ตอนที่ 197 - บทที่ 197 อันดับแรกในรายชื่อประจำเดือน!

บทที่ 197 อันดับแรกในรายชื่อประจำเดือน?!

"ใครโทรมา?"

ชายคนหนึ่งถามตรงข้ามโต๊ะอาหารอย่างสงสัย "เมื่อกี้ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเรียกเขาประธานซุนเหรอ?"

“ซุนเว่ย”

โจวจุนวางโทรศัพท์ลง หยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วพูดแบบสบายๆ "ก่อนหน้านี้ข้าเคยอยู่ในสาขาเมืองอันซาน แต่นั่นก็ผ่านมาสองสามปีที่แล้วแล้ว"

"อ่อเขานั่นเอง"

ทันใดนั้นชายคนนั้นก็ตระหนักได้ และด้วยสายตาของเขาก็เต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในบรรดาสาขาเขตเจียงหานทั้งยี่สิบสาขาหรือสามสิบสาขา สาขาเมืองอันชานเป็นสาขาที่อยู่ด้านล่างสุดอย่างไม่ต้องสงสัย

“ข้าได้ยินมาว่าการพัฒนาที่นั่นไม่ดี นักรบส่วนใหญ่ที่ร่วมกองกำลังได้แปรพักตร์ไปอยู่สมาคมผู้อเวค ทำให้สำนักงานใหญ่กำลังพิจารณาว่าจะยกเลิกการตั้งสาขาที่นั่นหรือไม่ แล้วเขาโทรมาหาเจ้าทำไม” ชายคนนั้นถามอย่างสงสัย

โจวจุนเยาะเย้ย

“เขาขอให้ข้าสั่งสอนคนใหม่ในสาขาเกี่ยวกับการปรุงยา”

“อะไรนะ? สั่งสอนคนใหม่ให้ปรุงยางั้นเหรอ?”

ชายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอ้าปากกว้างแล้วพูดว่า "ชายแซ่ซุนคนนี้ เขาโดนบานประตูจับหัวของเขาหรือเปล่า? เขาจะขอแบบนั้นได้อย่างไร เขาไม่รู้หรือว่าการสั่งสอนให้คนที่ไม่เคยเรียนรู้การปรุงมาก่อนมันยุ่งยาก และเป็นสิ่งเปล่าประโยชน์ถ้าคนๆไม่มีพื้นฐานเลย?”

"ใครจะรู้ละ?"

โจวจุนยักไหล่

“และข้าไม่มีเวลามากพอที่จะเสียเวลากับคนเหล่านี้ นอกจากนี้ทุกคนก็อยากจะเป็นนักปรุงยากันทั้งนัน้ ผลก็คืออะไร..จะมีสักกี่คนที่ประสบความสำเร็จได้ล่ะ?”

“ถูกต้อง ลืมมันซะ..ปล่อยพวกเขาไว้อย่างนั้นแหล่ะ และเมื่อพวกเขาเสียเงินและไม่ประสบผลสำเร็จ พวกเขาก็จะล้มเลิกไปเอง”

และอีกด้านหนึ่ง

ซุนเว่ยมองดูโทรศัพท์มือถือตรงหน้า ฟังเสียงที่ยุ่งวุ่นวายอยู่ข้างใน และถอนหายใจยาวออกมา

เขาพยายามอย่างเต็มที่แล้ว

น่าเสียดายที่ตอนจบไม่เป็นที่น่าพอใจ

“ข้าทำได้แค่ปล่อยให้น้องเฉินลองผิดลองถูกด้วยตัวเองเท่านั้น”

ในห้องนั่งเล่น เฉินฟานเพิกเฉยต่อความมีน้ำใจของซุนเว่ยโดยธรรมชาติ ดังนั้นเขาจึงใช้คะแนนการบริจาคที่เหลืออีกสองล้านคะแนนในการซื้อวัสดุยา

และเขาซื้อมาทั้งหมด 125 ชุด

"มันจะมาถึงในวันพรุ่งนี้"

