โจวโจวมองไปยังซวีอันที่อยู่ตรงหน้าของเขา ยิ่งมองเขาก็ยิ่งพอใจ
ไม่เพียงแต่ซวีอันจะอยู่ในระดับมหากาพย์ขั้นต้นเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนตะวันสาดแสงด้วย!
นอกจากนี้ศักยภาพของอีกฝ่ายยังอยู่ในระดับเทพชั้นกลางขั้นสูงด้วย!
ต้องรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ต้องพึ่งพาอะไรด้วยซ้ำ เขามีศักยภาพในระดับนี้ได้โดยไม่ต้องมีโชคชะตาผู้กล้าเลย!
มันจะสามารถเห็นได้เลยว่าศักยภาพของอีกฝ่ายนั้นน่าทึ่งแค่ไหน!
ในเวลานั้นเอง ทหารคนหนึ่งก็เดินเข้ามา
“รายงานท่านลอร์ด มันมีคนจากวิหารอัศวินอยากเข้าพบท่านลอร์ด อีกฝ่ายบอกว่าเธอคือลู่ฉ่ายเอ๋อร์”
ทหารรายงาน
“ลู่ฉ่ายเอ๋อร์เหรอ?”
โจวโจวอึ้ง
เธอกลับมาแล้วเหรอหลังจากไปพบกับอาจารย์ของเธอ?
เขาจำได้ว่าลู่ฉ่ายเอ๋อร์ได้บอกว่าเธอจะกลับมาก่อนที่เธอจะจากไป
เขาไม่คิดเลยว่าเธอจะกลับมาจริงๆ
โจวโจวไม่คิดมากเกี่ยวกับมันและบอกให้ทหารพาลู่ฉ่ายเอ๋อร์เข้ามา
ในไม่ช้า ลู่ฉ่ายเอ๋อร์ก็เดินมาหาโจวโจว
“ข้ามาแล้ว”
ลู่ฉ่ายเอ๋อร์กล่าวด้วยความตื่นเต้น
จากนั้นเธอก็เบิกตากว้างและมองมาที่โจวโจวด้วยความเหลือเชื่อ
“เจ้า… ทำไมเจ้าถึงอยู่ในระดับเพชรขั้นต้นแล้ว? ข้าจำได้ว่าครั้งก่อนที่ข้าพบกับเจ้า เจ้ายังอยู่ในระดับทองคำเหลืองเองไม่ใช่เหรอ?”
เธอพูดติดอ่าง
เธอได้เห็นผู้เชี่ยวชาญมาเป็นจำนวนมาก แต่เธอก็ได้เห็นเป็นครั้งแรกว่ามีคนที่เพิ่มความแข็งแกร่งได้ไวขนาดนี้เหมือนกับโจวโจว
“ข้าพบเจอโอกาสบางอย่างมาน่ะ”
โจวโจวยิ้มและไม่ได้อธิบายอะไรต่อ
“เจตจำนงสูงสุดคงจะชื่นชอบเจ้ามากจริงๆ…”
ลู่ฉ่ายเอ๋อร์อึ้งไปชั่วขณะก่อนที่จะพึมพำออกมาเบาๆ
จากนั้นเธอก็ไม่คิดมากเกี่ยวกับมัน เธอมองไปยังทหารที่อยู่รอบๆ และถามออกมาด้วยความคาดหวัง
“เจ้าจะออกไปสู้เหรอ? พาข้าไปด้วยได้ไหม? แม้ว่าข้าจะต่อสู้ไม่เก่ง แต่ข้าก็เป็นแพทย์สนามที่ทรงพลังมากๆ ข้าสามารถช่วยเจ้ารักษาคนบาดเจ็บได้ และข้าก็ไม่ต้องการอะไรตอบแทนด้วย”
“ทำไมเจ้าถึงอยากทำแบบนั้นล่ะ? ถ้าเจ้าอยากตอบแทนที่ข้าช่วยชุบชีวิตเจ้าก็ไม่จำเป็นเลย วิหารอัศวินได้มอบรางวัลให้กับข้าแล้ว”
โจวโจวสับสน
“...ข้าคือหมอผู้กล้านะ มันมีลอร์ดเป็นจำนวนมากที่อยากให้ข้าเข้าร่วมดินแดนและช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้กับพวกเขา เจ้ารู้ไหม? ทำไมเจ้าต้องถามเหตุผลกับข้าด้วย?”
ลู่ฉ่ายเอ๋อร์ไม่เข้าใจความคิดของโจวโจวเลย
“เหตุผลแรกก็คงเป็นเพราะ… ข้าสนใจในดินแดนของเจ้า นี่เป็นเพราะจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมดของพวกเรา มันไม่มีลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เชี่ยวชาญในวิธีการชุบชีวิตผู้อื่นเลยแม้แต่ในฝ่ายมนุษย์ระดับจักรวรรดิ อย่างไรก็ตาม เจ้าก็สามารถทำสิ่งนี้ได้ในระยะเวลาอันสั้นหลังจากมาถึงทวีปจื้อเกา นอกจากนี้ เจ้ายังทำได้ดีมากๆ ในแง่มุมอื่นๆ ด้วย ดังนั้นข้าจึงอยากมาดูหน่อย แน่นอนว่าอย่าเข้าใจผิดไปนะ ข้าไม่ได้มาเพื่อรวบรวมข้อมูลอะไร ข้าแค่สงสัยก็เท่านั้น”
“ส่วนเหตุผลที่สอง มันก็อย่างที่เจ้าพูด เจ้าชุบชีวิตข้า และเจ้าก็ดูเหมือนจะต้องการความช่วยเหลือในตอนนี้ ดังนั้นข้าจึงคิดว่าจะไปช่วยเจ้าเพราะมันเป็นความถนัดของข้าอยู่แล้ว”
ลู่ฉ่ายเอ๋อร์พูดตามความเป็นจริง
“ที่ๆ ข้าจะไปเข้าไปได้เฉพาะลูกน้องของข้าเท่านั้น”
โจวโจวส่ายหัว
นี่เป็นกฎของสมรภูมิสุดท้าย และเขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้
“อ๊า? ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นได้…”
ลู่ฉ่ายเอ๋อร์อึ้ง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้คาดคิดเรื่องนี้เอาไว้เลย
อย่างไรก็ตาม เธอก็ขมวดคิ้วและคิดอยู่สักพัก ทันใดนั้นเองเธอก็เอียงศีรษะและกล่าวว่า “งั้นข้าจะเข้าร่วมกับดินแดนของเจ้าชั่วคราว เจ้าสามารถลบสถานะของข้าออกจากการเป็นลูกน้องของเจ้าในภายหลังได้ใช่ไหม?”
โจวโจวอึ้ง
ทำแบบนั้นได้เหรอ?
“งั้นขอข้าลองดูก่อน”
โจวโจวเพิ่มลู่ฉ่ายเอ๋อร์เข้าสู่ดินแดนของเขาก่อนที่จะพยายามพาเธอเข้าไปในสมรภูมิสุดท้าย
ในที่สุดทุกอย่างก็ราบรื่นจนกระทั่งเขาสะดุดในขั้นตอนสุดท้าย
สมรภูมิสุดท้ายเตือนเขาว่าลู่ฉ่ายเอ๋อร์ไม่อาจเข้าร่วมได้เพราะระดับอาชีพของเธอสูงเกินไปและเธอก็มีโชคชะตาผู้กล้าด้วย
เขาไม่สามารถแม้แต่จะขอความช่วยเหลือจากภายนอกได้เลยเหรอ?
