ตอนที่ 282 ความลับของชิ้นส่วนเทวะ

เขาไม่รู้ว่ามันผ่านมานานเท่าไรแล้ว

เมื่อหลิน ยู ลืมตาขึ้น แสงที่อยู่รอบตัวเขาก็หายไปแล้ว

เมื่อเขาลืมตาขึ้น เขาก็มองเห็นก้อนคริสตัลสีสันสดใสลอยอยู่ตรงหน้าเขาอย่างเงียบงัน รูปร่างของมันเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา

นี้มัน....

ชิ้นส่วนเทวะ!?

หลิน ยู ถึงกับตกตะลึงไปในทันที

แต่ในวินาทีถัดมา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง

ไม่!

นี่มันไม่ใช่ชิ้นส่วนเทวะ!

ชิ้นส่วนเทวะจะมีรูปร่างเหมือนคริสตัลหลากสี

ภายในบรรจุไปด้วยพลังความโกลาหล

แต่ชิ้นส่วนเทวะที่อยู่ตรงหน้าเขานี้ แตกต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

ลำแสงที่มันเปล่งออกมาสีสันงดงามยิ่งกว่า ภายในคริสตัลนั้นมีจิตวิญญาณที่มีรูปร่างคล้ายกับต้นไม้อยู่

แม้แต่ความเข้มข้นของพลังแห่งกฏก็ยังเหนือกว่าชิ้นส่วนเทวะ

เป็นไปได้ไหมว่านี้คือชิ้นส่วนเทวะที่สมบูรณ์แบบ!?

หลิน ยู ตกตะลึงไปในทันที

[ชื่อ : เทวรูปเทวะ (เผ่าพฤกษา)]

[ระดับ : ระดับ 11]

[บทนำ : วัตถุแห่งสวรรค์ที่บรรจุพลังแห่งพระเจ้าเอาไว้ ทำให้สามารถใช้สกิลที่ทรงพลังต่างๆออกมาได้ หลังจากที่หลอมรวม]

[หมายเหตุ : เนื่องจากระดับไม่เพียงพอ จึงทำให้ไม่สามารถมองเห็นข้อมูลเฉพาะได้ ท่านยังไม่ตรงตามเงื่อนไขการใช้งาน]

.....

มันคือชิ้นส่วนเทวะที่สมบูรณ์แบบจริงๆด้วย

แถมยังเป็นถึงกับระดับ 11

ดวงตาของหลิน ยู หรี่ลงทันที โดยไม่รู้ตัวว่ามันเกิดอะไรขึ้น

เมื่อเขามองไปยังรอบๆอีกครั้ง เหล่าเอลฟ์และทหารของเขาก็ไม่ได้อยู่ที่นี้แล้ว เหลือเพียงแค่มหาปุโรหิตถือคถาไม้เท้าอยู่ข้างๆ จ้องมองมาที่เขาอย่างตั้งใจ

"ตื่นแล้วงั้นเหรอ"

มหาปุโรหิตถามด้วยเสียงแผ่วเบา

สีหน้าของ หลิน ยู เปลี่ยนไปทันที  เขาตอบสนองทันทีรีบป้องกันตัวด้วยการลุกขึ้นและถอยออกไป สร้างระยะห่างระหว่างคนสองคนมากขึ้น

แต่สิ่งที่ทำให้ประหลาดใจก็คือ

มหาปุโรหิตไม่ได้ทำอะไรเขาแม้แต่น้อย แค่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างสงบ

"ไม่ต้องกังวลไป เทวรูปเทวะในมือเจ้าไม่มีประโยชน์สำหรับข้า"

ไม่มีประโยชน์งั้นเหรอ?

มหาปุโรหิตก็เป็นระดับ 11 ไม่ใช่หรือ

ทำไมเขาถึงได้บอกว่าเทวรูปเทวะอันนี้ไม่มีประโยชน์ต่อเขากันละ?

หลิน ยู รู้สึกมึนงงอย่างมาก แต่เขารู้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะทำอะไรซักอย่าง เขาก็คงไม่มีความสามารถแม้แต่จะต่อต้าน

ปฏิกิริยาเมื่อครู่เป็นเพียงการตอบสนองเบื้องต้นเท่านั้น

เมื่อเขากลับมามีสติอีกครั้ง เขามองไปยังรอบๆ และถามว่า "แล้วคนอื่นๆ ละ ไปอยู่ที่ไหนกัน พวกเขาหายไปไหนกันหมด"

"พวกเขาทั้งหมดถูกข้าสั่งให้ออกไป ส่วนเพื่อนคนแคระของเจ้าก็รีบเดินทางกลับไปยังอาณาจักรคนแคระ พวกเขาบอกจะมาหาเจ้าอีกครั้งในภายหลัง"

"ไปแล้วงั้นเหรอ?"

"เจ้าถูกพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งธรรมชาติห่อหุ้มอยู่ในตอนนั้นจึงหมดสติไปชั่วคราว ดังนั้นพวกเขาจึงออกไปก่อน"

"..."

หลิน ยู นิ่งเงียบ

เขาพบกว่าท้องฟ้าด้านนอกมืดลงแล้ว

ดูเหมือนว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแล้ว

เขาคิดว่ามันผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีด้วยซ้ำ แต่ไม่คิดว่ามันจะผ่านมานานขนาดนี้

เมื่อเห็นว่าบริเวณโดยรอบนั้นว่างเปล่า เขาก็มองไปที่มหาปุโรหิตอ้าปากเล็กน้อย

"เจ้าอยากจะถามเกี่ยวกับพิธีกรรมนั้นใช่ไหม"

มหาปุโรหิตดูเหมือนจะรู้ว่าเขาต้องการจะพูดอะไรจึงชิงพูดก่อน

"ใช่"

หลิน ยู พยักหน้าทันที

ตอนนี้ความสงสัยเต็มอยู่ในหัวใจของเขา ตัวเขาต้องการคำตอบ

ในฐานะมหาปุโรหิตแห่งเผ่าเอลฟ์ อีกฝ่ายคงจะรู้หลายสิ่งหลายอย่าง

แต่น่าเสียดาย

มหาปุโรหิตไม่ได้มีความตั้งใจที่จะบอกเขามากกว่านี้ ทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้นมา "ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเจ้า ไม่ควรรู้เรื่องราวบางอย่างเร็วเกินไป เมื่อความแข็งแกร่งของเจ้าเพิ่มขึ้น เจ้าจะเข้าใจเองโดยที่ข้าไม่จำเป็นต้องพูดก็ตาม"

เป็นอย่างนั้นเหรอ

หลิน ยู ถามต่อ เขาหยิบเทวรูปเทวะในมือขึ้นมาและถาม

"แล้วเทวรูปเทวะนี้ละ? มันอยู่ที่นี้ตลอดเวลาเลยงั้นเหรอ?"

ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขานั้นรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ง่ายเลย ไม่อยากนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเสียงดังสนั่นขนาดนั้น

ความสงสัยเต็มอยู่ในหัวใจของเขา ราวกับมีบางอย่างคิดอยู่ในคอของเขา ทำให้เขารู้สึกอึดอัดไม่น้อย เขาจึงต้องการที่จะถามออกมา

โชคดี

มหาปุโรหิตไม่ได้หลอกหลวงเขาเกี่ยวกับชิ้นส่วนเทวะ

หลังจากมองดูเทวรูปเทวะที่อยู่ในมืออย่างเงียบเขาก็พูดว่า "เทวรูปเทวะนั้นถูกสร้างขึ้นจากพลังศักดิ์สิทธิ์ของต้นไม้เอลฟ์"

"พลังศักดิ์สิทธิ์ของต้นไม้เอลฟ์?"

"ใช่แล้ว" มหาปุโรหิตพูดอย่างใจเย็นว่า "ต้นไม้เอลฟ์นั้นถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ที่โลกนี้ถูกสร้างขึ้น มันมีพลังศักดิ์สิทธิ์อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นรากฐานในการอยู่รอดของพวกเราเผ่าเอลฟ์ด้วย"

"แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าทำไมมันถึงได้เลือกเจ้าที่เป็นเผ่ามนุษย์ แต่เนื่องจากมันถูกกำหนดไว้แล้วโดยต้นไมเอลฟ์ ดังนั้นเจ้าก็รับมันไว้เถอะ เจ้าสามารถใช้มันได้เมื่อเจ้าไปถึงระดับ 11"

"แต่ตอนนี้ท่านก็อยู่ระดับ 11 ไม่ใช่หรอ ทำไมท่านถึงไม่ต้องการเทวรูปเทวะนี้ละ?"

หลิน ยู รู้สึกมึนงงยิ่งขึ้นไปอีก

ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับเทวรูปเทวะยังขาดไปอยู่มาก

เขารู้แค่ว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นในการอัพเกรดหลังจากระดับ 10 มันสามารถใช้เพิ่มความแข็งแกร่งได้เท่านั้น เขาไม่รู้เกี่ยวกับสิ่งอื่นๆอีก

มหาปุโรหิตดูเหมือนจะเข้าใจความสงสัยของเขา และส่ายหัวออกมาเล็กน้อย "เทวรูปเทวะของเหล่าราชันกับผู้ฝึกตนนั้นเหมือนกัน เทวรูปเทวะของข้านั้นก็เหมือนกับที่อยู่ในมือของเจ้า ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถหลอมรวมชิ้นที่ 2 เข้าไปได้"

"ทำไมกัน?" หลิน ยู ตกตะลึงไปช่วงขณะหนึ่ง

"เหตุผลนั้นก็ง่ายมาก เพราะถ้าหากข้าต้องการอัพเกรดต่อจากระดับ 11 ข้าต้องรวบรวมเทวรูปเทวะซึ่งมีคุุณลักษณะแตกต่างกันออกไป 10 อัน เช่นเดียวกับราชันอย่างพวกเจ้า"

ตูมม!!

เสียงคำรามดังขึ้นในหัวใจของ หลิน ยู ดวงตาของเขาเบิกกว้างออกทันที

ในการอัพเกรดไปยังระดับ 12 ต้องจำเป็นต้องรวบรวมเทวรูปเทวะของทั้ง 10 เผ่าพันธุ์เข้าด้วยกันงั้นหรือ?

แทนที่จะเป็นเทวรูปเทวะเพียงแค่ 10 อัน!

แม้ว่าเขาจะคิดเอาไว้แล้วว่าการอัพเกรดหลังจากระดับ 10 จะต้องเป็นเรื่องยากมากแต่เขาก็ไม่ได้คิดว่ามันจะยากขนาดนี้

หลังจากระดับ 10 มันเป็นเรื่องยากอย่างมากในการสังหารราชันระดับเดียวกัน

แต่นี้เขาต้องสังหารราชันถึง 10 คนจากดินแดนที่แตกต่างกัน?

นี้มันเหนือกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้ซะอีก

แต่ก่อนที่เขาจะได้ตั้งสติ เสียงของมหาปุโรหิตก็ดังขึ้นอีกครั้ง

"การที่จะก้าวจากระดับ 9 ไปยังระดับ 10 เจ้าต้องมีชิ้นส่วนเทวะ 1 ชิ้น และการที่จะก้าวจากระดับ 10ไปยังระดับ 11 เจ้าต้องหลอมรวมชิ้นส่วนเทวะ 10 ชิ้นให้กลายเป็นเทวรูปเทวะซึ่งตรงกับคุณสมบัติของเจ้า เช่นเดียวกับเทวรูปที่อยู่ในมือของเจ้า"

มหาปุโรหิตพยักหน้าเล็กน้อย สายของเขามองไปไกลออกไป

ดูเหมือนว่าเขากำลังนึกถึงความยากลำบากที่เขาได้รับมาก่อนที่เขาจะเลื่อนขึ้นเป็นระดับ 11 และกลายเป็นมหาปุโรหิตแห่งเผ่าเอลฟ์

อย่างไรก็ตาม เขานั้นไม่รู้ว่า หลิน ยู นั้นได้หลอมรวมชิ้นส่วนเทวะไปแล้วถึง 2 ชิ้น

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดต่อ "เทวรูปเทวะที่รวบรวมจากตัวตนระดับ 11 นั้นจะมีคุณลักษณะของมันเอง"

"หากเจ้าต้องการทำลายพันธนาการะดับ 11 เพื่อมุ่งหน้าไปยังระดับ 12 เข้าต้องรวบรวมเทวรูปเทวะทั้ง 10 ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเหล่าราชันหรือผู้ฝึกตน มันก็เหมือนกัน"

"ตอนนี้เจ้าน่าจะเข้าใจอะไรมากขึ้นแล้วใช่ไหม"

หลังจากพูดจบ มหาปุโรหิต ก็มองไปที่ หลิน ยู อย่างเงียบๆ

แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไม ต้นไม้เอลฟ์ และพระมารดาแห่งธรรมชาติถึงได้เลือกมนุษย์คนนี้ แต่เขาก็ยังสามารถตอบคำถามต่างๆ แก่เขาได้

สุดท้ายแล้วหากคำทำนายเป็นจริงๆ

มนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าเขานี้มีแนวโน้มที่จะมีบทบาทสำคัญ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเพิกเฉยได้

เสียงของเขาทำให้ หลิน ยู กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง ใบหน้าของเขาดูตกตะลึง

นี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินข้อมูลที่ระเอียดขนาดนี้เกี่ยวกับชิ้นส่วนเทวะ

ตัวเขายังคงตกใจอยู่บ้าง

ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลย

ไม่แปลกที่จำนวนของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่นั้นน้อยเป็นอย่างมาก ปรากฏว่ามันเป็นแบบนี้นี่เอง

หากพูดถึง

ถ้าในอนาคตเขารวบรวมชิ้นส่วนเทวะครบ 10 ชิ้น ด้วยความพยายามของเขาควบแน่นมันกลายเป็นเทวรูปเทวะเผ่าพฤกษา เขาสามารถนำชิ้นส่วนเทวะอันนี้ไปแลกกับสมบัติอย่างอื่นได้หรือไม่?

ทันใดนั้น มันก็จะเทียบเท่ากับเขามีเทวรูปเทวะถึง 2 ชิ้นทำให้เขาเหนือกว่าราชันคนอื่นๆอย่างมาก

อาจกล่าวได้ว่าเป็นเปิดเส้นทางไปสู่ระดับ 11

ในการเดินทางมายังจักรวรรดิเอลฟ์ในครั้งนี้

มันไม่ได้เสียเปล่าแล้ว

"เอาละ ใจที่เจ้าถามเสร็จแล้ว ตอนนี้ฟ้าก็เริ่มมืด เจ้าไปพักบ้านต้นไม้ตรงนั้นก่อนสักคืนก็แล้วกันข้าจะหาคนมาจัดการให้"

มหาปุโรหิต ไม่ให้โอกาสหลิน ยู คิดมากนัก

หลังจากที่พูดเสร็จเขาจะฉีกมิติหวั่บหายไป

ตัวนั้นยังคงเย็นชาเหมือนเดิม แต่ก็ดูเป็นมิตรมากขึ้น

หลิน ยู ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้

เหล่าเอลฟ์สองสามคนนำออกไปด้านนอก ไม่นานเขาก็มาถึงบ้านต้นไม้หลังหนึ่ง เขาเพียงแค่กินอาหารเสร็จแล้วก็นอนหลับไป

......

เช้าวันรุ่นขึ้น

หลิน ยู ถูกพาตัวออกไปโดยเหล่าเอลฟ์ออกจากส่วนลึกของป่าวิญญาณ

อย่างไรก็ตามในฐานะมนุษย์ เขาไม่ได้รับอนุญาติให้อยู่ในระยะของ ต้นไม้เอลฟ์นานเกินไป ดังนั้นตัวเขาจึงต้องออกไปจากที่นี้ก่อน

นี้คือกฏ ตัวเขาจึงไม่ได้พูดอะไรมากนัก

แต่เมื่อเทียบกับความเย็นชาของมหาปุโรหิต

เอลฟ์ธรรมดานั้นปฏิบัติของเขาดีอย่างมาก พวกเขายังมอบเหยือกน้ำดอกไม้และผลเบอร์รี่ลับให้เขาอีกด้วย

นี้คงจะเป็นคำสั่งของ มหาปุโรหิต ที่สั่งกับพวกเขา

น่าเสียดายที่ หลิน ยู ยังไม่เห็นราชินีเอลฟ์ เขาจึงรู้สึกเสียใจอยู่เล็กน้อย

"เอาละ ข้าจะพาเจ้าไปจากที่นี้ แท่นเทเลพอร์ตอยู่ตรงหน้านั้น เจ้าจะกลับไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์หรือจะพักอยู่ที่เมืองชายขอบก่อนก็ได้"

คนที่รับผิดชอบในการนำทางให้เขาคืออัลเลน เอลฟ์หนุ่มที่เขารู้จักเมื่อวาน อีกทั้งเขานั้นยังค่อนข้างคุ้นเคยกับหลิน ยู

เดิมทีเขานั้นต้องส่งหลิน ยู ไปยังพื้นที่รอบนอกของป่าวิญญาณเท่านั้น แต่เขานั้นมาส่งหลิน ยู ถึงบริเวนแท่นเทเลพอร์ตเลยทีเดียว ก่อนที่จะหยุดลงตรงนั้น

และระหว่างทาง

หลิน ยู ยังได้สอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในอาณาจักรคนแคระ

เมื่อเขานั้นรู้ว่ามันเป็นเพียงความขัดแย้งระหว่างเผ่า และยังไม่มีสงคราม ในที่สุดเขาก็โล่งใจ

เขาวางแผนที่จะกลับไปยังดินแดนแล้วคอยดูสถานการณ์

นี้คือเรื่องราวทั้งหมด

เขาบอกลาอัลเลนและเอลฟ์อีกสองสามคนที่อยู่ข้างเขา เดินเข้าไปในแท่นเทเลพอร์ตกลับยังแท่นเทเลพอร์ตจักรวรรดิ์

เขาบินไปยังทิศทางของเมืองศักดิ์สิทธิ์

มันใช้เวลากว่า 2 ชั่วดมงกว่าจะมาถึงด้านนอกของ หอการค้าชิงฟางเก่อ ในที่สุด เขาก็ได้รับกับ หลูเจิ้งซิง ที่กำลังจัดแจงสิ่งต่างๆอยู่ด้านนอกร้าน

"นายน้อยหลิน ท่านมาแล้วงั้นเหรอ เรื่องของคนแคระเรียบร้อยดีหรือไม่"

เมื่อเห้น หลิน ยู ปรากฏตัว หลูเจิ้งซิง ก็ละทิ้งสิ่งที่ทำอยู่ทันทีรีบเข้ามาทักทายเขา

"อืม เรียบร้อยแล้วละ ข้าจึงได้แวะมายังที่นี้ได้"

หลิน ยู พลิกตัวกระโดดลงจากหลังของ มังกรราชาปิศาจ

"ใช่แล้ว เมื่อวานตอนบ่าย ข้าได้ซื้อวัตถุศักดิ์สิทธิ์ระดับ SSS มาแล้ว ข้ากำลังมองหาโอกาสที่จะมอบให้นายน้อยหลินอยู่พอดี ข้าไม่ได้คิดว่าท่านจะมาถึงเร็วขนาดนี้ "

"ซื้อได้เร็วขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ" ดวงตาของ หลิน ยู เปล่งประกายทันที

ดูเหมือนว่าซื้อวัตถุศักดิ์สิทธิ์ระดับ SSS ที่ปรากฏขึ้นจำนวนมากก่อนหน้านี้ ทำให้การซื้อขายนั้นง่ายอย่างมาก

จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปยังด้านใน ภายใต้การต้องมองอย่างประหลาดของเหล่าลูกค้าภายในร้าน เขาเดินเข้าไปในห้องโถงรับรองพร้อมกับ หลูเจิ้งซิง เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับซื้อวัตถุศักดิ์สิทธิ์

จนกระทั่งครึ่งชั่วโมงต่อมา

เขาที่เพิ่งออกมาจากหอการค้า โดยมีซื้อวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ได้เฉพาะเผ่าพฤกษาอยู่ด้วย

[วัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพ : เจตจำนงที่ไม่ยอมแพ้]

[ประเภทสมบัติ : พิเศษ]

[ระดับสมบัติ : ระดับ SSS]

[ความสามารถ : หลังจากที่ทหารได้รับบาดเจ็บถึงชีวิต มีโอกาส 40% ที่จะไม่ตายในทันทีและ 1 แต้มของค่าสถานะร่างกายจะสามารถคงอยู่ได้เป็นเวลา 5 วินาที]

[หมายเหตุ : วัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการเพิ่มความแข็งให้กับทหาร สามารถใช้กับฐานทัพให้การเพิ่มความแข็งแกร่ง]

ใช่แล้ว!

มันเป็นเวอร์ชั่นปรับปรุงของ "หัวใจที่ไม่ยอมแพ้!"