเก็บพวกมันไว้เฉยๆ ทำไม?

การใช้พวกมันต่างหากคือกุญแจสู่ความสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะมีแกนหมอกเป็นจำนวนมาก แต่เขาก็ไม่ได้ใช้พวกมันแบบสุ่มสี่สุ่มห้า

การเป็นคนรวยและการเป็นคนโง่นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

หลังจากนั้น โจวโจวก็คุยกับทั้งสองคนอีกสักพักก่อนที่จะบอกให้พวกเธอกลับไป ก่อนที่พวกเธอจะกลับไปนั้น เขาก็ได้บอกให้ทั้งสองไปตามเจิ้งฝูกุ่ยมาด้วย

เขาได้เห็นขบวนคาราวานเร้นลับกลับมาแล้วเมื่อเขากลับมา

เจิ้งฝูกุ่ยและคนอื่นๆ น่าจะเสร็จสิ้นภารกิจของวันนี้และกลับมาแล้ว

หลังจากนั้นไม่นาน เจิ้งฝูกุ่ยก็มาปรากฏตัวตรงหน้าของโจวโจว

“คาราวะท่านลอร์ด!” เขากล่าวออกมาด้วยความเคารพ

“กิจการวันนี้ของเจ้าเป็นยังไงบ้าง?” โจวโจวถามด้วยความสงสัย

“ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีขอรับ”

เจิ้งฝูกุ่ยกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

โจวโจวพยักหน้ารับ

นั่นก็สมเหตุสมผลดี เพราะใครจะกล้าขวางทางคาราวานเร้นลับกัน?

หลังจากนั้นเขาก็บอกถึงเรื่องทุกอย่างที่ได้รู้มาจากลู่หรูอี้

“ข้าจะพากองคาราวานไปยังแดนต้องห้ามพายุทรายในวันพรุ่งนี้เองขอรับ”

เจิ้งฝูกุ่ยพูดออกมาด้วยความเคารพทันที

โจวโจวพยักหน้าเล็กน้อย

“โอ้ใช่”

“การค้าในเมืองทรายทองคำเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว ในอนาคต เจ้าสามารถลองรวบรวมข้อมูลบางอย่างจากที่นั่นเพื่อใช้เป็นทิศทางในการทำการค้าดูได้” เขากล่าว

“ขอรับท่านลอร์ด” เจิ้งฝูกุ่ยกล่าวด้วยความเคารพ

เขารู้สึกว่ามีคนน้อยลงเรื่อยๆ ที่มองหาพวกเขาเพื่อทำการค้าในช่วงสองวันที่ผ่านมา

ด้านหนึ่งก็เป็นเพราะการผงาดขึ้นของเมืองทรายทองคำและการเปิดเส้นทางการค้า

อีกด้านก็เป็นเพราะคาราวานอื่นๆ ได้ปรากฏขึ้นในดินแดนและแย่งชิงส่วนแบ่งไปจากพวกเขา

กองคาราวานใหม่เหล่านี้ก่อตัวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติโดยชาวเมืองตะวันสาดแสงและชาวเมืองทรายทองคำเมื่อพวกเขามองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่ซ่อนอยู่ในเส้นทางการค้า

เจิ้งฝูกุ่ยและคนอื่นๆ ไม่ได้สนใจกลุ่มการค้าเล็กๆ แบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะมันจะได้มีคนมาแบ่งเบาภาระของพวกเขาไปบ้าง ดังนั้นพวกเขาจึงย่อมเต็มใจที่จะมอบเค้กชิ้นเล็กนี้ให้พวกเขากินเป็นธรรมดา

โจวโจวครุ่นคิด

ตอนนี้เขามีข้อมูลทั้งหมดสามช่องทาง

ช่องทางแรกก็มาจากทีมสำรวจของอู๋ตู่

ช่องทางที่สองมาจากทีมทหารรับจ้างดับดาราของลู่หรูอี้

และช่องทางที่สามมาจากคาราวานเร้นลับของเจิ้งฝูกุ่ย

อู๋ตู่รับผิดชอบข้อมูลแผนที่พื้นฐาน ลู่หรูอี้รับผิดชอบด้านเครือข่ายข้อมูล และเจิ้งฝูกุ่ยรับผิดชอบในการหาข้อมูลระดับสูง!

พวกเขาทั้งสามคนต่างก็มีวิธีการหาข้อมูลของตัวเองและแทบจะไม่ได้ซ้อนทับกันเลย และพวกเขาก็สามารถเติมเต็มซึ่งกันและกันได้ดีเลย

“ตอนนี้ฉันได้สร้างเครือข่ายข่าวกรองพื้นฐานแล้ว แต่มันยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นอยู่ดี มันน่าจะพัฒนาต่อไปได้อีกในอนาคต”

โจวโจวคิด

หลังจากนั้นเจิ้งฝูกุ่ยก็จากไป

จากนั้นไม่นาน

“รายงานท่านลอร์ด อาลีย่าและแอทลีย์ขอเข้าพบหน่อยเจ้าค่ะ!”

เสียงของมนุษย์แมวดังขึ้นจากด้านนอก

“เข้ามา”

โจวโจวอึ้งไปก่อนที่จะพูดออกมา

ในไม่ช้าสองพี่น้องมนุษย์แมวก็มาปรากฏตัวตรงหน้าของโจวโจว

“รายงานท่านลอร์ด พวกเรามาที่นี่เพื่อคอยรับใช้ท่าน”

อาลีย่าพูดอย่างจริงจัง

โจวโจว “...”

การเลือกใช้คำของพวกเธอเป็นเรื่องปกติมาก แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกแปลกๆ กัน?

หรือว่าฉันจะผิดปกติกันนะ?

“ที่นี่มีห้องรับแขกอยู่ พวกเจ้าไปพักอยู่ที่นั่นก็ได้”

เขาได้สติกลับมาและพูดออกมา

“เจ้าค่ะท่านลอร์ด”

พี่น้องมนุษย์แมวพูดออกมาด้วยความเคารพ

อาลีย่าค่อนข้างสงบนิ่งในขณะที่แอทลีย์ตื่นเต้นมาก

พวกเธอทั้งคู่เดินออกไปสักพักและกลับมาในเวลาไม่นาน

“ท่านลอร์ด พวกเราทำความสะอาดห้องของเราแล้ว!”

แอทลีย์พูดออกมาด้วยความตื่นเต้น

โจวโจวพยักหน้าก่อนที่จะจิบน้ำ เขาเงยหน้าขึ้นมองทั้งสองคนและแทบจะสำลักน้ำที่เพิ่งดื่มเข้าไปออกมา

“พวกเจ้าแต่งชุดอะไรเนี่ย?!”

เขามองไปที่เสื้อผ้าของพวกเธอและอึ้งไป

ในเวลานี้ สองพี่น้องมนุษย์แมวได้สวมชุดเมดสีขาวและดำแล้ว

พวกเธอสวมผ้าโพกศีรษะสีขาวและหูแมวสั่นๆ และผ้ากันเปื้อนที่ประดับด้วยขนนกและชุดเรียบๆ สีขาว

ภายใต้ชุดมีถุงน่องสีขาวประกอบกับรูปลักษณ์ที่ดูอ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวาและลักษณะเฉพาะตัวของเผ่ามนุษย์แมว มันทำให้พวกเธอดูน่ารัก บอบบาง และเซ็กซี่

สายตาของพวกเธอว่างเปล่า

“นี่เป็นชุด… ทำงานของสาวใช้นี่เจ้าคะ? เนื่องจากพวกเรามาคอยเป็นสาวใช้ให้กับท่านลอร์ด พวกเราก็ต้องสวมชุดที่เข้ากับหน้าที่สิเจ้าคะ นี่คือสิ่งที่แม่ทัพไป่บอกพวกเรามา แม่ทัพไป่กระทั่งบอกว่า… พวกเราต้องทำให้ท่านพึงพอใจอย่างถึงที่สุดถ้าท่านมีคำขออื่น” อาลีย่าพูดอย่างจริงจัง

แอทลีย์ก็มองมาที่โจวโจวด้วยความสงสัยด้วย

“ท่านลอร์ดต้องการอะไรเป็นพิเศษไหมเจ้าคะ?” เธอถามด้วยความคาดหวัง

โจวโจว “...”

ไป่อี้ เธอไปล้างสมองอะไรสองคนนี้กัน?!

“อืม… ตอนนี้ยังไม่มี พวกเจ้านั่งก่อนเถอะ”

โจวโจวเงียบไปชั่วขณะ และไม่รู้ว่าจะบอกให้พวกเธอทำอะไรดี

พวกเธอทั้งคู่นั่งลงข้างๆ โจวโจว

จากนั้นโจวโจวก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดยิ่งขึ้นไปอีก

บ้าเอ้ย

นี่หรือคือจุดเริ่มต้นของชีวิตของลอร์ดผู้ชั่วร้ายของฉันงั้นเหรอ?

“รายงานท่านลอร์ด อู๋ตู่ขอเข้าพบขอรับ!”

ในเวลานั้นเอง เสียงของอู๋ตู่ก็ดังขึ้นมาจากข้างนอก

“ไปพาเขาเข้ามา” โจวโจวพูดออกมาทันที

“เจ้าค่ะ!” อาลีย่าพยักหน้าและเดินออกไปจากห้องทันที

ในไม่ช้าเธอก็พาอู๋ตู่เข้ามาโจวโจว

หนุ่มน้อยมองไปยังอาลีย่าอย่างอึ้งๆ จากนั้นเขาก็มองไปที่โจวโจวด้วยความชื่นชมและความโล่งอก

โจวโจว “...”

อย่าเข้าใจฉันผิดนะเว้ย! ฉันยังบริสุทธิ์อยู่!

“ท่านลอร์ด ข้านำข้อมูลแผนที่ใหม่มาให้ขอรับ”

สีหน้าของอู๋ตู่กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

ในความรู้สึกของเขา มันเป็นเรื่องปกติสำหรับคนใหญ่คนโตอย่างลอร์ดที่จะมีสาวใช้ไว้คอยรับใช้

มันช้าไปแล้วด้วยซ้ำที่เขาเพิ่งมีสาวใช้มาคอยดูแล อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

จากนั้น เขาหยิบแผนที่ขนาดใหญ่และแผนที่ขนาดเล็กหลายแผ่นออกมาจากกระเป๋าของเขา และมอบให้โจวโจวด้วยความเคารพ

โจวโจวรับมันมาดู

Kaimah - ทรานสเลท (กลุ่มลับอ่านล่วงหน้า)