ในยุคมหาภัยพิบัติ พืชพันธุ์มากมายบนดาวสีน้ำเงินเกิดการกลายพันธุ์

วัฒนธรรมชาของจีนโบราณและวัฒนธรรมกาแฟของตะวันตกได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

ไม่ก็เป็นพิษ ไม่ก็รสชาติเปลี่ยนไปจนดื่มไม่ลง

เพิ่งจะไม่กี่ปีมานี้เอง งานปรับปรุงพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องจึงเริ่มได้ผล สามารถสร้างรสชาติดั้งเดิมขึ้นมาใหม่ได้

แต่เมื่อหลี่เชียนเย่นำชาเขียวที่เขาเก็บสะสมมาเสิร์ฟให้หลินอี้ หลินอี้ลองจิบแล้วก็วางลงทันทีโดยไม่แสดงอาการใดๆ

แกเรียกนี่ว่าชาดีเกรดสะสมงั้นเหรอ?

ทำไมมันมีกลิ่นผักชีด้วย!

ทนไม่ไหวแล้ว!

หลังจากนั้น หลินอี้ก็ไม่แตะถ้วยชานั้นอีกเลย

หลังจากคุยเล่นกับหลี่เชียนเย่ไปสักพัก ในที่สุดรางวัลของหลินอี้ก็มาถึง

"หลินอี้ คะแนนคุณความดีแห่งต้าเซี่ย 1,000 คะแนนได้บันทึกลงในบัญชีของนายแล้ว"

"ระบบแลกคะแนนและการใช้งานเชื่อมต่อกับตลาดการค้าในเมืองหลักทั่วประเทศ นายสามารถดูรายการและแลกของได้ที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศ"

"แล้วก็อันนี้" หลี่เชียนเย่วางกล่องไม้จันทน์ลงตรงหน้าหลินอี้

เมื่อหลินอี้เปิดออก เขาก็เห็นผลึกวิญญาณหลากสีที่เปล่งแสงสีม่วงอ่อนๆ อยู่ข้างใน ดวงตาของเขาเปล่งประกายขึ้นทันที

"นี่คือ ผลึกพรสวรรค์ระดับ A ของเจ้า ปกติผลึกประเภทนี้จะเก็บไว้ในห้องเก็บของล้ำค่า และรักษาด้วยวิธีพิเศษ แต่ถึงกระนั้นก็มีอายุการเก็บรักษาแค่ประมาณครึ่งปีเท่านั้น"

"ตอนนี้มันถูกนำออกมาแล้ว รีบใช้ซะก่อนที่ฤทธิ์ของผลึกจะจางหายไปนะ!"

"อ้อ ลืมบอกวิธีใช้ไปเลย แค่เอาผลึกวางไว้ที่หน้าผาก แล้วหลับตารับรู้ก็พอ"

หลินอี้หยิบผลึกที่เปล่งแสงสีม่วงออกมาจากกล่อง

แสงจากผลึกแผ่กระจายออกไป ทำให้ผนังทั้งห้องดูสวยงามตระการตา

เมื่อเห็นภาพนี้ ไม่เพียงแต่ลูกน้องของหลี่เชียนเย่เท่านั้น

แม้แต่ตัวหลี่เชียนเย่เองก็มีแววตาเป็นประกายขึ้นมา

นี่มันพรสวรรค์ระดับ A เลยนะ!

ในโลกนี้ไม่มีพรสวรรค์ที่ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง

มีแต่พรสวรรค์ที่อาจจะไม่เข้ากับอาชีพของตัวเองเท่านั้น

แต่มียังไงก็ดีกว่าไม่มี

"ขอให้โชคดีนะ หวังว่าจะได้พรสวรรค์ที่ดี!" หลี่เชียนเย่อวยพร

หลินอี้พยักหน้า แล้ววางผลึกพรสวรรค์ไว้ที่หน้าผากของตัวเอง จากนั้นก็หลับตาลง

เขาพยายามรับรู้ถึงผลึกพรสวรรค์อย่างละเอียด

ไม่นาน หลินอี้ก็รู้สึกถึงคลื่นพลังที่ไหลเข้าสู่สมองของเขาจากหน้าผาก

ในขณะเดียวกัน พลังลึกลับก็เริ่มหยั่งรากและแตกหน่อในจิตสำนึกของเขา

การได้รับพรสวรรค์ด้วยวิธีนี้ช่างเป็นประสบการณ์ที่แปลกประหลาดจริงๆ

[ติ๊ง! ยินดีด้วย! คุณได้รับพรสวรรค์ใหม่: การดัดแปลงไซเบอร์!]

หลินอี้ชะงัก

ชื่อพรสวรรค์นี่มันอะไรกัน!

หรือว่ามันจะทำให้เขากลายเป็นหุ่นยนต์?

หลินอี้รีบดูรายละเอียดของพรสวรรค์ใหม่ที่ได้รับทันที

[การดัดแปลงไซเบอร์]

[ความหายาก: ระดับ A]

[ประเภท: พรสวรรค์แบบติดตัว]

[ผลลัพธ์: เพิ่มทักษะหลักของอาชีพช่างกลและช่างปืนเข้าไปในทักษะรองของคุณ]

[หมายเหตุ: เนื้อหนังนั้นอ่อนแอ จงยกระดับสู่เครื่องจักรกล! เข้าร่วมวิวัฒนาการอันรุ่งโรจน์กันเถอะ!]

หลังจากอ่านผลลัพธ์จบ

หลินอี้ก็ตะลึงงันไปเลย

เฮ้ย?

ทักษะหลักของอาชีพช่างกลและช่างปืนกลายเป็นทักษะของเขาแล้วเหรอ?

นั่นหมายความว่าตอนนี้เขาสามารถเรียนรู้ทักษะของสองอาชีพนี้ได้แล้วใช่ไหม??

ในทันใดนั้น ดวงตาของหลินอี้ก็เปล่งประกายขึ้นมา

พรสวรรค์นี้ถือว่าทำลายกำแพงอาชีพไปเลยนะ!

เมื่อเห็นสีหน้าและปฏิกิริยาของหลินอี้

หลี่เชียนเย่จึงถามว่า "เป็นไงบ้าง ปลุกพรสวรรค์สำเร็จแล้วใช่ไหม?"

"เจ้าสามารถเข้าไปดูในฟอรัมอาชีพได้นะว่าพรสวรรค์ระดับ A ที่เจ้าปลุกขึ้นมานั้นเป็นยังไง ในกระทู้ปักหมุดมีการจัดอันดับพรสวรรค์ระดับ A ทั้งหมดที่ค้นพบจนถึงตอนนี้ซึ่งเผยแพร่โดยสมาคมอาชีพของพวกเรา!"

พรสวรรค์ของแต่ละคนถือเป็นความลับส่วนตัวที่สุดของผู้ปลุกอาชีพ

การถามตรงๆ เป็นการกระทำที่ไม่สุภาพและอาจนำไปสู่การทะเลาะวิวาทได้

หลี่เชียนเย่แน่นอนว่าเข้าใจเรื่องนี้ดี

ดังนั้นเขาจึงไม่ถามหลินอี้ว่าปลุกพรสวรรค์อะไรขึ้นมา แต่เห็นว่าหลินอี้ดูลังเลและตัดสินใจไม่ได้ จึงแนะนำไป

ฟอรัมอาชีพ หลินอี้รู้จักดี

นี่เป็นฟอรัมโซเชียลออนไลน์ที่สร้างขึ้นโดยทางการ ให้ผู้ปลุกอาชีพแบ่งปันประสบการณ์หรือเรื่องราวสนุกๆ

ถ้าคุณเป็นผู้ปลุกอาชีพ หลังจากผ่านการตรวจสอบการลงทะเบียนอย่างเป็นทางการแล้ว คุณก็จะสามารถเข้าชมและโพสต์ได้

โพสต์ที่ได้รับการปักหมุดอย่างเป็นทางการ โดยทั่วไปแล้วจะมีความน่าเชื่อถือ

โพสต์ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการรีวิวหรือคู่มือสำหรับดันเจี้ยนเฉพาะ

แต่เดิมหลินอี้ไม่ได้ตั้งใจจะดูว่าพรสวรรค์ของตัวเองอยู่ในอันดับไหนของการจัดอันดับอย่างเป็นทางการ เพราะสำหรับเขาแล้ว พรสวรรค์นี้ดูทั้งแปลกใหม่และทรงพลัง

แต่เมื่อหลี่เชียนเย่พูดขึ้นมา

หลินอี้จึงหยิบมือถือขึ้นมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น แล้วล็อกอินเข้าฟอรัมอาชีพ

ตอนนี้ระดับอาชีพของหลินอี้อยู่ที่ระดับ 10 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด กระทู้ที่เขาสามารถเข้าชมได้มีไม่มากนัก

แต่กระทู้จัดอันดับพรสวรรค์แบบนี้ ทางการไม่ได้ตั้งข้อจำกัดการเข้าถึง หลินอี้คลิกเข้าไปและสามารถดูได้ตามปกติ

หลังจากเข้ากระทู้ ก็มีข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบตามธรรมเนียม

หลินอี้ข้ามไปเลย

เลื่อนนิ้วขึ้น ตารางหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าหลินอี้

ข้อมูลในตารางทั้งหมดมีถึง 1,146 รายการ!

นั่นหมายความว่าตอนนี้พรสวรรค์ระดับ A ที่ทางการบันทึกเข้าฐานข้อมูลมีจำนวนเท่านี้

เป็นไปได้ว่าพรสวรรค์ของเขาอาจจะยังไม่อยู่ในตารางนี้ก็ได้

หลินอี้เลื่อนตารางลงเรื่อยๆ

ตารางนี้เรียงลำดับตามกฎการจัดอันดับที่ผู้เขียนกำหนดไว้ จากระดับ 0 ถึง ระดับ 4 ตามลำดับ

เมื่อหลินอี้เลื่อนตารางจนเกือบถึงด้านล่างสุด เขาก็เห็นคำอธิบายของระดับ 4: ไม่มีรสชาติให้ลิ้มลอง ทิ้งก็น่าเสียดาย พรสวรรค์ที่แทบจะไม่ช่วยเพิ่มพลังการต่อสู้เลยหลังจากได้รับมา สมควรเรียกว่าความอัปยศของระดับ A!

ใต้คำอธิบายนี้ หลินอี้เห็นพรสวรรค์ที่เขาเพิ่งปลดล็อกในทันที

"การดัดแปลงไซเบอร์ พรสวรรค์ที่ช่วยให้ผู้ที่ไม่ใช่ช่างกลหรือช่างปืนสามารถปลดล็อกทักษะที่เกี่ยวข้องได้"

"เช่นเดียวกับพรสวรรค์อย่างการเติมพลังเวท การฝึกการต่อสู้ ปรมาจารย์การลอบสังหาร ที่ช่วยให้ผู้ปลุกอาชีพอื่นๆ สามารถปลดล็อกทักษะหลักของนักเวท นักสู้ และนักฆ่าได้"

"ดูผิวเผิน พรสวรรค์เหล่านี้อาจดูสร้างสรรค์มาก เพราะการใช้ทักษะของอาชีพอื่นในการต่อสู้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เอาชนะได้อย่างไม่คาดคิด แต่ยังช่วยปลดล็อกและค้นพบศักยภาพใหม่ๆ ของอาชีพตัวเองอีกด้วย"

"อย่างไรก็ตาม จินตนาการมักสวยงามเสมอ"

"ความจริงก็คือ พรสวรรค์ประเภทนี้มีข้อบกพร่องที่สำคัญ ยังไม่ต้องพูดถึงว่ามันจะเพิ่มเข้าไปในทักษะรองของคุณเท่านั้น แค่พูดถึงการอัพเกรดทักษะ ก็มีหลุมพรางใหญ่รออยู่แล้ว"

"ถูกต้อง ทักษะของอาชีพอื่นที่คุณปลดล็อกนี้ หากต้องการอัพเกรด จะต้องใช้คะแนนทักษะมากกว่าทักษะของอาชีพหลักของคุณถึง 10 เท่า!"

"นั่นหมายความว่าผู้ปลุกอาชีพส่วนใหญ่ แม้จะพยายามเพิ่มแต้ม สุดท้ายก็จะปลดล็อกได้แค่ทักษะระดับ 1 หรืออย่างมากก็แค่ระดับ 2 เท่านั้น"

"และในบรรดาทักษะเหล่านี้ ที่สามารถผสมผสานกับอาชีพของตัวเองแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม จนถึงตอนนี้ ผู้เขียนยังไม่เคยเห็นเลย!"

"พูดได้ว่า พรสวรรค์ประเภทนี้ หลังจากได้รับมาแล้ว ก็จะถูกวางทิ้งไว้ในมุมห้องให้จับฝุ่น คงไม่มีใครเลือกที่จะไม่เพิ่มทักษะของอาชีพหลักตัวเอง แล้วมาเสียคะแนนทักษะ 10 เท่าเพื่อเพิ่มทักษะแบบนี้หรอก ใช่ไหม?"

เมื่ออ่านถึงตรงนี้

หลินอี้ก็ยิ้มมุมปาก

อย่าบอกนะว่ามีคนแบบนั้นจริงๆ!