โจวโจวรู้สึกงุนงงขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
พวกเขาเพิ่มอันดับเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?
พูดตามหลักการแล้ว ไม่ใช่ว่าทุกคนที่เพิ่งเข้าร่วมสมรภูมิสรรพเผ่าพันธุ์จะมีโอกาสเพียงครั้งเดียวในการจัดอันดับเหรอ?
ยกตัวอย่างเช่น ความจริงที่ว่าผู้เที่ยงแท้แห่งเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดสามารถเลื่อนอันดับขึ้นมาเป็นอันดับทองคำเหลืองขั้นสูงด้วยเวลาอันสั้นเช่นนี้ก็หมายความว่ามันได้ประลองไปแล้วทั้งหมด 12 ครั้งในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง!
แล้วโอกาสในการท้าประลองอีก 11 ครั้งที่เหลือ มันไปหามาจากไหน?
เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะและคาดเดา
อีกฝ่ายอาจจะเริ่มโจมตีดินแดนของลอร์ดคนอื่นๆ หรือลอร์ดสีชาดก่อนที่สมรภูมิสรรพเผ่าพันธุ์จะเริ่มขึ้น
หลังจากกิจกรรมเริ่มขึ้นแล้ว ดินแดนที่ถูกโจมตีเหล่านั้นก็ถูกพิชิตอย่างรวดเร็ว ทำให้ลอร์ดชั้นยอดเหล่านี้มีโอกาสมากมายในการเลื่อนอันดับ
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมอันดับของลอร์ดพวกนี้ถึงเพิ่มขึ้นไวขนาดนี้ในช่วงเวลาสั้นๆ
“ฉันเกรงว่าอีกไม่นานลอร์ดระดับเทวะคนแรกคงจะได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว” โจวโจวคิด
พูดตามตรง ในขณะที่เขารู้ว่าความแตกต่างระหว่างเขากับลอร์ดระดับแนวหน้าเหล่านี้อาจกว้างมาก แต่เขาก็ไม่คาดคิดว่ามันจะเป็นช่องว่างขนาดใหญ่เช่นนี้
เขายังอยู่แค่ในอันดับเหล็กดำขั้นกลาง ในขณะที่อีกฝ่ายอยู่ในอันดับทองคำเหลืองขั้นสูงแล้ว
เขาส่ายหัวและหยุดคิดถึงมัน
เขาตกใจเล็กน้อย แต่เขาก็ยังมั่นใจมากเกี่ยวกับอนาคตของเขาด้วยพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเทวะของเขา
หลังจากนั้นเขาก็เปิดรายชื่อเพื่อนขึ้นมาและเปิดแชทคุยกับหลิงเอ๋อร์
[เจ้าตะวันสาดแสง: เธอประลองไปหรือยัง?]
[เจ้าสมุนไพรเทวะ: พี่ หนูเพิ่งประลองเสร็จ ว้าว! หนูเจอกับกลุ่มสไลม์น่ารักๆ มา!]
[เจ้าสมุนไพรเทวะ: แต่หนูก็ยังให้ทหารไปฆ่าพวกมันอยู่ดี]
[เจ้าตะวันสาดแสง: ใช่แล้ว ทำได้ดีมาก อย่าไปสงสารศัตรู การเมตตากับศัตรูจะเป็นการทำร้ายตัวเองและลูกน้องของตัวเองเปล่าๆ]
[เจ้าสมุนไพรเทวะ: ค่าๆ พี่เป็นยังไงบ้าง? พี่ก็คงจะชนะเหมือนกันใช่ไหม?]
[เจ้าตะวันสาดแสง: ใช่ ฝั่งพี่ก็ราบรื่นเหมือนกัน]
เมื่อโจวโจวพิมพ์สิ่งนี้ลงไป เขาก็ครุ่นคิดอะไรบางอย่างก่อนที่จะพิมพ์ลงไปอีก
[เจ้าตะวันสาดแสง: ในอนาคตมาตั้งทีมกันเถอะ พวกเราสองคนร่วมมือกันน่าจะมีโอกาสชนะสูงขึ้น]
[เจ้าสมุนไพรเทวะ: แต่… หนูอ่อนแอมากเลยนะ หนูอาจจะเป็นภาระของพี่ก็ได้]
[เจ้าตะวันสาดแสง: ทำไมเธอยังพูดแบบนี้อีกในเมื่อเธอเรียกฉันว่าพี่ชาย? ฟังฉันก็พอน่า]
[เจ้าสมุนไพรเทวะ: ขอบคุณค่ะพี่! พี่สุดยอดที่สุดเลย!]
[เจ้าตะวันสาดแสง: โอเค]
การตัดสินใจของโจวโจวไม่ได้ไม่มีเหตุผล
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา หลิงเอ๋อร์ได้ส่งสมุนไพรมาให้เขาทุกวันด้วยจำนวนที่มากขึ้นเรื่อยๆ
ทหารของเขาเติบโตอย่างรวดเร็วมาก แต่เขาก็ไม่เคยเป็นกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนยาแม้ในสถานการณ์เช่นนี้เลย
เหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือปริมาณสมุนไพรที่หลิงเอ๋อร์ให้มานั้นไม่เคยทำให้เขาผิดหวังเลย
นอกจากนี้ สมรภูมิสรรพเผ่าพันธุ์ยังได้เริ่มขึ้นแล้ว
ไม่เพียงแต่ลอร์ดจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินของเขาเท่านั้นที่ต้องต่อสู้กันจากภายใน แต่แรงกดดันจากเผ่าพันธุ์ภายนอกนั้นยังเพิ่มขึ้นด้วย
เขารู้ว่ามันยากที่จะยืนหยัดอยู่ผู้เดียว
เขาไม่อาจเป็นลอร์ดจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินที่แข็งแกร่งอยู่เพียงผู้เดียวได้!
เขาจำเป็นต้องมีพันธมิตร
เขาไม่สามารถไว้วางใจลอร์ดคนอื่นๆ ได้ และเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะพึ่งพาลอร์ดคนอื่นๆ
แต่โจวโจวก็สนิทสนมกับหลิงเอ๋อร์แล้ว
ในฐานะผู้ถือครองพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับตำนานและแม่พระของเขา เขาในตอนนี้ย่อมรู้สึกว่าเธอเป็นคนที่เขาสามารถเลี้ยงดูในฐานะพันธมิตรได้
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเสนอที่จะจับคู่กับเธอ
ความสามารถในการสนับสนุนของเธอแข็งแกร่งมากในขณะที่ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเธอยังค่อนข้างอ่อนแอ การร่วมมือกันจึงจะเป็นการเติมเต็มซึ่งกันและกัน
จากนั้นเขาก็เริ่มพิมพ์กลับไปอีกครั้ง
[เจ้าตะวันสาดแสง: ในระหว่างนี้พยายามให้ทหารไปพิชิตดินแดนของเผ่าพันธุ์อื่นๆ หรือดินแดนของลอร์ดสีชาดให้ได้มากที่สุดเพื่อหาตราดินแดนนะ ด้วยวิธีนี้ เธอจะได้ซื้อไอเท็มในร้านค้าสมรภูมิได้]
[เจ้าตะวันสาดแสง: พี่ลองดูในร้านค้าแล้ว พวกมันเป็นไอเท็มที่ค่อนข้างดีเลย]
[เจ้าสมุนไพรเทวะ: ค่าๆ รู้แล้วน่าพี่ หนูพิชิตดินแดนของลอร์ดสีชาดไปสามแห่งแล้ว หนูวางแผนที่จะพิชิตดินแดนของลอร์ดสีชาดประจำภูมิภาคของหนูในเร็วๆ นี้แหละ]
โจวโจวอึ้ง
จากนั้นเขาก็อดส่ายหัวไม่ได้
ดูเหมือนเขาจะปฏิบัติต่ออีกฝ่ายเหมือนเด็กและต้องการสั่งสอนเธอเกี่ยวกับทุกสิ่งไปหน่อย
อย่างไรก็ตาม หลิงเอ๋อร์ก็เป็นเด็กที่ฉลาดมาก เธอสามารถคิดอะไรก็ได้ตามที่เขาคิดได้เหมือนกัน
[เจ้าตะวันสาดแสง: พี่ไม่เห็นเธอเคยพูดอะไรบนกระดานสนทนาเลย เธอไม่ได้ขายสมุนไพรของเธอในตลาดซื้อขายเลยเหรอ?]
[เจ้าสมุนไพรเทวะ: สมุนไพรของหนูพอให้พี่แค่คนเดียว]
[เจ้าตะวันสาดแสง: …เธอไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ พรสวรรค์แห่งลอร์ดของเธอแข็งแกร่งมาก เธอสามารถสร้างชื่อให้กับตัวเองในตลาดซื้อขายได้แม้ว่าจะไม่ได้เปิดเผยตัวออกไป ด้วยวิธีนี้เธอจะได้หาแกนหมอกมาพัฒนาดินแดนได้]
[เจ้าตะวันสาดแสง: ถ้าเป็นไปได้ เธอยังสามารถรวบรวมสูตรยาและเมล็ดสมุนไพรบนกระดานสนทนาได้อีกด้วย เธออาจจะไม่ได้ใช้มันในวันนี้ แต่ในอนาคตจะต้องได้ใช้แน่]
[เจ้าสมุนไพรเทวะ: ก็ได้ค่ะ หนูจะเชื่อฟังพี่!]
จากนั้นทั้งสองคนก็คุยกันต่อสักพักก่อนที่จะแยกย้ายกันไป
โจวโจวมองไปยังเนื้อหาของการสนทนาของพวกเขาและรู้สึกกดดันเล็กน้อย
หลิงเอ๋อร์พึ่งพาเขามากเกินไป
เขาไม่ได้ปฏิเสธการพึ่งพานี้ แต่เขารู้สึกว่าการพึ่งพานี้ไม่ดีสำหรับหลิงเอ๋อร์เท่าไร
ถึงกระนั้น…
“ฉันไม่สามารถตั้งความคาดหวังให้กับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ได้เหมือนกับที่ฉันคาดหวังกับผู้ใหญ่ เธอทำได้ดีมากแล้ว”
โจวโจวส่ายหัว
จากนั้นเขาก็เปิดกระดานสนทนาขึ้นมาเพื่อดูปฏิกิริยาของพวกลอร์ด
อย่างไรก็ตาม โจวโจวก็อึ้งไปเมื่อเขาเห็นประโยคแรกของพวกลอร์ด
[ทำไมอันดับลอร์ดถึงติดลบ 1??]
[ติดลบ 1 จะหายากอะไร? ฉันนี่ติดลบตั้ง 2 (ร้องไห้)]
[อย่าบอกฉันนะว่าพวกเรากำลังไต่อันดับติดลบกัน?]
[เป็นไปได้]
[บ้าเอ้ย! ฉันคิดว่าพวกเราจะแพ้ได้สักสามยกเนื่องจากเราสามารถต่อสู้ได้อีกสามครั้งและจะสามารถเข้าถึงอันดับบรอนซ์เขียวได้ถ้าพวกเราโชคดี พวกเราคงจะไม่ตายใช่ไหมถ้าแพ้สามรอบติดต่อกัน?]
[ทำไมเจตจำนงสูงสุดจะต้องให้พวกเราฉวยโอกาสด้วย?]
[ทำไมเผ่าพันธุ์อื่นถึงแข็งแกร่งกันขนาดนี้? มันมีเพื่อนลอร์ดหลายคนในรายชื่อเพื่อนของฉันที่ไม่สามารถเอาชนะลอร์ดจากเผ่าพันธุ์อื่นได้และอันดับติดลบไปแล้ว]
[นี่อาจจะดูชั่วร้ายไปหน่อย แต่ฉันก็ยังแนะนำให้ลอร์ดที่ไม่มั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองให้ต่อสู้กันเองก่อนเถอะ การต่อสู้กับเผ่าพันธุ์อื่นไม่ใช่สิ่งที่ลอร์ดทั่วๆ ไปจะทำได้]
[ฉันจะเริ่มเดี๋ยวนี้แหละ!]
[ทุกคนสู้ๆ นะ!]
[พวกลอร์ดระดับแนวหน้าก็ช่างมีความกล้าหาญแบบลอร์ดระดับแนวหน้าจริงๆ ฉันเพิ่งดูอันดับของลอร์ดประจำเผ่าพันธุ์และตระหนักได้ว่าลอร์ดระดับแนวหน้าส่วนใหญ่ไม่ติดอันดับเลย พวกเขาน่าจะต่อสู้อยู่ในสมรภูมิสรรพเผ่าพันธุ์แล้ว]
[ฉันก็เห็นเหมือนกัน ฉันไม่คิดเลยว่าเจ้าอัศวินจะติดอันดับหนึ่งในการจัดอันดับของเรา เจ้าอัศวินนี่ช่างหน้าด้านจริงๆ]
[ฮ่าๆๆๆ เจ้าอัศวินช่างหน้าด้านจริงๆ เขาได้ดูเจ้าตะวันสาดแสง นางพญามังกร ท่านจ้าว ลอร์ดเทพมังกร และคนอื่นๆ เป็นตัวอย่างไหม?]
[เจ้าอัศวิน: ฉันพึ่งพาความแข็งแกร่งของฉันเพื่อได้ตำแหน่งนี้มา พวกนายมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน? ถ้าพวกนายมีความสามารถพอก็มาแย่งตำแหน่งไปจากฉันสิ ถ้าเจ้าตะวันสาดแสงและคนอื่นๆ ไม่นั่งในตำแหน่งนี้ ทำไมฉันจะทำไม่ได้?]
[นายช่างหน้าด้านจริงๆ ที่พูดแบบนี้ออกมาได้]
[ฉันยินดีที่จะเรียกนายว่าเป็นคนที่หน้าด้านที่สุดเลย]
…
“เจ้าอัศวิน?”
โจวโจวคิดอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะนึกขึ้นมาได้
เมื่อลอร์ดจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินมาถึงทวีปจื้อเกาเป็นครั้งแรก คนผู้นี้ได้โด่งดังขึ้นมาในไม่กี่วันเพราะเขาได้เปิดเผยบนกระดานสนทนาว่าเขามีพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเพชร โถงอัศวิน ซึ่งสามารถบ่มเพาะอัศวินวิญญาณศึกขึ้นมาได้
หลังจากนั้นนางพญามังกรและคนอื่นๆ ถึงเริ่มค่อยๆ โด่งดังขึ้นมา และคนผู้นี้ก็ค่อยๆ จางหายไปจากสายตาของลอร์ดคนอื่นๆ
ในภายหลัง ดูเหมือนว่าคนผู้นี้จะได้ก่อตั้งสภาอัศวินขึ้นมาและมีชื่อเสียงขึ้นมาอีกครั้งเมื่อพันธมิตรเพิ่งได้รับความนิยมขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม โจวโจวก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับเขามาก
เขาไม่คาดคิดเลยว่าวันนี้เขาจะกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม วิธีที่เขาได้รับชื่อเสียงมาก็ช่าง…
โจวโจวส่ายหัว
เขาได้ต่อสู้กับเผ่าพันธุ์ของตัวเองเพื่อโชว์พรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเพชรออกมาแทนที่จะต่อสู้กับเผ่าพันธุ์อื่น โจวโจวไม่เห็นด้วยกับวิธีการของเขาเลย
แต่ทุกคนก็ย่อมมีทางเลือกเป็นของตัวเอง
โจวโจวไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้ และเขาจะไม่เข้าไปยุ่งโดยไม่มีเหตุผล
ในเวลานั้นเอง เขาก็เห็นคอมเมนต์ของลอร์ดที่ไม่เคยเห็นที่ทำให้เขาต้องหรี่ตาลง
[เจ้าพายุ: เจ้าอัศวินอาจจะหน้าด้าน แต่ก็ไม่ได้โหดเหี้ยมเท่ากับเจ้าตะวันสาดแสง เจ้าอัศวินได้ต่อสู้กับเผ่าพันธุ์ของตัวเองในสมรภูมิ แต่เจ้าตะวันสาดแสงได้โจมตีเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ในโลกแห่งความเป็นจริง นอกจากนี้นี่ยังไม่ใช่ครั้งแรกด้วย ทุกคน โปรดจงดูให้ดี]
หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็อัพโหลดภาพหน้าจอของรายชื่อเพื่อนของเขา
มันแสดงชื่อของเจ้าขวากหนาม
อย่างไรก็ตาม ชื่อนี้ก็ได้ดับแสงไปแล้ว
[เจ้าพายุ: สหายเจ้าขวากหนามผู้น่าสงสารได้ตายลงอย่างน่าเศร้าด้วยเงื้อมมือของเจ้าตะวันสาดแสง!]
มันมีคอมเมนต์จำนวนมากมายตามมา
[ฉันสามารถบอกได้ว่าเจ้าตะวันสาดแสงเป็นคนแบบไหนจากตอนที่เขาจัดการกับเจ้าอิทธิฤทธิ์ ฉันไม่ประหลาดใจเลยที่เขาจะทำแบบนั้นอีก]
[สมรภูมิแห่งลอร์ดอาจจะโหดเหี้ยม แต่ก็ไม่จำเป็นต้องโหดเหี้ยมขนาดนั้นเลยหนิ? เขาฆ่าคนไปทั้งแบบนั้นเลยเหรอ?]
[ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ]
[ทุกคนต้องระวังเจ้าตะวันสาดแสงนะ! ไม่ใช่ว่าเขาจะโจมตีลอร์ดจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินคนอื่นอีกเหรอถ้าวันนี้เขาโจมตีเจ้าอิทธิฤทธิ์และเจ้าขวากหนามได้?]
[ไม่มีทาง? ไม่มีทาง? มันยังมีคนกล้าอ้างชื่อของเจ้าอิทธิฤทธิ์อีกเหรอ?]
…
โจวโจวมองดูชื่อของเจ้าพายุ
เขารู้จักคนผู้นี้
เจ้าขวากหนามได้พูดถึงชื่อของคนผู้นี้เมื่อเขาเล่าถึงแผนการ
คนผู้นี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งสมาคมทลายตะวันที่วางแผนจะจัดการกับเขา
“ดูเหมือนว่าเจ้าขวากหนามจะไม่ได้เป็นบทเรียนให้กับคนพวกนี้เลย พวกมันยังมาวุ่นวายกับฉันอีก”
โจวโจวคิด
สำหรับเหตุผลที่อีกฝ่ายใส่ร้ายเขาและแพร่กระจายข่าวลือแบบนี้ออกไป แม้จะใช้นิ้วเท้าคิดก็คิดออก
อีกฝ่ายน่าจะกลัวว่าสักวันหนึ่งเขาจะได้ต่อสู้กัน ดังนั้นเขาจึงอยากใช้วิธีนี้ดึงดูดคนเข้ามายังสมาคมทลายตะวันมากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและเพิ่มพันธมิตร
ด้วยวิธีนี้พวกเขาก็จะเริ่มบุกโจมตีโจวโจวได้หลังจากที่มีพลังมากพอ
เมื่อคิดได้เช่นนี้ สีหน้าของโจวโจวก็เย็นวาบขึ้นมา
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved