ภายใต้แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวของจิตวิญญาณเทพเจ้า แม้แต่ทหารโคโบลด์สองล้านตัวก็ยังพากันตัวสั่นแม้ว่าพวกมันจะได้รับแรงกดดันน้อยกว่าภายใต้การปกป้องของซาโคโมะ
ความเร็วในการถอนตัวกลับไปยังยานบินของพวกมันช้าลงเป็นอย่างมาก
ด้านหน้าของซาโคโมะ ทหารเก้าล้านคนได้ตกเป็นเป้าหมายจากแรงกดดันของเทพแห่งความตาย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ซาโคโมะพบว่ามันน่าเหลือเชื่อก็คือทหารเก้าล้านคนที่อยู่ตรงหน้าของมันดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากแรงกดดันของเทพเจ้าที่เผ่าพันธุ์ธรรมดาๆ ไม่อาจต้านทานได้เลย พวกมันดูจะไม่ได้รู้สึกอะไรมากเลย
“ลอร์ดผู้นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ”
สีหน้าของซาโคโมะจริงจังขึ้นมา
ลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้นี้ต้องซ่อนไพ่ตายบางอย่างไว้อยู่แน่
…
ทางด้านของทหารเก้าล้านคน โจวโจวมองไปยังเทพแห่งความตายซึ่งสูงกว่า 10,000 เมตรด้วยสีหน้าจริงจัง จากนั้นเขาก็ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างและคิ้วที่ขมวดเข้าด้วยกันของเขาก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“มันไม่ใช่เทพแห่งความตายตัวจริง มันน่าจะเป็นแค่ร่างจำแลงจากพลังเทวะ”
เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
เขามีมรดกลับของเผ่าพันธุ์มังกรอยู่ในใจ ดังนั้นเขาจึงสามารถมองสิ่งนี้ออกได้อย่างง่ายดาย
นี่น่าจะเป็นทักษะผู้กล้าของอีกฝ่าย—เทพแห่งความตายจุติ
มันแข็งแกร่งมาก! อย่างไรก็ตาม มันก็คงจะเกินจริงไปหน่อยถ้าจะบอกว่ามันคือสุดยอดทักษะ
เขาเหลือบมองไปยังทหารของเขา
เหล่าทหารและผู้เชี่ยวชาญในดินแดนของเขาต่างก็เป็นผู้พิฆาตมังกรและย่อมมีความต้านทานต่อแรงกดดันจากสายเลือดระดับสูง
โดยพื้นฐานแล้ว จิตวิญญาณเทพเจ้าสามารถถูกมองว่าเป็นสายเลือดระดับสูงได้และยังเป็นสายเลือดระดับที่สูงมากด้วย ดังนั้นลูกน้องของเขาจึงสามารถต้านทานแรงกดดันจากร่างจำแลงพลังเทวะของเทพแห่งความตายได้
จนถึงตอนนี้โจวโจวก็ไม่ได้กังวลว่าลูกน้องของเขาจะถูกเปิดโปงว่าเป็นผู้พิฆาตมังกร เพราะมันมีวิธีการมากมายในโลกสรรพเผ่าพันธุ์ที่สามารถใช้ต้านทานต่อแรงกดดันของจิตวิญญาณเทพเจ้าที่มีสายเลือดระดับสูงได้
ลักษณะเฉพาะตัวเจตจำนงผู้พิฆาตมังกรก็คือมันไม่เพียงแต่จะสามารถต้านทานแรงกดดันจากสายเลือดระดับสูงได้ แต่ยังสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นไปได้อีกสองระดับชั้นเมื่อเจอกับแรงกดดัน!
จากระดับบรอนซ์เขียวไปเป็นระดับทองคำเหลือง!
นี่คือสิ่งที่ไม่ธรรมดาที่สุดเกี่ยวกับเจตจำนงผู้พิฆาตมังกร!
