ตอนที่ 328

บทที่ 328: การตกปลา

ซุยเฮ็งไม่ได้ฆ่าชายชรา หลังจากถามอีกฝ่ายแล้ว เขาก็ปล่อยอีกฝ่ายไป

ชายชราคนนี้เป็นเพียงเซียนสวรรค์เท่านั้น เขาไม่ได้รู้อะไรมากนัก แต่มันก็ทำให้ซุยเฮ็งเข้าใจสถานการณ์โดยพื้นฐานของสำนักดอกบัวศักดิ์สิทธิ์และสำนักดอกบัวขาวไร้ชีวาแล้ว

ตามคำบอกเล่าของชายชรา กลุ่มคนที่มายังดาวเต๋าโจวนั้นมาจากโถงบูอันศักดิ์สิทธิ์แห่งสำนักดอกบัวขาวไร้ชีวา พวกเขามีหน้าที่เผยแพร่ความเชื่อและความศรัทธาให้กับฝูงชน และพวกเขาก็มาที่นี่เพื่อค้นหามรดกโบราณ

ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็ยังเผยแพร่ข่าวความประเสริฐของเทพธิดาดอกบัวสีขาวที่ไร้ชีวิต

ผู้นำของพวกเขาคือปราชญ์สองคน เซียนอนันต์ทองสี่คน เทพลึกลับไท่อี้สิบสองคน และเซียนสวรรค์ร้อยสามสิบคน

ขุมพลังดังกล่าวเพียงพอแล้วที่จะครอบงำดาวเต๋าโจวทั้งหมดหากไม่รวมฮั่วซาน เทพวารีแห่งแม่น้ำหงและยอดนักบุญสวรรค์

ถึงอย่างนั้น ซุยเฮ็งก็ไม่เชื่อในข้ออ้างของพวกเขาที่บอกว่ามาตามหามรดกโบราณ

มันเป็นไปได้มากว่าจะมีเหตุผลอื่นซ่อนอยู่

อย่างไรก็ตาม ขอบเขตของชายชราก็ยังไม่สูงพอ ดังนั้นเขาจึงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะรู้

แม้แต่ซุยเฮ็งก็ยังสงสัยเกี่ยวกับการจัดกลุ่มที่ชายชราพูดถึง

ท้ายที่สุดแล้ว มันก็ยากมากสำหรับเซียนสวรรค์ที่จะทำความเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด

ด้วยเหตุนี้เอง หลังจากปล่อยชายชราไป เขาจึงบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและปล่อยพลังธรรมออกมาเพื่อหลอมรวมเป็นกฎของดาวเต๋าโจว

ในช่วงเวลาต่อมา เสามังกรที่นอนขดอยู่ในเมืองฉางเฟิงก็ลุกขึ้นเป็นไฟ สายรุ้งสีแดงเพลิงพุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า ขณะเดียวกัน ร่างที่สง่างามก็ปรากฏขึ้นในแม่น้ำและบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

ในเวลาเดียวกัน ในคฤหาสน์หลังใหญ่แห่งหนึ่งในชนบท จู่ๆ คนสามคนก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยสีหน้าประหลาดใจ จากนั้นพวกเขาก็กลายเป็นลำแสงและทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

ในสำนักเซียนอรุณแห่งภูเขาคังเฉิง

เนื่องจากบรรพบุรุษรุ่นก่อนๆ ยังคงมีชีวิตอยู่ ดังนั้นพวกเธอจึงยังฝึกตนอย่างสันโดษต่อไปในภูเขาด้านหลังหลัง และด้วยเหตุนี้เอง ตำหนักและศาลาจำนวนมากจึงถูกสร้างขึ้นบนด้านหลังของภูเขาคังเฉิงเพื่อให้เหล่าบรรพบุรุษได้อยู่อาศัย

เจิงหนานซุน, จูฉิง, หลิวอี้หยุน, เหอฉิงโหรว, เฉินหยิง, จ้าวฉี่และคนอื่นๆ ล้วนฝึกตนอย่างสันโดษอยู่ในภูเขาด้านหลัง

ในหมู่พวกเธอ เจิงหนานซุนผู้แข็งแกร่งที่สุดก็ได้บรรลุขอบเขตเซียนอนันต์ทองแล้ว จูฉิงและหลิวอี้หยุนเองก็กลายเป็นเซียนทองแล้วเช่นกัน แม้แต่จ้าวฉี่ลูกศิษย์ของพวกเธอในปัจจุบันก็ยังมาถึงขอบเขตราชาสวรรค์แล้ว

สำนักเซียนอรุณในปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่าเต็มไปด้วยพลังและความเจริญรุ่งเรือง

ด้วยเหตุนี้เอง สำหรับศิษย์ในปัจจุบันส่วนใหญ่แล้ว ด้านหลังของภูเขาคังเฉิงจึงเป็นรากฐานที่แท้จริงของสำนักเซียนอรุณ มันเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความลึกลับ

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ด้านหลังของภูเขาที่ลึกลับอย่างหาที่เปรียบมิได้แห่งนี้ก็ได้ส่องแสงเจิดจ้า ลำแสงพุ่งออกมาจากด้านหลังของภูเขาทีละสายและพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า

สถานการณ์นี้ไม่เคยปรากฎขึ้นมาก่อน แม้แต่เจ้าสำนักคนปัจจุบันก็ยังประหลาดใจอย่างมาก

เธอรีบมาถึงที่ด้านหลังของภูเขาและได้พบว่าอาจารย์ของเธอจ้าวฉีกำลังรอเธออยู่ที่ทางเข้าแล้ว เธอรีบโค้งคำนับและถามว่า “ ท่านอาจารย์ มันเกิดอะไรขึ้นที่ด้านหลังภูเขา?”

