ตอนที่ 134 : ยุยงแปรพักตร์ระดับบรอนซ์เขียว! สามผู้มีพรสวรรค์ที่ถูกดึงดูดมาโดยการจัดอันดับชื่อเสียง!

โจวโจวมองไปที่พวกมัน ในไม่ช้าก็มีการแจ้งเตือนสีทองปรากฏขึ้นมาอย่างช้าๆ

[ตรวจพบชิ้นส่วนคริสตัลพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับบรอนซ์เขียว 10 อัน ท่านต้องการผสานพวกมันเป็นลูกแก้วพรสวรรค์แห่งลอร์ดเทวะแรกกำเนิดระดับบรอนซ์เขียวหรือไม่?]

“ต้องการ!” โจวโจวพูด

อึดใจต่อมาก็มีแสงสีบรอนซ์เปล่งประกายขึ้น

คริสตัลสีบรอนซ์หกเหลี่ยมขนาดเท่าหัวแม่มือปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา

มันถูกล้อมรอบด้วยวงแหวนแห่งแสงสีบรอนซ์ที่ดูราวกับวงแหวนของดวงดาว

มันคือลูกแก้วพรสวรรค์แห่งลอร์ดเทวะแรกกำเนิดระดับบรอนซ์เขียว!

[ชื่อไอเท็ม: ลูกแก้วพรสวรรค์แห่งลอร์ดเทวะแรกกำเนิด]

[ระดับไอเท็ม: ระดับบรอนซ์เขียว]

[เอฟเฟกต์ไอเท็ม 1: หลังจากดูดซับมัน ลอร์ดจะสามารถปลุกพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับบรอนซ์เขียวได้แบบสุ่ม!]

[เอฟเฟกต์ไอเท็ม 2: ลอร์ดที่มีพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเหล็กดำสามารถใช้มันเพื่ออัพเกรดพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเหล็กดำให้กลายเป็นพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับบรอนซ์เขียวได้!]

[รายละเอียดไอเท็ม: สมบัติแห่งกฎเกณฑ์ที่ถูกควบแน่นมาจากเจตจำนงสูงสุด ท่านสามารถใช้มันเพื่อปลุกพรสวรรค์หรืออัพเกรดพรสวรรค์ได้]

[ดูดซับหรืออัพเกรด?]

“อัพเกรด!” โจวโจวพูดด้วยโทนเสียงต่ำ

การปลุกพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับบรอนซ์เขียวอันใหม่อาจจะน่าดึงดูด แต่มันก็เป็นแบบสุ่มเกินไป

โจวโจวคงจะเสียใจมากแน่ถ้าเขาปลุกได้พรสวรรค์ที่คล้ายกันกับการกลับสู่เมือง

[โปรดเลือกพรสวรรค์ระดับเหล็กดำที่ท่านต้องการอัพเกรด]

“ฉันเลือกอัพเกรดยุยงแปรพักตร์” โจวโจวกล่าว

[พรสวรรค์แห่งลอร์ดถูกเลือกแล้ว!]

[กำลังดำเนินการอัพเกรด…]

อึดใจต่อมา เขาก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่คุ้นเคยตรงระหว่างคิ้วของเขา

ความรู้สึกนี้ เขาเคยรู้สึกแบบนี้เมื่อครั้งที่เลื่อนระดับอัตราการดรอป 100%

เขารู้สึกถึงมันอีกแล้ว

ครู่ต่อมา ความอบอุ่นก็จางหายไป และก็มีข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้น

[ขอแสดงความยินดีด้วย พรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเหล็กดำของท่าน ยุยงแปรพักตร์ ได้ถูกอัพเกรดเป็นพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับบรอนซ์เขียว!]

[เอฟเฟกต์ต่อไปนี้ได้รับการอัพเกรดเป็นระดับบรอนซ์เขียว]

[พรสวรรค์แห่งลอร์ด: ยุยงแปรพักตร์ (ระดับบรอนซ์เขียว)]

[ยุยงแปรพักตร์: พรสวรรค์เฉพาะตัวของลอร์ด เมื่อท่านต่อสู้กับศัตรูที่เป็นลอร์ดซึ่งๆ หน้า ท่านสามารถเปิดใช้งานพรสวรรค์ยุยงแปรพักตร์เพื่อเปลี่ยนให้กองกำลัง 5% ของลอร์ดฝ่ายศัตรูให้เป็นลูกน้องที่ภักดีของท่าน]

[รายละเอียดพรสวรรค์แห่งลอร์ด 1: ขีดจำกัดต่ำสุดของจำนวนศัตรูที่แปรพักตร์คือ 1 คน และสูงสุดคือ 30,000 คน ความภักดีของศัตรูหลังจากการแปรพักตร์จะมีอยู่ไม่ต่ำกว่า 80]

[รายละเอียดพรสวรรค์แห่งลอร์ด 2: ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูงคือขีดจำกัดสูงสุดในปัจจุบันของกองกำลังที่ท่านสามารถยุยงให้เกิดการแปรพักตร์ได้! ขีดจำกัดนี้สามารถพัฒนาได้]

[รายละเอียดพรสวรรค์แห่งลอร์ด 3: พรสวรรค์นี้สามารถเปิดใช้งานได้วันละครั้ง!]

โจวโจวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจหลังจากได้อ่านมัน

มันมีแค่สองตัวเลขเท่านั้นที่เปลี่ยนไป

อันแรกก็คือเปอร์เซ็นต์ของศัตรูที่ถูกทำให้แปรพักตร์ได้เปลี่ยนจาก 2% เป็น 5%

อันที่สองคือขีดจำกัดสูงสุดของจำนวนศัตรูที่แปรพักตร์ที่เปลี่ยนจาก 10,000 หน่วย เป็น 30,000 หน่วย!

โจวโจวพึงพอใจมาก

เขาไม่คาดคิดเลยว่าการเลื่อนระดับมันมาเป็นระดับบรอนซ์เขียวจะทำให้มันมีเอฟเฟกต์ที่ดีเช่นนี้

จำนวนศัตรูที่แปรพักตร์ 5% ถ้ากองทัพของศัตรูมีเป็นจำนวนมาก 5% นี่ก็จะสามารถปลดปล่อยผลลัพธ์อันน่าทึ่งออกมาได้เลย

ครู่ต่อมา หลังจากอารมณ์ของโจวโจวกลับมาเป็นปกติแล้ว เขาก็เรียกจางไคชานและน้องของเขาเข้ามา

“คาราวะท่านลอร์ด!”

สองพี่น้องแสดงความเคารพออกมาทันที

“อืม อย่างที่พวกเจ้าเห็น ข้าพิชิตที่รกร้างโกบิทั้งหมดแล้ว ต่อไปข้ามีงานจะมอบหมายให้พวกเจ้าทำ”

“พรุ่งนี้ให้ส่งคนออกไปกวาดล้างมอนสเตอร์แห่งหมอกที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วที่รกร้างโกบิเพื่อที่มอนสเตอร์พวกนั้นจะได้ไม่มารบกวนที่รกร้างโกบิอีก”

“พวกเจ้าน่าจะได้ยินมาแล้วใช่ไหมว่าเมืองเวิ้งว้างแห่งนี้จะกลายเป็นเมืองแห่งการค้า? การจัดการมอนสเตอร์ที่กระจายตัวอยู่รอบๆ เพื่อความปลอดภัยนั้นก็เป็นพื้นฐานของเรื่องนี้ พวกเจ้าน่าจะเข้าใจความสำคัญของเรื่องนี้ดี นี่คือแผนที่ของที่รกร้างโกบิ มันบันทึกตำแหน่งของมอนสเตอร์ที่กระจัดกระจายกันไว้แล้ว พวกเจ้าสามารถใช้มันเพื่อจัดการกับพวกมอนสเตอร์แห่งหมอกได้เลย”

โจวโจวหยิบเอาแผนที่ที่รกร้างโกบิออกมาและยื่นมันให้กับพวกเขา

“จากพรุ่งนี้เป็นต้นไป พวกเราจะกวาดล้างมอนสเตอร์ที่กระจัดกระจายกันอยู่ทั่วที่รกร้างโกบิให้หมด พวกเรารับประกันเลยว่ามันจะไม่ส่งผลต่อแผนการสร้างเมืองแห่งการค้าของท่านลอร์ดแน่ๆ”

