ตอนที่ 43 - บทที่ 43 ฝูงละมั่ง

บทที่ 43 ฝูงละมั่ง

เหตุผลนั้นง่ายมาก เขาเป็นนักธนูเพียงคนเดียวในทีมล่าของฝ่ายตรงข้าม มีความเป็นไปได้สูงที่ชายหนุ่มคนนี้จะมีทักษะการยิงธนูที่ดี ธนูดำที่อยู่ในมือของคนที่อยู่ข้างหลังคือข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด

"ข้าแค่ไม่รู้ว่าคันธนูนั้นมีแรงน้าวมากแค่ไหน?" เขาอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย

"เสี่ยวฟาน เจ้าเห็นเด็กคนนั้นไหม?"

ชายหัวโล้นยิ้ม และจ้องมองไปที่เฉินฟานและเฉินกัวตงโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ "นั่นคือลูกชายของกู่เจียงไฮ่ กู่เซ่อ"

"เอ๊ะ?"

ดวงตาของเฉินฟานเบิกกว้าง บังเอิญขนาดนั้นด้วยเหรอ?

เฉินกัวตงไอสองครั้งและพูดด้วยน้ำเสียงเรียบว่า "กู่เซ่อ คนที่ลุงหลิวของเจ้าพูดถึงนั้น ข้าได้ยินมาว่าเขาไม่ได้อ่อนแอและเขาสามารถดึงธนูแรงน้าวแปดสิบปอนด์ได้"

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกอิจฉาในใจเช่นกัน

ทันทีที่เขาพูดจบก็มี เสียงเหยียดหยามก็ดังขึ้น

"มีอะไรที่ต้องโอ้อวดกัน? เสี่ยวฟานของเรากำลังใช้ธนูที่มีแรงน้าวถึงหนึ่งร้อยปอนด์"

"ถูกต้อง ในแง่ของการยิงธนู เด็กคนนั้นเทียบกับเสี่ยวฟานของเราไม่ได้หรอก!"

เกาหยางและคนอื่น ๆ พูดอย่างมั่นใจ

เหนือสิ่งอื่นใด เฉินฟานยิงหมาป่าคลั่งหกตัวด้วยตัวคนเดียวจนตาย แล้วเด็กคนนั้นจะสามารถทำได้เหรอ?

เฉินฟานพูดไม่ออกเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อยเช่นกัน เมื่อเขาได้ยินว่าทุกคนกำลังปกป้องตัวเขาจากก้นบึ้งของหัวใจของพวกเขา

เขาจ้องมองไปยังทิศทางที่อีกฝ่ายกำลังจะจากไปและรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย ไม่น่าแปลกใจที่ฝ่ายตรงข้ามมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นแต่สามารถสนับสนุนหมู่บ้านเล็กๆ ได้ และคนที่ชื่อกู่เจ๋อจะต้องมีของไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน

คงจะดีไม่น้อยถ้ามีบุคคลเช่นนี้ในหมู่บ้านของเขา ในใจของเขาร่างของจ้าวเฟิงและหวังปิงก็ปรากฏตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

จากนั้นหลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว ทุกคนก็พักผ่อนสักพักและออกเดินทางล่าสัตว์อีกครั้ง

ดูเหมือนทุกอย่างกำลังเป็นไปได้ด้วยดี และภายในครึ่งชั่วโมงกลุ่มเหยื่อก็ปรากฏตัวขึ้นในการมองเห็นของพวกเขา

"ดูเหมือนจะเป็นฝูงแกะงั้นเหรอ?"

เฉินฟานโพล่งออกมา

ตอนนี้เขาสามารถมองเห็นกลุ่มก้อนสีเทาที่อยู่ห่างออกไปเกือบ 500 เมตรได้อย่างชัดเจน แน่นอนว่าระยะทางนี้ไกลเกินไปสำหรับพวกเฉินกัวตง ประมาณ 300 เมตรคือระยะสูงสุดที่พวกเขามองเห็นได้อย่างชัดเจนแล้ว

ในฝูงนี้มีแกะประมาณสิบตัว ซึ่งใหญ่กว่าแกะธรรมดาประมาณครึ่งหนึ่ง พวกมันมีเขาสีดำบนหัว ตัวสีขาวเหมือนหิมะ มีขายาวสี่ขา พวกมันแข็งแกร่งและทรงพลัง ถ้าพวกมันเห็นศัตรูพวกมันก็จะวิ่งทันทีและพวกมันวิ่งเร็วอย่างมาก

ขณะนี้พวกมันส่วนใหญ่กำลังเล็มหญ้าอยู่ แต่หนึ่งในนั้นดูค่อนข้างระมัดระวังตัวอย่างมาก และดูเหมือนมันจะเป็นตัวที่กำลังเฝ้าระวังให้กลุ่มของตัวเอง และมันก็มองมาทางนี้เหมือนกัน

"ไม่ใช่แกะ นั่นมันคือละมั่ง?"

ชายหัวล้านพูดกับตัวเอง

"นี่ดูเหมือนว่ามันจะยากแล้ว"

รอยยิ้มบนใบหน้าของทุกคนก็จางหายไป

เฉินกัวตงอธิบาย "ละมั่งก็เป็นสัตว์อสูรระดับต่ำเช่นกัน มันไม่ก้าวร้าวแต่ก็ระมัดระวังเป็นพิเศษอย่างมาก แม้แต่เวลารับประทานอาหารก็จะมีผู้รับผิดชอบในการเฝ้าระวัง เมื่อพบอันตรายมันก็จะส่งเสียงสัญญาณเตือนภัยแล้ววิ่งหนี แม้แต่วัวป่าก็ยังตามมันไม่ทัน”

"เช่นนั้นหรือ!"

เฉินฟานพยักหน้า

และพยายามวิเคราะห์ตามข้อมูลที่พ่อเขาบอก

"และมันก็อยู่ไกลมาก เมื่อกี้นี้ที่เราเพิ่งเห็นพวกมัน ตัวที่รับผิดชอบในการเฝ้าระวังก็อาจจะเห็นเราแล้ว และคาดว่าพวกมันจะตื่นตระหนกในระยะห่างประมาณสามถึงสี่ร้อยเมตร เฮ้อ ข้าคิดว่าเราจะมีโอกาสได้รับเหยื่อซะอีก ดูเหมือนว่าการเก็บเกี่ยวจะลอยหายไปแล้วล่ะ งั้นเราก็ไปกันเถอะ"

อารมณ์ของเกาหยางกำลังลดลงอีกครั้ง

และทุกคนก็เช่นกัน

พวกเขาเคยถูกปั่นหัวจากละมั่งพวกนี้มาหลายครั้งแล้ว และต่อมาพวกเขาได้เรียนรู้ที่จะอยู่เฉยๆและปล่อยผ่านไป แทนที่จะเปลืองพลังงานและเสียเวลาป่าว ทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจะดีกว่า

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เฉินฟานก็ไม่เต็มใจที่จะปล่อยพวกมันไปเล็กน้อย

เพราะในที่สุดพวกเขาก็พึ่งได้เจอเหยื่อกลุ่มหนึ่ง ตราบใดที่เขาสามารถเข้าถึงในระยะ 200 เมตร หรือ 250 เมตรได้ เขามั่นใจว่าจะสามารถฆ่าพวกมันได้อย่างน้อยสองตัว

แต่สิ่งที่พ่อพูดก็ถูกต้องเช่นกัน ละมั่งระมัดระวังตัวมากและถ้ามันพบว่าตัวเองและกลุ่มของมันกำลังตกเป็นเป้าหมาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันก็จะแจ้งเตือนกลุ่มของมัน และพวกมันก็จะหลบหนีอย่างรวดเร็วแน่ๆ

แล้วมันไม่มีทางอื่นอีกแล้วเหรอ?

มีสิ ถ้าเขาสามารถใช้ธนูที่มีแรงน้าวสองร้อยปอนด์ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาดังกล่าวนี้ และถ้าเขาใช้ธนูที่มีแรงน้าวสามร้อยปอนด์ มันก็จะง่ายยิ่งขึ้นไปอีก

เห็นได้ชัดว่าแนวคิดนี้ไม่สมจริงและเป็นไปไม่ได้ในเชิงปฏิบัติ

ในขณะนั้นเองแรงบันดาลใจอย่างหนึ่งก็แวบขึ้นมาในใจของเขา จากนั้นเขาก็พูดให้คนอื่นๆฟังด้วยเช่นกัน

หากพวกเขาล้มเหลวก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ถ้าพวกเขาประสบความสำเร็จ พวกเขาก็จะได้รับผลลัพธ์ที่ดีมาก

"พ่อ ท่านลุกคิดว่านี่สามารถทดลองได้ไหม?"

เฉินฟานถามความคิดจากทุกคน

ทุกคนมองหน้ากันหลังจากฟัง

"เรามีหน้าที่รับผิดชอบในการดึงดูดความสนใจของละมั่ง และเสี่ยวฟานก็ถือโอกาสนี้แอบอยู่รอบๆงั้นหรอ?" ชายหัวล้านก็เบิกตากว้าง

"ฟังดูเป็นความคิดที่ดี แต่ไม่รู้มันจะเป็นไปได้ไหม?" เกาหยางดูไม่แน่ใจ

"ก็ลองดูสิ มันอาจจะได้ผลก็ได้ไม่ใช่เหรอ? อย่าลืมว่าตอนที่จัดการกับหมาป่าคลั่งครั้งที่แล้วเป็นความคิดของเสี่ยวฟาน ตอนแรกทุกคนไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ใช่ไหมล่ะ? แต่ปรากฎว่าเสี่ยวฟานกลับสามารถทำได้จริงๆ"

"ถูกต้อง ข้าคิดว่าเราลองดูก็ไม่เสียหายอะไรนิ"

จากนั้นทุกคนพูดคุยและตกลงรายละเอียดกัน

"ถ้างั้น…"

เฉินฟานสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า "ตามคำพูดของลุงเกา เมื่อมีคนเข้าใกล้พวกมันในระยะสามหรือสี่ร้อยเมตร พวกมันจะถูกสั่งให้วิ่งหนีทันที ดังนั้นช่วงเวลาตอนที่พวกมันวิ่งหนีพวกท่านต้องพยายามดึงดูดความสนใจของพวกมันอย่างเต็มที่ และพวกท่านลุงก็ไม่ควรเข้าใกล้มันจนเกินไปและปล่อยให้พวกมันหนีไปพวกท่านห้ามเสี่ยงเด็ดขาด เพราะตราบใดที่ข้าสามารถเข้าใกล้พวกมันได้ในระยะสองหรือสามร้อยเมตร อย่างน้อยๆข้าก็สามารถยิงพวกมันได้สองตัว"

"สองตัว!"

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ทุกคนก็หายใจไม่ออก

เด็กดี แม้ว่าจะเป็นละมั่งตัวเดียวแต่ก็มีเนื้อถึงหนึ่งร้อยห้าสิบจิน แต่ถ้าสองตัวก็เท่ากับเนื้ยสามร้อยจิน

"เอาล่ะ เสี่ยวฟาน เราจะพยายามอย่างเต็มที่"

"อืม"

เฉินฟานพยักหน้า

แต่เขาก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยเช่นกัน เพราะแผนนี้ต้องการความร่วมมือจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำผิดแผนนี้ก็จะล้มทันที

แต่ข้อดีคือมันสามารถล้มเหลวได้

ดังนั้นทุกคนจึงมารวมตัวกันก่อนตามที่ตกลงไว้ และหลังจากปิดกั้นการมองเห็นละมั่งแล้ว พวกเขาก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปหาฝูงละมั่งเป็นแนวโค้งแบบแถวเรียงหน้ากระดาน พวกเขาจะเดินเข้าเพื่อดึดดูดความสนใจของพวกมัน โดยทำเป็นไม่สนใจและพยายามเดินให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้

จากนั้นละมั่งยามก็เห็นกลุ่มคนที่เดินอย่างช้าๆในระยะสี่ร้อยเมตรราวกับไม่ได้คิดร้ายกับพวกมัน จากนั้นละมั่งตัวนั้นก็หันไปที่ฝูงของมันและเล็มหญ้าต่อไป

ตอนนี้เฉินฟานเป็นเหมือนทหารพิเศษที่คลานไปข้างหน้า เพราะท้ายที่สุดแล้วละมั่งยามตัวนั้นสูงประมาณสองเมตร เขาต้องนอนราบกับพื้นเป็นดีที่สุด ถ้าเขานั่งยองๆกับพื้นเหมือนตอนที่จัดการกับหมาป่าคลั่งก่อนหน้านี้ มีแนวโน้มมากที่เขาจะถูกค้นพบ

ในเวลาเดียวกัน หัวใจของเฉินกัวตงและคนอื่นก็เต้นแรงอย่างมาก พวกเขาค่อยย่องเข้าไปอย่างช้าๆ และการเคลื่อนไหวของพวกเขาก็อ่อนโยนและเชื่องช้าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหันศีรษะขึ้นมองละมั่งด้วยซ้ำ

"ทำไมข้ารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นขโมยเลย"

เกาหยางบ่นออกมา

"แม้แต่ขโมยก็ไม่น่าจะย่องช้าขนาดนี้หรอก ฮ่าๆ" หัวล้านก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย

"แล้วเสี่ยวฟานอยู่ที่ไหน?" เฉินกัวตงถามขึ้น

ผู้คนที่อยู่ด้านหลังทีมจ้องมองไปที่หนึ่งและพูดขึ้นว่า "ประมาณสี่ร้อยเมตร"

"เอาล่ะ เรามาเข้าใกล้อีกสักหน่อยเพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อถึงเวลาเราจะสามารถดึงดูดความสนใจของพวกมันได้" เฉินกัวตงกล่าวขึ้น

ด้วยลักษณะนี้เวลาก็ผ่านไปทีละน้อย จากนั้นระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายอยู่ที่ประมาณ 300 เมตร ละมั่งยามดูเหมือนจะส่งเสียงร้องออกมาเล็กน้อย และละมั่งตัวอื่นๆ ที่กำลังกินอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมองดูมัน

"อ๊ะ!"

ชายหัวโล้นอุทานว่า "ดูเหมือนว่าเราจะใกล้เกินไป หยุดรอดูสถานการณ์ก่อน!"

ทันใดนั้นทีมล่าก็ดูเหมือนจะมีดาบพาดอยู่เหนือหัวของพวกเขา และพวกเขาไม่กล้าที่จะขยับเขยื่อนเลยแม้แต่น้อย