มีรอยยิ้มที่มุมปากของเฉินฟาน

ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นว่ามีคะแนนศักยภาพจำนวนมากโบกมือให้เขา

เมื่อดูบัญชี คะแนนการบริจาคหลายสิบล้านก็เกือบจะหมดเกลี้ยงแล้ว

“ดูเหมือนว่าข้าจะต้องออกไปล่าสัตว์อีกครั้งแล้ว”

เฉินฟานลุกขึ้นยืน

เดิมทีเขาวางแผนที่จะปรับปรุงขอบเขตของเขาหรือยกระดับการเตะขั้นพื้นฐานก่อน

แต่หลังจากมี 【ทักษะการระเบิดพลัง】 เขาคิดกับตัวเองว่าแม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับผู้อเวค แม้ว่าเขาจะเอาชนะผู้อเวคไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรที่เขาจะหนีออกมา

หลังจากสะสมคะแนนประสบการณ์เพียงพอแล้ว เขาก็สามารถกลับมาฝึกการเตะขั้นพื้นฐานในเวลากลางคืน อย่างไรก็ตามเรียนรู้การเตะขั้นพื้นฐานและศิลปะการต่อสู้อื่นๆทั้งหมด แล้วค่อยปรับปรุงขอบเขตหลังจากนั้นก็ยังไม่สาย

เมื่อเปิดประตูออกไป คนกลุ่มหนึ่งก็เข้ามา พวกเขาคือตู่เยว่และคนอื่นๆ

เมื่อเห็นเฉินฟานออกมาจากห้อง หลายคนก็ตกตะลึงเช่นกัน

"สวัสดีตอนบ่ายทุกคน"

เฉินฟานปิดประตูและยิ้มเล็กน้อยให้พวกเขา

"สวัสดีตอนบ่าย"

"สวัสดีตอนบ่ายน้องเฉิน"

ดูเหมือนมีบางคนที่ยังไม่ตื่นจากการงีบหลับ และพวกเขาก็ตกอยู่ในอาการงุนงงเล็กน้อย

เฉินฟานพยักหน้าให้พวกเขาอีกครั้งแล้วเดินไปข้างหน้า ขณะที่ทั้งสองฝ่ายเดินผ่านกัน ตู้เยว่ก็อดไม่ได้ที่จะถาม: "น้องเฉินฟาน เจ้าจะออกไปล่าสัตว์งั้นหรือ?"

ซูเจี๋ยและคนอื่นๆ ต่างก็หันกลับมาอย่างสนใจเช่นกัน

"ใช่"

เฉินฟานพยักหน้า

"มีอะไรผิดปกติหรือ?"

"ไม่..ไม่มีอะไร"

ตู้เยว่ยิ้มอย่างเบี้ยว

พูดตามตรง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเฉินฟานได้ล่าและฆ่าสัตว์ระดับสูงสองตัว ถ้าไม่ใช่เพราะการพูดคุยกันอย่างดุเดือดในกลุ่มสมาคม

คะแนนการบริจาค 7.5 ล้านคะแนน

สำหรับพวกเขานั้นแต่ละคนสามารถรับคะแนนบริจาค 2 ล้านคะแนนต่อเดือน ก็ต้องขอบคุณพระเจ้ามากแล้ว

ประเด็นก็คือ เฉินฟานทำมันได้ภายในครึ่งวันเท่านั้น

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นข้าขอตัวก่อน”

เฉินฟานเข้าใจบางสิ่งบางอย่างอย่างคลุมเครือ โบกมือให้พวกเขาแล้วหันหลังกลับและจากไป

จนกระทั่งหลังของเขาหายเข้าไปในลิฟต์ การสนทนาของหลายๆ คนก็ดังขึ้น

“น้องเฉินฟาน เขาแข็งแกร่งกว่าที่เราจินตนาการไว้มาก” เกาซานพูดด้วยอารมณ์ซับซ้อน

“ใช่ แค่เวลาเช้าของวันเดียว เขาก็สามารถฆ่าสัตว์อสูรระดับสูงสองตัว ความแข็งแกร่งนี้มันยากจินตนาการขนาดไหน? และพวกมันทั้งหมดก็ถูกฆ่าด้วยธนูเพียงดอกเดียว เทคนิคการยิงธนูของเขาก็ต้องน่าทึ่งอย่างมากจริงๆ”

“ข้าล่ะอิจฉาจริงๆ ถ้าเพียงแต่เราจะออกไปล่าสัตว์กับเขาได้ละก็..” จ้าวเสวี่ยเหวินพูดด้วยความปรารถนา

"ออกล่ากับพวกเรางั้นเหรอ?"

ฟานซุยเหลือบมองเขา “ถ้าข้าเป็นเขา ข้าก็คงไม่ไปล่าสัตว์พร้อมกับตัวภาระจำนวนมากหรอก”

“ฟานซุย ไอ้สารเลว คำพูดของเจ้ายังคมเหม็นเหมือนเดิม”

ซูเจี๋ยกัดฟันของเขา

แม้ว่าคำพูดจะหยาบไปหน่อย แต่มันก็เป็นความจริง

การให้พวกเขาติดตามไปด้วยอาจพอช่วยได้บ้าง แต่ก็อาจกลายเป็นภาระอย่างมากเช่นกัน

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเฉินฟานต้องแจกจ่ายคะแนนการบริจาคที่ได้รับจากการฆ่าสัตว์อสูรให้กับพวกเขาด้วย

มีแต่คนโง่ที่จะทำเช่นนี้

“ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนแรกในรายชื่อประจำเดือนในครั้งนี้”

“ใช่ มันเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว และสาขาของเราก็จะพอหายใจได้โล่งคอมากขึ้น เมื่อถึงเวลาที่คะแนนการบริจาคของน้องเฉินไต่ขึ้นเป็นที่หนึ่ง มาดูกันว่าคนอื่นๆจะว่าอย่างไร”

“ถูกต้อง ข้าละตั้งตารอจริงๆ ว่าพวกเขาจะแสดงสีหน้าอย่างไร”

หลายคนมองหน้ากันและพากันหัวเราะเยาะออกมา

เฉินฟานเดินออกจากประตูเมือง และสังเกตเห็นการจ้องมองจากฝูงชนอีกครั้ง

เขาเยาะเย้ยอยู่ในใจ

ถ้าคนในหอการค้าหงชางอยากสร้างปัญหาให้ตัวเองต่อไปก็มาเลย

กว่าหนึ่งชั่วโมงต่อมา เฉินฟานลากเหยื่อกลับมาอีกครั้งและปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน

คราวนี้มันเป็นแมวเงา

เมื่อเปรียบเทียบกับสัตว์อสูรระดับสูงทั่วไป ร่างกายของมันก็เล็กกว่ามาก มันสูงเพียงสามเมตรกว่าและหนักไม่เกินสองตันเท่านั้น

แต่มันรวดเร็วและซ่อนตัวเก่งมาก ด้วยกรงเล็บที่แหลมคม มันสามารถฆ่านักรบฮัวจินได้อย่างง่ายดาย

แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับหมีคลั่งและงูจุดสีเท่า มันยังอ่อนแอกว่ามากและราคาซื้อเพียง 2.5 ล้านคะแนนเท่านั้น

ผ่านไปอีกชั่วโมงหนึ่ง ร่างของเฉินฟานก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

คราวนี้ เขาลากราชาหมาป่าวายุกลับมา

กว่าหนึ่งชั่วโมงต่อมา เขาก็ลากเหยื่ออีกตัวกลับมา

ผู้คนที่อยู่นอกเมืองอันชานจะหยุดดูเฉินฟานทุกครั้งที่เขาลากเหยื่อของเขาเข้าไปในลานสนามของสมาคม

ต่อมาเมื่อพวกเขาได้ยินการเคลื่อนไหว พวกเขาก็เหลือบมองไปตรงนั้นและจนถึงตอนนี้พวกเขาตกตะลึงจนงุนงงไปหมดแล้ว

เวลาผ่านไปทีละนิด

ความมืดมิดก็ย่างกลายเข้ามาในพริบตา

หลินฮุ่ยนำคนของเขาและยืนอยู่นอกกำแพง มองเข้าไปในส่วนลึกของดินแดนรกร้าง

“ตอนนี้มืดแล้ว ทำไมน้องเฉินฟานยังไม่กลับมา?”

เขาพูดอย่างกังวลใจ

ครั้งล่าสุดที่เฉินฟานกลับมา เขาเตือนเป็นพิเศษว่าอีกครึ่งชั่วโมงจะมืดแล้ว

ช่วงเวลารัตติกาลในส่วนลึกเข้าไปในถิ่นทุรกันดารนั้นอันตรายยิ่งกว่าที่อื่นๆ

หากเจ้าโชคร้าย ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรชั้นหัวหน้า

แน่นอนว่าเฉินฟานไม่ฟังเขาเลย

“ผู้อาวุโสหลิน ข้าคิดว่าในเมื่อน้องเฉินฟานกล้าไป จะต้องไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”

“ใช่ ดูเหมือนว่าน้องเฉินฟานจะบ้าบิ่น แต่เขามั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง ข้าเชื่อว่าเขาจะกลับมาเร็วๆ นี้”

หลายคนที่อยู่ข้างๆเขาพูดในทางดีขึ้น

"อืม"

หลินฮุ่ยพยักหน้า

ในขณะนั้นเองก็ร่างๆหนึ่งค่อยๆ โผล่ออกมาจากระยะไกล

"มาแล้ว!"

เขาตะโกนออกมาอย่างรีบเร่ง

เมื่อระยะห่างเข้ามาใกล้มากขึ้น สีหน้าของความตกตะลึงอย่างรุนแรงก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา

เพราะเขาเห็นว่าเฉินฟานกลับมาในครั้งนี้ จู่ๆ เขาก็ลากสัตว์อสูรระดับสูงสองตัวกลับมาโดยไม่คาดคิด!

“ผู้อาวุโสหลิน ทำไมท่านถึงมาที่นี่?”

เฉินฟานยิ้มให้หลินฮุ่ยที่รีบวิ่งเข้ามา

“น้องเฉิน เจ้า..เจ้า..?”

หลินฮุ่ยชี้ไปที่เหยื่อที่อยู่ด้านหลังเฉินฟาน

สุนัขสิงโตป่า สูง 4-5 เมตร มันเป็นสุนัขและที่ชื่อว่าสิงโตเป็นเพราะมีขนยาวตามลำคอ โดยเฉพาะบนใบหน้าของมัน และรูปร่างของมันเทียบได้กับหมีคลั่งและในแง่ของความแข็งแกร่ง ก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าหมีคลั่งมากนัก

อีกตัวเป็นงูจุดสีเทา

"โอ้.."

เฉินฟานมองกลับไป ยักไหล่แล้วพูดว่า "เดิมทีข้าวางแผนที่จะกลับมาหลังจากที่ข้าฆ่าสุนัขสิงโตป่าตัวนี้ได้ แต่งูตัวนี้กลับต้องการที่จะโจมตีข้าในภายหลัง ทำให้ข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนำมันกลับมาด้วย"

"แล้วเจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"

หลินฮุ่ยถามอย่างเร่งรีบ

"ข้าสบายดี"

เฉินฟานยิ้มและถามอย่างสงสัย "ผู้อาวุโสหลิน สุนัขสิงโตป่าตัวนี้ราคาเท่าไหร่?"

"3.5 ล้าน"

หลินฮุ่ยไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี "นับเป็นงูสีเทา 3.5 ล้านคะแนนเข้าไปด้วยก็รวมเป็น 7 ล้านคะแนน"

"7 ล้านคะแนน"

เฉินฟานพยักหน้า หากนับสัตว์อสูรระดับสูงตรงหน้าเขาตอนนี้ คะแนนการบริจาคของเขาควรอยู่ในอันดับแรกในรายชื่อประจำเดือนแล้วใช่ไหม?...

………….