ตอนที่ 322 ปรามาจาร์ยดาบ

การแสดงออกของ หลิน ยู ก็เหมือนราชันคนอื่นๆ เขาประหลาดใจไม่น้อยเลย

แต่ในชั่วพริบตานั้น

จู่ๆ พลังของเขาก็เพิ่มขึ้น เหนือกว่าราชันคนอื่นๆ แม้กระทั่งการโจมตีของเขาก็ยังรุนแรงมากอีกด้วย

ทันใดนั้น ราชันที่อยู่ด้านล่างต่างรู้สึกมึนงง สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่มีโอกาศได้ตอบสนองมากนัก

หลิน ยู ที่อยู่บนแท่นได้พุ่งไปด้านหน้าของจิตวิญญาณนักรบ และฟันออกไปด้วยดาบทมิฬจิตวิญญาณเหมันต์ ไปยังอีกฝ่าย

ไม่ว่าดาบจะฟันไปที่ใด อุณหภูมิโดยรอบก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว ก่อตัวเป็นชั้นน้ำแข็ง

ราวกับพื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมดกำลังถูกแช่แข็ง

"กราวว!"

เสียงระเบิดดังขึ้น จิตวิญญาณนักรบก็ก้มลงเพื่อป้องกันแรงระเบิดนั้น พลิกตัวกระโดดขึ้นไปบนอากาศโดยอาศัยแรงเฉื่อย

โดยไม่คาดคิด มันหลบการโจมตีด้วยความว่องไวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ สร้างระยะห่างระหว่างหลิน ยู กับตัวมันเอง

ในเวลาเดียวกันก็ถือลูกศรไว้ในมือและดึงคันธนูเร่งเป้าไปยังพระจันทร์ที่อยู่ด้านบน

"บูมมม!"

สายธนูสั่นสะเทือน ลูกธนูพุ่งออกไปราวกับภูติผี เล็งไปที่คอของหลิน ยู

ความเร็วของลูกธนูไม่เร็วมาก แต่อากาศโดยรอบบิดเบี้ยวอย่างแปลกประหลาด

ร่างของ หลิน ยู ขยับไปทางซ้ายเล็กน้อย ลูกธนูก็ขยับตาม ราวกับล๊อกเป้าเขาเอาไว้

ลูกศรติดตาม

หลิน ยู ตกตะลึงไม่น้อย

เมื่อลูกธนูโจมตีใกล้ถึง เขาก็บังคับให้ร่างกายบิดตัวออกไปด้านข้างเพื่อหลบ

หวือ!

ลูกศรเฉียดร่างเขาไปนิดเดียว ผ่านหน้าเขาไป

จากนั้นมันก็บินวนย้อนกลับมาหาเขาอีกครั้ง

จากนั้นก็มีเสียงอื่นดังขึ้นจากด้านหลังของเขา

จิตวิญญาณนักรบปลดปล่อยการโจมตีที่รุนแรงอันน่าสะพรึงกลัวออกมา

ตามด้วยสกิลลูกศรติดตาม ติดตามเข้ามาทันที ปิดกั้นเส้นทางหลบหนีทั้งหมดของเขา

การทักษะการยิงธนูที่แม่นยำนี้ ทำให้เหล่าราชันที่อยู่ด้านล่างเกิดความโกลาหลทันที พวกเขาทั้งหมดถูกดึงดูดด้วยการโจมตีนี้

โดยไม่คาดคิด

พวกเขาคิดว่า หลิน ยู ได้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายแล้ว

ทันใดนั้น ร่างของเขาก็พร่ามัวกลายเป็นภาพติดตาพุ่งผ่านการโจมตี ตามด้วยเสียงที่ดัง "แกร๊กก" ลูกศรทั้งสองที่โจมตีออกมา ก็ถูกทำลายกระจายไปในอากาศ

"เร็วอะไรอย่างนี้!"

"เขาทำได้ยังไงกัน?"

เมื่อ มองไปที่ หลิน ยู ที่กลายเป็นภาพติดตา อยู่บนแท่น มีเสียงร้องดังมาจากด้านล่าง

แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังไม่รู้

ในเวลานี้ หลิน ยู ได้ใช้พลังแห่งกฏเพื่อเปิดใช้งานสกิล เงาเร้นลับ ของมังกรจักรพรรดิปิศาจ เพิ่มความเร็วของเขาไปอีกระดับหนึ่ง

มันเป็นเพราะชิ้นส่วนเทวะอีกด้วย

แม้ว่าความแข็งแกร่งพื้นฐานของเขาอาจจะไม่ดีเท่ากับราชันหน้าเก่าคนอื่นๆ

แต่ด้วยสกิลต่างๆที่เขา มี ทำให้เขาสามารถแสดงความสามารถออกมาได้ในระดับที่ไม่ด้อยกว่าหรืออาจจะเหนือกว่าเหล่าราชันหน้าเก่าเหล่านั้นด้วยซ้ำ

จิตวิญญาณนักรบไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย มันกระโดดถอยหลังออกไปทิ้งระยะห่างกับเขาอีกครั้ง

เมื่อกระโดดขึ้นไปบนอากาศ คันธนูก็ถูกดึงจนสุด เขาคิดว่าการโจมตีนี้ต้องทะลวงดวงอาทิตย์ได้อย่างแน่นอน แต่ทันใดนั้นก็มีลูกศรจำนวนมากลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า

ฝนดาวตก!

มันสกิลสร้างความเสียหายหมู่เฉพาะตัวของนักธนู

ขณะที่ หลิน ยู ยืนยิ่งอยู่นั้น เหนือหัวของเขาก็มืดครึม ลูกธนูจำนวนนับไม่ถ้วนก็ได้ตกลงมาปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดที่เขาอยู่

ถ้าโดนเข้าไปก็คงบาดเจ็บแต่ไม่ถึงตาย

แต่...

ดวงตาของ หลิน ยู หรี่ลง

ในเวลานี้ ผลของสกิลเงาเร้นลับยังคงอยู่ ด้วยความเร็วของสกิลระยะไกลนั้นจะโดนเขาได้อย่างไร?

เขาระเบิดฝีเท้าออกมา ทั่วร่างดั่งลูกธนูแหลมคมพุ่งออกไป ออกจากดงห่าฝนลูกธนูนี้

จิตวิญญาณนักรบไม่คิดว่าความเร็วของเขาจะรวดเร็วขนาดนี้ การทำให้ยิงธนู หยุดชะงักชั่วขณะ

ในตอนนั้นเอง

หลิน ยู ได้อาศัยโอกาสนี้ฟันดาบทมิฬจิตวิญญาณเหมันต์ในมือของเขาออกไป

"ฟั่บบ"

เสียงของร่างที่ถูกแยกดังขึ้น

จิตวิญญาณนักรบผู้ซึ่งยังคงถือธนูอยู่ในมือ ถูกตัดศรีษะและได้ตายลงทันที

[ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านผ่านการทดสอบชั้นที่ 6 สำเร็จ]

[ตอนนี้ท่านมีเวลาเตรียมตัว 10 นาที ท่านสามารถเลือกที่จะท้าทายต่อไปหรือเลือกที่จะยอมแพ้ได้]

เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นธนูกลับไปยังกลางแท่นอีกครั้งเพื่อให้รอผู้ท้าชิงคนต่อไปปรากฏตัว

หลิน ยู หายใจเข้าลึก และไปที่จะไปต่อโดยไม่เสียเวลา

หลังจากมาถึงระดับ 8 พลังแห่งกฏในร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งขึ้นมาก ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนที่สามารถใช้ได้เพียงไม่กี่สกิลพร้อมกัน

ผ่านไปไม่นาน

เขาก็ได้มุ่งหน้าไปยังแท่นชั้นที่ 7

เหล่าราชันที่อยู่ด้านล่างต่างมึนงง ใช้เวลาครู่หนึ่งในการตอบสนอง

"นี้มัน จบแล้ว?"

"เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น?"

"ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสกิลเร่งความเร็ว มันน่าจะเป็นสกิลดินแดนอะไรซักอย่าง?"