จางไคชานกล่าวด้วยความเคารพ

โจวโจวพยักหน้ารับ

“นอกจากนี้ในฐานะเมืองแห่งการค้า มันจึงไม่ค่อยดีเท่าไรที่จะเรียกมันว่าเมืองเวิ้งว้างอีก นับจากนี้ไป เมืองเวิ้งว้างจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองทรายทองคำ ที่รกร้างโกบิก็จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นดินแดนทรายทองคำ”

โจวโจวกล่าว

“ขอรับ!”

“เรื่องสุดท้าย เมืองทรายทองคำจะกลายเป็นเมืองแห่งการค้าในอนาคต ข้าย่อมไม่อาจปล่อยให้พวกเจ้าสองคนที่ไม่เข้าใจเรื่องธุรกิจเป็นเจ้าเมืองต่อไปได้ ข้าจะส่งเจ้าเมืองคนใหม่มาในวันพรุ่งนี้ เจ้าเมืองคนนี้มีหัวเรื่องธุรกิจเป็นอย่างมาก เขาจะมาเป็นเจ้าเมืองคนใหม่ของเมืองทรายทองคำและเป็นประธานในแผนพัฒนาธุรกิจในอนาคตของเมืองทรายทองคำ ส่วนพวกเจ้าสองคนก็ถอยออกมาและมาเป็นรองเจ้าเมืองแทน พวกเจ้าคอยช่วยเขาพัฒนาเมืองทรายทองคำให้ดี พวกเจ้ามีข้อโต้แย้งอะไรไหม?”

โจวโจวมองไปยังคนทั้งคู่

เขาคิดว่าพวกเขาสองคนจะไม่พอใจหลังจากได้ยินคำพูดของเขา เพราะพวกเขาได้เป็นเจ้าเมืองอยู่วันสองวัน อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาทั้งคู่ได้ยินเช่นนี้ มันก็ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่ได้ไม่พอใจ แต่พวกเขายังถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกด้วย

“ข้าไม่มีข้อโต้แย้งอะไรขอรับ!”

“ข้าดีใจซะด้วยซ้ำ”

จางไคชานอดหัวเราะออกมาไม่ได้

โจวโจวอึ้ง

“พวกเราสองพี่น้องเองก็รู้ว่าพวกเราไม่ได้มีพรสวรรค์ด้านธุรกิจเท่าไร ข้ากลัวมากเมื่อข้าได้ยินเรื่องเมืองแห่งการค้า เพราะพวกเราพี่น้องรู้ว่ามันยากมากสำหรับพวกเราที่จะพัฒนาเมืองแห่งการค้าขึ้นมา ถ้าพวกเราทำอะไรผิดไปและทำให้แผนการพัฒนาธุรกิจของท่านลอร์ดพัง พวกเราคงจะต้องถูกลงโทษแน่”

“ในตอนนี้ที่ท่านลอร์ดมอบหมายภาระนี้ให้กับคนอื่น มันจึงเป็นการดีที่สุดสำหรับพวกเราแล้ว พวกเราจึงดีใจมาก ทำไมพวกเราจะต้องมีข้อโต้แย้งอะไรด้วยขอรับ?”

พวกเขาเห็นโจวโจวทำหน้าสับสนจึงรีบอธิบายออกมา

เมื่อโจวโจวได้ยินเช่นนี้ เขาก็เปิดค่าความภักดีของคนทั้งคู่ขึ้นมาดูและตระหนักได้ว่าความภักดีของพวกเขาเพิ่มขึ้นมาเป็น 91 และ 92 แล้ว

หลังจากนั้นเขาจึงยืนยันได้ว่าคนทั้งคู่ไม่ได้โกหกและเขาจึงเผยสีหน้าพึงพอใจออกมา

“ไม่เลว”

ทั้งสองคนนี้รู้ตัวเองดี

เขาชอบคนที่รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรและไม่ควรทำอะไรแบบนี้

