หนานกงหลิงส่ายหน้า "พี่ก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน"

"แต่ในทั่วทั้งต้าเซี่ย ต้องมีคนที่รู้แน่ๆ ว่าอยู่ที่ไหน"

"นายรอฟังข่าวก็พอ"

ไม่นาน วัตถุดิบหายากสามชนิดที่หลินอี้ต้องการสำหรับการเปลี่ยนอาชีพครั้งที่ 3 ก็ถูกส่งมาให้

หลินอี้ส่งมอบวัตถุดิบทั้งสามชนิด

ภารกิจเปลี่ยนอาชีพเสร็จสิ้นไปครึ่งหนึ่งแล้ว

ส่วนอีกครึ่งที่เหลือ หนานกงหลิงก็ส่งข่าวมาเช่นกัน

"ดันเจี้ยน 'อ่าวสมบัติซ่อนเร้น' นี้อยู่ที่ไหนสักแห่งในทะเลทางใต้ของต้าเซี่ย ห่างจากที่นี่ของเราเกือบจะข้ามทั้งต้าเซี่ยจากเหนือจรดใต้เลย..."

"ภารกิจเปลี่ยนอาชีพของนายนี่ เลือกได้ดีจริงๆ"

"ฉันรู้สึกว่านายได้กำไรเละเลยนะ ฮ่าๆ!"

หลินอี้รู้สึกงุนงงเล็กน้อย "งั้นรู้แล้วว่าอยู่ในทะเลใต้ ผมไม่ต้องไปเคลียร์ดันเจี้ยนเหรอครับ?"

หนานกงหลิงยิ้มพลางส่ายหน้า "ถึงเวลาที่จะให้นายได้สัมผัสถึงพลังของเครือข่ายเสินเซียวแล้วล่ะ"

"นายรู้จักความหมายของคำว่า 'จัดการให้ทั้งหมด' ไหม"

"ในหมู่ผู้ปลุกอาชีพ มีบริการแบบหนึ่งเรียกว่า 'พาบอสเคลียร์ดัน'"

"ในฐานะบอส คุณแค่จ่ายเงินให้คนพวกนั้นก็พอ พวกเขาก็จะจับทีมกับคุณ แม้แต่คุณไม่ต้องเข้าดันเจี้ยนเองก็ได้ คุณนอนอยู่บ้านเฉยๆ พวกเขาก็จะลงดันเจี้ยนไปสังหารสัตว์ร้าย ค่าประสบการณ์ที่ได้มาก็จะถูกแบ่งให้คุณโดยอัตโนมัติ"

"ลูกหลานตระกูลใหญ่ส่วนมาก ในช่วงแรกของการปลุกอาชีพและเปลี่ยนอาชีพ ก็เลเวลขึ้นกันแบบนี้แหละ"

"วันนี้นายก็จะได้สัมผัสความรู้สึกของการเป็นบอสสักครั้ง"

"พวกเราได้ติดต่อสมาคมพันธมิตรผู้ปลุกอาชีพที่อยู่ใกล้กับ 'อ่าวสมบัติซ่อนเร้น' ที่สุดแล้ว ให้พวกเขาส่งทีมเล็กๆ ที่ประกอบด้วยผู้ปลุกอาชีพชั้นยอดระดับ 4 ไปที่หน้าดันเจี้ยนแล้ว"

"รอรับคำเชิญเข้าทีมจากพวกเขาก็พอ"

หลินอี้ถึงกับอึ้งไป

โอ้โห ทำแบบนี้ก็ได้เหรอ?

เคลียร์ดันแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ!

สมแล้วที่ในโลกนี้ เงินทองนี่แหละคือพระเจ้า

สุดท้ายแล้ว ก็เพราะความยากจนในอดีตนั่นแหละ ที่จำกัดจินตนาการของเขา

"พี่สาว ก่อนหน้านี้เพราะต้องลงดันเจี้ยนลดระดับ พี่เลยยังไม่ได้เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับประเภทของดันเจี้ยนใน ศาลาดันเจี้ยนศักดิ์สิทธิ์ของเรา ตอนนี้พี่สาวช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ"

เพราะอยู่ที่นี่รอก็ไม่มีอะไรทำ

หลินอี้เริ่มถามหนานกงหลิงเกี่ยวกับวิธีการจัดสรรจำนวนครั้งในการลงดันเจี้ยนต่อไป

หนานกงหลิงได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้า

"จริงด้วย ถือโอกาสที่ตอนนี้มีเวลา ฉันจะเล่าให้ฟังคร่าวๆ นะ"

"เรามาเริ่มจากสี่หัวข้อหลักและสี่หัวข้อย่อยกันก่อนดีกว่า"

"อันดับแรกในสี่หัวข้อหลักคือ เลเวล"

"เลเวลส่งผลกระทบหลักๆ ต่อสถานการณ์การเปลี่ยนอาชีพ การเปลี่ยนอาชีพแต่ละครั้งเท่ากับเป็นการเพิ่มพลังการต่อสู้แบบก้าวกระโดด สถานการณ์นี้จะเห็นได้ชัดเจนมากหลังจากเปลี่ยนอาชีพครั้งที่สี่"

"ดังนั้นนี่คือหัวใจหลักของพลังการต่อสู้"

"นี่ก็เป็นคำแนะนำหลักข้อแรกที่ฉันจะให้คุณในการจัดสรรจำนวนครั้งของดันเจี้ยน นั่นคือ ให้จัดสรรจำนวนครั้งมากที่สุดให้กับดันเจี้ยนประสบการณ์"

"ดันเจี้ยนประเภทใหญ่ที่สุดในศาลาศักดิ์สิทธิ์ก็คือดันเจี้ยนประสบการณ์ ดันเจี้ยนประเภทนี้จะมีจำนวนสัตว์ร้ายมากกว่า และให้รางวัลค่าประสบการณ์ที่มากกว่า"

"วิหารเทพแห่งท้องฟ้าที่นายเคลียร์ไปก่อนหน้านี้ ก็เป็นดันเจี้ยนประเภทนี้"

หลินอี้พยักหน้า

เลเวลแน่นอนว่าสำคัญที่สุด

เพราะการเพิ่มขึ้นในแต่ละครั้งที่เปลี่ยนอาชีพนั้น ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย

"พูดเรื่องเลเวลจบแล้ว ความสำคัญของทักษะคุณก็เข้าใจแล้ว ต่อไปเรามาพูดถึงอุปกรณ์กัน"

"นี่น่าจะเป็นส่วนที่คุณคุ้นเคยน้อยที่สุด เพราะในต้าเซี่ย อุปกรณ์ที่เหนือกว่าระดับทองคำขึ้นไปนั้น ถูกควบคุมอย่างเข้มงวด"

"แต่พวกเราเสินเซียวเป็นข้อยกเว้น"

"ได้รับสิทธิพิเศษเหมือนกับกองทัพพันธมิตรผู้ปลุกอาชีพ"

"ตราบใดที่คุณยังเป็นสมาชิกของเสินเซียว การเคลียร์ดันเพื่อหาอุปกรณ์ การสวมใส่ การแลกเปลี่ยนอุปกรณ์ใดๆ รัฐก็จะไม่เข้ามาแทรกแซง"

"แน่นอนว่า มีข้อแม้ว่าคุณห้ามนำอุปกรณ์ระดับสูงกว่าทองคำไปแพร่หลายในหมู่ประชาชน นี่เป็นเส้นที่ห้ามแตะต้องเด็ดขาด"

"การแลกเปลี่ยนอุปกรณ์ระหว่างนักเรียนทั้งหมดในสถาบันของเรา รวมถึงกับกองทัพพันธมิตรผู้ปลุกอาชีพของต้าเซี่ย ไม่ถูกจำกัด"

"เอาล่ะ ฉันเชื่อว่าคุณก็รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ฉันจะไม่พูดอะไรที่ไม่จำเป็นมากนัก"

"ความดีหรือไม่ดีของอุปกรณ์ ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับระดับคุณภาพของมัน และว่าเป็นชุดอุปกรณ์หรือไม่"

"เหล็กดำ ทองแดง เงิน ทองคำ แพลตินัม เพชร"

"นี่น่าจะเป็นการแบ่งระดับคุณภาพอุปกรณ์ที่คุณรู้จักใช่ไหม?"

หลินอี้พยักหน้า

ในช่วงมัธยมปลาย สิ่งที่เขารู้ก็มีแค่หกระดับนี้

หนานกงหลิงส่ายหน้า "อุปกรณ์หกระดับนี้ ในสายตาของผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงแล้ว ไม่ต่างอะไรกับขยะ"

"คุณรู้ไหมว่าทำไม?"

หลินอี้รู้สึกงงไปหมด

ไม่ใช่นะ อุปกรณ์ระดับเพชรยังเทียบเท่าขยะเลยเหรอ?

งั้นชุดอุปกรณ์ 'การพักผ่อนนิรันดร์' ระดับแพลตินัมที่ตัวเองสวมใส่อยู่ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วสินะ?

"ไม่ใช่ว่าอุปกรณ์ระดับเหล่านี้ไม่มีเอฟเฟกต์ที่ดี"

"เอฟเฟกต์ของชุดอุปกรณ์บางชุดและเอฟเฟกต์พิเศษเฉพาะของอุปกรณ์บางชิ้น สำหรับอาชีพบางอย่างแล้ว บางครั้งก็มีประสิทธิภาพที่น่าทึ่งเหมือนกัน"

"ที่ฉันบอกว่าเป็นขยะ ก็เพราะว่าอุปกรณ์ระดับเหล่านี้ ไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้อีกต่อไป!"

"เหมือนกับที่ทักษะมีวิธีการเพิ่มความแข็งแกร่งสามวิธี อุปกรณ์ก็มีวิธีการเพิ่มความแข็งแกร่งเช่นกัน"

"การเสริมพลังและการเพิ่มคุณสมบัติพิเศษ!"

"มีเพียงอุปกรณ์ระดับดาวประกายขึ้นไปเท่านั้น ที่จะปลดล็อกฟังก์ชันสองอย่างนี้"

"การเสริมพลังอุปกรณ์สามารถเพิ่มค่าคุณสมบัติ พลังโจมตี และค่าโบนัสต่างๆ ที่อุปกรณ์ชิ้นนั้นมอบให้ ส่วนการเพิ่มคุณสมบัติพิเศษให้อุปกรณ์ จะทำให้อุปกรณ์ชิ้นนั้นมอบโบนัสคุณสมบัติพิเศษเพิ่มเติม หรือให้ทักษะพิเศษแก่คุณ หรือเพิ่มความเสียหายจากธาตุพิเศษ เป็นต้น"

"ถ้าพูดในแง่ของการเพิ่มค่าคุณสมบัติล้วนๆ แล้ว"

"ค่าคุณสมบัติที่ผู้ปลุกอาชีพได้รับจากการเพิ่มระดับและการเพิ่มแต้มคุณสมบัติอิสระ ไม่สามารถเทียบกับอุปกรณ์ที่ถูกปรับแต่งอย่างสมบูรณ์แบบได้เลย"

"ชุดอุปกรณ์ระดับสุดยอด เป็นที่มาของค่าคุณสมบัติสูงๆ ของผู้แข็งแกร่งส่วนใหญ่ การเพิ่มพลังการต่อสู้จากอุปกรณ์นั้นน่ากลัวมาก"

"ดังนั้น น้องชาย นายก็ต้องแบ่งจำนวนครั้งของดันเจี้ยนบางส่วน ไปหาดันเจี้ยนอุปกรณ์โดยเฉพาะ เพื่อหาชุดอุปกรณ์ที่อย่างน้อยต้องเป็นระดับดาวประกาย"

"หลังจากนั้นค่อยพิจารณาหาวัสดุที่เกี่ยวข้องกับการเสริมพลังอุปกรณ์ เพื่อเสริมพลังอุปกรณ์ต่อไป"

"อ๋อ ใช่แล้ว ลืมบอกคุณไป"

"การแบ่งระดับคุณภาพของอุปกรณ์ที่สูงกว่าระดับเพชรขึ้นไป ตอนนี้มีห้าระดับ"

"ได้แก่ ดาวประกาย, จันทร์เรืองรอง, ตะวันเจิดจ้า, ตำนาน และ ปรัมปรา!"

