บทที่ 164 นักรบขอบเขตหยวนแก่นแท้

รอบข้างไร้สุ่มเสียง

ดวงตานับไม่ถ้วนจับจ้องไปที่เฉินฟาน

นอกจากนี้ ดวงตาของหลินฮุ่ยยังไม่พอใจเล็กน้อย

เขาพาผู้คนมาที่นี่เป็นการส่วนตัว ไม่เพียงแต่เพื่อซื้อวัสดุสัตว์อสูรในมือของเฉินฟาน แต่ยังเพื่อชนะใจเขาให้เข้าร่วมสมาคมศิลปะการต่อสู้อีกด้วย

ในเมืองอันชานมีนักรบเพียงไม่กี่สิบคนเท่านัน้ และพวกเขาก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ดังนั้นไม่ว่าเฉินฟานจะสวมหน้ากากหรือไม่ ถ้าเขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงมาก เขาจะถูกสังเกตเห็นทันทีอย่างแน่นอน

ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น ลู่หยางที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็มาเพราะมีจุดประสงค์นี้เช่นกัน

ใครก็ตามที่มีสายตาที่เฉียบแหลมจะเห็นว่าความแข็งแกร่งโดยรวมของฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งกว่าเขามากและนี่ไม่ใช่ความลับที่ยิ่งใหญ่อะไร

ผู้อเวคและคนธรรมดานั้นเป็นสองชนชั้นที่แตกต่างกันโดยสมบูรณ์ และแม้แต่กับผู้อเวคบางคน พวกเขาก็ไม่ถือว่าคนธรรมดาเป็นเผ่าพันธ์ุของตัวเองเลย

ส่วนผู้อเวคและนักรบนั้นเป็นสองชนชั้นจริงๆ แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะต่อสู้เพื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่ผู้คนที่มีความแข็งแกร่งอยู่เบื้องบนอาจมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ในขณะที่ผู้คนที่อยู่ด้านล่างนั้นมีสถานะไม่ค่อยดีนัก

ตัวอย่างเช่น สาขาเมืองอันชานของพวกเขาถูกกดขี่โดยผู้อเวคระดับ C หลายคนในเมืองอันชาน และพวกเขาก็ถูกบีบในทุกทิศทาง และความแข็งแกร่งของพวกเขาก็อยู่ในระดับปานกลาง

ดังนั้นหลังจากที่นักรบที่นี่ได้รับแรงดึงดูดจากบางสิ่งแล้ว ส่วนใหญ่จะเลือกที่จะเข้าร่วมเมืองอันชานและรับใช้ผู้อเวคเหล่านั้น แทนที่จะเข้าร่วมสมาคมศิลปะการต่อสู้

เขาคำนึงถึงสิ่งนี้อย่างมาก ดังนั้นเขาจึงไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม และวางแผนที่จะดำเนินการอย่างช้าๆ

"ไม่"

ในเวลานี้ เสียงของเฉินฟานดังขึ้น

ถ้าเป็นผู้อเวคคนอื่น เขาอาจจะยอมรับมันเพื่อประโยชน์ของทรัพยากร แต่ถ้าเป็นผู้อเวคในเมืองอันชาน..ก็ลืมมันซะ

"ดี..ดีมาก"

ลู่หยางพยักหน้า จ้องไปที่เฉินฟานอย่างแน่วแน่แล้วพูดว่า "ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่เสียใจในอนาคต"

หลังจากพูดจบเขาก็พาทุกคนออกไปด้วยความหงุดหงิด

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ทุกคนก็ส่ายหัวและถอนหายใจออกมา โดยรู้สึกว่าการกระทำของเฉินฟานนั้นไม่มีเหตุผล

เมื่อเขาปฏิเสธลู่หยาง เขาก็เท่ากับปฏิเสธผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้น

ในอนาคต คงเป็นเรื่องยากที่เขาจะตั้งหลักในเมืองอันชาน

"นี่มันอะไรกัน"

เฉินฟานคิดในใจ

เขาเพิ่งมาที่เมืองอันชานพร้อมกับเหยื่อเพื่อขาย เพื่อแลกเปลี่ยนกับเม็ดยาพลังงานเลือด แต่ก่อนที่เขาจะเข้าไปในประตู ก็มีคนกลุ่มหนึ่งมาบังคับให้เขาเข้าร่วมกับพวกเขา

เมื่อเขาไม่ร่วมก็จากไปด้วยความโกรธเสียอย่างนั้น

คนพวกนี้คงคุ้นเคยกับการเป็นคนหยิ่งในชีวิตประจำวันแน่ๆ

“อย่ากังวลไปเลยสหาย”

หลินฮุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม "เมื่อพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ ข้าสงสัยว่าท่านยินดีที่จะขายวัสดุสัตว์อสูรเหล่านี้ให้เราหรือไม่?"

เขาต้องการรับสมัครเฉินฟานเพื่อเข้าร่วมสมาคมศิลปะการต่อสู้

แต่การกล่าวถึงเรื่องนี้ในเวลานี้ถือว่าไม่เข้ากับสถานการณ์เล็กน้อย

มันยังไม่สายเกินไปที่จะเชิญชวนอย่างจริงใจหลังจากการทำธุรกรรมระหว่างทั้งสองฝ่ายเสร็จสิ้นแล้ว

“ดูเหมือนข้าจะไม่มีทางเลือกแล้ว?”

เฉินฟานยักไหล่

"ฮ่าๆๆ"

หลินฮุ่ยอดหัวเราะไม่ได้ “สหาย โปรดตามข้ามา”

เฉินฟานเดินตามเขามาและมาถึงค่ายทางซ้ายมือ หลังจากเข้าไปแล้ว รูปแบบภายในไม่แตกต่างจากซ่งเจียเป่ามากนัก กล่าวอีกนัยหนึ่งสถานที่นี่มันเหมือนกับซ่งเจียเป่าเลย

ความนิยมของหลินฮุ่ยนั้นดีมาก และมีผู้คนทักทายเขาตลอดทาง

แต่ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังคงจ้องมองที่เฉินฟานด้วยสายตาที่ประหลาดใจ

เมื่อเข้าไปในสนามหญ้า ไม่นานก็มีคนมาชั่งน้ำหนักเหยื่อ

เม่น 2 ตัว รวม 2,050 ปอนด์

เสือดาวเลือดแดง 620 ปอนด์

หมาป่าวายุ 15 ตัว หนัก 12,500 ปอนด์

"สหาย เสือดาวเลือดแดงราคา 12 หยวนต่อปอนด์ 620 ปอนด์คือ 7,440 หยวน หมาป่าวายุอยู่ที่ 15 หยวนต่อปอนด์ และมากกว่า 10,000 ปอนด์คือ 187,500 หยวน นอกจากนี้กรงเล็บของพวกมันยังคมอีกด้วย ข้าสามารถซื้อในราคาตัวละ 1,000 หยวน รวมซากหมาป่าทั้งหมดนี้ท่านได้เงิน 247,500 หยวน..

เม่นราคาปอนด์ละ 18 หยวน ซึ่งเท่ากับ 36,900 หยวน นอกจากนี้ งาแต่ละอันสามารถขายได้ในราคาสูงถึง 5,000 หยวน แม้ว่าหนึ่งในนั้นจะได้รับความเสียหาย แต่เราก็ยังยินดีที่จะซื้อในราคาเดิมซึ่งอยู่ที่ 56,900 หยวน

รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 311,840 หยวน ลองดูสิ มีปัญหาอะไรมั้ย? หากไม่มีปัญหาเราจะทำข้อตกลงในราคานี้ "

หลังจากกดเครื่องคิดเลข เขียนบนกระดาษแล้ว หลินฮุ่ยก็พูดด้วยรอยยิ้ม

“มากกว่า 310,000?”

เฉินฟานคิดกับตัวเองว่าเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?

จากการคำนวณ 5,000 หยวนสำหรับเม็ดยาพลังงานเลือดระดับกลางด้วยเงิน 310,000 หยวน สามารถซื้อได้ 62 เม้ด ซึ่งเท่ากับ 124,000 แต้มศักยภาพ

หากทำเช่นนี้อีกสองครั้ง เขาจะสามารถรวบรวมแต้มศักยภาพสำหรับการพัฒนาขอบเขตต่อไปได้

อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาออกไปล่าสัตว์อสูรระดับสูง เขาจะได้รับเงินสำหรับการแลกเปลี่ยนมากกว่านี้ใช่ไหม?

"ไม่มีปัญหา"

เขาพูดขึ้น

"ดี"

หลินฮุ่ยพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า

พูดตามตรง เขารู้สึกว่าราคาที่หลินฮุ่ยให้นั้นยุติธรรมอย่างมาก

และเฉินฟานพอใจอย่างมาก…

“ยังไงก็ตาม ข้าได้ยินท่านพูดก่อนหน้านี้ว่าสาขาของท่านขายอาวุธที่จำเป็นสำหรับนักรบหลายประเภทด้วยใช่ไหม?”

"ใช่แล้วล่ะ"

หลินฮุ่ยยิ้มจนตาของเขาหรี่ลง เขาแค่รอให้เฉินฟานถามคำถามนี้

“ข้าไม่รู้ว่าท่านจะซื้ออะไรสหาย?”

“มีเม็ดยาพลังงานเลือดระดับสูงบ้างไหม?”

เฉินฟานถามอย่างไม่แน่ใจ

เขาไม่ได้คาดหวังอะไรมากเกินไปในใจ ถ้าไม่เช่นนั้น เขาก็จะซื้อเม็ดยาพลังงานเลือดระดับกลางเท่านั้น

หากสมาคมศิลปะการต่อสู้นี้ไม่มีเม็ดยาพลังงานเลือดระดับกลางด้วยซ้ำ เขาสามารถเข้าไปภายในเมืองอันชานเพื่อดูได้

"มี"

หลินฮุ่ยโพล่งออกมา

เฉินฟานตกใจ “จริงเหรอ?”

"มีแน่นอนจริงๆ"

หลินฮุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม "สมาคมของเราไม่เพียงแต่มีเม็ดยาพลังงานเลือดระดับสูงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเม็ดยาพลังปราณแท้ที่จำเป็นสำหรับการฝึกฝนของนักรบขอบเขตการกลั่นชีพจรด้วย"

“เม็ดยาพลังปราณแท้?”

เมื่อเฉินฟานได้ยิน หัวใจของเขาก็ร้อนรุ่ม

แม้ว่าเขาจะไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน แต่ความหมายของอีกฝ่ายก็ชัดเจนอยู่แล้ว

เม็ดยาพลังปราณแท้นี้เป็นยาที่เตรียมไว้สำหรับนักรบขอบเขตใหญ่ต่อไป

แต้มศักยภาพที่มอบให้มีแนวโน้มที่จะสูงกว่าเม็ดยาพลังงานเลือดระดับสูงเสียอีก!

“ใช่ เม็ดยาพลังปราณแท้”

หลินฮุ่ยอธิบายว่า "สหาย ท่านควรรู้ว่าถ้าท่านต้องการก้าวต่อไปในเส้นทางของนักรบ ท่าน ต้องเปลี่ยนพลังงานความแข็งแกร่งทั้งหมดในร่างกายของท่านให้เป็นพลังปราณที่แท้จริง ก่อนที่ท่านจะสามารถเข้าสู่ขอบเขตใหญ่ต่อไปได้ ซึ่งก็คือขอบเขตการกลั่นชีพจรนั่นเอง..

..หลังจากมาถึงขอบเขตนี้แล้ว นักรบสามารถปลดปล่อยพลังปราณที่แท้จริงออกมาได้ และพลังของก็ทรงพลังอย่างมาก

แน่นอนว่าความคืบหน้าก็ช้ามากเช่นกัน เนื่องจากในการเปิดเส้นชีพจรลมปราณพิเศษทั้งแปดในร่างกายให้สมบูรณ์ ต้องใช้พลังปราณที่แท้จริงจำนวนมหาศาล ด้วยความช่วยเหลือของเม็ดยาพลังปราณแท้ เราจะได้ผลลัพธ์เป็นสองเท่าโดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียว ในขอบเขตปัจจุบันของท่าน ท่านยังไม่จำเป็นต้องใช้เม็ดยาพลังปราณแท้หรือเม็ดยาพลังงานเลือดระดับสูงนั้นจริงๆ "

เขาเหลือบมองที่เฉินฟาน และถอนหายใจแล้วพูดว่า "เป็นเพียงว่าเม็ดยาพลังงานเลือดมีไม่เพียงพอเสมอ สหาย หากท่านต้องการท่านสามารถรับได้ขวดหนึ่ง..มันก็ถึงขีดจำกัดแล้วจริงๆ เว้นแต่... "

เมื่อเฉินฟานได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไรบางอย่าง

เป็นเรื่องแปลกใจที่สามารถซื้อขวดได้อย่างราบรื่น ดังนั้นเขาจึงถามออกไปว่า “เว้นแต่อะไร?”

“เว้นแต่..ท่านจะยินดีเข้าร่วมสมาคมศิลปะการต่อสู้เขตเจียงหนานของเรา”

หลินฮุ่ยจ้องไปที่เฉินฟานด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

“เข้าร่วมสมาคมศิลปะการต่อสู้เจียงหนานหรือ?”

“ฮิฮิ ข้าลืมไปเลย ท่านอาจไม่รู้เรื่องพวกนี้ ไม่เป็นไร..เดี๋ยวข้าจะอธิบายให้ฟังแล้วท่านจะเข้าใจ”

หลินฮุ่ยพลิกหน้ากระดาษ วาดวงกลมเล็กๆ บนกระดาษเปล่าแล้วพูดว่า

“นี่เป็นเมืองใหญ่ทางตอนใต้ของแม่น้ำแยงซีเกียง”

เอาวงกลมเล็กๆ นี้เป็นศูนย์กลางอีกครั้งแล้วพูดว่า "นี่คือเขตเจียงหนาน นอกจากจะมีเมืองใหญ่หนึ่งเมืองแล้ว ยังมีเมืองขนาดกลางห้าหรือหกเมือง และเมืองเล็กอีกมากกว่า 20 เมือง เมืองอันซานที่เราอยู่ในปัจจุบันก็เป็นหนึ่งในนั้น”

“ดังนั้น สมาคมศิลปะการต่อสู้เขตเจียงหนานเป็นสมาคมที่ก่อตั้งโดยนักรบจากหลาย ๆ เมืองงั้นหรือ?”

เฉินฟานถามขึ้น

"ใช่"

หลินฮุ่ยพยักหน้า

“ประธานสมาคมศิลปะการต่อสู้เจียงหนานของเราคือผู้เชี่ยวชาญด้านขอบเขตหยวนแก่นแท้”

“ขอบเขตหยวนแก่นแท้?”

น้ำเสียงของเฉินฟานรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

เขาพึ่งรู้จักขอบเขตการกลั่นชีพจรได้ไม่นานมานี้ และยังมีขอบเขตหยวนแท้จริงมาอีกขอบเขตหนึ่ง

“ หลังจากที่นักรบได้เปิดเส้นชีพจรพิเศษทั้งแปดเส้นแล้ว เขาจำเป็นต้องรวบรวมพลังปราณที่แท้จริงที่เก็บไว้ในเส้นลมปราณและโคจรไปรอบ ๆ เพื่อเปิดทะเลแห่งปราณในตันเถียน และเปลี่ยนพลังปราณที่แท้จริงให้เป็นแก่นแท้ ด้วยวิธีนี้หมัดและเท้าของนักรบพวกมันจะมีพลังมหาศาล นี่คืออาณาจักรหยวนแก่นแท้”

หลินฮุ่ยกล่าวด้วยสายตาชื่นชม

"ข้าเข้าใจ"

เฉินฟานตกตะลึงและถามอย่างคาดหวังว่า

“นักรบขอบเขตหยวนแก่นแท้ เขาสามารถเผชิญหน้ากับผู้อเวคระดับ B ได้หรือไม่?”

"นี้…"

หลินฮุ่ยมีสีหน้าเขินอาย "มันเป็นเรื่องปกติที่จะจัดการกับผู้อเวคระดับ C แต่สำหรับผู้อเวคระดับ B..."

เขาลังเลที่จะพูดออกมา

เฉินฟานก็เข้าใจแล้ว

"อะแฮ่ม"

หลินฮุ่ยไอสองครั้งและพูดว่า "ผู้อเวคนั้นแข็งแกร่ง แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถกลายเป็นผู้อเวคและเปลี่ยนชะตากรรมของตนเองได้ หมายความว่าคนธรรมดาควรรอที่จะตายและถูกสัตว์อสูรสังหารใช่หรือไม่? ไม่ใช่อย่างแน่นอน นั่นคือเหตุผลที่เราต้องฝึกศิลปะการต่อสู้แล้วพึ่งพาความแข็งแกร่งของเราเองเพื่อปกป้องตัวเองและคนที่เรารัก นี่คือความตั้งใจดั้งเดิมของสมาคมศิลปะการต่อสู้เขตเจียงหนานของเรา”

"ชัดเจนดี"

เฉินฟานพยักหน้า เพราะนี่คือสิ่งที่เขากำลังไล่ตามเช่นกัน…

………..