บทที่ 75: จงเกลียดข้า!
ตามคำอธิบายของซูเฟิงอันและหลิวหลี่เต๋า...
เมื่อประมาณ 270 ปีก่อน ราชาสวรรค์หงหวู่ก็ได้สังหารผู้มีอำนาจขอบเขตเทพลงไปจนเกือบหมดโลก สำนักและตระกูลใหญ่ต่างๆ ล้วนถูกปราบปรามหรือไม่ก็ถูกทำลายลง
และเมื่ออุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดถูกกวาดล้างออกไป ผู้คนในโลกจึงยกย่องราชาสวรรค์หงหวู่ว่าเป็นผู้กอบกู้โลก
กองทัพปฏิวัติที่เหลือไม่มีอะไรเทียบได้กับพวกเขา พวกเขาไม่มีค่าพอจะให้พูดถึงเลยด้วยซ้ำ
นี่เป็นวันแห่งชัยชนะ มันเป็นช่วงเวลาก่อนรุ่งอรุณ
แต่แล้วทำไมในท้ายที่สุดกองทัพปฏิวัติจึงถูกโค่นล้มและราชวงศ์ใหม่จึงถูกสถาปนาขึ้นโดยลูกเขยของตระกูลหวังแห่งหลางหยา?
นอกจากนี้ ต้าจินในปัจจุบันก็ได้ก่อตั้งมาเป็นเวลา 261 ปีแล้ว
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ไม่ถึงสิบปีหลังจากที่ราชาสวรรค์หงหวู่ได้สังหารผู้ฝึกตนขอบเขตเทพทั้งหมดบนโลกลง ต้าจินก็ได้ก่อตั้งราชวงศ์ใหม่โดยได้รับการสนับสนุนจากตระกูลที่โด่งดังทั้งเจ็ด
นี่มันแปลกประหลาดเกินไป
มันไม่สมเหตุสมผลเลย
“ ราชาสวรรค์หงหวู่นั้นยังไม่ถึงจุดจบ!” หลิวหลี่เต๋าตอบอย่างหนักแน่น “ มันเป็นเพราะราชาสวรรค์หงหวู่ได้หายตัวไปอย่างกระทันหัน นโยบายที่เขาจะเป็นตำแหน่งประมุขจึงไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ และพวกเขาก็แตกสลายลงอย่างรวดเร็ว…”
“ อืม มันมีบันทึกที่คล้ายคลึงกันในศาลากระบี่ยู่หัวเช่นกัน” ซูเฟิงอันพยักหน้าและกล่าวเสริมว่า “ ก่อนที่ราชาสวรรค์หงหวู่จะปราบปรามโลกทั้งใบและกำลังจะโค่นล้มราชวงศ์ต้าหยวน เขาก็ได้หายตัวไป”
“ มังกรไม่สามารถอยู่รอดได้หากไร้หัว และประเทศก็ไม่สามารถอยู่รอดได้โดยปราศจากผู้ปกครอง เมื่อราชาสวรรค์หงหวู่หายตัวไป รากฐานอันทรงพลังของพวกเขาก็พังทลายลงในช่วงเวลาอันสั้น และหลังจากนั้นตระกูลที่โด่งดังทั้งเจ็ดและเว่ยควงก็ได้ถือโอกาสเด็ดลูกท้อ”
“ เว่ยควงเป็นผู้ก่อตั้งราชวงศ์ต้าจิน และเป็นลูกเขยของตระกูลหวังแห่งหลางหยา”
“ หายตัวไป?” ซุยเฮ็งรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและตกอยู่ในห้วงความคิด “ เขาหายไปโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า?”
“ ถูกต้อง จู่ๆ เขาก็หายตัวไป” หลิวหลี่เต๋าพยักหน้าด้วยความมั่นใจ
“ ข้าได้ตรวจสอบหนังสือและบันทึกจำนวนนับไม่ถ้วน แต่กระนั้นมันก็ไม่มีใครพบศพของราชาสวรรค์หงหวู่ ดังนั้นข้าจึงบอกได้เพียงคำเดียวว่าเขาหายไป หรือว่าท่านต้องการจะตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย?”
“ เจ้าเองก็คงจะอยากรู้เหมือนกันสิท่า” ซุยเฮ็งมองไปที่หลิวหลี่เต๋าพร้อมกับรอยยิ้ม
“ ข้าไม่กล้า…” หลิวหลี่เต๋ารีบคำนับและขอโทษ “ ข้าแค่กังวลและต้องการจะแบ่งปันความกังวลของท่านก็เท่านั้นเอง”
“ ข้าไม่โทษเจ้าหรอก” ซุยเฮ็งโบกมือและยืนขึ้น “ ข้าจะตรวจสอบเรื่องของราชาสวรรค์หงหวู่”
“ ตามแต่ท่านจะบัญชา!” ซูเฟิงอันรีบพูด
“ ข้าเองก็เช่นกัน!” หลิวหลี่เต๋าก้มหน้าลงในทันที
“ ไม่จำเป็นต้องโค้งคำนับก็ได้” ซุยเฮ็งส่ายหัวเล็กน้อยและพูดกับทั้งสองคนว่า “ ข้าจะถามคำถามพวกเจ้าสองคนอีกข้อหนึ่ง มันเป็นความจริงหรือไม่ที่สำนักและตระกูลใหญ่ส่วนใหญ่บนโลกนั้นมีส่วนร่วมในการดำรงชีวิตของคนทั่วไปและควบคุมชีวิตของโลกโดยที่ผู้คนไม่รู้ตัว”
“ มันอาจไม่ทั้งหมด แต่ข้าก็เกรงว่าอย่างน้อย 80 ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มใหญ่นั้นก็เป็นแบบนั้น” หลิวหลี่เต๋าตอบ
“ ข้าเองก็คิดแบบนั้นเช่นกัน” ซูเฟิงอันพยักหน้า “ ไม่ว่าจะเป็นสำนักหรือตระกูลใหญ่ ค่าใช้จ่ายรายวันของพวกเขาก็ล้วนสูงมาก พวกเขาต้องทำธุรกิจเพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน และยิ่งเวลาผ่านไปนานมากเท่าไหร่ ธุรกิจของพวกเขาก็ยิ่งเติบโตมากขึ้นเท่านั้น”
“ อืม เข้าใจแล้ว” ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ นั่นคือทั้งหมดสำหรับตอนนี้ หลังจากที่พวกเจ้าสองคนกลับไปแล้ว ให้จัดระเบียบและจดข้อมูลทั้งหมดที่พวกเจ้ารู้เกี่ยวกับเจ็ดตระกูลที่โด่งดังมา โดยเฉพาะตระกูลหวังแห่งหลางหยา ข้าต้องการจะได้ข้อมูลนั่นในพรุ่งนี้เช้า”
“ ตามท่านบัญชา!”
ทั้งสองคนโค้งคำนับและจากไป
ซุยเฮ็งเป็นเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในห้องโถงด้านใน
เขากลับไปยังที่นั่งของเขาและนั่งเงียบๆ เป็นเวลานาน ในท้ายที่สุด เขาก็ถอนหายใจเบาๆ และพูดด้วยรอยยิ้มอันขมขื่นว่า “ หงฟูกุ่ย ในตอนนั้นข้าก็สงสัยว่าเจ้าจะตายอย่างสงบในวัยชราได้ไหม”
“ ข้าไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าจะมาหายตัวไปเสียแบบนี้… เจ้าหายตัวไปและสำนักเซียนอรุณก็ปิดผนึกตัวเอง มันมีขุมกำลังใดในโลกที่ข้ายังไม่รู้จักกันแน่?”
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ซุยเฮ็งก็ถามในใจอีกครั้งว่า “ ระบบ โลกนี้เป็นโลกเซียนระดับสูงจริงๆ หรอ?”
[ สวัสดีโฮสต์ผู้ทรงเกียรติ! เมื่อท่านเปิดใช้งานแพ็คเกจระบบการฝึกตนเซียนอันทรงพลัง ระบบจะให้บริการท่านอย่างเต็มที่และจะปกป้องเส้นทางสู่การเป็นเซียนของท่าน! ]
[ หลังจากการทดสอบสามารถยืนยันได้ว่าโลกนี้เป็นโลกเซียนระดับสูงจริง มันมีสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนในโลกใบนี้ ทั้งราชาเซียนและสัตว์อสูรร้าย ทั้งหมดล้วนมีจำนวนนับไม่ถ้วน สภาพแวดล้อมในการเติบโตของท่านนั้นอันตรายมาก โปรดระมัดระวังในความปลอดภัยของท่านเองตลอดเวลา ]
[ หากท่านต้องการจะเพิ่มค่าความปลอดภัย ท่านสามารถเลือกแพ็ก…]
น่าขัน!
ซุยเฮ็งไม่ได้สนใจการแจ้งเตือนที่ตามมา
ในขณะนี้ เขาก็เดาได้คร่าวๆ แล้วเกี่ยวกับสถานการณ์ของหงฟู่กุ่นและสำนักเซียนอรุณ
โลกนี้ดูเหมือนจะอยู่ในขอบเขตของมนุษย์ 12 ขั้นเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น มันก็ยังสอดคล้องกับขอบเขตทั้ง 21 ขั้นแห่งเซียนและมนุษย์ที่เป่ยฉิงซูและหลี่หมิงเฉียงได้เคยกล่าวถึง
อย่างไรก็ดี นี่ก็คือราชวงศ์ต้าจิน ในขณะที่เป่ยฉิงซูและหลี่หมิงเฉียงนั้นมาจากราชวงศ์ต้าโจว ในคำอธิบายของพวกเขา มันก็ยังมีสำนักเซียน ตัวตนอันทรงพลัง กายาศักดิ์สิทธิ์ ดินแดนลึกลับ และสิ่งต่างๆ ที่ดูเหนือกว่าโลกมนุษย์ใบนี้
นอกจากนี้ ต้าจินแห่งนี้ก็ยังมีตำนานของเซียนมนุษย์ที่ลงมาจุติ
คำตอบนั้นชัดเจนมาก
บางทีต้าโจวที่เป่ยฉิงซูและหลี่หมิงเฉียงอาศัยอยู่นั้นก็อาจจะเป็น “โลกเบื้องบน” ของต้าจิน มันน่าจะเป็นโลกที่สูงกว่าซึ่งเชื่อมต่อกับโลกใบนี้
ซุยเฮ็งซึ่งครั้งหนึ่งเคยอ่านนิยายทุกประเภทมาแล้วได้เชื่อมโยงความสัมพันธ์ดังกล่าวเข้าด้วยกันได้อย่างง่ายดาย
และการหายตัวไปอย่างแปลกประหลาดของหงฟู่กุ่ยกับการปิดผนึกอย่างกะทันหันของสำนักเซียนอรุณนั้นก็น่าจะเกิดจากการแทรกแซงของโลกเบื้องบนนี้
“ ถ้ามีโลกเบื้องบนจริง ทุกอย่างก็จะสามารถอธิบายได้” ซุยเฮ็งคิดกับตัวเอง “ สำนักขนาดใหญ่และตระกูลชนชั้นสูงเหล่านั้นที่มีมานับพันปีอาจจะมีความเชื่อมโยงบางอย่างกับโลกเบื้องบนก็เป็นได้”บ
ในขณะเดียวกัน เขาก็สัมผัสได้ถึงอันตราย
“ ดูจากสถานการณ์แล้ว หลังจากที่เซียนมนุษย์ลงมายังโลกและได้ยินเกี่ยวกับการกระทำของฉันแล้ว เขาก็อาจจะบุกมาโจมตีฉันหรือรวบรวมกำลังคนมาจัดการกับฉันก็ได้”
“ แม้ว่าขอบเขตเซียนมนุษย์นั้นน่าจะเทียบได้กับขอบเขตก่อเกิดรากฐานเท่านั้นและไม่ได้มีอะไรมาก แต่มันก็ยังมีเซียนปฐพีและแม้แต่เซียนสวรรค์ที่อยู่เหนือกว่าขอบเขตเซียนมนุษย์ และนั่นก็อาจจะเทียบเท่ากับขอบเขตแก่นแท้ทองคำและขอบเขตรวมวิญญาณ
“ มีเวลาไม่ถึงห้าเดือนก่อนที่เซียนมนุษย์จะลงมา เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะไปถึงขอบเขตรวมวิญญาณในช่วงเวลาสั้นๆ โชคดีที่ฉันยังมีระบบอยู่ แม้ว่าเซียนสวรรค์จะลงมา แต่ฉันก็ยังสามารถปกป้องตัวเองได้”
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ซุยเฮ็งก็มีความคิด “ ฉันควรจะโจมตีและทำลายพวกสำนักกับตระกูลใหญ่ทั้งหมดบนโลกก่อนดีไหมนะ? ไม่ว่าจะในกรณีใด พวกเราก็ถูกกำหนดให้เป็นศัตรูกับฉันอยู่แล้ว”
อย่างไรก็ตาม เขาก็รีบหักล้างความคิดของเขาลงอย่างรวดเร็ว “ ไม่ ถ้าฉันทำลายพวกเขาลง มันก็คงจะไม่ใช่เพียงเซียนมนุษย์อย่างเดียวที่จะลงมายังโลกมนุษย์ มันอาจจะกลายเป็นเซียนสวรรค์ที่ลงมาแทนก็ได้”
“ มันเป็นการดีที่จะเก็บพวกนี้เอาไว้ก่อน ในเมื่อพวกมันถูกกำหนดให้เป็นศัตรู ฉันก็สามารถใช้พวกมันเพื่อพัฒนาแสงสีดำได้!” ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อยหลังจากคิดถึงเรื่องนี้และวางแผนในใจของเขา
หลังจากหนึ่งเดือนของสงครามเสบียงอาหารและเกลือ เช่นเดียวกับการปอกลอกและการทำลายล้างซุนผานซื่อกับคนอื่นๆ ในวันนี้ เขาก็ได้รวบรวมแสงแห่งอารมณ์ทั้งเจ็ดมาได้เป็นจำนวนมากแล้ว
สีแดงที่สื่อถึงความสุขและสีขาวที่สื่อถึงความรักมีความสว่างมากกว่าเจ็ดดวง ความโกรธ ความเศร้า ความกลัว และความปรารถนานั้นใกล้จะถึงห้าดวงแล้ว
มันมีเพียงแสงสีดำที่เป็นสัญลักษณ์ของความเกลียดชังเท่านั้นที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก มันยังคงอยู่แค่สามดวงเท่านั้น
ในช่วงเวลานี้ เขาก็กังวลเกี่ยวกับวิธีการรวบรวมแสงสีดำที่เป็นสัญลักษณ์ของความเกลียดชังและวิธีการจะทำให้ผู้คนรังเกียจเขา เขาไม่ต้องการให้มันเปลี่ยนเป็นอารมณ์อย่างเช่น ความโกรธ ความกลัว และความสิ้นหวังอย่างรวดเร็ว
และในที่สุด เขาก็คิดอะไรบางอย่างออก
บรรดาสำนักและตระกูลใหญ่ที่ควบคุมชีวิตคนธรรมดานั้นเป็นตัวทดสอบที่ดีที่สุด!
….
เช้าวันรุ่งขึ้น
หลิวหลี่เต๋าและซูเฟิงอันส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับเจ็ดตระกูลที่โด่งกังให้กับซุยเฮ็ง
จากนั้นพวกเขาก็ได้รับคำสั่งให้ไปถ่ายทอดประกาศของซุยเฮ็งต่อสาธารณะชน
เขาสั่งให้สำนักและตระกูลใหญ่ทั้งหมดในมณฑลลู่ขายอาหาร, เกลือ, ถ่านหินและทรัพยากรอื่นๆ ทั้งหมด 10% ให้กับทางการ
และผู้ว่าการมณฑลคนปัจจุบันซุยเฮ็งก็จะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดนี้เอง
เมื่อหลิวหลี่เต๋าและซูเฟิงอันได้ยินคำสั่งนี้ พวกเขาทั้งคู่ก็ตกตะลึง
ฝ่ายแรกรู้สึกตื่นเต้นและฝ่ายหลังรู้สึกกังวล
“ ข้าจะทำให้ดีที่สุดอย่างแน่นอน” หลิวหลี่เต๋ากล่าวด้วยความเคารพ
“ ท่านผู้ว่าการ เมื่อประกาศนี้ถูกแพร่ออกไป ทั้งมณฑลลู่ก็จะต้องโกลาหลอย่างแน่นอน” ซูเฟิงอันพูดอย่างกังวลว่า “ นอกเหนือจากศาลากระบี่ยู่หัวแล้ว ข้าก็เกรงว่าสำนักและตระกูลใหญ่อื่นๆ ก็จะไม่มีทางปฏิบัติตามแน่ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อประกาศนี้แพร่กระจายออกไปยังมณฑลอื่น สำนักและตระกูลใหญ่ทั้งหมดบนโลกก็จะเกลียดชังท่านอย่างแน่นอน และสิ่งนี้...”
“ ข้าต้องการให้ทุกสำนักและทุกตระกูลบนโลกเกลียดข้า” ซุยเฮ็งยิ้ม “ ข้าได้ตัดสินใจแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องเกลี้ยกล่อมข้าให้เสียเวลา”
จากนั้นเขาก็เปลี่ยนหัวข้อและพูดว่า “ ยังไงก็เถอะ ไปบอกฮุ่ยฉีให้รวบรวมผู้คนมา นำพวกพ่อค้าที่ถูกจับรวมถึงซุนผานซื่อและคนอื่นๆ ออกมาเพื่อเตรียมพิจารณาคดีในวันนี้!”
….
หลังจากที่หวังจินเซิงหนีออกมาจากมณฑลลู่ได้สำเร็จ เขาก็ได้เริ่มวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด
เขาหนีไปกว่า 400 ลี้ในคืนเดียว
ในที่สุดเขาก็มาถึงเมืองไท่ชางทางตะวันออกของมณฑลลู่
ในขณะนี้ ลุงของเขา หวังฉิงฉวนก็กำลังดื่มและสนุกสนานอยู่ในที่พักของผู้อาวุโสซุนเหลียนเซิง
ทั้งสองมีอายุเกือบร้อยปีแล้ว ผมและเคราของพวกเขาต่างก็เป็นสีขาว
อย่างไรก็ตาม หน้าโต๊ะของพวกเขา นางรำที่สวมชุดผ้ามัสลินเนื้อบางเบาก็กำลังร่ายรำด้วยท่วงท่าที่พลิ้วไหว
ทั้งสองคนเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ขณะดื่ม ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ปัง!
ในขณะนี้ จู่ๆ ประตูก็เปิดออก สิ่งนี้ทำให้นางรำกลัวจนต้องหาที่จะซ่อนตัว
หวังฉิงฉวนและซุนเหลียนเซิงต่างก็มองออกไปด้วยความโกรธ
“ ท่านลุง!” หวังจินเซิงเป็นคนที่เดินโซเซเข้ามาและพูดในขณะที่หายใจหอบว่า “ แย่แล้ว ผู้ว่าการมณฑลคนใหม่ของมณฑลลู่นั้นเป็นคนบ้า เขาบุกเข้าไปจับพ่อค้าของเราและต้องการจะจับพวกเราทั้งหมด!”
“ อะไรนะ?!” หวังฉิงฉวนเกือบจะคิดว่าเขาได้ยินผิด เขาพูดด้วยความประหลาดใจว่า “ ผู้ว่าการมณฑลคนใหม่ไปกินหำเสือดาวมารึไง? เขาไปเอาความกล้าแบบนั้นมาจากไหนกัน?”
“ แค่นั้นยังไม่พอ ข้าเห็นซูเฟิงอันยืนอยู่ข้างๆ ผู้ว่าการมณฑลคนใหม่ด้วย!” หวังจินเซิงกัดฟันและพูดว่า “ แม้ว่าเขาจะปลอมตัว แต่ข้าก็ยังจำออร่าของเขาได้”
“ ด้วยความสามารถอันสุดยอดของเขา ไม่เพียงแต่เขาจะสามารถเอาชนะทหารชั้นยอดของเราได้เท่านั้น เขายังสามารถจับคนของเราทั้งเป็นไปได้อีกด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ข้ารีบกลับมารายงานท่านลุง”
“ ซูเฟิงอันเป็นเพียงยอดฝีมือระดับสูงหน้าใหม่เท่านั้น เขาอยากจะมีหน้ามีตามากขนาดนี้เลยหรอ?” หวังฉิงฉวนโกรธมาก เคราของเขาถูกสะบัดออก “ ไปกันเถอะ ตามข้าไปที่มณฑลลู่ ข้าอยากจะไปดูเหลือเกินว่าซูเฟิงอันคนนี้ไปเอาความกล้ามาจากไหน!”
“ หวังจินเซิง เดี๋ยวท่านผู้นั้นก็จะมาถึงแล้วนะ” ซุนเหลียนเซิงเตือนเขาด้วยเสียงต่ำ
“ ท่านผู้นั้น…” หวังฉิงฉวนสร่างเมาจากความโกรธในทันที หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดว่า “ จินเซิง เราจะเปลี่ยนไปออกเดินทางพรุ่งนี้เช้ากันแทน”
“ แต่…” หวังจินเซิงมีท่าทีลังเล
เขาโกรธมาก เขามีชีวิตอยู่มาเกือบ 20 ปีและไม่เคยตกอยู่ในสภาพที่น่าอนาถเช่นนี้มาก่อน เขาต้องการที่จะฆ่าซุยเฮ็งและซูเฟิงอันในทันที
“ ไม่มีแต่” หวังฉิงฉวนส่ายหัวและพูดว่า “ ท่านผู้นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อข้า ต่อเจ้า และแม้แต่กับตระกูลหวังทั้งหมด”
“ สำหรับผู้ว่าการมณฑลคนใหม่และซูเฟิงอัน พวกเขาก็เป็นเพียงไก่และสุนัขที่ถูกขัง อีกไม่นานข้าก็จะไปจับตัวพวกเขาด้วยมือของข้าเอง”
“ และเมื่อถึงเวลานั้น เราจะทำอะไรกับพวกมันก็ได้!”
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved