เมื่อโจวโจวเห็นผู้มีพรสวรรค์เหล่านี้ เขาก็พบว่ามันไม่ได้มีแค่ 11 คน แต่เป็น 17 คน

ในเวลานั้นเอง ทหารคนหนึ่งที่รับผิดชอบในการเฝ้าพวกเขาก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็วและรายงานด้วยความเคารพ

“ฝ่าบาท ไม่นานหลังจากที่พวกเขามาถึงก็มีมนุษย์อีก 6 คนที่มีออร่าไม่ธรรมดามาเข้าร่วมกับอาณาจักรตะวันสาดแสงของพวกเราด้วย เป็นพวกเขา”

ทหารชี้ไปที่ลูกน้องใหม่ 6 คน

โจวโจวพยักหน้า หลังจากนั้นเขาก็นึกได้

ในจำนวน 17 คนนี้ 10 คนเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่ถูกดึงดูดมาโดยคะแนนชื่อเสียงและอีก 1 คนเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่ถูกดึงดูดมาโดยคะแนนชื่อเสียงระดับเทวะที่เป็นรางวัลของลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์

ส่วนผู้มีพรสวรรค์อีก 5 คนน่าจะถูกดึงดูดมาโดยคะแนนชื่อเสียงที่ได้รับเป็นรางวัลจากประกาศโลกของลอร์ดจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินเมื่อครั้งที่เขาพิชิตอาณาจักรทาฮันและได้รับตราอาณาจักรมา

ทำให้พวกเขามีจำนวนรวมเป็น 16 คน

ส่วนคนสุดท้ายน่าจะเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่ถูกดึงดูดมาโดยพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเงินขาวของเขาอย่างอ้อมกอดแห่งผู้พิชิต

[หลังจากพิชิตอาณาจักร ท่านจะได้รับผู้กล้าที่มีโชคชะตาระดับเหนือสามัญ 1 คน!]

ก่อนหน้านี้ที่เขาได้รับตราอาณาจักรของอาณาจักรทาฮันมา เขาก็ได้ยินการแจ้งเตือนนี้

เมื่อลองมองดูแล้ว มันก็น่าจะเป็นหนึ่งในพวกเขานั่นเอง

จากนั้นเขาก็เริ่มตรวจสอบข้อมูลของคนพวกนี้

ในบรรดาผู้มีพรสวรรค์ 15 คนที่ถูกดึงดูดมาโดยคะแนนชื่อเสียง มันมีสถาปนิกระดับเหนือสามัญขั้นสูง 2 คน ช่างตีเหล็กระดับเหนือสามัญขั้นสูง 2 คน ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเหนือสามัญขั้นสูง 3 คน พ่อมดสายเลือดระดับเหนือสามัญขั้นกลาง 3 คน ปรมาจารย์ค่ายกลระดับเหนือสามัญขั้นกลาง 3 คน และเกษตรกรระดับเหนือสามัญขั้นต้น 2 คน

ส่วนผู้มีพรสวรรค์จากคะแนนชื่อเสียงระดับเทวะก็คือผู้ฝึกยุทธ์เต๋าเซียน

เขาเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหล่า และดวงตาของเขาก็เผยให้เห็นความเกลียดชังของความชั่วร้ายเล็กน้อย

เขาแบกกระบี่เซียนที่เปล่งแสงห้าสีจางๆ ไว้บนแผ่นหลัง เขาดูไม่ธรรมดาและดูเหมือนกับเทพเซียนเลย

[ลูกน้อง: ซื่อซวนเถียน]

[อาชีพ: เทพกระบี่]

[อาชีพ: ผู้ฝึกปราณ]

[ระดับความแข็งแกร่ง: ระดับมหากาพย์ขั้นสูง (หลอมรวมร่างกายขั้นสุดท้าย)]

[ความสามารถโดยรวม: จากนิกายหมื่นเซียนกระบี่ในโลกเซียน เขาเป็นอัจฉริยะที่แพรวพราวที่สุดของนิกายหมื่นเซียนกระบี่ เขาถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับร่างเซียนกระบี่สวรรค์และมีความสำเร็จที่ไม่ธรรมดาในการฝึกฝนกระบี่เซียนและเต๋าเซียน บันทึกการต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดของเขาก็คือเมื่อตอนที่เขาใช้ค่ายกลหมื่นเซียนกระบี่เพื่อสังหารยอดฝีมือในระดับเซียนแท้จริงขั้นต้นเมื่อตอนที่เขายังเป็นเซียนกระบี่ระดับมหากาพย์ขั้นสูง ตราบใดที่เขาไม่ตาย เขาก็ถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะต้องก้าวเข้าสู่ขอบเขตเต๋าเซียนในอนาคต]

[ทักษะ: พรสวรรค์—ร่างเซียนกระบี่สวรรค์, พรสวรรค์—อัญเชิญเซียนกระบี่, พรสวรรค์—แสงกระบี่สวรรค์, พรสวรรค์—ร่างห้าธาตุ, คัมภีร์หมื่นเซียนกระบี่ระดับมหากาพย์ขั้นสูง, ค่ายกลหมื่นเซียนกระบี่ระดับมหากาพย์ขั้นสูง, ค่ายกลหัวใจเซียนกระบี่ระดับมหากาพย์ขั้นสูง, ค่ายกลกระบี่ห้าธาตุระดับมหากาพย์ขั้นกลาง, ค่ายกลพันกระบี่ระดับมหากาพย์ขั้นกลาง, เคล็ดวิชากระบี่บินระดับมหากาพย์ขั้นต้น…]

[ความภักดี: 95]

[ศักยภาพ: ระดับเทพอาวุโสขั้นต้น]

โจวโจวกลืนน้ำลาย

คนผู้นี้คือสุดยอดผู้มีพรสวรรค์อย่างแท้จริง

เขาคิดบางสิ่งขึ้นมาในทันใดและถามด้วยความสงสัย

“สถานะของเจ้าในนิกายหมื่นเซียนกระบี่เป็นยังไงบ้าง?”

ยอดฝีมือในระดับหลอมรวมร่างกายได้รับการอธิบายว่าเป็นอัจฉริยะที่แพรวพราวที่สุดในความสามารถโดยรวมของเขา เขาจะไม่ใช่ยอดฝีมือของนิกายได้ยังไง?

แล้วนิกายหมื่นเซียนกระบี่จะสุดยอดแค่ไหนกัน?

“ฝ่าบาท เดิมทีข้ามาจากระดับที่ต่ำต้อย ต่อมา ข้าได้พบว่าข้ามีกายเต๋ากระบี่ ดังนั้นข้าจึงได้รับคำแนะนำให้เลื่อนระดับไปล่วงหน้าและได้ไปยังนิกายหมื่นเซียนกระบี่ จากนั้นข้าก็ได้กลายเป็นศิษย์หลักของผู้อาวุโสสูงสุด ในแง่ของสถานะแล้ว ข้าเทียบได้กับยอดฝีมือระดับเซียนทองคำในนิกาย และตามระดับของเจตจำนงสูงสุด ข้าน่าจะมีสถานะเทียบได้กับผู้เชี่ยวชาญระดับเทพชั้นกลาง”

ซื่อซวนเถียนคิดอยู่ชั่วขณะและพูดออกมา

พระเจ้าช่วย

โจวโจวเดาะลิ้น

เทพกระบี่ระดับมหากาพย์ขั้นสูงที่ถูกปฏิบัติเทียบเท่ากับเทพชั้นกลางงั้นเหรอ?!

นิกายหมื่นเซียนกระบี่ให้คุณค่ากับซื่อซวนเถียนเป็นอย่างมากเลย

อย่างไรก็ตาม เขาก็สมควรได้รับความสำคัญนี้จริงๆ

ไม่เพียงแต่คนผู้นี้จะมีศักยภาพสูง แต่เขายังสามารถสังหารสิ่งมีชีวิตระดับเทพชั้นต่ำได้แบบซึ่งๆ หน้าด้วยความแข็งแกร่งระดับมหากาพย์ขั้นสูงเท่านั้น

ในตอนนั้นเขายังไม่ได้มีพลังของผู้พิฆาตมังกรด้วย เขาสามารถสังหารอีกฝ่ายได้ด้วยความสามารถจริงๆ ของเขา!

ตามที่คาดไว้จากอัจฉริยะ!

มันช่างน่ากลัวจริงๆ!

เขาคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็มองไปยังผู้กล้าที่อยู่ข้างๆ

[ลูกน้อง: ม่ายหลุน]

[สมญานามผู้กล้า: ราชาวายุ]

[ระดับโชคชะตา: โชคชะตาผู้กล้าระดับเหนือสามัญ]

[ดินแดน: อาณาจักรตะวันสาดแสง]

[ระดับความแข็งแกร่ง: ระดับเหนือสามัญขั้นสูง]

[ความสามารถโดยรวม: จอมเวทแห่งอาณาจักรกู่ถิงที่เชี่ยวชาญในการใช้เวทมนตร์ธาตุลม ต่อมาเขาได้ออกจากอาณาจักรและมาเข้าร่วมกับอาณาจักรตะวันสาดแสงเพราะเขาไม่พอใจกับการกดขี่ของอดีตราชา เขาได้กลายเป็นลูกน้องของราชาตะวันสาดแสง]

[สายเลือด: สายเลือดมนุษย์ (ระดับเหนือสามัญขั้นสูง) (80%), สายเลือดเหยี่ยวปีศาจแยกวายุ (ระดับมหากาพย์ขั้นสูง) (20%)]

[ทักษะ: ทักษะผู้กล้า—ร่างธาตุลมแท้จริง, ทักษะผู้กล้า—สุดยอดความสัมพันธ์ธาตุลม, พรสวรรค์—อัจฉริยะเวทมนตร์, สุดยอดทอร์นาโดระดับเหนือสามัญขั้นสูง, พายุแยกความว่างเปล่าระดับเหนือสามัญขั้นสูง, เหินฟ้าระดับเหนือสามัญขั้นกลาง, วายุพัวพันระดับเหนือสามัญขั้นกลาง, เคล็ดวิชาดาบวายุหลายชั้นระดับเพชรขั้นกลาง…]

[ความภักดี: 88]

[ศักยภาพ: ระดับมหากาพย์ขั้นสูง]

[ประวัติผู้กล้า: 1. เมื่อยามที่อาณาจักรกู่ถิงรุกรานอเวจี เขายืนขึ้นและสังหารจอมมาร—เซเซลเพียงลำพัง ซึ่งช่วยชีวิตผู้คนไว้เป็นจำนวนมาก! คะแนนชื่อเสียงส่วนตัวของผู้กล้า +1 คะแนนชื่อเสียงประจำเผ่าพันธุ์มนุษย์ +1,000 คะแนนชื่อเสียงประจำทวีปจื้อเกา +1!

2. เขาสร้างเวทมนตร์ธาตุลมระดับสูงมากมายและทิ้งชื่อของเขาไว้ในประวัติศาสตร์ของเวทมนตร์ ในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จในการเดินบนเส้นทางของผู้กล้าและกลายเป็นราชาวายุคนแรก! คะแนนชื่อเสียงส่วนตัวของผู้กล้า +1 คะแนนชื่อเสียงประจำเผ่าพันธุ์มนุษย์ +10,000 คะแนนชื่อเสียงประจำทวีปจื้อเกา +3!]

โจวโจวพยักหน้า

เมื่อรวมกับราชาวายุผู้นี้ ในตอนนี้เขาก็มีผู้กล้า 10 คนแล้ว

แม้ว่ามันจะด้อยกว่าจักรวรรดิเอลฟ์เป็นอย่างมาก แต่เขาก็กำลังไล่ตามอย่างช้าๆ

ด้วยพรสวรรค์แห่งลอร์ดอย่างราชาแห่งการดรอป เขาก็สามารถสะสมคู่มือลับมรดกผู้กล้าเป็นจำนวนมากได้

เขาคงจะไล่ตามทันในวันหนึ่ง

จากนั้นเขาก็ให้เจ้าหน้าที่พาผู้มีพรสวรรค์เหล่านี้ไปประจำตำแหน่ง สำหรับราชาวายุผู้นี้ เขาก็ถูกพาไปยังกองทัพตะวันสาดแสง

ซื่อซวนเถียนเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่

“ข้าจะเป็นผู้ฝึกปราณได้ไหม?”

โจวโจวตรงเข้าประเด็น

ซื่อซวนเถียนเลิกคิ้วขึ้น

เขาคิดว่าฝ่าบาทจะถามอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ไม่คาดคิดเลยว่ามันจะเป็นเรื่องนี้

“ข้ามีใบเปลี่ยนอาชีพผู้ฝึกปราณอยู่ แต่ฝ่าบาท ท่านก็น่าจะมีอาชีพแล้วใช่ไหมขอรับ?”

ซื่อซวนเถียนกล่าว

“ข้าได้รับวาสนาพิเศษมา ข้าสามารถมีอาชีพอีกได้”

โจวโจวยิ้ม

นักสู้เต็มตัว II ของเขาทำให้เขามีอาชีพเพิ่มได้อีก 2 อาชีพ

หนึ่งในนั้นถูกยึดครองโดยลอร์ดแห่งจุดจบไปแล้ว

เขาวางแผนที่จะเลือกผู้ฝึกปราณเป็นอาชีพต่อไป

นั่นเป็นเพราะขีดจำกัดของผู้ฝึกปราณนั้นสูงมาก!

ระดับสูงสุดที่สามารถบ่มเพาะไปได้คือระดับปราชญ์ (ระดับเทพอาวุโส)!

นอกจากนี้ เวทมนตร์เต๋าเซียนทั้งหลายที่ผู้ฝึกปราณใช้ก็ยังแข็งแกร่งกว่าอาชีพอื่นๆ หลายเท่า!

การบ่มเพาะในขอบเขตที่ลึกซึ้ง และการเคลื่อนย้ายดารากับพลิกโลกาก็ทำได้ด้วยการพลิกฝ่ามือเท่านั้น!

เหมือนกับซื่อซวนเถียน เขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ระดับเซียนแท้จริงขั้นต้นได้ด้วยการบ่มเพาะระดับผสานร่างกายขั้นสุดท้ายของเขาเท่านั้น

ประการแรกมันก็เป็นเพราะพรสวรรค์และโอกาสของเขาที่สุดยอดจริงๆ ซึ่งทำให้เขาต่อสู้ข้ามระดับได้

ประการที่สองมันก็เป็นเพราะขีดจำกัดของอาชีพผู้ฝึกปราณนั้นสูงเกินไป

อย่างไรก็ตาม อาชีพนี้ก็มีข้อเสีย

นั่นเป็นเพราะมันต้องใช้ทรัพยากรเป็นจำนวนมาก!

ผู้ฝึกปราณที่มีทรัพยากรเพียงพอนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับผู้ฝึกปราณที่ขาดแคลนทรัพยากร

อย่างไรก็ตาม ในฐานะราชาแห่งการดรอป ทรัพยากรก็เป็นสิ่งที่โจวโจวขาดแคลนน้อยที่สุด

นี่ยังเป็นเหตุผลว่าทำไมโจวโจวถึงกล้าเลือกอาชีพผู้ฝึกปราณ