บทที่ 84 ความลับของกระบี่ โลกสูญสวรรค์
ในขณะนี้ เสียงกล่าวสรรเสริญซุยเฮ็งก็ดังขึ้นราวกับคลื่นสึนามิ มันดังไปจนถึงสวรรค์ชั้นเก้า มันได้หลอมรวมเข้ากับพลังปราณสีม่วงจากทิศตะวันออกราวกับว่าแม้แต่สวรรค์ก็ยังยกย่องสรรเสริญเขา
ซุยเฮ็งซึ่งยังคงอยู่ในห้องทำงานของเฉินตงสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงภายนอกในทันที
เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงแสงสีแดงและสีขาวจำนวนนับไม่ถ้วนที่พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง มันทำให้แสงสองดวงรอบแก่นแท้ทองคำของเขาสว่างขึ้นมากในทันที
แสงสีแดงที่แสดงถึงความสุขเพิ่มขึ้นมา 1 ดวงครึ่งและแสงสีขาวที่แสดงถึงความรักก็เพิ่มขึ้นมา 2 ดวงครึ่ง!
นี่หมายความว่าแสงสีแดงและสีขาวนั้นได้ก้าวข้ามผ่านธรณีประตูใหม่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม เขาจะยืนยันการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ก็ต่อเมื่อเขาได้ทำความเข้าใจมันอย่างรอบคอบแล้วเท่านั้น
และในขณะนี้ แม้ว่าซุยเฮ็งจะมีความสุขมาก แต่เขาก็ไม่มีเวลาพอที่จะเข้าใจการเปลี่ยนแปลงนี้ นี่เป็นเพราะเขาสัมผัสได้ถึงความคิดอันเลือนรางและพร่ามัวจากกระบี่เมฆาม่วง
เจตจำนงของเจียงฉีฉี!
นี่คือข้อความที่เธอสลักไว้ในกระบี่
เขาสามารถสัมผัสถึงมันได้ก็หลังจากเมื่อเขาเปิดใช้งานมันแล้วเท่านั้น
โชคไม่ดี มันอาจเป็นเพราะเวลาได้ผ่านไปนาน ดังนั้นข้อมูลเหล่านี้จึงเลือนรางไปเล็กน้อย
[ พี่ใหญ่เซียน… ระวัง… โลกสูญสวรรค์…]
ซุยเฮ็งสัมผัสได้ถึงข้อมูลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แต่ถึงกระนั้น ในขณะนี้ เขาก็สัมผัสได้ถึงความผันผวนเชิงมิติ ราวกับว่าเขาได้ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 200 ปีที่แล้ว
“ ระวัง… โลกสูญสวรรค์?”
ซุยเฮ็งไตร่ตรองเกี่ยวกับข้อมูลชิ้นนี้ในใจของเขา ทั้งสองอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกัน แต่มันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโลกสูญสวรรค์นั้นจะต้องมีความสำคัญอย่างยิ่งอย่างแน่นอน
“ บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับ ‘โลกเบื้องบน’ และสาเหตุที่ทำให้เจียงฉีฉีต้องปิดผนึกภูเขา”
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็มองไปที่เฉินหยิงซึ่งยังคงตกอยู่ในความตกใจ และถามว่า “ เจ้ารู้เกี่ยวกับโลกสูญสวรรค์หรือไม่?”
“ โลก… โลกสูญสวรรค์?” เฉินหยิงสะบัดหัวไปมาราวกับว่าเธอเพิ่งฟื้นคืนสติและยังไม่ตื่นเต็มที่
ไม่นาน ดวงตาของเธอก็กลับมาสดใสอย่างรวดเร็วในขณะที่เธอพยักหน้าและพูดว่า “ ใช่ ข้าเคยได้ยินท่านอาจารย์พูดถึงเรื่องนี้มาก่อน ว่ากันว่ามันเป็นสถานที่ที่อันตรายเป็นอย่างยิ่ง คนข้างในนั้นเองก็อันตรายมากเช่นกัน หากเราพบเงื่อนงำใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับโลกสูญสวรรค์ที่โลกภายนอก เราก็จะต้องกลับไปและรายงานให้กับท่านอาจารย์ทราบโดยเร็วที่สุด”
“ มันเกี่ยวข้องกับสาเหตุที่สำนักเซียนอรุณปิดผนึกภูเขาหรือเปล่า?” ซุยเฮ็งขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ ท่านอาจารย์ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ และสาเหตุในการปิดผนึกภูเขาเองก็ยังคงเป็นความลับอยู่” เฉินหยิงส่ายหัวของเธอเล็กน้อย “ อย่างไรก็ตาม ข้าก็เดาว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับโลกสูญสวรรค์ไม่มากก็น้อย”
“ ทำไมล่ะ?” ซุยเฮ็งมองไปที่เฉินหยิงด้วยความประหลาดใจ
“ ข้าเดาได้หลังจากถามท่านอาจารย์ไปเรื่อยๆ” เฉินหยิงหมุนผมบนหน้าผากของเธอและพูดว่า “ ตามบันทึกของสำนัก ท่านผู้ก่อตั้งก็ได้หายตัวไปเมื่อร้อยปีก่อน และภูเขาก็ได้ถูกปิดตายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา”
“ ว่ากันว่านางได้ฝากคำเตือนเอาไว้ก่อนที่นางจะหายตัวไป นางกล่าวว่า ‘สำนักเซียนอรุณควรละทางโลกและควรมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนร่างกายและจิตใจของเราเป็นหลัก’ และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาปิดผนึกภูเขา อย่างไรก็ดี ข่าวเรื่องโลกสูญสวรรค์เองก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อร้อยปีที่แล้วเช่นกัน ดังนั้นแล้วมันจะไม่มีการเชื่อมต่อกันเลยได้อย่างไร”
“ อืม เป็นการคาดเดาที่สมเหตุสมผลมาก” ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้และถามต่อว่า “ เจ้าเพิ่งบอกว่าผู้ก่อตั้งสำนักของเจ้าหายตัวไปสินะ?”
“ ใช่แล้ว” เฉินหยิงพยักหน้าและพูดว่า “ ข้าถามท่านอาจารย์เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว อย่างไรก็ตาม ข้าก็รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ ในตอนนั้น วรยุทธ์ของนางก็อาจกล่าวได้ว่าอยู่ยงคงกระพันที่สุดในโลก แบบนั้นแล้วจู่ๆ คนแบบนางจะหายตัวไปได้อย่างไร?”
“ เจ้าคิดว่าสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับโลกสูญสวรรค์ด้วยไหม” ซุยเฮ็งถาม
“ มันต้องเกี่ยวข้องกันแน่นอน” เฉินหยิงกล่าวด้วยความมั่นใจ จากนั้นเธอก็พูดต่อว่า “ แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้ออกมาจากภูเขานานแล้ว ดังนั้นข้าจึงไม่พบเงื่อนงำใดๆ ที่เชื่อถือได้ในขณะนี้ นอกจากนี้ ข้าก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโลกสูญสวรรค์นั้นหมายถึงอะไร”
“ แล้วเราจะได้รู้กัน” ซุยเฮ็งดูเหมือนจะครุ่นคิดอะไรได้บางอย่างก่อนที่เขาจะยิ้มและพูดว่า “ ทำไมเจ้าถึงตอบสิ่งที่ข้าถามเมื่อกี้ล่ะ? ก่อนหน้านี้มันไม่ใช่แบบนี้นี่”
“ เป็นเพราะพลังปราณสีม่วงจากทิศตะวันออกที่ทอดยาว 9,999 เมตร” เฉินหยิงชี้ไปที่พลังปราณสีม่วงที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าและพูดด้วยสีหน้าจริงจังอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ “ นี่คือข้อความที่ท่านผู้ก่อตั้งสำนักได้ทิ้งเอาไว้ให้พวกเราผู้ถือครองกระบี่โดยเฉพาะ”
“ กระบี่เซียนทั้งห้าที่ถูกทิ้งไว้โดยท่านผู้ก่อตั้งสำนักนั้นมีจิตวิญญาณเป็นของมันเอง และมันก็จะเลือกเจ้านายด้วยตัวของพวกมันเอง ดังนั้นแล้ว ทันทีที่เราเป็นผู้ถือครองกระบี่ ฉากปรากฏการณ์กระบี่เซียนก็จะปรากฏขึ้นในใจของเรา และในเวลาเดียวกัน มันก็จะมีคนบอกว่าถ้าเราเจอคนที่สามารถกระตุ้นให้เกิดปรากฏการณ์นี้ได้ เราก็จะสามารถไว้ใจคนๆ นั้นได้โดยไม่ต้องสงสัย”
“…” ซุยเฮ็งเงียบลง
ตอนนี้เขาสามารถยืนยันได้อย่างคร่าวๆ แล้วว่าสิ่งที่เรียกว่ากระบี่เซียนทั้งห้านี้น่าจะเป็นข้อมูลที่เจียงฉีฉีทิ้งเอาไว้
ร้อยปีก่อน เจียงฉีฉีน่าจะต้องประสบเข้ากับปัญหาอย่างใหญ่หลวง ดังนั้นเธอจึงต้องเลือกที่จะจากไป
และด้วยเหตุนี้เอง เธอจึงทิ้งกระบี่เซียนทั้งห้าเล่มนี้ไว้เป็นข้อความส่งท้ายของเธอ
เงื่อนไขในการเปิดใช้งานปรากฏการณ์กระบี่เซียนก็คือการที่พลังปราณของเขาจะต้องสัมผัสกับเจตจำนงของเจียงฉีฉีที่ประทับอยู่ในกระบี่เมฆาม่วง
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อดูจากโครงสร้างของกระบี่เมฆาม่วง เพียงแค่เขาสัมผัสกับมัน มันก็เพียงพอแล้วที่จะก่อให้เกิดปรากฎการณ์นี้
และหากออร่าของพลังปราณนั้นแตกต่างกันออกไป มันก็จะไม่สามารถกระตุ้นปรากฏการณ์กระบี่เซียนได้
“ สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการผสมผสานระหว่างพลังปราณและพลังวิญญาณ ดังนั้นเธอก็จะต้องอยู่ที่ขอบเขตก่อเกิดรากฐานขั้นกลางแล้วก่อนที่เธอจะหายตัวไป?”
ซุยเฮ็งรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ท้ายที่สุดแล้ว ในตอนที่เขาสร้างศาสตร์กระบี่เซียนอรุณขึ้นมา เขาก็เพิ่งจะบุกทะลวงเข้าสู่ขอบเขตก่อเกิดรากฐานขั้นกลางเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เอง ขอบเขตสูงสุดของศาสตร์กระบี่เซียนอรุณจึงควรจะเทียบได้กับขอบเขตก่อเกิดรากฐานขั้นต้นเท่านั้น
อย่างไรก็ดี เขาก็ปฏิเสธการคาดเดานี้อย่างรวดเร็ว
นี่เป็นเพราะกระบี่เมฆาม่วงนี้มีพลังปราณของเจียงฉีฉีตกค้างอยู่ และเห็นได้ชัดว่ามันเทียบได้กับขอบเขตสกัดปราณขั้นเก้าเท่านั้น
เธอยังไปไม่ถึงขอบเขตก่อเกิดรากฐาน!
“ เธอคิดหาวิธีที่จะหลอมรวมพลังวิญญาณของเธอเข้ากับพลังปราณได้ตั้งแต่ตอนยังอยู่ที่ขอบเขตสกัดปราณขั้นเก้าอย่างงั้นหรอ?” ซุยเฮ็งแทบอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง
หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ เธอก็คงจะฉลาดยิ่งกว่าเขาเสียอีก
อัจฉริยะคืออะไร?
นี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่าอัจฉริยะ!
“ ท่านผู้ว่าการ?” เสียงอันเป็นกังวลของเฉินหยิงปลุกซุยเฮ็งขึ้นมาจากภวังค์ “ ท่านผู้ว่าการ ทำไมจู่ๆ ท่านถึงเงียบไปล่ะ”
“ ข้าแค่กำลังคิดถึงบางสิ่ง” ซุยเฮ็งยิ้ม หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะในขณะที่เขาถามว่า “ เจ้าช่วยพาข้าไปที่สำนักเซียนอรุณทีจะได้ไหม?”
เขาต้องการจะพบปะกับผู้ถือครองกระบี่อีกสี่คน
“ ข้าเกรงว่าจะไม่” เฉินหยิงส่ายหัวและพูดว่า “ ท่านผู้ว่าการ ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย สำนักของข้าได้ปิดผนึกภูเขาและปฏิเสธผู้มาเยือนทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะผู้ถือครองกระบี่ ข้าก็ไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของท่านต่อทางสำนักได้”
“ เจ้าเปิดเผยตัวตนของข้าต่อสำนักไม่ได้?” ซุยเฮ็งรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “ หรือว่าเจ้าจะได้รับคำสั่งเพิ่มเข้ามาอีกหลังจากได้ครอบครองกระบี่?”
“ ใช่แล้ว” เฉินหยิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
“ อืม ข้าเข้าใจแล้ว” ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อย
เขาสามารถคาดเดาเจตนาของเจียงฉีฉีได้อย่างคร่าวๆ แล้ว มันเป็นไปได้มากว่าเธอจะกังวลเกี่ยวกับสายลับในสำนักของเธอ ดังนั้นถ้าเธอเผลอเปิดเผยตัวตนของเขาออกไป เขาก็อาจจะถูกปองร้ายเอาได้
“ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง มันก็แสดงว่าปัญหาที่เจียงฉีฉีต้องเผชิญหน้าเมื่อร้อยปีก่อนนั้นก็จะต้องรับมือได้ยากมากอย่างแน่นอน” ซุยเฮ็งคิดกับตัวเอง “ เธอคงจะคิดว่ามันอาจจะคุกคามฉันได้ สิ่งนี้มันเกี่ยวข้องกับโลกสูญสวรรค์ด้วยรึเปล่านะ?”
ในตอนนั้น ระดับความแข็งแกร่งในการต่อสู้ที่เขาแสดงออกมาต่อหน้าเจียงฉีฉีนั้นก็ไม่ได้อ่อนแอเลย กระบี่ของเขาสามารถแทงทะลุและตัดผ่านหมู่เมฆในระยะทางสามถึงสี่ลี้ได้
ในต้าจินแห่งนี้ ตราบใดที่เขาต้องการ มันก็เพียงพอแล้วที่เขาจะลบทั้งจักรวรรดิให้หายไป
ถึงอย่างนั้น เจียงฉีฉีก็ยังคงกังวลว่าเขาจะได้รับอันตราย
“ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเจียงฉีฉีสามารถเตรียมการทุกอย่างเอาไว้ได้ก่อนที่เธอจะจากไป ดังนั้นมันก็หมายความว่าชีวิตของเธอไม่น่าจะตกอยู่ในอันตรายมากนักในตอนนั้น”
ซุยเฮ็งคิดกับตัวเองว่า “ ในกรณีนี้ ฉันก็ยังสามารถรอจนกว่าฉันจะรู้อะไรเกี่ยวกับโลกสูญสวรรค์เพิ่มเติมได้”
ในตอนนี้ การตรวจสอบโลกสูญสวรรค์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แน่นอนว่ามันอาจจะเป็นโลกเบื้องบนที่เขาคิดไว้แต่แรกก็ได้
ยิ่งไปกว่านั้น เวลาที่โลกเบื้องบนลงมาทุกๆ ร้อยปีนั้นก็ยังเกิดขึ้นพร้อมกันกับตอนที่สำนักเซียนอรุณตัดสินใจที่จะปิดผนึกภูเขาเมื่อร้อยปีก่อน
“ ถ้าฉันต้องการที่จะเข้าใจโลกเบื้องบน ฉันก็จะต้องได้รับตำแหน่งผู้ว่าการรัฐมาครอง หรือไม่ก็…” ซุยเฮ็งหันไปมองทางหยานโจว “ ฉันต้องไปถามเอาจากพวกเขา...”
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved