ตอนที่ 225 - บทที่ 225 หมายจับผู้อเวคเสมือนระดับ S!

บทที่ 225 หมายจับผู้อเวคเสมือนระดับ S!

หลังจากที่เฉินฟานเปลี่ยนรหัสผ่านและอธิบายวิธีใช้แล้ว เฉินกัวตงก็ทำได้แค่ต้องยอมรับมัน

“เสี่ยวฟาน สิ่งนี้ล้ำค่ามาก เจ้าจะมอบมันให้ข้าจริงๆหรือ?”

เขาจ้องมองที่เฉินฟานและลังเล

“ไม่ต้องห่วงพ่อ ข้ายังมีอีกอันหนึ่งอยู่”

เฉินกัวตงถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินสิ่งนี้

“พ่อ สิ่งนี้มีค่ามากแม้แต่ในเมืองอันชาน ดังนั้นท่านต้องไม่ใช้มันต่อหน้าคนอื่นอย่างเด็ดขาด คนอื่นรู้ไม่มีเรื่องดีและจะมีแต่โทษเท่านั้น ท่านเข้าใจไหม?”

"โอเค ข้ารู้แล้ว"

เฉินกัวตงพยักหน้าอย่างจริงจัง

“เอาล่ะพ่อ ข้าควรจะไปแล้วเหมือนกัน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นที่หมู่บ้านก็อย่าลืมโทรหาข้าด้วย”

เฉินฟานเหลือบมองเวลา มันยังไม่สายมากนัก

การเสียชีวิตของกวนเต๋อฮวานั้น เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วว่าจะไม่ถูกปกปิดเป็นเวลานานเกินไป เขาจะต้องคว้าช่วงเวลาอันสั้นนี้ไว้และพยายามปรับปรุงตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นให้ได้มากที่สุด

"อืม"

เฉินกัวตงซ่อนความกังวบใจของเขาไว้ลึกๆ ในใจ และเขาพูดเพียงว่า "ระวังตัวด้วย หากเจ้าพบกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งจงให้รีบวิ่งหนีก่อนทันที ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ชีวิตก็สำคัญกว่าเหนือสิ่งอื่นใด"

"ข้าจะทำอย่างนั้นแน่นอน"

เฉินฟานยิ้มแล้วเดินลงไปชั้นล่าง

หลังจากบอกลาแม่และน้องชายของเขาแล้ว เขาก็เดินไปที่บ้านของชายชราก่อน หลังจากนั้นก็จะพากู่เจ๋อออกจากหมู่บ้านไป

ส่วนชายชรากำลังงีบหลับอยู่ในเวลานี้

มีคนปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาและกำลังจะด่าออกมาอย่างโกรธเคือง แต่เมื่อเขามองขึ้นไป เขาเห็นว่าเป็นเฉินฟาน จากนั้นรอยยิ้มที่ประจบประแจงปรากฏบนใบหน้าของเขา

“น้องชาย เจ้ามีอะไรให้ข้าช่วยงั้นหรือ?”

“ท่านผู้อาวุโส ข้าดมาเพื่อบอกลาท่าน”

"เจ้าจะออกจากไปอีกแล้ว?"

ชายชรามองเฉินฟานด้วยความประหลาดใจ จากนั้นความประหลาดใจก็ค่อยๆ กลายเป็นความโศกเศร้า และพูดด้วยดวงตาสีแดง "น้องชาย ทำไมเจ้าถึงจากไปหลังจากกลับมาเร็วขนาดนี้? อยู่ให้นานอีกสักวันหรือสองวันไม่ได้หรือ!"

“การแสดงของท่านดูเกินจริงไปหน่อยนะ”

เฉินฟานเหลือบมองเขา

ชายชราผงะ จากนั้นรอยยิ้มเขินอายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

เฉินฟานส่งสัญญาณให้คนที่อยู่ข้างๆ เขาออกไปก่อน แล้วพูดว่า

“งั้นข้าขอเข้าเรื่องเลยล่ะกัน ที่ข้ามาหาท่านคราวนี้ข้าอยากจะถามว่าท่านมีสูตรปรุงยาบ้างไหม เช่น เม็ดยาพลังงานเลือด, เม็ดยาพลังปราณและอื่นๆ”

“เม็ดยาพลังงานเลือด, เม็ดยาพลังปราณ?”

ชายชราขมวดคิ้ว

"ไม่มีหรือ?"

เมื่อเฉินฟานเห็นอย่างนี้แล้ว หัวใจของเขาก็จมลง

"นี่ดูเหมือนว่าไม่มีจริงๆ ... "

ชายชรายิ้มอย่างเบี้ยวและพูดว่า "ข้าเคยเห็นหนังสือมาสองสามเล่ม แต่หลังจากอ่านไปหนึ่งหรือสองหน้าข้าก็ยอมแพ้ไป ยิ่งไปกว่านั้นมันนานมากจนข้าลืมมันไปแล้ว"

"ช่างเถอะ ไม่เป็นไร"

เฉินฟานตอบว่า "งั้นท่านก็พักผ่อนต่อเถอะ"

หลังจากพูดแล้วเขาก็หันหลังและเดินออกไป

“เฮ้ น้องชาย เจ้าจะจากไปแบบนั้นเหรอ?”

ชายชรารู้สึกขุ่นเคือง

เจ้าเด็กนี้ เขาก็เผื่อคิดว่าเขาเคารพข้าและมาที่นี่เพื่อทักทายก่อนจากไป

"ทำไมข้าจากไปไม่ได้เหรอ?"

เฉินฟานเหลือบมองเขา “หรือจะให้ข้าอยู่กับท่านที่นี่งั้นเหรอ?”

"ไม่ ไม่ต้องหรอก! เจ้าไปทำสิ่งที่จำเป็นต้องทำเถอะ"

เมื่อชายชราได้ยินดังนั้นเขาก็หดตัวคอทันที

มันเกือบจะเขียนไว้บนใบหน้าของเขาว่าเจ้าไปเถอะ

เฉินฟานออกจากที่นี่ และไม่นานก็พบกู่เจ๋อ

พ่อและแม่ของกู่เจ๋อก็อยู่ที่นั่นด้วย พวกเขามองดูกู่เจ๋อที่เก็บกระเป๋าเดินทางของเขาด้วยท่าทางไม่เต็มใจ

“พ่อครับแม่ครับ ข้าไปก่อนนะ”

กู่เจ๋อมองไปที่พ่อแม่ของเขา

“เมื่อเจ้าไปถึงที่นั่น เจ้าควรรู้จักควบคุมอารมณ์และพยายามไม่ทำให้คนอื่นขุ่นเคือง” กู่เจียงไห่ตักเตือนและมองไปที่เฉินฟานอีกครั้ง

“เสี่ยวฟาน ระหว่างทางก็ฝากเจ้าดูแลเสี่ยวเจ๋อด้วย”

“ไม่ต้องห่วงครับลุงกู่”

เฉินฟานรู้สึกประทับใจอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นฉากนี้

ไม่นานทั้งสองก็เดินออกจากหมู่บ้านไป

กู่เจ๋อเหลือบมองกลับไปและกำหมัดแน่น

ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ทั้งสองก็มายืนอยู่หน้าเมืองสูงแห่งหนึ่ง

เมื่อเปรียบเทียบกับเมืองอันชาน เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นบนที่ราบดังนั้นขนาดของมันจึงใหญ่กว่ามาก แม้แต่หมู่บ้านข้างนอกก็มีมากถึงแปดหมู่บ้านที่เป็นเช่นเดียวกับป้อมยามหน้าเมือง

บนท้องถนนมียานพาหนะวิ่งพลุกพล่านและคึกคักอยู่ตลอดเวลา

“นี่คือเมืองหวังใช่ไหม?”

กู่เจ๋อมองไปรอบ ๆ ขณะที่พูดกับตัวเอง

เฉินฟานพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม "ไปกันเถอะ เข้าไปที่เมืองก่อน รอให้เจ้าผ่านการทดสอบ เจ้าสามารถเที่ยวชมได้นานเท่าที่เจ้าต้องการ"

"อืม"

กู่เจ๋อมองไปที่ประตูเมืองด้วยสายตาแน่วแน่

ทั้งสองจ่ายเงินและหลังจากเข้าไปในเมือง พวกเขาก็พบที่ตั้งของสมาคมผู้อเวคอย่างรวดเร็ว พวกเขาเดินเข้าไปและไม่นานก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกเขา หลังจากที่รู้ว่ากู่เจ๋อมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมการประเมินเป็นผู้อเวค ดวงตาของเธอก็สั่นไหว ก็พาเขาไปอย่างกระตือรือร้น

เฉินฟานพบสถานที่นั่งและหยิบนิตยสารขึ้นมาอ่านเพื่อฆ่าเวลา

เขามั่นใจว่ากู่เจ๋อผ่านการประเมินของสมาคมผู้อเวคในเวลานั้น และเขาจะรู้ด้วยว่าเนื้อหาของการประเมินเป็นอย่างไรได้เช่นกัน

