ตอนที่ 379 : ศักยภาพพลังจิตพิเศษ! กระแสจิตระดับสูง!

โจวโจวหลับตาลงและรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากสายเลือดนี้อย่างเงียบๆ

หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็ลืมตาขึ้น

เขามองไปรอบๆ และเพ่งความคิด

อึดใจต่อมา อาวุธและอุปกรณ์สวมใส่จำนวนนับไม่ถ้วนภายในรัศมีพันเมตรก็ลอยขึ้นมาอย่างเงียบๆ

โจวโจวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

พลังจิตของเขาในตอนนี้ถึงระดับมาตรฐานที่จะใช้ในการต่อสู้จริงได้แล้ว

เขาสามารถพึ่งพาพลังจิตเคลื่อนย้ายวัตถุเพื่อประคองตัวเองและบินได้เลย และเขาก็ยังสามารถควบคุมไอเท็มเป็นจำนวนมากให้ลอยขึ้นมาได้เหมือนในตอนนี้

เขาเพ่งความคิดอีก

อาวุธและอุปกรณ์สวมใส่ที่กำลังลอยอยู่ก็ตกลงพื้นทีละอันและสลายกลายเป็นฝุ่นผงพร้อมกับปลิวหายไปตามสายลม

จากนั้นโจวโจวก็มองไปที่การแจ้งเตือนเกี่ยวกับการอัพเกรดของสายเลือด

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังจากอ่านมัน

“สายเลือดระดับเหนือสามัญขั้นต้นสามารถเพิ่มระดับสายเลือดมนุษย์แห่งความโกลาหลของฉันได้แค่นิดเดียวเท่านั้นเองเหรอ?”

โจวโจวเดาะลิ้น

มันเกินไปหน่อยไหม มันคือสายเลือดระดับเหนือสามัญเชียวนะ ทำไมมันถึงมีการพัฒนาแค่นี้?

ดูเหมือนว่าเขายังมีหนทางอีกยาวไกลและยากลำบากก่อนที่เขาจะสามารถพัฒนาสายเลือดมนุษย์แห่งความโกลาหลขึ้นไปได้อีก

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่สนใจเกี่ยวกับการเพิ่มระดับสายเลือดมนุษย์แห่งความโกลาหลมากนัก

พรสวรรค์และทักษะประจำเผ่าพันธุ์ที่เขาปลุกให้ตื่นขึ้นผ่านการดูดซับสายเลือดเผ่าพันธุ์โลหิตน้ำเงินชั้นสองนี้ก็ดีมากแล้ว

เขาเพิ่งได้ทดลองใช้พลังจิตเคลื่อนย้ายวัตถุมา

ข้อมูลทักษะของมันก็คล้ายกับข้อมูลของทักษะพลังจิตเคลื่อนย้ายวัตถุที่เขาเคยเห็นก่อนหน้านี้ แต่มันก็ย่อมแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับทักษะของเผ่าพันธุ์โลหิตน้ำเงินชั้นสามและเผ่าพันธุ์โลหิตน้ำเงินทั่วไป

สำหรับพรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์อีกสองอันนั้น พวกมันก็ถูกพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก

[พรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์: ศักยภาพพลังจิตพิเศษ]

[ระดับพรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์: ระดับมหากาพย์ขั้นสูง]

[เอฟเฟกต์: หลังจากใช้มัน ท่านจะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งทางจิตใจในปัจจุบันของท่านได้เป็นอย่างมาก และได้รับศักยภาพพลังจิตพิเศษ พรสวรรค์นี้จะทำให้ศักยภาพพลังจิตของท่านเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตทั่วไป ทุกครั้งที่ท่านพัฒนาความแข็งแกร่งทางจิตใจ ท่านจะได้รับขีดจำกัดสูงสุดของความแข็งแกร่งพลังจิตที่สูงขึ้น]

[รายละเอียด: พรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์ของเผ่าพันธุ์โลหิตน้ำเงินชั้นสอง ต่อมา เนื่องจากอิทธิพลของสายเลือดมนุษย์แห่งความโกลาหล มันก็ถูกพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก มันมีศักยภาพและความสามารถที่สูงยิ่งขึ้น]

[หมายเหตุ: บัฟความก้าวหน้าของพรสวรรค์นี้จะคงอยู่จนกว่าท่านจะเลื่อนระดับขึ้นเป็นระดับมหากาพย์ขั้นสูง]

[พรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์: กระแสจิตระดับสูง]

[ระดับพรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์: ระดับมหากาพย์ขั้นสูง]

[เอฟเฟกต์: เมื่อท่านเพิ่งสมาธิไปที่สิ่งมีชีวิตอื่น ท่านจะสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่]

[รายละเอียด: พรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์ของเผ่าพันธุ์โลหิตน้ำเงินชั้นสอง มันยังเป็นวิธีการพื้นฐานที่สุดที่พวกมันใช้ปกครองลูกน้อง ภายใต้อิทธิพลของสายเลือดมนุษย์แห่งความโกลาหล มันก็ได้รับการพัฒนาขึ้น และความสามารถในการรับรู้ของมันก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก]

โจวโจวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจหลังจากอ่านมัน

สมรภูมิสุดท้ายช่างเป็นดินแดนขุมทรัพย์สำหรับเขาที่สามารถใช้เพิ่มระดับสายเลือดมนุษย์แห่งความโกลาหล พรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์ และทักษะประจำเผ่าพันธุ์ได้จริงๆ

เขาเพิ่งมาถึงที่นี่และก็ได้ยกระดับสายเลือดของเขาขึ้นนิดหน่อยแล้ว นอกจากนี้เขายังได้ความสามารถประจำเผ่าพันธุ์ที่ดีพวกนี้มาอีก

มันเหลือเวลาอีกสามวัน พัฒนาการของเขาคงจะน่าตกใจอย่างหาที่เปรียบมิได้เลย!

ถึงกระนั้น มันก็มีหลักการเบื้องต้นอยู่คือเขาต้องเอาชีวิตรอดในโลกนี้ให้ได้

ถ้าเขาเกิดตายไปแบบกะทันหัน ทุกอย่างก็คงจะไม่ต้องพูดถึงเลย

เมื่อคิดได้เช่นนี้ อารมณ์อันตื่นเต้นของโจวโจวก็ค่อยๆ สงบลง และเขาก็กลับคืนสู่สถานะระแวดระวัง

หลังจากนั้นไม่นาน ไป่อี้ก็เดินเข้ามาพร้อมกับรายงานเรื่องไอเท็มดรอป

โจวโจวรับมันมาดูก่อนที่จะคืนมันกลับไปให้อีกฝ่าย

“ข้าไม่ต้องการรายงานหากไม่มีการต่อสู้ เมื่อพวกเรากลับไปที่ดินแดนค่อยส่งรายงานอย่างเป็นทางการมาให้ข้าดูก็ได้”

เขากล่าว

“เจ้าค่ะท่านลอร์ด!”

ไป่อี้กล่าวด้วยความเคารพ

“พวกมันช่างโชคร้ายจริงๆ แม้แต่โอกาสจะแสดงความสามารถก็ยังไม่มี”

เฟิงลั่วเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม

เขาเพิ่งไปช่วยเรื่องการเก็บไอเท็มดรอปมา ดังนั้นเขาก็ย่อมรู้ว่าเผ่าพันธุ์โลหิตน้ำเงินพวกนี้เชี่ยวชาญในการใช้พลังจิต

สุดท้าย พวกมันก็ตายลงก่อนที่พวกมันจะทันได้แสดงฝีมือออกมา

เฟิงลั่วอยากจะหัวเราะออกมาจริงๆ เมื่อคิดเช่นนี้

“นี่เป็นผลมาจากการประเมินความสามารถของตนเองสูงเกินไป”

โจวโจวพูดอย่างใจเย็น

แม่ทัพที่อยู่รอบๆ พยักหน้า

“พวกเจ้าคิดว่าพวกเราจะเอายังไงกันต่อดี?”

โจวโจวหันไปหาไป่อี้กับอู๋ซิน และถาม

ไป่อี้ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะและกล่าวว่า “ข้ารู้สึกว่าที่นี่เป็นสถานที่อันตรายที่เราไม่เคยเข้ามาสัมผัสมาก่อน มันคงเป็นการดีกว่าที่พวกเราจะรั้งอยู่ที่นี่ก่อน จากนั้นพวกเราก็จะส่งกองกำลังออกไปสำรวจบริเวณโดยรอบ หลังจากพวกเราเข้าใจสถานการณ์โดยรอบแล้ว พวกเราก็จะวางแผนได้”

โจวโจวพยักหน้า

เขาเองก็รู้สึกว่าวิธีการของไป่อี้นั้นฟังดูดีมาก

ส่วนแม่ทัพคนอื่นๆ ก็ไม่มีข้อโต้แย้ง

เมื่อเห็นว่าพวกเขามีความเห็นเป็นเอกฉันท์ โจวโจวจึงเรียกอู๋ตู่เข้ามา

“คาราวะท่านลอร์ด!”

อู๋ตู่กล่าวด้วยความเคารพ

เขากลับมาเมื่อคืนนี้พร้อมกับแผนที่บริเวณโดยรอบที่เขาได้สำรวจในช่วงเวลาผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ที่เป็นวันเปิดของสมรภูมิสุดท้าย โจวโจวก็เหลือบดูมันเพียงแวบเดียวและไม่ได้ดูมันต่อ

อู๋ตู่ในตอนนี้คือนักทำแผนที่ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูงแล้ว นอกจากนี้ หลังจากเขาเปลี่ยนอาชีพเป็นวิญญาณวายุคลั่ง ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้จึงอยู่ที่ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นต้นแล้ว

นอกจากนี้กองทัพวาดสวรรค์ภายใต้การบัญชาการของเขายังมีจำนวนคนถึง 5,000 คน

เขาจึงถือได้ว่าเป็นแม่ทัพคนสำคัญที่มีทั้งความแข็งแกร่งและอำนาจในดินแดนของโจวโจวเลย

“อู๋ตู่ ข้าขอสั่งให้เจ้านำทหารทั้งหมดในกองทัพวาดสวรรค์ไปสำรวจบริเวณโดยรอบในรัศมี 50 กิโมเมตร อย่าออกห่างจากพวกเราไปนัก ถ้ามีอันตรายอะไรก็ให้กลับมาทันที ถ้าเจ้าเจอกับศัตรูก็พยายามอย่าเข้าปะทะกับพวกมัน”

โจวโจวกล่าว

“ขอรับท่านลอร์ด!”

อู๋ตู่กล่าวด้วยความเคารพ

มันไม่มีความกลัวอยู่บนใบหน้าของเขาเลย

เขาผู้วาดแผนที่ภูมิภาคจำนวนนับไม่ถ้วนให้กับท่านลอร์ดของเขาได้พัฒนาจิตใจที่สงบมาเป็นเวลานานแล้ว

แม้ว่าสมรภูมิสุดท้ายจะดูแปลกและน่ากลัว แต่เขาก็ไม่หวาดหวั่นเลย

โจวโจวพยักหน้า

หลังจากนั้นไม่นาน เมคาโนสไตรเดอร์ระดับเงินขาวขั้นต้น 5,000 อันก็แยกตัวออกไปจากกองทัพและพุ่งไปทุกทิศทาง

เพราะอู๋ตู่เปิดใช้งานกองทัพไร้สดับให้กับพวกเขาแล้ว พวกเขาจึงไม่ส่งเสียงใดๆ เลยเมื่อพวกเขาออกเดินทาง

ในไม่ช้าพวกเขาก็หายไปจากสมรภูมิสุดท้ายโดยสมบูรณ์

“แม้ว่าอู๋ตู่จะยังเด็ก แต่เขาก็ดูน่าเชื่อถือมากๆ”

ไป่อึ้อุทานออกมาเมื่อเธอได้เห็นเช่นนี้

“อู๋ตู่และกองทัพวาดสวรรค์ของเขามีส่วนร่วมเป็นอย่างมากต่อการพัฒนาดินแดนของพวกเราในวันนี้เลย”

อู๋ซินเสริม

คนอื่นๆ พยักหน้าออกมาด้วย

โจวโจวเองก็ยอมรับอยู่ในใจ

อู๋ตู่และกองทัพวาดสวรรค์ของเขาเรียกได้ว่าเป็น ‘ไกด์’ สำหรับการพิชิตดินแดนของพวกเขาเลย

ถ้าไม่มี ‘ไกด์’ พวกเขาก็คงไม่กล้าบุ่มบ่ามโจมตีดินแดนภูมิภาคแห่งอื่น ดังนั้นพวกเขาก็คงจะไม่ประสบความสำเร็จเช่นอย่างตอนนี้แน่ๆ