ตราบใดที่ทหารของเขาไม่ได้เปิดเผยความสามารถในการเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมากออกไป มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่คนอื่นๆ จะคาดเดาได้ถึงตัวตนของผู้พิฆาตมังกรของพวกเขา
ในเวลานั้นเอง เขาก็เห็นซาโคโมะยืนขึ้นจากท่านั่งขัดสมาธิในทันใด หลังจากนั้นมันก็ยกมือขึ้น และวิญญาณโคโบลด์โปร่งใสที่เปล่งแสงสีขาวจางๆ ก็ลอยออกมาจากศีรษะของมันและผสานเข้ากับร่างจำแลงของเทพแห่งความตายที่อยู่ทางด้านหลัง
หลังจากที่ร่างจำแลงเทพแห่งความตายผสานเข้ากับดวงวิญญาณของซาโคโมะแล้ว ความแข็งแกร่งและแรงกดดันของมันก็เพิ่มขึ้นในทันที โดยเพิ่มขึ้นไปถึงระดับตำนาน ในเวลาเดียวกัน มันก็กลายร่างเป็นซาโคโมะอย่างรวดเร็ว
มันลืมตาสีแดงโลหิตขึ้นมา ดึงดาบสองเล่มออกมาจากทางด้านหลัง และพุ่งเข้าหากองทัพเก้าล้านคนของโจวโจว
เมื่อเห็นเช่นนี้ มันก็ไม่จำเป็นที่โจวโจวจะต้องสั่ง
ซวีอันและเกาเฉียวได้พุ่งออกมาแล้วและพุ่งเข้าใส่ซาโคโมะในร่างจุติเทพแห่งความตาย
ในระหว่างกระบวนการนี้ ซวีอันก็ได้กลายร่างเป็นราคชาซารัตติกาลที่สูง 10,000 เมตรแล้ว
ซวีอันในร่างสามเศียรหกกรถือดาบเงาโลหิตไว้ 6 เล่มและดูเหมือนกับเทพโลหิตจากขุมนรกเลย!
ในเวลานั้นเอง เกาเฉียวก็ได้สวมชุดเกราะสีแดงโลหิตและถือขวานสีแดงโลหิตเอาไว้สองเล่ม ออร่าของเขาได้ฟื้นกลับคืนมาสู่จุดสูงสุดแล้ว!
เขาหายดีจากอาการบาดเจ็บแล้วระหว่างที่มาที่นี่ภายใต้การร่วมกันรักษาของหมอระดับตำนานขั้นต้น 10 คน
เกาเฉียวในตอนนี้ไม่เพียงแต่จะฟื้นตัวจากระดับเพชรขั้นต้นมาสู่ระดับมหากาพย์ขั้นต้นที่เป็นความแข็งแกร่งในตอนที่เขาอยู่จุดสูงสุดเท่านั้น แต่ความแข็งแกร่งของเขายังได้ทะลวงระดับขึ้นด้วยจากความช่วยเหลือของลำนำอาบโลหิตเพราะเขาได้ดูดซับสายเลือดเทวะของเทพเจ้าที่เขาได้สังหารไปและเลื่อนระดับขึ้นมาเป็นระดับมหากาพย์ขั้นสูงทันที
โจวโจวดีใจมากยิ่งขึ้นไปอีกที่วันนี้เขาได้รับบัฟบรรพบุรุษมาจากวัดบรรพบุรุษจักรพรรดิ
ถ้าไม่ใช่เพราะหมอระดับตำนานขั้นต้น 10 คนนี้ เขาก็คงไม่รู้ว่ามันต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของเกาเฉียว
“ทุกคน โจมตีร่วมกัน สู้จนตายกันไปข้างหนึ่งซะ!”
โจวโจวได้สติกลับมาและสั่งการ
“รับทราบ!!!”
ทหารเก้าล้านคนคำรามออกมาโดยพร้อมเพรียงกัน จากนั้นพวกเขาก็สาดการโจมตีระยะไกลทุกชนิดเข้าใส่ซาโคโมะ
…
บนสมรภูมิ เมื่อซาโคโมะในร่างจุติเทพแห่งความตายเห็นซวีอัน เกาเฉียว และการผสานการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขา สีหน้าของมันก็จริงจังขึ้นมาทันทีแต่ก็ไม่ได้มีความเกรงกลัวเท่าไรนัก
มันเพ่งความคิด และชั้นผิวสีดำก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายของมัน ทำให้มันดูราวกับว่ากำลังสวมชุดเกราะเบาแบบรัดรูปอยู่เลย
เมื่อการโจมตีของทหารเก้าล้านคนสาดเข้าใส่ร่างกายของมัน การโจมตีเหล่านี้ก็ดูเหมือนจะตกลงไปในน้ำและหายไป
นี่คือหนึ่งในสามทักษะแห่งกฎเกณฑ์เทียมที่มันสามารถใช้งานได้ภายใต้สภาวะร่างจุติเทพแห่งความตาย—เกราะพลังเทวะ
แม้ว่ามันจะไม่ทรงพลังเท่ากับทักษะแห่งกฎเกณฑ์ที่แท้จริง แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรที่จะใช้ต้านทานการโจมตีที่อยู่ต่ำกว่าระดับมหากาพย์
ในเวลานั้นเอง เกาเฉียวก็มาถึงตรงหน้าของมันแล้ว
“พิฆาตมังกร!”
