ตอนที่ 404

บทที่ 404 : หงฟู่กุ่ยเป็นยังไงบ้างก่อนที่เขาจะออกไปจากดาวไท่หง?

วิกฤตการณ์ที่ดาวไท่หงกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้เป็นไปได้มากว่ามันจะเกินขีดจำกัดที่ผู้สร้างทั้งห้าจะสามารถรับมือได้ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือจินตนาการของพวกเขา

“ ในกรณีนี้…” หงเหรินซื่ออ้าปากแต่ก็ลังเล เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ ท่านยาย ถ้ามันร้ายแรงขนาดนั้นจริง งั้นเราจะไปที่อาณาจักรห้าทัศนะเพื่อตามหาท่านเซียนซุยกันดีไหม?”

“ เจ้าหมายถึงอาจารย์ของฟู่กุ่ยน่ะหรอ?” จ้าวหงซื่อขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหัวและพูดว่า “ อย่าเพิ่งทำอย่างนั้นในตอนนี้ อืม ข้าจะหาโอกาสคุยกับตาทวด ถ้ามีความจำเป็นจริงๆ ข้าก็จะพูดถึงมันอีกครั้ง”

“ ข้าเข้าใจแล้ว” หงเหรินซื่อพยักหน้า เขาไม่ได้แปลกใจกับผลลัพธ์นี้ แต่ทันใดนั้นเขาก็กังวล

ที่จริงแล้ว หลังจากที่พวกเขากลับมาจากอาณาจักรห้าทัศนะเมื่อหลายร้อยปีก่อน พวกเขาก็ได้บอกยายของพวกเขาจ้าวหงซื่อเกี่ยวกับการพบอาจารย์ปู่ของพวกเขาในอาณาจักรห้าทัศนะ

อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้น ปฏิกิริยาของจ้าวหงซื่อก็ไม่ได้ดูแปลกใจอย่างที่พวกเขาคาดการณ์ไว้ เธอกลับดูกังวลเล็กน้อยแทน เธอยังสั่งพวกเขาไม่ให้บอกเรื่องนี้กับใคร

สิ่งนี้ทำให้หงเหรินซื่อรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีบางอย่างผิดปกติ บางทีเหตุผลที่ตาของเขาออกจากดาวไท่หงไปในตอนนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องธรรมดาอย่างที่เขารู้

เขาพยายามถามพ่อของเขาเช่นกัน แต่คำตอบที่ได้รับก็คือ “เด็กๆ ไม่ควรถามมากเกินไป”

ตอนนี้ดาวไท่หงกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตร้ายแรงเช่นนี้ หลังจากที่เขาแนะนำให้ขอความช่วยเหลือจากซุยเฮ็ง แต่ยายของเขาก็ยังคงลังเลอยู่ เห็นได้ว่าความลับเบื้องหลังนี้ไม่ธรรมดาเลย

“ เป็นไปได้ไหมว่าท่านตาจะไม่มีความสุขกับบางสิ่งในตอนที่เขาเลือกจะจากไปในตอนนั้น” เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ร่างกายของหงเหรินซื่อก็เกร็งขึ้นในทันที และความกลัวก็พลุ่งพล่านในหัวใจของเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยเห็นซุยเฮ็งทะลวงไปสู่จุดสูงสุดของขอบเขตรวมวิญญาณด้วยตาของเขาเอง ปรากฏการณ์ของสวรรค์ต่างๆ นานาได้ปรากฏขึ้นพร้อมกัน สิ่งนั้นฝังลึกอยู่ในจิตใจของเขามาช้านาน และเขาก็จะไม่มีวันลืมมัน

ด้วยเหตุนี้เอง ในความเข้าใจของหงเหรินซื่อ ซุยเฮ็งจึงเป็นผู้ฝึกตนที่เหนือกว่าทุกสิ่ง

และผู้ฝึกตนคนดังกล่าวก็คืออาจารย์ที่ตาของเขานับถือมากที่สุด

หากตามีความขัดแย้งกับตาทวดหรือดาวไท่หงหรือแม้กระทั่งถูกบังคับให้ออกจากดาวไท่หงไป ผลที่ตามมาก็จะคาดเดาไม่ได้

สำหรับหงเหรินซื่อ เขาก็ไม่รู้ว่าวิกฤตที่ดาวไท่หงกำลังเผชิญอยู่นั้นอาจทำให้ดาวไท่หงเข้าสู่สถานการณ์ที่สิ้นหวังได้หรือไม่ แต่กระนั้นเขาก็รู้ดีว่าซุยเฮ็งจะสามารถทำได้อย่างแน่นอน

มันไม่มีข้อสงสัยใดในเรื่องนี้

ความผันผวนทางจิตใจของหงเหรินซื่อไม่สามารถปิดซ่อนจากจ้าวหงซื่อซึ่งเป็นราชาปราชญ์ได้

“ ซื่อเอ๋อ เจ้าไม่ต้องกังวลไป” จ้าวหงซื่อปลอบโยนเขา “ ยายและตาทวดของเจ้าแค่ยังไม่พร้อมที่จะขอความช่วยเหลือก็เท่านั้น จงอย่าคิดมาก”

“ นายน้อย มีคนมาเยี่ยม” ในขณะนี้ คนรับใช้ในชุดเขียวก็เดินเข้ามาขัดจังหวะความคิดของหงเหรินซื่อ

นี่คือคนรับใช้ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลลานบ้าน โดยปกติเขาจะรับผิดชอบงานทำความสะอาดลานบ้านและรายงานข้อมูล ดังนั้นเมื่อคนรับใช้เห็นจ้าวหงซื่อ เขาจึงรีบคำนับและพูดว่า “ คารวะผู้อาวุโส”

“ อืม” จ้าวหงซื่อโบกมือเบาๆ เพื่อแสดงให้คนรับใช้ยืนขึ้น เธอยิ้มและพูดว่า “ ใครกันที่มาเยี่ยม”

“ ข้าไม่รู้จักผู้อาวุโสท่านนั้น” คนรับใช้ส่ายหัวในตอนแรกและพูดว่า “ แต่เขาเรียกตัวเองว่าฮุ่ยฉีและมาที่นี่เพื่อตามหานายน้อยทั้งสอง”

“ โอ้?” จ้าวหงซื่อเริ่มคิดเมื่อเธอได้ยินสิ่งนี้ เธอไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน

“ อะไรนะ? ฮุ่ยฉี?!” หงเหรินซูกระโดดขึ้นด้วยความตกใจ

“ ฮุ่ย... ฮุ่ยฉี?!” หงเหรินซื่อเองก็ตกใจอย่างหาที่เปรียบมิได้เช่นกัน เขารีบถามว่าต่อว่า “ เขาเป็นชายที่มีหน้าตาดูเหมือนพระแต่ขมวดคิ้วมีนัยยะแห่งเจตนาฆ่าใช่รึเปล่า?”

“ ถูกต้อง ถูกต้อง” คนรับใช้พยักหน้าและพูดว่า “ ท่านรู้จักเขาใช่ไหม ท่านอยากให้ข้าเชิญเขาเข้ามาเลยไหม?”

“ นี่…” หงเหรินซื่อลังเลเล็กน้อย เขามองไปที่จ้าวหงซื่อข้างๆ เขาและดูลังเล

“ ซื่อเอ๋อ ทำไมเจ้าถึงมองมาที่ยายแบบนั้น” จ้าวหงซื่องงงวยเล็กน้อย เธอยิ้มและถามว่า "ใครคือฮุ่ยฉี?”

“ ท่านยาย ฮุ่ยฉีคนนี้เป็นผู้ติดตามของท่านเซียนซุยเฮ็ง” หงเหรินซื่อบอกเธออย่างชัดเจน “ เนื่องจากฮุ่ยฉีอยู่ที่นี่แล้ว งั้นท่านเซียนซุยเฮ็งเองก็น่าจะอยู่บนดาวไท่หงด้วยเหมือนกัน”

“ อะไรนะ?!” รอยยิ้มบนใบหน้าของจ้าวหงซื่อแข็งค้างและดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความกังวล เธอหายใจออกเบาๆ และพูดว่า “ ให้เขาเข้ามา”

“ มันจะดีหรอท่านยาย?” หงเหรินซื่อถามโดยไม่รู้ตัว เขากังวลเล็กน้อยว่าฮุ่ยฉีจะไปรู้บางสิ่งที่สำคัญมากมาและสิ่งนั้นก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ได้

“ ไม่เป็นไร” จ้าวหงซื่อพยักหน้า “ เนื่องจากเขาเป็นผู้ติดตามของท่านเซียนซุยเฮ็ง เขาจึงถือได้ว่าเป็นอาของเจ้าด้วย ออกไปต้อนรับเขาเถอะ”

“ ครับท่านยาย!” หงเหรินซื่อและหงเหรินซูพยักหน้า

เหรินซูออกไปจากลานเพื่อต้อนรับฮุ่ยฉี ดังนั้นในขณะนี้จึงมีเพียงจ้าวหงซื่อและสาวใช้ของเธอเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้อยู่ในลานบ้าน

“ ท่านหญิง ท่านดูกังวลเล็กน้อยนะคะ” สาวใช้กระซิบ

แม้ว่าการฝึกตนของเธอจะไม่สูง แต่เธอก็อยู่เคียงข้างจ้าวหงซื่อมาหลายร้อยปีแล้ว เธอสามารถบอกได้ว่าจ้าวหงซื่อได้รับการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ

“ ไม่ต้องห่วงข้า” จ้าวหงซื่อส่ายหัวเบาๆ และถอนหายใจ เธอมองออกไปข้างนอกและหายใจเข้าลึกๆ “ แน่นอน ทุกอย่างยังไม่ได้รับการตัดสิน ดังนั้นมันจึงไม่ดีที่จะรีบด่วนสรุปจนเกินไป”

หลังจากนั้นไม่นาน หงเหรินซื่อและหงเหรินซูก็ออกมาต้อนรับฮุ่ยฉี

จ้าวหงซื่อกำลังจะมองดูฮุ่ยฉี แต่แค่การมองเพียงแวบเดียว เธอก็รู้สึกราวกับว่าเธอได้เห็นปรโลกที่ไร้ก้นบึ้ง มันเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่เย็นชาและความตาย

สิ่งนี้ทำให้เธอตกใจและเธอก็รีบเบือนหน้าหนี

ฮุ่ยฉีสังเกตเห็นการจ้องมองของจ้าวหงซื่อโดยธรรมชาติ เขากุมมือและโค้งคำนับ “ นี่จะต้องเป็นท่านยายของนายน้อยทั้งสองแน่”

ตามคำแนะนำของซุยเฮ็ง เขาก็จำเป็นต้องแสดงความแข็งแกร่งออกมาเล็กน้อยเมื่อมาที่นี่ ทั้งนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาและความขัดแย้งที่ไม่จำเป็นมากมาย

สำหรับความแข็งแกร่งที่เขาแสดงออกมา ซุยเฮ็งก็ไม่ได้ระบุมันเอาไว้ มันขึ้นอยู่กับฮุ่ยฉีเองที่จะตัดสินใจ

ด้วยเหตุนี้เอง ออร่าที่เขาเปิดเผยออกมาในตอนนี้จึงยังไม่ถึงขอบเขตที่เก้า มันเป็นออร่าของจ้าวเต๋าเท่านั้น

แต่ถึงอย่างนั้น หัวใจของจ้าวหงซื่อก็ได้ตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว

“ จ้าวเต๋า! ออร่าเมื่อกี้คือกายาเต๋าขั้นสมบูรณ์แบบ! มันทรงพลังเกินไปแล้ว”

จ้าวหงซื่อรู้สึกสับสนในใจของเธอ “ แม้แต่ผู้ติดตามของเขาก็ยังเป็นจ้าวเต๋า มันจะเป็นอย่างที่ซื่อเอ๋อและคนอื่นๆ พูดจริงหรอ? อาจารย์ของฟู่กุ่ยเป็นผู้ดำรงอยู่สูงสุดจริงๆ หรอ?”

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในใจของเธอจะตกตะลึง แต่เธอก็ยังโค้งคำนับโดยไม่กะพริบตาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ ผู้อาวุโสฮุ่ยฉี ท่านทุ่มเทให้กับงานของท่านมาก ข้าประทับใจท่านจริงๆ”

“ ผู้อาวุโส ไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้ ข้ามาที่นี่ในนามของนายท่านเพื่อเชิญนายน้อยทั้งสอง” ฮุ่ยฉีกล่าวโดยตรง “ หากผู้อาวุโสไม่ขัดข้อง ข้าก็อยากจะพาพวกเขาออกไปโดยเร็วที่สุดจะได้หรือไม่?”

“ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญจากท่านประมุขเซียนซุย อย่างไรก็ตาม ข้าก็สงสัยว่าข้าจะขอไปด้วยได้หรือไม่?” จ้าวหงซื่อกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ ข้าอยากจะไปขอแสดงความนับถือต่อท่านประมุขเซียนซุยเฮ็งและมีบางอย่างที่ข้าอยากจะพูดกับเขา”

“ แน่นอน” ฮุ่ยฉีพยักหน้าและยิ้ม “ นายท่านสั่งข้าก่อนที่ข้าจะออกมาว่าใครก็ตามที่อยากจะพบข้า ข้าก็สามารถพาพวกเขาไปพบได้เลย”

“ ขอบพระคุณ” จ้าวหงซื่อคำนับด้วยความเคารพ

...

ในลานบ้าน

ซุยเฮ็งซึ่งกำลังพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้จู่ๆ ก็ลืมตาขึ้นและมองไปที่คนทั้งสี่ที่อยู่ข้างหลังฮุ่ยฉี

ก่อนที่ฮุ่ยฉีจะพาคนเหล่านี้กลับมา เขาก็ได้แจ้งซุยเฮ็งเกี่ยวกับคนที่กำลังมาแล้ว

“ คาระวท่านประมุขเซียน!”

เมื่อทุกคนมาถึง พวกเขาก็โค้งคำนับพร้อมกัน

“ อืม” ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อย หลังจากกวาดสายตามองทั้งสี่คน มันก็หยุดลงที่จ้าวหงซื่อและเขาก็ยิ้ม “ หงฟู่กุ่ยเป็นยังไงบ้างก่อนที่เขาจะออกไปจากดาวไท่หง?”