โจวโจวหมดหนทาง
อย่างไรก็ตาม เขาก็สามารถบอกเรื่องนี้กับลู่ฉ่ายเอ๋อร์ได้
“ข้าควรจะทำอย่างไร? ข้าอยากช่วยจริงๆ นะ”
ลู่ฉ่ายเอ๋อร์ก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน
“เอายังงี้เป็นไง? เจ้าสามารถอยู่ในดินแดนของข้าก่อนตอนนี้ได้ ถ้าลูกน้องของข้าบาดเจ็บ ข้าก็จะส่งพวกเขากลับมาที่ดินแดนทันที เจ้าและหมอในดินแดนของข้าก็จะสามารถรักษาพวกเขาได้ หรือถ้าเจ้าอยากจะหาอะไรทำจริงๆ งั้นก็ช่วยสอนหมอในดินแดนของข้าหน่อยละกัน ด้วยวิธีนี้ พวกเขาก็จะช่วยคนอื่นๆ ได้มากขึ้น เจ้าก็จะถือว่าช่วยข้าได้มากเลย”
ในตอนนี้เขามีทหารกว่า 600,000 คนแล้ว แม้ว่าไป่อี้และอู๋ซินจะเปิดใช้งานอวตารหมาป่าละโมบสองตัวพร้อมกัน แต่พวกมันก็ไม่สามารถคุ้มกันทหารทั้งหมดได้
ดังนั้นวันแห่งการต่อสู้ที่ปราศจากการบาดเจ็บจึงสิ้นสุดลงไปแล้ว เหล่าหมอและสาวกจึงกลับมายุ่งอีกครั้ง
“ตกลง! ข้าเก่งเรื่องนี้เหมือนกัน”
ดวงตาของลู่ฉ่ายเอ๋อร์เปล่งประกายขึ้นมาเมื่อเธอได้ยินคำพูดของโจวโจว
เธอมาจากตระกูลแพทย์ที่มีชื่อเสียงและเป็นศิษย์ส่วนตัวของราชาแพทย์แสงศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นความรู้ทางการแพทย์ที่เธอรู้นั้นจึงเป็นสิ่งที่หมอทั่วไปไม่สามารถสัมผัสได้
ดังนั้นเธอจึงมั่นใจมากว่าเธอจะสามารถสอนหมอในดินแดนของโจวโจวได้
โจวโจวพยักหน้า
หลังจากนั้นเขาก็แจ้งในแชทกลุ่มของพันธมิตรดาราว่าให้นำทหารมาพบกันที่เมืองตะวันสาดแสง พวกเขาจะออกเดินทางไปยังสมรภูมิสุดท้ายพร้อมกันในอีกสักพัก
ลอร์ดทั้งหลายพากันดีใจ
หลังจากเมื่อวานที่ได้ใช้ยุยงแปรพักตร์ไป พวกเขาก็ได้รับกองกำลังใหม่มาเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ วันนี้ยังสามารถใช้ยุยงแปรพักตร์ได้อีกแล้ว ดังนั้นพวกเขาที่อยากจะโชว์ทักษะของตัวเองจึงเต็มไปด้วยความคาดหวังที่มีต่อสมรภูมิสุดท้าย
ดังนั้นหลังจากได้รับข่าวจากหัวหน้าแล้ว พวกเขาก็เริ่มเตรียมกองทัพทันทีเพื่อมุ่งหน้ามายังเมืองตะวันสาดแสง
ถ้าลอร์ดคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องได้เห็นภาพฉากนี้ มันคงยากที่จะจินตนาการว่าแท้จริงแล้วพวกเขาคือกลุ่มลอร์ดที่เชี่ยวชาญด้านสายอาชีพและไม่ใช่ลอร์ดสายต่อสู้
หลังจากนั้นไม่นาน ลอร์ด 311 คนก็มารวมตัวกัน
จำนวนทหารที่พวกเขานำมาด้วยมีมากกว่า 600,000 คน! ซึ่งในจำนวนนี้ก็เป็นมอนสเตอร์มากกว่า 500,000 ตัวที่พวกเขาทำให้แปรพักตร์มาเมื่อวาน
เมื่อโจวโจวเห็นเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะเตรียมใจไว้อยู่แล้ว แต่เขาก็อดสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ไม่ได้
นี่คือพลังของพันธมิตรแห่งลอร์ดงั้นเหรอ?
ในเวลาแค่วันเดียว ลอร์ด 311 คนนี้ก็แทบจะมีขนาดกองทัพเท่ากับเขาแล้ว!
เขาเงียบไปชั่วขณะก่อนที่จะยิ้มออกมา
การก่อตั้งพันธมิตรแห่งลอร์ดเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องจริงๆ
นี่แค่ผลลัพธ์ของวันแรกเท่านั้นเอง
ในตอนนี้ถ้าเขานำทัพคนเหล่านี้และคนของเขา เขาก็จะมีทหารกว่า 1.36 ล้านคน!
นี่เทียบได้กับความแข็งแกร่งของอาณาจักรขั้นต้นเลย!
มันยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าอาณาจักรขั้นต้นที่เพิ่งถูกก่อตั้งใหม่บางส่วนด้วย
นอกจากนี้นี่ยังเป็นแค่วันแรกเท่านั้น
ในอนาคต โจวโจวไม่กล้าจินตนาการเลยว่าความแข็งแกร่งของกองทัพนั้นจะเพิ่มขึ้นไปได้เร็วแค่ไหน
ถึงกระนั้นยิ่งมีทหารมากก็ยิ่งดี
ในโลกแห่งนี้ มันคงไม่มีลอร์ดคนไหนที่ไม่อยากมีทหารอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาเป็นจำนวนมากแน่นอน