เขาคำรามออกมาด้วยความดุดันและตวัดขวานทั้งสองเล่มในมือเข้าใส่ซาโคโมะ มันมีสายฟ้าบางๆ สว่างวาบขึ้นมาบนขวานทั้งสองเล่ม และก่อตัวขึ้นเป็นใบมีดมายาสีโลหิตที่ยาวกว่า 3,000 เมตรในอากาศ!
ครืน!
มันราวกับมีสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ฟาดลงมา!
หลุมขนาดใหญ่ถูกเปิดขึ้นบนชั้นผิวสีดำบนร่างของซาโคโมะโดยขวานมายาสีแดงโลหิตนี้
เลือดสีดำไหลออกมาจากบาดแผล ก่อนที่มันจะหยดลงบนพื้น มันก็หายไปอย่างแปลกประหลาด
ซาโคโมะอึ้ง
หมอนี่เป็นใครกัน?!
ตามปกติแล้วมันคงมีแค่ทักษะแห่งกฎเกณฑ์เท่านั้นที่สามารถรับมือกับทักษะแห่งกฎเกณฑ์ได้!
แม้ว่าทักษะแห่งกฎเกณฑ์ของมันจะเป็นแค่ทักษะแห่งกฎเกณฑ์เทียมแบบชั่วคราว แต่มันก็ไม่น่าจะเปราะบางขนาดนี้ได้
ทำไมหมอนี่ถึงสามารถใช้ทักษะผู้กล้าเพื่อสร้างความเสียหายให้กับเกราะพลังเทวะที่สร้างขึ้นจากทักษะแห่งกฎเกณฑ์เทียมของมันได้?
ดาบคู่ของมันตวัดเข้าใส่เกาเฉียวอย่างบ้าคลั่งจนกระทั่งมันทิ้งระยะห่างออกมาได้ 700-800 เมตร จากนั้นมันก็รีบก้มลงดูบาดแผลของตัวเอง
บาดแผลบนหน้าอกของมันกำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆ
มันไม่ได้ฟื้นตัวด้วยความเร็วอันน่าทึ่งอย่างที่มันได้จินตนาการเอาไว้
ทักษะผู้กล้าอันนี้มีผลกับทักษะแห่งกฎเกณฑ์เทียมของมันได้มากขนาดนี้เลยเหรอ?
ซาโคโมะมองดูเกาเฉียวด้วยสีหน้าจริงจัง
หรือว่าทักษะผู้กล้าของหมอนี่จะมีไว้ใช้เพื่อรับมือกับทักษะแห่งกฎเกณฑ์โดยเฉพาะ?
ในเวลานั้นเอง เกาเฉียวก็ได้พุ่งเข้ามาอีกครั้ง
แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะมีขนาดต่างกันมาก แต่เกาเฉียวก็สามารถปลดปล่อยขวานมายาที่ยาวกว่าพันเมตรออกมาได้ ดังนั้นเขาจึงสามารถต่อสู้กับซาโคโมะได้แบบซึ่งๆ หน้า
ในขณะที่ต่อสู้กัน ซาโคโมะก็สังเกตสถานการณ์รอบๆ
อย่างไรก็ตาม หัวใจของมันก็ต้องหดเกร็งเมื่อมันมองไม่เห็นเลยว่าซวีอันที่ร่วมมือกันโจมตีกันเกาเฉียวนั้นอยู่ตรงไหน
“ในเมื่อเจ้าไม่ออกมา งั้นข้าก็จะจัดการกับคนที่อยู่ตรงหน้าของข้าก่อนละกัน”
แววตาของมันเย็บวาบขึ้นมา
จากนั้นมันก็ตวัดดาบคู่เข้าใส่เกาเฉียว
ทักษะผู้กล้า—ดาบคู่มรณะ!
เดิมทีนี่คือทักษะผู้กล้าระดับมหากาพย์ขั้นต้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในสภาวะร่างจุติเทพแห่งความตาย ทักษะนี้ก็เจือปนไปด้วยร่องรอยของออร่าพลังเทวะของเทพแห่งความตายและมีพลังของกฎเกณฑ์แห่งความตายบางๆ ซ่อนอยู่
“ตาย!”
เสียงคำรามด้วยความดุดันก็ดังขึ้นมา
กางเขนสีดำที่แผ่ออร่าแห่งความตายอันมหาศาลได้พุ่งออกมาจากกระบี่คู่ของมันและโจมตีไปยังเกาเฉียว
เกาเฉียวเองก็รู้สึกว่ากระบวนท่านี้ไม่ใช่เล่นๆ เลยและเตรียมที่จะหลบ
อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นเอง ซาโคโมะก็เพ่งมองไปยังเกาเฉียวด้วยดวงตาสีแดงโลหิตของมัน
ทักษะแห่งกฎเกณฑ์เทียม—พรั่นพรึงมรณะ!