“ มันเป็นข่าวดี ไม่ต้องกังวล” จ้าวฉีพยักหน้าเล็กน้อยและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ ท่านบรรพบุรุษปู่ได้กลับมาแล้ว”

“ บรรพบุรุษปู่?” ซูฉิงซั่วรู้สึกประหลาดใจ “ ท่านบรรพบุรุษปู่ไม่ได้มุ่งหน้าไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันกว้างใหญ่แล้วหรอ? ข้าเห็นในหนังสือบอกว่าเขาจากไปตั้งแต่เมื่อ 200 ปีที่แล้วแล้วนี่?”

“ ใช่แล้ว ข้าเคยได้พบกับท่านบรรพบุรุษปู่อยู่เมื่อ 200 ปีแล้ว” จ้าวฉียิ้มและพูดว่า “ ยิ่งไปกว่านั้น มันก็ดูเหมือนว่าท่านบรรพบุรุษปู่จะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมถึงหลายพันเท่า เขาน่าทึ่งจริงๆ”

“ ท่านอาจารย์ แล้วท่านจะไม่ไปหรอ?” ซูฉิงซั่วถามด้วยความสงสัย

“ พลังธรรมที่แสดงออกมาโดยท่านบรรพบุรุษปู่นั้นจะสัมผัสได้ก็ต่อเมื่อเราเข้าถึงขอบเขตเทพลึกลับแล้ว” จ้าวฉีส่ายหัวของเธอเบาๆ และพูดว่า “ ซึ่งข้ายังไปไม่ถึงระดับนั้น”

“ เฉพาะผู้ที่เข้าถึงขอบเขตเทพลึกลับแล้วเท่านั้น พวกเขาถึงจะมีคุณสมบัติพอจะได้พบกับท่านบรรพบุรุษปู่!”

ซูฉิงซั่วอดไม่ได้ที่จะพูดอุทานออกมาว่า “ ท่านบรรพบุรุษปู่แข็งแกร่งขนาดไหนกัน?”

“ เขาเป็นตัวตนที่ทรงพลังจนสามารถทะลุผ่านสวรรค์และปฐพีได้ มันยากสำหรับเราที่จะอธิบายความแข็งแกร่งของเขาด้วยคำพูด” จ้าวฉียิ้ม “ ด้วยการดำรงอยู่ของท่านบรรพบุรุษปู่ มันก็ทำให้เราได้รู้ว่าการฝึกตนนั้นไร้ที่สิ้นสุด เราควรรักษาจิตวิญญาณแห่งการแสวงหาเอาไว้อยู่เสมอ”

“ ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณสำหรับคำสอนของท่าน!” ซูฉิงซั่วโค้งคำนับ

….

บนท้องฟ้าเหนือดาวเต๋าโจว

ซุยเฮ็งได้สร้างเมืองบนท้องฟ้าขึ้นมาจากอากาศเปล่า

มันเกือบจะเหมือนกับเมืองฉางเฟิงในอดีต

ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็ยังต้องการที่พักเพื่อพูดคุยกัน

ฮั่วซานและเทพวารีแห่งแม่น้ำหงมาถึงเป็นพวกแรก

หลังจากผ่านไป 200 ปี ฮั่วซานก็ได้ฝึกตนจนมาถึงขอบเขตรวมวิญญาณขั้นต้นแล้ว

อย่างไรก็ตาม วิธีการหล่อเลี้ยงตัวอ่อนวิญญาณจากแก่นแท้ทองคำของมันนั้นก็ไม่ใช่การทำความเข้าใจอารมณ์ทั้งเจ็ดของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

กลับกัน มันเป็นการรวบรวมพลังแห่งศรัทธาจำนวนมากจากสิ่งมีชีวิตทั้งหมดและใช้เปลวเพลิงที่แท้จริงเพื่อเผาผลาญมันให้กลายเป็นจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ มันใช้เวลากว่า 150 ปีในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตรวมวิญญาณขั้นต้น

เทพวารีแห่งแม่น้ำหงไม่ได้ปรับปรุงอะไรมากนัก ระดับการฝึกตนของเธอยังคงอยู่ที่ขอบเขตรวมวิญญาณขั้นต้น

หลังจากได้เห็นทั้งสองคน ซุยเฮ็งก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมพวกเขาถึงไม่จัดการกับคนนอก

“ พวกเจ้ากำลังปฏิบัติต่อคนกลุ่มนี้เพื่อใช้ในการสำรวจสิ่งที่ไม่รู้จักอย่างงั้นสินะ” ซุยเฮ็งหัวเราะเบาๆ “ นี่ก็เป็นวิธีหนึ่งสำหรับพวกเจ้าแต่ละคนในการรับรู้ข้อมูลใหม่”

“ คารวะท่านประมุขเซียน!”

