ตอนที่ 141 - บทที่ 141 แผนการปล้น!

บทที่ 141 แผนการปล้น!

“หยิบอาวุธขึ้นมาเร็ว”

อู๋กวงพูดด้วยเสียงต่ำ

ราวกับตื่นจากความฝัน พวกเขารีบหยิบมีดและหอกบนพื้นและเดินตามกันไปที่ประตู

เมื่อมองดูผู้คนจำนวนมากที่อยู่ตรงหน้าเขา มือของพวกเขาที่ถืออาวุธก็สั่นเทาเล็กน้อย

“พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่? อาหารที่แจกยังไม่เพียงพออีกงั้นเหรอ?”

อู๋กวงถือหอกแล้วเหลือบมองกลุ่มคนตรงหน้าเขา พร้อมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสงบ

ผู้หญิงและเด็กและคนแก่ที่อ่อนแอในหมู่ผู้คนกว่าร้อยคนต่างถอยหลังโดยไม่รู้ตัวโดยไม่กล้าสบตาพวกเขา

แต่คนที่เป็นผู้นำหลายสิบคนไม่ได้ตื่นตระหนกเลย

หนึ่งในนั้นคือชายที่สูงประมาณ 1.8 เมตร และมีตาสามเหลี่ยมคู่หนึ่ง เขายิ้มออกมาแล้วพูดว่า "พี่อู๋ อาหารนั้นเพียงพอแล้ว แต่ทุกคนยังขาดสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น แชมพู ครีมอาบน้ำ ฯลฯ ข้าคิดว่าในห้องใต้ดินยังมีอยู่ไม่น้อยทำไมไม่แบ่งปันมันทุกคนสามารถใช้มันได้ล่ะ”

หลังจากที่เสียงนั้นดังขึ้น ผู้คนมากกว่าสิบคนก็ตระโกนออกมาสนับสนุนทันที

ไม่ไกลออกไปนัก คนอื่นๆ ก็รวมตัวกันและมองมาที่นี่ เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังรอเวลาและเฝ้าดูสถานการณ์อยู่

“พวกเจ้าต้องการของใช้อย่างนั้นหรือ?”

อู๋กวงถามขึ้น

"ถูกต้อง..ถูกต้อง"

ชายร่างใหญ่ที่ชื่อซุนเปียวพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า

"ตกลง"

อู๋กวงมองไปที่เหอเฟยแล้วพูดว่า "เสี่ยวเฟย เข้าไปนำสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันออกมา"

ฉากนี้ทำให้กลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้าเกิดความกระสับกระส่ายในทันที

โดยเฉพาะผู้ชายหลายสิบคนที่เป็นหัวหน้า

พูดตามตรง ตอนแรกพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะทำแบบนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ผู้ชายจากเฉินเจียไจ้คนนั้นแข็งแกร่งกว่าจ้าวต้าอย่างมาก ถ้าเขาทำให้อีกฝ่ายโกรธจริงๆ ชะตากรรมของที่รอคอยพวกเขาอยู่จะไม่ต้างไปกว่าจ้าวต้าที่ตายไปแล้วอย่างแน่นอน

แต่พวกเขาเคยเห็นมาก่อนว่ากลุ่มคนจากเฉินเจียไจ้ได้จะยนย้ายสิ่งดีๆออกจากห้องใต้ดินไปจำนวนมาก

เมื่อคิดถึงมันอีกครั้ง พี่น้องแซ่จ้างทั้งสามก็ใช้ชีวิตอย่างหรูหราอย่างมากในอดีต ดังนั้นในห้องใต้ดินนี้คงมีสิ่งดี ๆ มากมายนับไม่ถ้วนอย่างแน่นอน

ดังนั้นพวกเขาจึงคัดเลือกคนกลุ่มหนึ่งให้มาที่นี่ เพื่อดูว่าพวกเขาจะได้รับประโยชน์บางอย่างหรือไม่ แต่พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าการดำเนินการนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่นเช่นนี้

"เอ่อ?"

เหอเฟยผงะไปครู่หนึ่งแล้วถามว่า"เอาเท่าไหร่?"

อู๋กวงขมวดคิ้วและพูดว่า "เอาออกมาสักหลายสิบชิ้นก่อน"

“หลายสิบชิ้นงั้นหรือ?”

เสียงของซุนเปียวดังขึ้น "พี่อู๋ นี่มันน้อยเกินไป ท่านเห็นว่าเรามีมากกว่า 100 คนที่นี่ ท่านเอาออกมาแค่หลักสิบเท่านั้น แล้วมันจะเพียงพอได้อย่างไร"

“ถูกต้องพี่อู่ ของในห้องใต้ดินไม่ใช่ของท่าน ทำไมท่านต้องจู้จี้จุกจิกขนาดนี้”

"พูดถึงเรื่องนี้แล้ว สิ่งของภายในห้องใต้ดินทั้งหมดมันเป็นทรัพย์สินของทุกคน แต่ก่อนหน้านี้จ้าวต้าและคนอื่น ๆ ถูกครอบครอง ตอนนี้จ้าวต้าและคนอื่น ๆ ตายไปแล้ว ดังนั้นมันจะเป็นการดีกว่าที่จะแบ่งปันกับทุกคนมากกว่าที่จะวางไว้ในห้องใต้ดินอย่างไร้ประโยชน์”

“ถูกต้อง ตอนนี้แม้ว่าพี่เฉินจะจากไปแล้ว แม้ว่าถ้าเขาอยู่ที่นี่ เขาคงจะตกลงทำเช่นนี้อย่างแน่นอน”

หลายคนพูดสนับสนุนออกมาอย่างมาก

ผู้หญิง เด็กและแก่ที่อ่อนแอกว่า 100 คนที่อยู่ข้างหลังพวกเขาเริ่มมีความกล้าหาญมากขึ้นและเริ่มตะโกนออกมาเช่นกัน

ฉากนี้ทำให้ผู้คนหลายร้อยคนที่ดูฉากนี้จากระยะห่างไกลเล็กน้อยต่างก็เต็มไปด้วยความอิจฉา

บางคนคิดว่าถ้าเข้าร่วมอาจจะได้รับสิ่งดีๆมากมายเช่นกัน

แต่ก็ยังมีบางคนที่คว้าไหล่คนข้างๆแล้วส่ายหัว

"พวกเจ้าพูดพอแล้วหรือยัง?"

รอจนกว่าเสียงโห่จะหายไป อู๋กวงจึงพูดขึ้นว่า

“เมื่อพวกเจ้าพูดจบแล้ว ถึงเวลาที่ข้าจะพูดบ้าง”

เขายืนอยู่บนบันไดและพูดเสียงดังว่า "พวกเจ้าผิดแล้ว นี่ไม่ใช่ทรัพย์สินของทุกคน แต่เป็นของจ้าวต้า จากนั้นพี่เฉินฆ่าจ้าวต้าได้ ดังนั้นสิ่งของทั้งหมดในห้องใต้ดินจึงเป็นของพี่เฉินโดยธรรมชาติ ... "

ก่อนที่เขาจะพูดจบ คนที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็เยาะเย้ยและพูดว่า "สิ่งของของจ้าวต้าคืออะไร ทั้งหมดนี้ได้มาจากการทำงานหนักของทุกคน แต่จ้าวต้ากลับนำมาเป็นของตัวเองเท่านั้น ใช้ไหมทุกคน?"

"ใช่!!!"

ทุกคนพูดประสานเสียงกันออกมาทันที

อู๋กวงเหลือบมองเขาอย่างเย็นชาและพูดว่า "ในเมื่อพวกเจ้าคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นทรัพย์สินของทุกคน ทำไมพวกเจ้าไม่พูดออกมาตอนที่จ้าวต้าอยู่ที่นี้ และเมื่อพี่เฉินอยู่ที่นี่ ทำไมพวกเจ้าก็ไม่พูดออกมาเช่นกันล่ะ?"

“ขะ..ข้าไม่มีเวลาพูดก็เท่านั้น” ชายคนนั้นพูดออกมาอย่างละอาย

"หึ!!"

อู๋กวงตะคอกอย่างเย็นชา "ข้าคิดว่าพวกเจ้าไม่กล้าพูดออกมาหรอก พวกเจ้าคิดว่าพี่เฉินเป็นคนที่สามารถเอาเปรียบได้ง่ายใช่ไหมที่เขาแจกจ่ายอาหารให้ทุกคนอย่างนี้? ดังนั้นพวกเจ้าจึงพาคนจำนวนมากมาที่นี่เพื่อร้องขอสิ่งของเพิ่ม เมื่อถึงเวลาของได้แจกจ่ายไปหมดแล้ว และไม่สามารถตำหนิใครได้ใช่ไหม  แม้ว่าพี่เฉินจะกลับมาแล้ว เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกันใช่ไหม?”

"จะ..เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไร?"

ชายคนนั้นมีสีหน้าตื่นตระหนก “ทั้งหมดก็เพื่อทุกคน ดูรูปร่างหน้าตาของทุกคนสิ มันมากเกินไปหรือเปล่าที่พวกเขาจะมาขอปัจจัยเพื่อยังชีพต่อไป?”

“แน่นอนว่ามันไม่มากเกินไปหรอก แต่จากที่ข้าจะฟังสิ่งที่เจ้าพูดก่อนหน้านี้เหมือนกับว่าพวกเจ้าต้องการเอาของทั้งหมดในห้องใต้ดินออกไปใช่ไหม?”

อู๋กวงพูดออกมาอย่างเยาะเย้ย

เสียงโห่ก็ลดลงทันที

“จะ..เจ้าได้ยินผิดไปแล้ว!”

ขณะที่ชายคนนั้นพูดแล้วหันมองไปที่ซุนเปียวเพื่อขอความช่วยเหลือ

พวกเขาเสี่ยงที่จะทำให้เฉินฟานขุ่นเคืองและดึงดูดผู้คนมากมายให้มาที่นี่ หากพวกเขาได้รับสิ่งของไปเพียงแค่ไม่กี่สิบชิ้นเท่านั้น มันจะเป็นการสูญเสียอย่างแท้จริง

“พี่อู๋ เห็นใจพวกเราหน่อยเถอะ” ซุนเปียวหรี่ตาลงแล้วพูดว่า "พวกเรามีกันมากมาย และจำนวนที่ท่านให้ก็น้อยเกินไป"

“พี่ซุนพูดถูก ขอเพิ่มอีกหน่อยได้ไหม?”

“พี่อู๋ช่วยพวกเราหน่อยเถอะ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องของพวกเรา ได้โปรดให้เราเข้าไปเอาสิ่งของที่อยู่ข้างในด้วยตัวเองเถอะ ไม่ต้องกังวล เราจะไม่กลับมาเอาอีกอย่างแน่นอน”

“ใช่ พวกเราสัญญาว่าจะไม่เอาไปมากเกินไป”

อู๋กวงเยาะเย้ยและปฏิเสธโดยตรง "ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเจ้าลงไปหยิบเอาพวกมันอย่างแน่นอน ข้าให้พวกเจ้าได้แค่ไม่กี่สิบชิ้นเท่านั้น มากกว่านี้ข้าก็ไม่สามารถตัดสินใจได้แล้ว

หากพวกเจ้าต้องการมันจริงๆ รอจนกว่าพี่เฉินกลับมา แล้วพวกเจ้าค่อยไปขอกับเขาด้วยตัวเองก็แล้วกัน"

บรรยากาศกลายเป็นเงียบงันลงทันที

สายตาของผู้นำหลายสิบคน พวกเขาต่างจ้องมองไปที่ซุนเปียวเป็นตาเดียว

ผู้ชายคนนี้บอกชัดเจนว่าจะไม่ให้มากกว่านี้แล้ว! ท่านจะเอายังไงต่อ?

ด้วยสิ่งของไม่กี่สิบชิ้นมันไม่คุ้มกับที่ไปกระตุ้มความโกธรของพี่เฉิน ดังนั้นพวกเขาพากันกลับไปจะดีกว่า

“พี่อู๋”

ซุนเปียวยิ้ม "ทำไมต้องจริงจังขนาดนี้ ทำไมต้องทำให้เรื่องตึงเครียดขนาดนี้ ท่านเฝ้าห้องใต้ดินให้เขา และเมื่อเขากลับมาเขาจะให้ท่านเท่าไหร่กัน อย่าลืมว่าเขามาจากเฉินเจียไจ้และเฉินเจียไจ้ก็ยากจนอย่างมากไม่ใช่เหรอ?

มันจะดีกว่าถ้าพวกเราแบ่งปันสิ่งของเหล่านี้ตอนนี้ และมันจะเป็นผลประโยชน์ต่อทุกคน แม้ว่าเขาจะกลับมา..ท่านรู้อะไรไหม เขาจะสามารถทำอะไรพวกเราหลายคนได้กันล่ะ?

ฟังคำคำแนะนำของข้า ให้เราเข้าไปเถอะ เมื่อถึงเวลาจะมีสิ่งของจำนวนมากที่เป็นของท่าน พวกเราจะรับบางส่วนไปเท่านั้น และคนอื่นๆจะรับส่วนแบ่งเช่นกัน ด้วยลักษณะนี้พวกเราก็จะได้รับส่วนแบ่งกันทุกคนไม่ใช่หรือ? "

ต้องบอกว่าคำพูดของซุนเปียวน่าดึงดูดใจอย่างมาก

ผู้คนที่อยู่เบื้องหลังอู๋กวงก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยเหมือนกัน

คนอื่นๆ ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในห้องใต้ดิน แต่พวกเขารู้เป็นอย่างดี เหนือสิ่งอื่นใด มีบุหรี่ ไวน์ และสิ่งของมากมายหลายร้อยชิ้น!

ด้วยสิ่งของเหล่านี้ หากเขานำสิ่งใดสิ่งหนึ่งออกมาโดยไม่ตั้งใจและขายมันไป อย่างน้อยๆก็ได้เงินหลายร้อยหยวน!

ตามความตั้งใจของซุนเปียว หากมีพวกเขาหลายคนที่สุมหัวกัน นั่นพวกเขาจะไม่ได้เงินเป็นหมื่นหยวนเลยงั้นหรือ?

“พี่อู๋ ให้เราลงไปเถอะ”

“ใช่แล้ว พี่อู๋ คนนั้นมาจากหมู่บ้านเฉิน เมื่อเขากลับมา เขาจะแจกจ่ายของส่วนใหญ่ให้กับคนในหมู่บ้านของเขาอย่างแน่นอน เรามาแจกจ่ายกันล่วงหน้าก่อน มันไม่มากเกินไปหรอก”

“พี่อู๋ ถ้าท่านตกลงท่านจะทำอะไรกับข้าทีหลังก็ได้” ผู้หญิงสวยคนหนึ่งส่งสายตาเจ้าชู้ให้กับอู๋กวง

“ไร้สาระ”

อู๋กวงทำเป็นหูทวนลมแล้วจ้องมองที่ซุนเปียวแล้วพูดว่า "ข้าไม่เชื่อพวกเจ้าหอรก เจ้ากล้าทำเช่นนี้ เจ้าไม่คิดถึงทางถอยของตัวเองแล้วใช่ไหม?"

ผิวของซุนเปียวเปลี่ยนไปเล็กน้อย และเขาพูดอย่างไม่พอใจ "พี่อู๋ ท่านหมายความว่าอย่างไร"

“ข้าหมายถึงอะไร เจ้าไม่รู้เหรอ?”

อู๋กวงกล่าวว่า "เจ้ากล้ายุยงคนจำนวนมากโดยต้องการจะปล้นของในห้องใต้ดิน ข้าไม่เชื่อหรอกว่านี่ไม่ใช่แผนการของเจ้า"

ทันทีที่เขาพูดสิ่งนี้ สายตาของทุกคนรอบตัวซุนเปียวก็เริ่มแปลกไปทันที

“พี่อู๋ ท่านสามารถทำทุกอย่างตามใจได้ แต่ท่านไม่สามารถพูดตามอำเภอใจได้ ข้าทำสิ่งนี้เพื่อประโยชน์ของทุกคน แต่ท่านซึ่งเป็นคนของจ้างเจียเป่าอย่างชัดเจน แต่กลับไปยืนอยู่ข้างเฉินเจียไจ้ ท่านไม่คิดเหรอว่าตัวเองทำผิดต่อทุกคน?" ซุนเปียวพูดอย่างเย็นชา

เหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผากของเขา

ใช่ เขามีแผนการบางอย่าง

กฎหมายของเมื่อสิบปีก่อนใช้ไม่ได้กับปัจจุบัน ตอนนี้ถึงแม้จะมีคนฆ่าพวกเขาทั้งหมด แล้วไงล่ะ? ก็เหมือนกับจ้าวต้าที่ปกครองที่นี่อย่างเผด็จการมาหลายปีแล้ว มีใครสามารถมาจัดการเขาได้บ้างล่ะ?

ดังนั้น เขาจึงวางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากการที่เฉินฟานไม่อยู่เพื่อสร้างหนทางร่ำรวยอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หนีไปแต่เช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ เขาสามารถกลับไปยังหมู่บ้านเดิมหรือสามารถไปที่อื่นได้

ตราบใดที่มีเงินจะกลัวอะไรอีก?

เขาจะมีชีวิตอย่างสุขสบายแล้ว!

“ข้าอยู่ข้างหมู่บ้านเฉินงั้นเหรอ? ถูกต้องแล้ว..ข้าอยู่ข้างหมู่บ้านเฉิน!”

อู๋กวงพูดเสียงดัง "ดังนั้นพวกเจ้าอย่าคิดหวังเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไปอีก ก่อนที่พี่เฉินจะมา พวกเจ้าใช้ชีวิตแบบไหน? แต่ตอนนี้พวกเจ้ายืนอยู่ที่นี่และขอเสบียงด้วยความมั่นใจอย่างนั้นหรือ?...แน่นอนว่าพวกเจ้าไม่กล้ามายืนอยู่ที่นี่หรอก

..และเป็นพี่เฉินที่ช่วยชีวิตพวกเจ้ารวมทั้งข้าจากเงื้อมมือของพี่น้องแซ่จ้าวทั้งสาม ไม่เพียงเท่านั้นแต่เขาแจกจ่ายข้าวสารทั้งหมดอีกด้วย ทุกท่าน..พวกเจ้าทุกคนได้รับข้าวสารไปหลายสิบถุงไม่ใช่เหรอ?”

เมื่อเขาชี้นิ้วไปฝูงชนส่วนใหญ่ก็ก้มศีรษะลง

ใช่ ตอนนั้นพวกเขาแทบไม่อยากจะเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถได้รับอาหารมากมายขนาดนี้ และแม้กระทั่งเมื่อพวกเขากลับบ้าน พวกเขาก็รู้สึกเหมือนกำลังฝันอยู่เลย

“พี่เฉินเป็นผู้ช่วยชีวิตทุกคนให้รอดได้ แต่พวกเจ้า..หลังจากได้รับอาหารแล้ว พวกเจ้าไม่เพียงแต่ไม่พอใจ..แต่ยังต้องการมากขึ้นอีกด้วย แถมพวกเจ้ายังต้องการใช้ประโยชน์จากการไม่อยู่ของเขาและต้องการนำเสบียงทั้งหมดในห้องใต้ดินออกไป ถ้าพวกเจ้าเป็นพี่เฉินหลังจากกลับมาที่นี่และเห็นฉากนี้แล้วเขารู้สึกยังไงบ้าง แล้วพวกเจ้าไม่รู้สึกผิดในใจบ้างเหรอ?”

คำพูดของอู๋กวงราวกับค้อนหนักที่กระแทกจิตใจของทุกคน

ข้างหลังเขา เหอเฟยรวบรวมความกล้าและพูดเสียงดัง "พี่อู๋พูดถูก ความปรารถนาของผู้คนไม่มีที่สิ้นสุด การโลภมากมีแต่จะทำร้ายพวกเจ้าเท่านั้น"

"พูดได้ดี!"

ท่ามกลางฝูงชนที่เฝ้าดูในระยะไกล มีคนยกแขนขึ้นและตะโกน: "เป็นผู้ชายต้องมีจิตสำนึก! อย่าเป็นสุนัขจิ้งจอกที่มีแต่ลอบกัด!"

“ถูกต้อง พี่เฉินช่วยเราและให้อาหารเรา ยังมีอะไรให้ไม่พอใจอีกล่ะ? พวกเจ้าต้องการให้จ้าวต้ากลับมามีชีวิตอีกครั้ง ถึงจะพอใจอย่างนั้นหรือ?”

“พวกเจ้าก็แค่รังแกคนที่อ่อนแอและเกรงกลัวผู้แข็งแกร่ง เมื่อจ้าวต้าอยู่ที่นี่ ทำไมพวกเจ้าไม่มีความกล้าทำอย่างนี้บ้างล่ะ?”

เมื่อได้ยินข้อกล่าวหารอบตัวพวกเขา ผู้คนมากกว่าร้อยคนก็หน้าแดง พวกเขาแทบอยากจะหารอยแตกบนพื้นเพื่อมุดเข้าไป

“เอาล่ะ ทุกคนเงียบๆก่อน”

เมื่อเห็นสิ่งนี้ อู๋กวงก็ประสานมือของเขาเข้าด้วยกัน และการสนทนารอบตัวเขาก็หยุดลงทันที

“พี่เฉินไม่ได้อยู่ที่นี่ ทุกคนล้วนเป็นคนของจ้าวเจียเป่า ถ้าพวกเจ้าถอยกลับไปตอนนี้ ข้ายังจะสามารถแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

ทันทีที่สิ้นเสียงก็มีคนรีบถอยกลับไปทันที

ตอนแรกมีไม่กี่คน จากนั้นก็มีมากกว่าหนึ่งโหล และมากกว่ายี่สิบไปเรื่อยๆ ในชั่วพริบตาก็เหลือพวกคนที่เป็นผู้นำเพียงสิบคนเท่านั้น

แม้แต่คนเหล่านี้ยังรู้สึกหวาดกลัวในสายตา และพวกเขาก็ต้องการถอยกลับไปเหมือนกัน แต่ติดที่ซุนเปียว

“เอาล่ะ หากเจ้าพาคนเหล่านี้ออกไป ข้าจะแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น” อู๋กวงมองไปที่ซุนเปียว

“พี่ซุน ทำไมไม่ลืมมันไปก่อนล่ะ”

“ใช่ ทุกคนถอยกลับไปหมดแล้ว เหลือแต่พวกเราแล้วตอนนี้!”

หลายคนรอบๆเขากระซิบให้เขาฟัง

“เจ้าเชื่อสิ่งที่เขาพูดจริงๆ เหรอ?”

ซุนเปียวพูดอย่างเยาะเย้ยออกมา

“อย่าแม้แต่จะคิด เมื่อชายแซ่เฉินคนนั้นกลับมา ชายคนนี้จะเก็บเรื่องนี้ไว้อย่างจริงใจจริงๆหรือ? ไม่มีทาง.. และเมื่อชายแซ่เฉินรู้ เขาจะแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วปล่อยพวกเราไปหรือ?”

ผู้คนหลายสิบคนนั้นต่างตกใจอย่างมาก

ผู้หญิง เด็ก และคนแก่ที่อ่อนแอเหล่านั้นที่ล่าถอยกลับไปก็แสดงความหวาดกลัวในสายตาของพวกเขาออกมาเช่นกัน

“พี่ซุน ท่านหมายถึงอะไร”

"ทำหนึ่งก็คือทำ ทำร้อยก็คือทำ งั้นก็ทำต่อไปเถอะ!"

……………..