[ชื่อพรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์: ลมหายใจมังกรแห่งการทำลายล้าง]

[ระดับ: ระดับเทพแท้จริงขั้นสูง]

[รายละเอียด: ท่านสามารถปลดปล่อยลมหายใจมังกรที่มีออร่าของกฎเกณฑ์แห่งการทำลายล้างออกมาได้ สสารใดที่ถูกโจมตีโดยลมหายใจมังกรแห่งการทำลายล้างจะได้รับความเสียหายที่ไม่มีทางลบล้างได้]

[หมายเหตุ 1: ในฐานะลอร์ดแห่งจุดจบ พลังแห่งจุดจบที่สามารถยุติทุกสรรพสิ่งได้กำลังไหลเวียนอยู่ในร่างกายของท่าน ดังนั้นพลังของกฎเกณฑ์แห่งการทำลายที่อยู่ในลมหายใจมังกรแห่งการทำลายล้างของท่านก็จะถูกพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก!]

[หมายเหตุ 2: ท่านเข้าใจพลังของกฎเกณฑ์แห่งการทำลายล้างเล็กน้อย ความสามารถของมงกุฎแห่งจุดสิ้นสุดของท่านเพิ่มขึ้นเล็กน้อย!]

เมื่อโจวโจวเห็นเช่นนี้ เขาก็เลิกคิ้วขึ้นและเปิดข้อมูลความสามารถของมงกุฎแห่งจุดสิ้นสุดขึ้นมาดู

จากนั้นเขาก็พบว่าความสามารถแรกของมงกุฎแห่งจุดสิ้นสุดถูกพัฒนาขึ้นจริงๆ

[ความสามารถ 1: พลังแห่งจุดจบ—ในฐานะลอร์ดแห่งจุดจบ พลังแห่งจุดจบที่สามารถยุติทุกสรรพสิ่งได้กำลังไหลเวียนอยู่ในร่างกายของท่าน เมื่อท่านโจมตีสสารใดท่านมีโอกาส 20% ที่จะทำลายสิ่งนั้น เมื่อโจมตีสิ่งมีชีวิตใดท่านมีโอกาส 1% ที่จะสังหารมันได้ทันที]

“ความเป็นไปได้ที่จะทำลายสสารเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 20% มันเพิ่มขึ้นสองเท่าเลย”

โจวโจวประหลาดใจ

ดูเหมือนว่ากฎเกณฑ์แห่งการทำลายล้างและกฎเกณฑ์แห่งจุดจบจะมีความเข้ากันได้อยู่

จากนั้นเขาก็มองไปยังความสามารถต่อไป

[ชื่อพรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์: การควบคุมธาตุไฟ]

[ระดับ: ระดับเทพแท้จริงขั้นสูงประเภทเติบโต]

[รายละเอียด: พรสวรรค์ในการบ่มเพาะธาตุไฟของท่านเทียบได้กับเทพแห่งไฟกลับชาติมาเกิด มันมีสิ่งมีชีวิตน้อยมากในโลกหล้าที่สามารถเทียบกับท่านได้ ท่านสามารถเข้าใจความสามารถของทักษะธาตุไฟได้อย่างง่ายดายและยังมีโอกาสประมาณหนึ่งที่จะเข้าใจความสามารถของกฎเกณฑ์ธาตุไฟ เมื่อท่านฝึกฝนถึงระดับตำนานขั้นสูง ท่านจะสามารถจุติเป็นเทพธาตุไฟชั้นยอดได้อย่างง่ายดาย]

โจวโจวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

เขาพบอีกวิธีในการกลายเป็นเทพเจ้าในอนาคตแล้ว

จากนั้นเขาก็มองไปยังความสามารถต่อไป

[ชื่อทักษะประจำเผ่าพันธุ์: มอดไหม้สรรพสิ่ง]

[ระดับ: ระดับเทพชั้นต่ำขั้นสูง]

[รายละเอียด: ท่านคือราชาแห่งธาตุไฟ ภายใต้คำสั่งของท่าน ทุกสรรพสิ่งในโลกจะมอดไหม้!]

…

[ชื่อทักษะประจำเผ่าพันธุ์: ภูเขาไฟปะทุ]

[ระดับ: ระดับเทพชั้นต่ำขั้นสูง]

[รายละเอียด: ท่านสามารถอัญเชิญภูเขาไฟออกมาจากความว่างเปล่าและทำให้มันปะทุออกมาอย่างรุนแรงเพื่อทำลายทุกชีวิตในขอบเขตได้!]]

…

[ชื่อทักษะแห่งกฎเกณฑ์: กฎเกณฑ์แห่งการทำลายล้าง]

[ระดับ: ระดับเทพแท้จริงขั้นสูง]

[รายละเอียด: ท่านได้ก้าวเข้าสู่ธรณีประตูของกฎเกณฑ์แห่งการทำลายล้างและได้เข้าใจถึงร่องรอยของพลังแห่งการทำลายล้างที่เบาบาง เมื่อท่านใช้พลังแห่งการทำลายล้างเพื่อโจมตีสสารใดๆ ท่านสามารถทำให้สสารนั้นเสียหายแบบไม่สามารถฟื้นฟูได้!]

หลังจากโจวโจวเห็นความสามารถที่สายเลือดของเนซาริโอ้ปลุกขึ้นมา เขาก็มองดูความสามารถอื่นๆ ของสายเลือดเจ้ามังกรต่อ

[ชื่อพรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์: ร่างเจ้ามังกร]

[ระดับ: ระดับเทพชั้นต่ำขั้นสูง]

[รายละเอียด 1: ความแข็งแกร่งทางร่างกายและความแข็งแกร่งทางวิญญาณของท่านจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ท่านสามารถต้านทานสถานะเชิงลบต่างๆ ที่อยู่ต่ำกว่าระดับความแข็งแกร่งของท่านได้ นอกจากนี้ยังมีความต้านทานและทำให้สถานะเชิงลบที่มีระดับสูงกว่าความแข็งแกร่งของท่านอ่อนแอลงได้]

[รายละเอียด 2: ท่านมีความต้านทานต่อความสามารถในการสั่งตายได้ทุกชนิด!]

…

[ชื่อพรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์: พลังแห่งเจ้ามังกร]

[ระดับ: ระดับเทพชั้นต่ำขั้นสูง]

[รายละเอียด: ท่านมีพลังกายที่น่าสะพรึงกลัว! ไม่มีสิ่งมีชีวิตจากเผ่าพันธุ์ใดสามารถแข่งขันกับท่านในแง่ของความแข็งแกร่งได้]

…

โจวโจวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

อย่างที่บอกไป แม้ว่าเผ่าพันธุ์เจ้ามังกรจะปลุกพรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์ขึ้นมาแค่สองอัน แต่พรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์เหล่านี้ก็เรียกได้ว่าเป็นพรสวรรค์ชั้นยอดเลย

ร่างเจ้ามังกรช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายและจิตวิญญาณของเขาเป็นอย่างมากและยังทำให้เขามีภูมิคุ้มกันต่อความเสียหายประเภทสั่งตาย!

หน้ากากสุญญตาที่โจวโจวได้รับมาในอดีตก็มีความสามารถคล้ายๆ กัน

อย่างไรก็ตาม นั่นก็เป็นแค่ไอเท็มเท่านั้น สุดท้ายมันก็ยังไม่ใช่ความสามารถของเขาเองอยู่ดี

ส่วนพลังแห่งเจ้ามังกร มันทำให้เขาได้รับพลังที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งแทบจะไร้เทียมทานในบรรดาเผ่าพันธุ์ทั้งหลายเลย!

เจตจำนงสูงสุดได้ระบุไว้ว่าจะไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนในระดับเดียวกันกับเขาที่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้ในแง่ของความแข็งแกร่งหลังจากเขาได้รับความสามารถนี้มา

สิ่งนี้ช่วยแสดงให้เห็นว่าพลังนี้น่าสะพรึงกลัวแค่ไหน!

หลังจากใช้ไอเท็มทั้งสามชิ้นนี้แล้ว โจวโจวก็ไม่เสียเวลาอีกและมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ๆ หนึ่งทันที

จากนั้นเขาก็เห็นกองทัพของอาณาจักรตะวันสาดแสงและกองทัพของพันธมิตรดาราคอยท่าอยู่แล้ว

โจวโจวยิ้มออกมาเมื่อเขาเห็นทหาร 11 ล้านคน

ด้วยกองกำลังขนาดนี้ เขาไม่เชื่อว่าอาณาจักรรัตติกาลเห่าหอนจะต้านทานมันได้!

“วันนี้ เป้าหมายของพวกเราก็ยังเป็นอาณาจักรเหมือนเดิม! ข้าจะไม่เสียเวลาอีก ขึ้นไปบนยานบิน และไปกันเถอะ!”

หลังจากพูดออกมาไม่กี่ประโยค โจวโจวก็พาทหารขึ้นไปบนราตรีประดับดาวและมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรรัตติกาลเห่าหอน

…

บนยานบิน โจวโจวมองไปยังแผนที่ของอาณาจักรรัตติกาลเห่าหอน

ในฐานะอาณาจักรที่แข็งแกร่งที่สุดจากอาณาจักรทั้งสี่ อาณาจักรรัตติกาลเห่าหอนจึงมีขนาดดินแดนใหญ่ที่สุด

มันมีดินแดนภูมิภาคทั้งหมด 88 แห่ง!

ในจำนวนนี้ มันมีดินแดนภูมิภาคระดับเหนือสามัญ 2 แห่ง ระดับเพชร 8 แห่ง ระดับแพลตตินั่มขาว 25 แห่ง และระดับทองคำเหลือง 51 แห่ง!

มันไม่มีดินแดนภูมิภาคระดับต่ำกว่าระดับเงินขาวเลย!