“ คารวะท่านประมุขเซียน!”

ฮั่วซานและเทพวารีแห่งแม่น้ำหงรีบโค้งคำนับซุยเฮ็งโดยพร้อมเพรียงกัน

จากนั้นฮั่วซานก็ถามอย่างเป็นกังวลว่า “ ท่านประมุขเซียน ท่านต้องการให้เรากำจัดคนนอกเหล่านั้นเลยหรอ?”

เทพวารีแห่งแม่น้ำหงเองก็รีบพูดว่า “ คนเหล่านี้ทำให้ท่านขุ่นเคืองหรือเปล่า? ถ้าใช่ ข้าก็จะไปจับพวกมันมาในทันทีเพื่อรอรับการลงโทษจากท่าน”

“ ไม่จำเป็น” ซุยเฮ็งโบกมือและหัวเราะเบาๆ “ พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องประหม่าขนาดนั้นก็ได้ ลุกขึ้นเถอะ ข้าไม่ได้เรียกพวกเจ้ามาที่นี่เพื่อสอบปากคำ เดี๋ยวคนอื่นๆ ก็จะตามมาในภายหลังอีก”

ฮั่วซานและเทพวารีแห่งแม่น้ำหงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่พวกเขาก็ยังคงยืนอย่างระมัดระวังอยู่ที่ด้านข้างด้วยท่าทีที่เคารพอย่างหาที่เปรียบมิได้

ในไม่ช้า เจิงหนานซุน, จูฉิง, หลิวอี้หยุน, เหอฉิงโหรวและศิษย์คนอื่นๆ ของสำนักเซียนอรุณก็มาถึง ขณะเดียวกัน ลู่เจิงหมิง, หลิวหลี่เต๋าและจ้าวกวงก็ตามมาติดๆ

“ คารวะท่านบรรพบุรุษปู่!”

“ คารวะท่านบรรพบุรุษปู่!”

“ คารวะนายท่าน!”

ทุกคนทำการโค้งคำนับซุยเฮ็ง

ในขณะนี้ ซุยเฮ็งก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนบางอย่างในใจของเขา

ต่อหน้าเขา มันก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของมรดกที่เขาทิ้งไว้ นี่ยังไม่รวมถึงมรดกจากโลกสูญสวรรค์ซึ่งยังมีคนอีกเป็นจำนวนมาก

“ ลุกขึ้น” ซุยเฮ็งยกมือขึ้นและพุ่งตรงไปที่ประเด็น “ พวกเจ้าน่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับสำนักดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังเผยแพร่อยู่ในต้าเว่ยแล้วสินะ”

ทุกคนมองหน้ากันแล้วพยักหน้า

สำนักดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัวขึ้นเมื่อ 50 ปีที่แล้ว หลังจากการพัฒนาอย่างเงียบๆ มาเป็นเวลา 10 ปี มันก็ได้รับการสนับสนุนจากราชสำนักในที่สุดเมื่อ 40 ปีที่แล้ว และจากนั้นมันก็เริ่มพัฒนาตัวอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม สำนักนี้ก็ดูจะใจดีและอ่อนโยนอยู่เสมอ พวกเขาไม่ได้เกลี้ยกล่อมผู้คนให้มาเข้าร่วมกับสำนักของตนอย่างแข็งขัน และพวกเขาก็ไม่ได้โจมตีสำนักอื่นๆ พวกเขาไม่ได้เป็นอันตรายอย่างสมบูรณ์

แบบนั้นแล้วทำไมจู่ๆ เขาถึงพูดถึงเรื่องนี้?

“ ท่านปรมาจารย์ปู่ มันมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับสำนักดอกบัวศักดิ์สิทธิ์นี้หรือเปล่า?” เจิงหนานซุนถามอย่างสงสัย “ ก่อนหน้านี้ เจ้าสำนักของพวกเขาก็ได้ร้องขอเข้ามาเยี่ยมชม แต่เราก็ได้ปฏิเสธพวกเขาไป”

“ จากนี้ไปจงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะให้ความร่วมมือกับคำขอของพวกเขา ข้าต้องการจะทดสอบเป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขา” ซุยเฮ็งยิ้ม “ เพราะฉะนั้นแล้ว หากพวกเขามาขอเยี่ยมชมอีกในครั้งหน้า เจ้าก็ตกลงได้เลย”

เกี่ยวกับสำนักดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ เขาก็สามารถดำเนินการเป็นการส่วนตัวและจับทุกคนในทันทีได้เลย อย่างไรก็ตาม มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงคงจะแย่ถ้าเขาพลาดเรื่องราวสำคัญๆ ไป