บทที่ 218 : ตำหนักนักบุญสวรรค์
แม้ว่าพวกเขาจะฟื้นตัวในเวลาต่อมา แต่คนเหล่านี้ก็ยังคงหวาดกลัวจนเหงื่อแตก ผู้ที่มีเจตจำนงอ่อนแอนั้นหวาดกลัวจนถึงขนาดคุกเข่าลงกับพื้น
พวกเขาแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความสยดสยอง
ความรู้สึกเมื่อกี้คืออะไร?
หลี่หมิงเฉียงร่อนลงมาอย่างช้าๆ เธอยืนอย่างมั่นคงบนพื้นและค่อยๆ ลืมตาขึ้น
เธอรู้สึกว่าสภาพร่างกายของเธอนั้นดีเยี่ยมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เธอมีความแข็งแกร่งทางร่างกายอย่างล้นเหลือ จิตใจที่แจ่มใส ร่างกายที่แข็งแรง และนอกจากนี้ เธอก็ยังมีพลังวิญญาณที่มหาศาลจนแทบจะไม่มีที่สิ้นสุด นี่คือสถานะในปัจจุบันของเธอ
แก่นแท้วิญญาณทองได้ถูกสร้างขึ้นแล้ว!
ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของขอบเขตหรือความแข็งแกร่ง เธอก็เทียบได้กับผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นแท้ทองคำขั้นปลายแล้ว
แม้ว่าเธอจะไม่ใช่ผู้ฝึกตนที่ขัดเกลาแก่นแท้ทองคำอย่างแท้จริง แต่เธอก็ยังมีข้อได้เปรียบมากมายเหนือเซียนทองของโลกใบนี้
แน่นอน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลี่หมิงเฉียงจะสามารถมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุขได้อีกอย่างน้อยหนึ่งพันปี
เธอจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการตายอย่างกะทันหันอีกต่อไป
“ หมิงเฉียง เจ้ารู้สึกยังไงบ้าง?” ซุยเฮ็งถามด้วยรอยยิ้ม
“ แข็งแกร่งมาก! ท่านอาจารย์ ท่านน่าทึ่งมากจริงๆ!” หลี่หมิงเฉียงตรวจสอบสภาพร่างกายของเธอและอดไม่ได้ที่จะกล่าวชื่นชม “ ข้าไม่เคยรู้สึกดีขนาดนี้มาก่อน ร่างกายของข้ารู้สึกโล่งและสบายมาก”
นี่คือความสุขจากการทะลวง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอติดอยู่ในขอบเขตนี้มาเป็นเวลาหลายสิบปีและต้องทนทุกข์ทรมานกับแรงกดดันทางจิตใจอย่างมากในทุกๆ วัน ความเจ็บปวดที่เธอได้รับมาตลอดหลายปีที่ผ่านมานั้นยิ่งใหญ่มาก
ในตอนนี้ เธอก็ได้ปลดปล่อยพันธนาการของเธอแล้ว ด้วยเหตุนี้เอง เธอจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เธอรู้สึกถึงความชัดเจนและความสบายใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
“ ต่อไปก็ใช้เวลารวบรวมการฝึกตนของเจ้า และเจ้าก็จะสามารถรักษาเสถียรภาพได้อย่างสมบูรณ์” ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อยและยิ้ม “ เอาล่ะ ไปกันเถอะ ตามข้าออกไปพบฉิงซู”
ในตอนนี้ หลี่หมิงเฉียงก็รู้สึกตื่นเต้นมาก เธอไม่สามารถระงับรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เธอพูดอย่างมีความสุข “ ค่ะอาจารย์!”
“ เดี๋ยวก่อนนะ” ซุยเฮ็งดูเหมือนจะคิดอะไรได้บางอย่าง เขาหันกลับไปมองที่หลี่หมิงเฉียงแล้วยิ้ม “ ฉิงซูเคยพูดกับเจ้าว่าอะไร? เขาเป็นศิษย์พี่ของเจ้าหรือเจ้าเป็นศิษย์พี่ของเขา?”
“ เรียนท่านอาจารย์ เดิมทีเขาเรียกข้าว่าศิษย์น้องอยู่เสมอ” หลี่หมิงเฉียงยิ้มเล็กน้อยเมื่อเธอได้ยินสิ่งนี้ และดวงตาของเธอก็เปล่งประกายด้วยความภาคภูมิใจ “ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เขากได้ส่งจดหมายฉบับล่าสุดมาให้กับข้า มันเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนว่าเขาเรียกข้าว่าศิษย์พี่”
“ ฮ่าฮ่าฮ่า เข้าใจแล้ว!” ซุยเฮ็งพยักหน้าและยิ้ม “ นั่นสินะ”
จากนั้นทั้งสองก็เดินออกมาจากโถงรับแขก
เขาเห็นเป่ยฉิงซูและหยูเว่ยกำลังรออยู่ข้างนอก
“ ท่านอาจารย์!” เมื่อเป่ยฉิงซูเห็นทั้งสองคนเดินออกมา เขาก็รีบเดินเข้าไปและถามว่า “ ท่านอาจารย์ พลังวิญญาณที่ทรงพลังเมื่อกี้นี้คือ…”
“ ข้ากำลังช่วยศิษย์พี่ของเจ้าทะลวงขอบเขต” ซุยเฮ็งพยักหน้าและอธิบายว่า “ ตอนนี้ศิษย์พี่ของเจ้าได้สร้างแก่นแท้วิญญาณทองและได้รับคุณสมบัติของเซียนทองมาแล้ว ขอบเขตของนางเปรียบได้กับขอบเขตเซียนขั้นที่ห้า”
“ ขอบเขตเซียนขั้นที่ห้า?! เซียนทอง!” ดวงตาของเป่ยฉิงซูเบิกกว้างเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ เขามองไปที่หลี่หมิงเฉียงด้วยความเหลือเชื่อและพูดด้วยความตกใจสุดขีด “ เจ้า เจ้าเป็นเซียนทองแล้วหรอ!”
“ ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณความช่วยเหลือของท่านอาจารย์ มิฉะนั้นมันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะบรรลุถึงจุดนี้” หลี่หมิงเฉียงส่ายหัวของเธอเบาๆ และยิ้ม “ ศิษย์น้อง อันที่จริง ตราบใดที่เจ้าทำงานหนักพอในอนาคต เจ้าก็จะประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน”
“ ศิษย์น้อง?” เป่ยฉิงซูตกตะลึงเล็กน้อย
จากนั้น เขาก็สังเกตเห็นว่าซุยเฮ็งเองก็เรียกอีกฝ่ายว่าเป็นศิษย์พี่หญิงของเขาเช่นกัน
เป่ยฉิงซูเปิดปากของเขาและพยายามจะอธิบาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาคิดถึงจดหมายฉบับก่อนหน้านี้ของเขา เขาก็ทำได้เพียงปิดปากของเขา
ในท้ายที่สุด เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดกับตัวเองว่า “ เจ้าหนูเยว่จื่อ ข้าจะจัดการตีก้นเขาซะให้เข็ดเมื่อข้ากลับไป!”
...
ในส่วนลึกของภูเขาที่ซึ่งฮั่วซื่อกำลังเฝ้าอยู่ มันก็มีเพียงความเงียบงัน
หลังจากที่เย่หยุนสัมผัสได้ว่ามี “เซียนทองครึ่งขั้น” กำลังรอเขาอยู่ข้างนอก เขาก็ตกอยู่ในความตื่นตระหนก
เขาแทบรอไม่ไหวที่จะบอกข่าวนี้กับทุกคนและเรียกรวมกำลังเพื่อมาทำลายเซียนทองครึ่งขั้นนี้
นี่ไม่ใช่แค่เพื่อปกป้องพลังอำนาจของสำนักเซียนเท่านั้น แต่ยังเพื่อป้องกันตัวพวกเขาเองจากการถูกกัดกร่อนด้วยพลังที่แปลกประหลาดนี้ และกลายเป็นเซียนทองที่ไม่มีวันตาย
อย่างไรก็ตาม เขาก็เพิ่งจะกลับมาจากที่นั่นได้ไม่นาน ดังนั้นถ้าเขาตรงกลับไปเลย มันก็จะทำให้หัวหน้าของพวกเขาไม่มีความสุขแน่นอน
ด้วยเหตุนี้เอง หลังจากฟื้นคืนชีพเสร็จ เย่หยุนจึงรออีกสิบวันก่อนที่จะเปิดใช้งานค่ายกลเคลื่อนย้ายสีทองที่อยู่ในตำหนักกลาง
เมื่อเขารู้ตัวอีกครั้ง เขาก็ได้มาถึงสถานที่ซึ่งผูกพันกับเขามากว่า 6,000 ปีแล้ว
นี่เป็นสถานที่ว่างเปล่า นอกจากค่ายกลเคลื่อนย้ายที่อยู่ใต้เท้าของเขาแล้ว มันก็ไม่มีอะไรอื่นอีก ราวกับว่ามันเป็นพรมแดนของโลกและไม่มีอะไรอื่นอยู่เลย
อย่างไรก็ดี เย่หยุนก็สามารถเห็นคำใบ้ได้อย่างชัดเจน
ในความว่างเปล่า เส้นทางลึกลับก็ได้นำทางเขาไปข้างหน้า
ตราบเท่าที่เขาก้าวไปข้างหน้า เขาก็จะสามารถข้ามผ่านความว่างเปล่าที่ไม่มีที่สิ้นสุดได้โดยธรรมชาติ และเมื่อเขาออกมาจากความว่างเปล่านี้ เขาก็ได้มาถึงหน้าตำหนักขนาดใหญ่
ตำหนักแห่งนี้วิจิตรงดงามมาก ทุกตารางนิ้วงดงามราวกับว่ามันมีความจริงของโลกแฝงเอาไว้อยู่
มีดอกไม้และพืชแปลกๆ งอกขึ้นอยู่โดยรอบ และกลิ่นหอมก็โชยเข้าจมูก โลกถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีแดงและสีทอง
มันเป็นดินแดนของเทพเซียนอย่างแท้จริง
มีแผ่นป้ายแขวนอยู่ที่ทางเข้าหลักของห้องโถงซึ่งมีคำสามคำสลักเอาไว้อยู่
“ ตำหนักนักบุญสวรรค์”
แม้ว่าเย่หยุนจะเคยมาที่นี่หลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกประหม่าทุกครั้งที่มาที่นี่
นี่คือสถานที่ที่เปลี่ยนชะตากรรมของเขาไปโดยสิ้นเชิง
เมื่อ 6,500 ปีที่แล้ว สถานที่แห่งนี้ก็ยังคงถูกเรียกว่าตำหนักเอกาสวรรค์
ที่นี่ เขาได้ขัดเกลาเทวรูปธรรมของเขาด้วยความช่วยเหลือของเทพศักดิ์สิทธิ์เทียนเหอและประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนขั้นสี่และกลายเป็นเทพลึกลับ
และในที่สุด เขาก็สามารถกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกหลักของตำหนักเอกาสวรรค์ได้
และพันปีหลังจากนั้น เขาก็ได้รับภารกิจครั้งแล้วครั้งเล่าจากที่นี่ เขาเอาชนะกองกำลังท้องถิ่นของโลกสูญสวรรค์อย่างต่อเนื่อง
เขาแข็งแกร่งขึ้นและเลือดเย็นขึ้น
ในพันปีนั้น สิ่งมีชีวิตมากกว่า 30% ที่ตายลงไปในโลกสูญสวรรค์ก็ล้วนถูกฆ่าโดยเขา
อย่างไรก็ตาม ตราบเท่าที่เขาสามารถได้รับการยอมรับจากหัวหน้าของเขาได้ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงรางวัลธรรมดาๆ แต่เย่หยุนก็ยังรู้สึกว่าทุกอย่างคุ้มค่า
และทั้งหมดนี้ก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อ 3,700 ปีที่แล้ว
ศิษย์สามัญของสำนักเอกาสวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์รู้เพียงว่าในเวลานั้น เทพศักดิ์สิทธิ์เทียนเหอไม่ได้ตอบสนองต่อคำอธิษฐานของพวกเขาอีกต่อไป
แต่สำหรับเย่หยุน เขาก็ได้เห็นการตายของเทพศักดิ์สิทธิ์เทียนเหอมากับตาตัวเอง
ใช่แล้ว เมื่อ 3,700 ปีก่อน เทพศักดิ์สิทธิ์เทียนเหอผู้ครองจักรวาลมานานกว่า 5,000 ปีได้เสียชีวิตลงในตำหนักนักบุญสวรรค์
และก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลง เขาก็ได้มอบแก่นแท้เซียนทองในร่างกายของเขาให้กับลูกชายของเขา เขาปล่อยให้เทพศักดิ์สิทธิ์หนุ่มซึ่งแต่เดิมเป็นเพียงเทพลึกลับได้กระโดดข้ามไปสู่ขอบเขตเซียนทองครึ่งขั้น
และเมื่อ “ เทพศักดิ์สิทธิ์หนุ่ม” ผู้นี้ประสบความสำเร็จในการย่อยแก่นแท้เซียนทองในอีกร้อยปีต่อมา เขาก็ได้กลายเป็นเซียนทองที่แท้จริง
เขาเป็นที่รู้จักกันในฐานะยอดนักบุญสวรรค์
อย่างไรก็ตาม ยอดนักบุญสวรรค์นั้นก็แตกต่างจากบิดาของเขา เขาไม่ได้สนใจสำนักเอกาสวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์มากนัก และเขาก็ไม่ได้ตอบรับคำอธิษฐานของผู้ศรัทธาของเขาอีกต่อไป นอกจากนี้ เขาก็ยังสั่งให้สำนักเอกาสวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์เปลี่ยนกลายเป็นสำนักยุทธ์ มิฉะนั้นแล้วเขาก็จะตัดการสนับสนุนทั้งหมด
เย่หยุนสามารถทำได้เพียงทำตามที่เขาบอกเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ในเวลานั้น อายุขัยของเขาก็ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว และเขาก็เหลือเวลาเพียงอีกไม่มาก เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะโต้เถียงอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา เย่หยุนและเทพลึกลับอีกเก้าคนก็ได้รับโอกาสครั้งใหญ่จากดาวเคราะห์ที่เชื่อมต่อกับโลกสูญสวรรค์ พวกเขาได้รับส่วนหนึ่งของเนื้อแท้เซียนทองมาครองและได้รับอายุขัยที่แปลกประหลาด ความคิดของพวกเขาเปลี่ยนไป พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาเป็นผู้ที่ทำลายโลกสูญสวรรค์ไปมากกว่าครึ่ง เกือบครึ่งหนึ่งของเสบียงที่ตำหนักนักบุญสวรรค์ต้องการเป็นเวลาหลายพันปีนั้นมาจากพวกเขา
โลกสูญสวรรค์นี้ควรเป็นมรดกที่เทพศักดิ์สิทธิ์เทียนเหอทิ้งเอาไว้ให้กับพวกเขา
มันไม่ควรมีใครแตะต้องหรือครอบครองมันได้!
ใครก็ตามที่กล้าทำสิ่งนี้จะต้องตาย!
และในตอนนี้ “เซียนทองครึ่งขั้น” ที่ไม่ทราบที่มาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน
แน่นอนว่าพวกเขาต้องทำการรวบรวมกำลังทั้งหมดเพื่อทำลายเขา
โชคดีที่ตำหนักนักบุญสวรรค์ยังถือว่าโลกสูญสวรรค์นั้นยังเป็นอาณาเขตของตำหนักและจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะขจัดสิ่งรบกวนจากภายนอกทั้งหมดออกไป
และสำหรับเย่หยุนแล้ว นี่ก็เป็นพลังที่เขาสามารถยืมมาใช้ได้
ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงคุกเข่าอยู่ที่หน้าประตูของตำหนักนักบุญสวรรค์และทำความเคารพ “ เย่หยุนแห่งสำนักเอกาสวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์ขอแจ้งท่านยอดนักบุญสวรรค์ เซียนทองครึ่งขั้นลึกลับได้รุกรานโลกสูญสวรรค์แล้ว!”
เสียงของเขาดังและชัดเจนมาก
ในไม่ช้า เสียงที่ไม่แยแสและเย็นชาก็ดังมาจากในตำหนัก เสียงนี้ทำให้คนๆ หนึ่งรู้สึกหวาดกลัวอย่างอดไม่ได้
“ เข้ามา”
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved