“ในที่สุดก็มาสักที…”
เมื่อโจวโจวได้ยินเช่นนี้ เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
เขาไม่ได้กลัวว่ามันจะมา แต่กลัวว่ามันจะไม่มามากกว่า
โจวโจวย่อมสามารถจัดการกับอีกฝ่ายได้ง่ายๆ ถ้าพวกมันเป็นฝ่ายบุก
เขาอาจจะสงสัยด้วยซ้ำถ้าพวกมันไม่บุกมา
เพราะอาณาจักรทาฮันคงจะไม่ยอมอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรแน่
เขาตัดสินใจไม่ท้าประลองต่อทันที เพราะเขาก็อยู่ในอันดับที่สามแล้ว และยังเหลือเวลาอีกตั้งสามวันกว่าที่กิจกรรมสมรภูมิแห่งลอร์ดจะสิ้นสุดลง
เวลาสามวันมันเพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดมาได้
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้ก็คือการใช้เวลาสามวันนี้ให้คุ้มค่าที่สุดเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาอีกครั้งและเตรียมรับมือกับผู้เที่ยงแท้และมหาเทพ
การรั้งอยู่ในสมรภูมิแห่งลอร์ดคงจะไม่เป็นประโยชน์ต่อความแข็งแกร่งของเขาเท่าไร แต่กองทัพ 500,000 คนของอาณาจักรทาฮันนั้นย่อมเป็นโอกาสในการเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
วันนี้เขายังไม่ได้ใช้ยุยงแปรพักตร์ไปเลย มันสามารถใช้กับกองทัพมอนสเตอร์แห่งหมอกพวกนี้ได้
“พวกมันอยู่ที่ไหนกันแล้ว? มอนสเตอร์พวกนั้นมีลักษณะแบบไหนกัน?”
โจวโจวถามคนส่งสารทันที
“กองทัพมอนสเตอร์พวกนั้นอยู่ห่างจากเมืองปฐมอาณาจักรไป 200 กิโลเมตร พวกมันน่าจะมาถึงในครึ่งชั่วโมงด้วยความเร็วการเดินทัพในปัจจุบันขอรับ นอกจากนี้มอนสเตอร์พวกนี้ยังเป็นพวกอันเดดประเภทศพ มันเป็นมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ที่มีสี่แขนและเขาหนึ่งข้าง พวกมันมีหน้ากากเหล็กอยู่บนใบหน้า ดังนั้นข้าจึงไม่อาจเห็นลักษณะที่แน่นอนของพวกมันได้ขอรับ”
คนส่งสารกล่าวด้วยความเคารพ
โจวโจวพยักหน้า
ถ้าไม่นับความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย มันก็ยังพอมีเวลาให้พวกเขาได้เตรียมตัวอยู่บ้าง
จิงฮงซื่อได้สร้างค่ายกลข้ามมิติระหว่างเมืองตะวันสาดแสงและเมืองปฐมอาณาจักรแล้ว ถ้าเขาอยากจะส่งกองกำลังไปที่เมืองปฐมอาณาจักร เขาก็สามารถทำได้ในพริบตา
โจวโจวสั่งให้ไป่อี้และอู๋ซินจัดทัพทันทีและเตรียมมุ่งหน้าสู่เมืองปฐมอาณาจักร
ในเวลานั้นเอง หลี่ย่าและสาวใช้ของเธอก็เดินเข้ามา
“ท่านจะออกเดินทางอีกแล้วเหรอ?”
หลี่ย่ากล่าวด้วยความประหลาดใจ
“ใช่ อาณาจักรทาฮันส่งกองทัพมาตีเมืองปฐมอาณาจักรกลับคืนไป ข้าต้องไปจัดการกับพวกมันสักหน่อย”
โจวโจวพยักหน้า
“กองทัพของพวกมันมีจำนวนเท่าไร? แล้วพวกมันเป็นมอนสเตอร์ประเภทไหนกัน?”
หลี่ย่าถามด้วยความกระวนกระวายทันที
“มันมีมอนสเตอร์แห่งหมอกประมาณ 500,000 ตัว สำหรับลักษณะของพวกมันนั้น พวกมันคือมอนสเตอร์ประเภทศพที่สวมหน้ากาก”
โจวโจวกล่าว
“ห้าแสนตัว?! มอนสเตอร์ศพที่สวมหน้ากาก… หรือว่ามันจะเป็นกองทัพราชาศพไร้หน้า???”
หลี่ย่าดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้และใบหน้าของเธอก็ซีดลงในทันใด
“ท่านรู้จักกองทัพนี้เหรอ?”
โจวโจวถามด้วยความสงสัย
“...ย่อมรู้ อาณาจักรทาฮันเคยส่งกองทัพนี้ออกมาต่อสู้กับกองทัพออโรร่าของพวกเรา กองทัพออโรร่าเป็นกองทัพรองของกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดของอาณาจักรออโรร่าของเรา สุดท้ายกองทัพออโรร่าของเราก็พ่ายแพ้ยับเยินด้วยกองกำลังจำนวนเท่ากัน”
“มอนสเตอร์แห่งหมอกจากกองทัพราชาศพไร้หน้านั้นมีร่างกายที่แข็งแกร่งมาก นอกจากนี้พวกมันยังบ้าคลั่งเมื่อได้ต่อสู้และไม่มีความกลัวตาย ทหารของกองทัพออโรร่าจึงไม่อาจรับมือกับพวกมันได้เลย ดูเหมือนว่าเจ้าจะทำให้ราชาทาฮันอยากจะสังหารเจ้าจริงๆ”
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และสีหน้าของเธอก็จริงจังขึ้นมา
“แต่ไม่ต้องห่วง ข้าจะไปหาท่านพ่อเดี๋ยวนี้แหละและขอให้ท่านพ่อส่งกำลังเสริมมาช่วย”
เธอกล่าว
“ไม่จำเป็น แม้ว่ามอนสเตอร์แห่งหมอก 500,000 ตัวจะเป็นจำนวนที่เยอะ แต่ข้าก็สามารถจัดการได้”
โจวโจวส่ายหัว
หลี่ย่ามองมาที่โจวโจวและไม่ได้พูดอะไรอีก
เธอไม่รู้ว่าสหายสนิทของเธอผู้นี้ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน
นั่นคือมอนสเตอร์แห่งหมอก 500,000 ตัวเชียวนะ
แม้ว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งมากและความเร็วในการพัฒนาของดินแดนนั้นก็ไม่ธรรมดา แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการกับกองทัพระดับนี้จริงไหม?
อย่างไรก็ตาม เธอก็ลังเลและไม่ได้พูดอะไร
เธอรู้ว่าสหายผู้นี้ไม่เคยทำอะไรโดยไม่เตรียมตัว
บางทีเขาอาจจะมั่นใจจริงๆ ก็ได้
โจวโจวเองก็เห็นความลังเลในสายตาของอีกฝ่าย อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้อธิบาย มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะอธิบายเรื่องนี้ เขาแค่ต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำก็แค่นั้น
“โอ้ใช่ ท่านได้คริสตัลออโรร่าระดับเพชร 1,000 อันรึยัง?”
โจวโจวคิดขึ้นมาได้และถาม
“ได้แล้ว”
หลี่ย่าได้สติกลับมาและตอบ
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ในที่สุดเธอก็ยิ้มออกมาได้
คริสตัลออโรร่าระดับเพชร 1,000 อัน!
ถ้าพวกเธอจะหามันมาผ่านศพของผู้ทรงเกียรติ มันก็ต้องใช้ศพไม่ต่ำกว่า 20,000 ร่างเลย
เธอไม่คิดเลยว่าแค่มอบศพผู้ทรงเกียรติ 10,000 ร่างให้กับโจวโจวก็จะทำให้ได้คริสตัลออโรร่าระดับเพชรมามากมายขนาดนี้
ด้วยจำนวนคริสตัลออโรร่าระดับเพชร 1,000 อัน และวัสดุก่อสร้างที่เกี่ยวข้อง มันเพียงพอที่จะสร้างหอคอยออโรร่าระดับเพชรขั้นต้นได้อีก 100 อันเลย!
ตราบใดที่พวกเขามีหอคอยออโรร่าพวกนี้ แรงกดดันที่อาณาจักรต้องเจอก็จะลดลงเป็นอย่างมากแน่นอน
“ข้าเกรงว่าข้าจะไม่สามารถไปยังสมรภูมิหลักของอาณาจักรออโรร่ากับท่านได้แล้วในวันนี้ ไว้วันหลังนะ”
โจวโจวคิดอยู่ชั่วขณะและพูดออกมา
เขาอยากบอกว่าเขาจะไปพรุ่งนี้ แต่เมื่อเขาคิดว่าพรุ่งนี้มันคือวันแรกที่สมรภูมิสุดท้ายจะเปิดขึ้น เขาก็เกรงว่าจะไม่สะดวก ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พูดเช่นนั้นออกไป
“ข้ารู้ ดูแลตัวเองด้วยนะ ถ้าท่านต้องการอะไรก็แจ้งให้ข้าทราบได้ทันที แม้ว่าอาณาจักรออโรร่าของพวกเราจะถูกศัตรูล้อมไว้สามทิศทาง แต่พวกเราก็ยังพอแบ่งกำลังมาสนับสนุนท่านได้”
หลี่ย่าพูดอย่างจริงจัง
“ขอบคุณมาก”
โจวโจวมองใบหน้าจริงจังของเธอและยิ้ม
“เจ้าไม่ต้องสุภาพกับข้าขนาดนั้นก็ได้”
หลี่ย่ายิ้ม
โจวโจวพยักหน้า
เขามองไปที่เธอ
ทันใดนั้นเอง เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าเขาเคยบังเอิญได้ยินว่าหลี่ย่าชอบเขา
ชอบ…
โจวโจวคิดถึงมันเงียบๆ และส่ายหัวปฏิเสธตัวเอง
การมายังโลกอันวุ่นวายเช่นนี้ มันไม่ง่ายอยู่แล้วที่จะเอาชีวิตรอด ถ้าเขามีอารมณ์เช่นนั้น วันหนึ่งเขาจะไม่ทำอีกฝ่ายกลายเป็นหม้ายไปเหรอถ้าเขาตายบนสมรภูมิแห่งลอร์ด?
มันคงเป็นการดีกว่าที่จะไม่เกี่ยวดองกับอีกฝ่าย
โจวโจวลอบถอนหายใจออกมา แต่เขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาให้เห็น
“ท่านจะทำอะไรต่อ?”
“ข้าเตรียมกลับไปยังอาณาจักรออโรร่าก่อนและบอกท่านพ่อเกี่ยวกับคริสตัลออโรร่าระดับเพชร 1,000 อัน เพื่อที่ท่านจะได้รู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้น ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เส้นผมของท่านพ่อก็กลายเป็นสีขาวแล้วเพราะศัตรูที่อยู่รอบๆ ถ้ามีคริสตัลออโรร่าระดับเพชร 1,000 อันนี้ ท่านพ่อน่าจะโล่งใจขึ้น แล้วพรุ่งนี้ข้าจะกลับมานะ”
หลี่ย่ายิ้ม
“เดี๋ยวข้าไปส่งท่านเอง”
โจวโจวพยักหน้ารับ
“ไม่จำเป็น ไปจัดการเรื่องของเมืองปฐมอาณาจักรก่อนเถอะ อย่าปล่อยให้พวกมันชิงเมืองกลับไปได้”
หลี่ย่ายิ้ม
“แน่นอน”
โจวโจวพูดอย่างมั่นใจ
หลี่ย่าเห็นความมั่นใจของอีกฝ่าย เธอจึงพยักหน้าและยิ้มออกมา
จากนั้นเธอก็กล่าวลาโจวโจวและเดินไปที่ประตูเมืองพร้อมกับหยูเฉียว
โจวโจวมองดูพวกเธอจากไป
ทันใดนั้นเอง หัวใจของเขาก็เต้นผิดจังหวะ และเขาก็รู้สึกตื่นตระหนกและวิตกกังวลอย่างอธิบายไม่ได้
“หลี่ย่า!”
โจวโจวตะโกนออกมา
ในระยะไกล หลี่ย่าอึ้งไป จากนั้นเธอก็หยุดและหันมาหาโจวโจว
“มีอะไรงั้นเหรอ?”
“...ไม่มีอะไร รีบกลับมานะ”
โจวโจวเงียบไปชั่วขณะก่อนจะพูดออกมา
รีบกลับมานะ…
หลี่ย่าอึ้งไป จากนั้นเธอก็คิดถึงบางสิ่งและใบหน้าอันเรียบเนียนของเธอก็ขึ้นสีในทันใด
ทำไมคำพูดพวกนี้ที่เหมือนกับคำพูดของสามีที่พูดกับภรรยาถึงได้ออกมาจากปากของโจวโจวได้
เธอจินตนาการไปไกลทันที
จากนั้นเธอก็ไม่กล้ามองหน้าโจวโจว เธอพยักหน้าอย่างเอียงอายและเดินไปยังประตูเมืองอย่างรวดเร็ว
โจวโจวเองก็เขินอยู่นิดหน่อยเมื่อเขาได้เห็นใบหน้าขึ้นสีของหลี่ย่า
เขาทำอะไรผิดไป?
ทำไมมันถึงเหมือนชายหญิงที่ตกหลุมรักกันและอยากให้อีกฝ่ายกลับมาในทันทีที่แยกจากกัน?
เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นแค่เพื่อนกับเธอ
หรือว่าเขาจะชอบเธอจริงๆ
โจวโจวส่ายหัวและลืมเรื่องนี้ไป เขาเดินไปยังค่ายกลข้ามมิติพร้อมกับไป่อี้และคนอื่นๆ จากนั้นก็หายตัวไป