"ช่างเป็นสกิลที่เร่งความเร็วที่แข็งแกร่งเป็นบ้า"

"ข้าแทบมองไม่เห็นการเคลื่อนไหวของเขาเลย มันจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว"

"ฮึ่ม! เร็วแล้วยังไงละ มันไม่ง่ายที่จะผ่านในอีกสองสามชั้นที่เหลือหรอก!"

"ใช่ๆ"

ราชันเหล่านั้นที่พูดเหยียดเขาก่อนหน้านี้รู้สึกผิด

แต่มันก็เป็นความจริง ในชั้นถัดๆ ไป จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเก่า

จิตวิญญาณนักรบก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

อาศัยเพียงแค่ความเร็วอย่างเดียว ไม่มีพลังเริ่มด้วย ไม่มีทางชนะอย่างแน่นอน

แม้แต่ราชันหน้าเก่าที่เจนศึกอย่างพวกเขายังไปถึงแค่ชั้น 8 เท่านั้น

หากเขาต้องการก้าวไปให้สูงกว่านี้ เขาต้องเป้นราชันระดับสูงอย่าง หวู่ หยง หรือไม่ก็ต้องมีความสามารถพิเศษที่ทรงพลัง

"ปัง!!"

แต่ในขณะนั้นเอง ก็ได้มีเสียงปะทะอย่างรุนแรงดังขึ้นขัดจังหวะการพูดคุยของเหล่าราชัน

เมื่อพวกเขาเงยหน้ามองไปที่ๆมาของเสียง พวกเขาทั้งหมดก็ถึงกับตัวแข็งไปในทันที พวกเขาทุกคนราวกับเห็นผี

พวกเขามองไปยังแท่นชั้นที่ 8

หลิน ยู เก็บ ดาบทมิฬจิตวิญญาณเหมันต์ แหนบไว้ที่เอว

ตรงหน้าเขาคือค้อนทองแดงที่ตกลงสู่พื้นพร้อมกับจิตวิญญาณนักรบที่สลายไป

เหล่าราชันต่างตกตะลึงไปในทันที

"มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ จิตวิญญาณนักรบถึงสลายไป"

"เกิดอะไรขึ้น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!"

"ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อกี้ข้าก็ไม่ได้ดู"

"มันเป็นไปได้ยังไง ที่เขาจบการต่อสู้ในเวลาอันสั้นแบบนี้?"

"มันมีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับ ชายหนุ่มคนนี้"

ช่วงเวลานี้

ในที่สุดเหล่าราชันก็พากันตกตะลึง

พวกเขาคิดว่า หลิน ยู เป็นเพียงราชันหน้าใหม่จากโลกเล็กๆคนหนึ่ง จึงไม่ได้คิดว่าจะแข็งแกร่งขนาดนี้

ในเวลาเพียงแค่สิบนาที ความก้าวหน้าของเขาเทียบได้กับราชันคนอื่นที่มาถึงชั้นที่แปด เช่นเดียวกับ ชิง เฟิง และราชันชราอีกคน

มันได้ดึงดูดความสนใจจากเหล่าราชันทิศทางอื่นๆในทันที มีการโต้เถียงกันมากมายนัก

ชิงเฟิง และราชันคนอื่นๆ ต่างเป็นราชันหน้าเก่าที่เป็นที่รู้จักมานานแล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องพูดเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของพวกเขา

แต่ หลิน ยู นั้น แตกต่างออกไป

ราวกับเขาโผล่ออกมาจากไหนไม่รู้ จู่ๆ เขาก็บุกเข้าไปในสายตาของราชันทุกคนอย่างไม่ทันตั้งตัว

"อึก!.."

"ไอ้เจ้านั้น เขาสามารถผ่านชั้นที่ 8 ไปยังชั้นที่ 9 ได้เหมือนกับ หวู่ หยง จริงๆงั้นเหรอ?"

"ไม่น่าจะเป็นไปได้ ชั้นที่แปดนั้น เป็นจิตวิญญาณนักรบระดับ S เลยนะ"

"เดี๋ยวก่อนนะ! แล้วพวกที่พนันเมื่อกี้ละไปไหนแล้ว พวกเขาหายไปไหนกัน?"

"คงเพราะฉี่สไลม์ละมั้ง ฮ่าๆ"

ในไม่ช้าเสียงหัวเราะก็ดังกระจายไปทั่ว

ทิศทางอื่นๆบนลานประลอง

ชิง เฟิงที่กำลังนั่งพักผ่อน รวมถึงราชันชราก็มองไปที่ หลิน ยู ด้วยท่าทางเคร่งขรึม

เมื่อพวกเขาได้มาถึงที่นี้และได้สัมผัสวิญญาณนักรบเหล่านั้น พวกเขารับรู้ได้เลยว่ามันแข็งแกร่งเพียงใด

การที่จะสามาถทัดเทียมกับความเขาได้ เห็นชัดว่าความแข็งแกร่งของเขาไมไ่ด้อ่อนแอ่เลยแม้แต่น้อย

เขาอาจจะเป็นศัตรูตัวฉลากของพวกเขาสำหรับรางวัลสูงสุด

ต้องรู้ก่อนว่า

ชิงเฟิงมาที่นี้เพราะรางวัลสุดท้าย

เขาไม่ยอมให้ใครไปถึงจุดสูงสุดเร็วกว่าเขา รางวัลนี้มันควรจะเป็นของเขา

"เอาล่ะ มาดูกันผ่านมันได้ก่อนกัน"

ชิง เฟิง มองอย่างดุดันจากระยะไกล ชิงเฟิง ลุกขึ้นทันที ก้าวเดินอย่างรวดเร็วไปในยังกลางของแท่น เริ่มกับการท้าทายชั้นที่แปด

ราชันชราก็อยู่บนชั้นที่แปดเช่นกันไม่ได้ช้าเกินไปนัก เริ่มทำการท้าทายหลังจากนั้นไม่นาน

สำหรับ หลิน ยู เขาได้ใช้เวลาไปประมาณ 2 นาทีเพื่อฟื้นฟูพลังแห่งกฏ

เมื่อเขาพักผ่อนเสร็จสิ้นเขาก็ลุกขึ้น การต่อสู้ในชิง เฟิง ได้มาถึงจุดช่วงดุเดือดแล้ว

เท่าที่ตาเห็น ทั่วทั้งแท่นเต็มไปด้วยเปลวเพลิงและมีการระเบิดอย่างต่อเนื่อง

ชิง เฟิง ที่ล้อมรอบด้วยเปลวเพลิง กำลังต่อสู้กับวิญญาณนักรบที่อยู่ฝั่งตกข้าม มันเคลื่อนไปซ้ายไปขวาสลับกัน

ดูเหมือนว่าจะใช้เวลาไม่นานนักในการทะลวงผ่านชั้นที่ 8 ไปยังชั้นที่ 9

ต้องไปให้เร็วกกว่านี้

เมื่อครุ่นคิดดู

หลิน ยู ถอนสายตาของเขากลับมามุ่งหน้าเข้าไปท้าทายชั้นที่ 8

คู่ต่อสู้ของเขา

มันเป็นจิตวิญญาณนักรบที่ว่องไวถือมีดสองเล็ม ด้วยค่าสถานะของมันที่ถึงระดับ S

แต่บังเอิญถูกยับยั้งเอาไว้ด้วยธาตุน้ำแข็งของเขา

หลังจากต่อสู้วนอยู่รอบแท่นไม่กี่นาที ในที่สุดเขาก็คว้าโอกาศและสังหารได้สำเร็จ

เช่นเดียวกับ ชิง เฟิง เขาขึ้นไปยังชั้นที่ 9 ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก

ตรงกันข้าม

กับราชันหน้าเก่าพวกเขาย่ำแย่อย่างมาก

แม้ว่าพวกเขาจะผ่านเข้าสู่ชั้นที่ 9 ได้ แต่ร่างกายของพวกเขาเต็มไปบาดแผล มันจะแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์ในเวลาเพียงแค่ 10 นาที

ดังนั้นหลังจากที่ลังเลไม่นาน เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจากไปอย่างไม่เต็มล้มเลิกการท้าทาย

ทันใดนั้นก็เหลือเพียง หลิน ยู และ ชิง เฟิง ที่อยู่แท่นระดับสูง มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่สามารถมาถึงระดับนี้ได้ต่อจาก หวู่ หยง

ในชั่วพริบตาเดียว มันก็กลายเป็นจุดสนใจของเหล่าราชัน พวกเขากำลังถกเถียงเรื่องต่างๆ พากันเดาว่าใครในหมู่พวกเขาจะผ่านไปสู่จุดสูงสุดได้

ท่ามกลางฝูงชน

หวู่ หยง ที่กำลังฟื้นตัวอยู่นั้น จ้องมองอย่างเย็นชาไปที่ หลิน ยู ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนแท่นเพื่อฟื้นฟูพลังกลับมา

ตั้งแต่ตอนที่เขาพ่ายแพ้บนแท่นนั้น

เขาต้องการดูว่าจะมีใครที่ผ่านไปถึงระดับที่ หวู่ หยง ไม่สามารถผ่านไปได้

"หวู่ หยง เจ้าคิดว่าชายคนนั้นจะผ่านไปได้ไหม"

ในเวลานี้ จากการสอบถามของเหล่าสหายของเขาจะทางด้านข้าง

เช่นเดียวกับราชันคนอื่นๆ พวกเขามองยัง หลิน ยู ที่อยู่บนแท่นด้วยความอยากรู้อยากเห็น

"ข้าจะไปรู้ได้ยังไงกัน?"

หวู่ หยง ตอกกลับอย่างเย็นชาไม่สนใจพวกเขาอีก

อย่างไรก็ตาม เขาจ้องมองไปยังแท่นท้าประลองอย่างตั้งใจ เฝ้ามองทุกย่างก้าวของ หลิน ยู

หลังจากนั้นไม่นาน

ในที่สุด หลิน ยู และ ชิง เฟิง ก็พักผ่อนเสร็จสิ้นและลุกขึ้นเกือบจะพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังใจกลางแท่น

เผ่าพฤกษานั้นดีกว่าเป็นไปไหน

ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งและความสามารถในการฟื้นตัวที่ดีเยี่ยม เขาใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีในการฟื้นฟูให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง ทำให้ ชิง เฟิง ที่อยู่อีกด้านหนึ่งถึงกับขมวดคิ้ว

แต่

ตัวเขาไม่ได้หยุดลง เช่นเดียวกับ หลิน ยู เข้าหยิบอาวูะและหายไปบนแท่นตามลำดับ

จากนั้นก็มีแสงสว่างขึ้น

คู่ต่อสู้ของเขาค่อยๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา คว้าอาวุธเอาไว้

[ชื่อ: จิตวิญญาณนักรบ (บอส)]

[เผ่าพันธุ์: อันเดด]

[ระดับ: ระดับ 8 (ระดับ SS)]

[ความแข็งแกร่ง: 2400 (+2160)]

[ร่างกาย: 2400 (+2160)]

[ความว่องไว: 2400 (+2160)]

[วิญญาณ: 2400 (+2160)]

[ทักษะ: ดาบแสง , หัวใจดาบ , คนดาบรวมเป็นหนึ่ง ]

[พลังความโกลาหล : ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 90%]

[หมายเหตุ : จิตวิญญาณของวีรบุรุษเปลี่ยนไปโดยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ เขาเชี่ยวชาญให้การใช้ดาบ ไม่ค่อยได้เจอกับคู่ต่อสู้มากนัก ]

เช่นเดียวกับ หวู่ หยง

สิ่งที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของ หลิน ยู คือ จิตวิญญาณนักรบระดับ SS พร้อมกับดาบ

และแม้แต่คำอธิบายก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน

มันเป็นเรื่องผิดปกติ จริงๆ

สิ่งที่หลิน ยู ไม่คาดคิดก็คือ

ขณะที่เขากำลังตรวจสอบข้อมูลอยู่นั้น จิตวิญญาณนักรบก็พูดออกมา