เดิมทีเขายังคงมีความขุ่นเคืองกับภูมิหลังของคนพวกนี้อยู่ แต่ในตอนนี้ความไม่พอใจนั้นก็ได้หายไปแล้วเพราะสิ่งที่คนพวกนี้พูดออกมา

“นี่สำหรับพวกเจ้า ต่อจากนี้ไปจงทำงานให้ข้าแบบนี้ ข้าจะไม่ลืมผลงานของพวกเจ้า”

เขาหยิบเอาแกนหมอกระดับทองคำเหลือง 100 ชิ้นออกมาและวางไว้ข้างๆ พวกเขา

“ขอบคุณสำหรับรางวัลขอรับท่านลอร์ด”

เมื่อพวกเขาทั้งคู่เห็นแกนหมอกระดับทองคำเหลือง 100 ชิ้น การหายใจของพวกเขาก็ถี่ขึ้นมา

ท่านลอร์ดของพวกเขาช่างใจกว้างจริงๆ!

ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นตรงหน้าของโจวโจวโดยบอกว่าความภักดีของพวกเขาเพิ่มขึ้นเป็น 95 และ 96 แล้ว!

มุมปากของโจวโจวกระตุก

คนพวกนี้

นิสัยชอบเงินของพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย

เขาส่ายหัว

เขาไม่สนใจ

ใครจะไม่ชอบเงินบ้าง?

ครู่ต่อมา โจวโจวก็บอกให้อู๋ซิน ไป่อี้ และคนอื่นๆ ตั้งค่ายชั่วคราวที่เมืองทรายทองคำ

ส่วนเขาก็ก้าวขึ้นไปบนหลังของเนซาริโอ้และบินกลับเมืองตะวันสาดแสงตามลำพัง

เขาวางแผนที่จะกลับไปอัพเกรดดินแดนของเขา นอกจากนี้เขาก็จะผสานตราภูมิภาคของดินแดนทรายทองคำเข้ากับแผ่นหินดินแดนด้วยเพื่อที่เขาจะได้ครอบครองสองภูมิภาคอย่างเป็นทางการ

ครู่ต่อมา ก่อนที่หมอกสีชาดจะปรากฏขึ้น โจวโจวก็กลับมาถึงเมืองตะวันสาดแสง

อย่างไรก็ตาม ในทันทีที่เขาเข้ามาในเมือง โจวโจวก็เห็นอู๋ซินกำลังคุยอยู่กับชายชราสามคน

เมื่อพวกเขาเห็นโจวโจว อู๋ซินก็ลุกขึ้นทันทีและก้มหัวให้เขา

เมื่อชายชราทั้งสามพบว่าชายหนุ่มที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันคนนี้คือเจ้าตะวันสาดแสง แววตาของพวกเขาก็เผยความประหลาดใจออกมา จากนั้นพวกเขาก็ยืนขึ้นและก้มหัวให้เขาด้วย

“ไม่ต้องสุภาพกันขนาดนั้นก็ได้ พวกท่านคือ…”

โจวโจวถามด้วยความสงสัย

“พวกเราสามคนชื่นชมท่านลอร์ดมานานแล้ว พวกเราจึงได้มาที่นี่เพื่อขอความคุ้มครองจากท่านและขอรับใช้ท่านลอร์ด นอกจากนี้ยังเพื่อหาสถานที่เกษียณอีกด้วย”

ชายชราร่างท้วมหัวเราะ

เกษียณ…

คุ้นๆ นะ…

โจวโจวมีปฏิกิริยาทันที

ผู้มีพรสวรรค์เหล่านี้คงถูกดึงดูดมาด้วยคะแนนการจัดอันดับชื่อเสียง 3 แต้มที่เขาได้รับมาจากการทดสอบลอร์ดมือใหม่

อย่างไรก็ตาม เขาก็มองไปยังชายชราทั้งสามคน

ชั่วขณะหนึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาเลย

เมืองตะวันสาดแสงจะกลายเป็นศูนย์กลางของผู้ปฏิบัติงานอาวุโสไปแล้วเหรอ?

เขาบ่นอยู่ในใจ