ในห้องโถงสมาคมมีคนเข้าออกมากมาย

โดยเฉพาะหน้าจอใหญ่ด้านหน้า หลายคนมารวมตัวกันชี้ไปที่เนื้อหาบนหน้าจอและกระซิบกระซาบกัน

เฉินฟานมองดูและใบหน้าของเขาก็แสดงความประหลาดใจออกมาทันที

ภารกิจระดับ E :

ฆ่าหมาป่าวายุสิบตัว นำกรงเล็บและฟันกลับมากลับมาแลกคะแนนสะสม 15 คะแนน

“มันเป็นภารกิจของสมาคมผู้อเวคหรือ? รางวัลสำหรับการทำภารกิจสำเร็จคือคะแนนงั้นเหรอ?”

เฉินฟานดูคำอธิบายของภารกิจที่หนึ่ง

หมาป่าวายุที่เป็นสัตว์อสูรระดับกลางใช่ไหม?

ราคาซื้อของสมาคมนักรบรวมทั้งกรงเล็บด้วย ควรอยู่ที่ 10,000 หยวนและต่อคะแนนการบริจาคต่อตัว

หมาป่าวายุ 15 ตัวราคาซื้อประมาณ 150,000 หยวน

อย่างไรก็ตาม มันเป็นมีเพียง 15 คะแนนในสมาคมผู้อเวค?

“คะแนนนี้น่าจะมีคุณค่าอย่างมาก”

เฉินฟานคิด

จากราคาซื้อเช่นนี้หมาายความว่าหนึ่งคะแนนของสมาคมผู้อเวคเท่ากับ 10,000 หยวน?

เขาแปลกใจเล็กน้อยและมองลงไปต่อไป

ภารกิจระดับ E :

ฆ่าเม่นสิบตัว นำงา ขน กลับมาแลกคะแนนสะสม 50 คะแนน

เม่นก็เป็นสัตว์อสูรระดับกลางเช่นกัน แต่มันอันตรายยิ่งกว่าหมาป่าวายุอย่างมาก ดังนั้นราคาจึงสูงมากและราคาซื้อของสมาคมผู้อเวคอยู่ประมาณ 50,000 หยวนต่อตัว

เม่นสิบตัวเท่ากับราคา 500,000 หยวน

ถ้าในส่วนของสมาคมผู้อเวค ภารกิจจะได้รับรางวัล 50 คะแนน

ใช่แล้ว หนึ่งคะแนนเท่ากับ 10,000 หยวน

ทันใดนั้นเขาก็หายใจเข้าลึก ๆ ดวงตาของเขาตกไปอีกด้านหนึ่ง

ภารกิจระดับ D:

ฆ่าหมีคลั่งสามตัวแล้วนำกรงเล็บหมีกลับมา ภารกิจเสร็จสิ้นแลกคะแนนสะสม 1200 คะแนน

ราคาซื้อของสมาคมนักรบสำหรับหมีคลั่งคือ 4 ล้านหยวนสำหรับหนึ่งตัว ดังนั้นสำหรับสามตัวคือราคา 12 ล้านหยวน

และก็เท่ากับ 1,200 คะแนนพอดี

“ตามที่คาดไว้สมกับเป็นสมาคมผู้อเวคจริงๆ”

เขารู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อยอยู่ในใจ แต่เขาก็ยังตั้งตารอมันมากเช่นกัน

เพราะเพียงหนึ่งพันคะแนนก็สามารถมีมูลค่าเป็นล้านหยวนของโลกภายนอกได้ และเป็นที่คาดหวังว่าสิ่งของในสมาคมผู้อเวคที่มีราคาเป็นล้านคะแนนจะยอดเยี่ยมมากขนาดไหน?

เขาหันสายตาและมองไปยังทิศทางที่กู่เจ๋อออกไป

เขาส่ายหัวแล้วมองดูหนังสือในมือต่อไป

เพิ่งเปิดหน้าแรก จู่ๆ ตัวอักษรสีแดงเลือดสามตัวก็ปรากฏขึ้น

“หมายจับ?”

เฉินฟานไม่คาดคิดว่าจะเจอสิ่งนี้เลย

อดไม่ได้ที่จะมองลงไปต่อไป

ผู้อเวคเสมือนระดับ S

สิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาของคุณคือชายวัยกลางคนที่มีรอยยิ้มที่อ่อนโยน คล้ายกับคนที่มีนิสัยละเอียดอ่อนและประณีต ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิ

แต่การแนะนำต่อจานั้นทำให้ผู้คนสั่นสะท้าน

ผู้กลืนกินกงโบ ความสามารถคือการกลืนความสามารถของผู้อเวคคนอื่น ๆ และเอาความสามารถนั้นมาเป็นของตัวเอง จนถึงตอนนี้เขาได้สังหารผู้อเวคระดับ A 3 คน ผู้อเวคระดับ B 15 คน ผู้อเวคระดับ C และระดับล่าง มากกว่าร้อยคน เป็นบุคคลอันตรายอย่างยิ่ง!

ใครก็ตามที่ให้เบาะแสที่ถูกต้องของบุคคลนี้จะได้รับรางวัลหนึ่งล้านคะแนน!

“ความสามารถในการกลืน!”

เฉินฟานผงะ นี่เรียกว่าเป็นความสามารถระดับบัคแล้ว

ทั้งในแง่ของอัตราการเติบโตและศักยภาพ พวกมันเหนือกว่าผู้อเวคคนอื่นๆ อย่างมาก

จริงๆ แล้วเมื่อพิจารณาจากบันทึกของเขาแล้ว คนนี้ก็ถือว่าแข็งแกร่งอย่างมากเช่นกัน

ต้องรู้ว่าผู้อเวคระดับ A นั้นโดยพื้นฐานแล้วพวกเขาจะนั่งสบายอยู่ในเมืองใหญ่ และความแข็งแกร่งแบบตัวต่อตัวของพวกเขาก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าสัตว์อสูรระดับหัวหน้ามากนัก

ผลก็คือเดโวเรอร์หรือผู้กลืนกินนี้สามารถสังหารผู้อเวคระดับ A สามคนในเวลาเพียงไม่ถึงสิบปี ไม่สิ..อาจจะแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น!

เป็นไปได้ว่าเขาจะมีพลังมากขึ้นอย่างมาก หลังจากกลืนกินความสามารถของผู้อเวคระดับ Aทั้งสามคน

“ผู้อเวคเสมือนระดับ S”

เฉินฟานทำการจดจำใบหน้าของบุคคลนี้อย่างขึ้นใจ

ไม่ใช่เพื่อรับรางวัล แต่เพื่อการวิ่งหนีหากวันหนึ่งเขาโชคไม่ดีและได้ไปเผชิญเข้ากับเขา

แต่นี่คือคนแรกเท่านั้น

คนที่สอง ภาพเป็นผู้ชายปากโต สิ่งที่น่ากลัวคือมีเขี้ยวคล้ายปลาปิรันย่าสองแถวอยู่ในปากของเขา

อสูรยักษ์, หยูเจี้ยนเฉียว

ความสามารถคือความตะกละซึ่งสามารถเปลี่ยนเนื้อและเลือดที่กลืนกินให้เป็นพลังของตัวเองได้และมีบุคลิกที่โหดร้าย จนถึงตอนนี้เขาได้สังหารผู้อเวคระดับ A  2 คน และผู้อเวคระดับ B 10 คนแล้ว

ใครก็ตามที่ให้เบาะแสที่ถูกต้องของบุคคลนี้จะได้รับรางวัลหนึ่งล้านคะแนน!

“โอเกอร์ อสูรยักษ์...”

หนังศีรษะของเฉินฟานรู้สึกเสียวซ่าอยู่ครู่หนึ่ง

ผู้ชายคนนี้ดูดุร้ายกว่าคนแรกเสียอีก

คนที่สามและเป็นคนสุดท้าย

กลายเป็นผู้หญิงที่มีผิวขาวและมีรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอทำให้ผู้คนรู้สึกมีเสน่ห์มาก

นักบูชายัญ เหอเสี่ยวฉิน

บุคคลนี้มีความสามารถในการบูชายัญชีวิตของคนอื่นและอัญเชิญสิ่งมีชีวิตปีศาจจากแดนนรก ยิ่งมีคนเสียสละมากเท่าไร ปีศาจก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น จนถึงตอนนี้ เมืองใหญ่หนึ่งเมือง เมืองขนาดกลางสามเมือง และเมืองขนาดเล็กยี่สิบเมืองแล้วที่ถูกเธอทำการบูชายัญ

และใครก็ตามที่ให้เบาะแสที่ถูกต้องของบุคคลนี้จะได้รับรางวัลหนึ่งล้านคะแนน!...

……………..