นี่ย่อมเป็นเพราะอาณาจักรรัตติกาลเห่าหอนคงได้หลอมรวมดินแดนด้วยใบหลอมรวมดินแดน

อย่างไรก็ตาม มันก็จะเห็นได้เลยว่าอีกฝ่ายนั้นร่ำรวยแค่ไหนถึงสามารถทำได้แบบนี้

“ถ้าพวกเรามุ่งหน้าไปตามเส้นทางนี้ ที่แรกที่พวกเราจะไปถึงก็คือดินแดนระดับเพชรที่มีชื่อว่าเมืองแม่น้ำยมโลก”

โจวโจวมองดูแผนที่และเริ่มคิดถึงวิธีการต่อสู้

อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว

มันจะต้องใช้วิธีการต่อสู้อะไรอีก?

ด้วยจำนวนกองทัพที่มหาศาลเช่นนี้ เขาก็สามารถบดขยี้อีกฝ่ายได้ตรงๆ เลย

“รายงานฝ่าบาท! อู๋ตู่ขอเข้าพบขอรับ!”

ในเวลานั้นเอง เสียงของอู๋ตู่ก็ดังขึ้นจากนอกประตู

“เข้ามา”

โจวโจวกล่าว

ในขณะที่ประตูเปิดออกมา อู๋ตู่ก็เดินเข้ามาหาโจวโจว

สีหน้าของเขาจริงจัง ทำให้โจวโจวต้องผงะไป

โดยไม่รอให้เขาถาม อู๋ตู่ได้อธิบายเหตุผลที่ทำให้เขาทำสีหน้าจริงจังออกมาทันที

“ฝ่าบาท กองทัพวาดสวรรค์ของข้าเพิ่งส่งรายงานลับมาขอรับ พระสันตะปาปาแห่งอาณาจักรรัตติกาลเห่าหอนฟลอยด์ได้หวาดกลัวต่อความแข็งแกร่งของพวกเรา เมื่อคืน มันได้แอบร่วมมือกับกองกำลังต่างเผ่าพันธุ์ 16 อาณาจักร รวมทั้งอาณาจักรไททันด้วยเพื่อร่วมกันรับมือกับฝ่าบาทขอรับ!”

“16 อาณาจักรงั้นเหรอ?”

โจวโจวประหลาดใจเล็กน้อย

จำนวนขนาดนี้ถือว่าน่ากลัวอยู่นิดหน่อย

หมอนี่มีอิทธิพลขนาดนี้เลยเหรอ?

โจวโจวเกิดความสงสัยขึ้นมา

“มันย่อมไม่ได้มีอิทธิพลขนาดนั้น แต่มันได้ใช้ข้ออ้างว่าท่านเติบโตอย่างรวดเร็วเกินไปและยกเรื่องยุทธภัณฑ์เทวะประจำเผ่าพันธุ์ขึ้นมาขึ้นมาด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมี 16 อาณาจักรตัดสินใจร่วมมือกันจัดการกับพวกเรา”

อู๋ตู่กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

“พวกมันคืออาณาจักรขั้นต้นหมดเลยใช่ไหม? มันมีอาณาจักรขั้นกลางหรืออาณาจักรขั้นสูงอยู่ไหม? กองกำลังของพวกมันรวมกันมีจำนวนเท่าไร?”

โจวโจวถามคำถามที่เขาอยากรู้อย่างรวดเร็ว

“อาณาจักรทั้ง 16 แห่งล้วนแล้วแต่เป็นอาณาจักรขั้นต้น สำหรับจำนวนกองทัพของพวกมัน ตามรายงานของหน่วยข่าวกรอง เมื่อคืนพวกมันมีจำนวนรวมกันถึง 15 ล้านคน! ส่วนวันนี้ข้าเกรงว่ามันจะมีมากกว่านั้น” อู๋ตู่กล่าว

“มีข้อมูลอื่นอีกไหม? ไปสำรวจและรายงานมา”

“ขอรับ!” อู๋ตู่จากไป

โจวโจวนั่งลงและครุ่นคิด

สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจว่าแม้อีกฝ่ายจะมีกองกำลังเป็นจำนวนมาก แต่เขาก็จะพาลูกน้องของเขาเข้าปะทะกับอีกฝ่ายอยู่ดี

ประการแรก เนื่องจากอีกฝ่ายได้ร่วมมือกันแล้ว พวกมันคงจะโจมตีเขาในไม่ช้าก็เร็ว

เมื่อเป็นเช่นนี้ มันจึงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะถอยไปตอนนี้ เพราะมันคงจะทำให้อีกฝ่ายจองหองยิ่งขึ้นไปอีก

ประการที่สอง แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ แต่เขาก็มีวิธีล่าถอยโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ

เมื่อเป็นเช่นนั้น เขาก็ขอทดสอบความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายดูหน่อย

หลังจากคิดได้เช่นนี้แล้ว โจวโจวก็หยุดคิดและสั่งให้เหวินหยามั่งหน้าไปยังอาณาจักรรัตติกาลเห่าหอนต่อไป

หลังจากผ่านไปสักพัก ณ พรมแดนของอาณาจักรรัตติกาลเห่าหอน ดินแดนระดับเพชร—เมืองแม่น้ำยมโลก

โจวโจวและกองกำลังของเขามาถึงแล้ว