"ดันเจี้ยนบางแห่งในชั้นแรกของศาลาดันเจี้ยนศักดิ์สิทธิ์ สามารถหาอุปกรณ์ได้แค่ระดับดาวประกายเท่านั้น แต่สำหรับคุณในตอนนี้ ก็ถือว่าเพิ่มพลังได้มากแล้ว"

"หลังจากได้ชุดอุปกรณ์มาแล้ว ถ้าคุณรู้จักช่างตีเหล็กที่สามารถเสริมพลังอุปกรณ์ได้สักสองสามคน ก็จะยิ่งดีเข้าไปใหญ่"

หลินอี้ฟังมาถึงตรงนี้

ก็นึกถึงซุนต้าชวน

ด้วยมิตรภาพจากเรื่อง 'หัวใจแห่งฝูงแมลง' ก่อนหน้านี้ การเสริมพลังและซ่อมแซมดันเจี้ยนของหลินอี้ในอนาคต น่าจะสามารถมอบหมายให้ซุนต้าชวนรับผิดชอบได้แล้ว

[ติ๊ง! คุณได้รับคำเชิญเข้าทีมจากผู้ปลุกอาชีพ: หลงเอ้าเทียน คุณจะยอมรับหรือไม่?]

จู่ๆ ก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นข้างหูของหลินอี้

หลินอี้มีความรู้สึกอัดอั้นตันใจมากมาย ไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหนดี

เห็นสีหน้าของหลินอี้ หนานกงหลิงก็ถาม "เป็นประธานหลงชวนนายเข้าทีมใช่ไหม?"

หลินอี้: "ประธานหลงที่พี่สาวพูดถึงนี่ ชื่อหลงเอ้าเทียนใช่ไหมครับ?"

หนานกงหลิงพยักหน้า "ใช่แล้ว เขาเป็นรองประธานสมาคมผู้ปลุกอาชีพมณฑลทะเลใต้ ฮ่าๆ ชื่อก็ดูยิ่งใหญ่ไปหน่อย แต่จริงๆ แล้วเป็นลุงที่พูดคุยง่ายและถ่อมตัวมากเลยล่ะ"

หลินอี้ตอบรับคำเชิญเข้าทีม

ไม่นานก็เห็นชื่อของสมาชิกอีกสามคนในหน้าจอทีม

ชื่อของพวกเขาคือ: เหยี่ยฟาน, เสี่ยวเหยียน, หลัวเฟิง

ครั้งนี้มั่นใจได้เลย ทีมมืออาชีพชัดๆ!

ถ้าเอาไปใส่ในนิยายเรื่องอื่น ก็พอจะสู้กับบอสสุดท้ายได้หลายตัวเลยทีเดียว

แน่นอน ไม่ถึงห้านาที

หลินอี้ก็ได้รับการแจ้งเตือนว่าผ่านดันเจี้ยนและภารกิจสำเร็จ

[ขอแสดงความยินดี คุณเปลี่ยนอาชีพสำเร็จแล้ว!]

[คุณได้เปลี่ยนอาชีพเป็น: นักเวทระดับสูง (ขั้น 3)!]

[คุณได้รับทักษะใหม่: ลูกแก้วหิน, การเอาชนะธาตุ!]

[ค่าคุณสมบัติจิตและผลตอบแทนจากการเพิ่มแต้มคุณสมบัติของคุณเพิ่มขึ้นแล้ว!]

หลินอี้ตกตะลึง

ลูกแก้วหิน??

เฮ้ย! การเปลี่ยนอาชีพครั้งนี้ได้ตำนานทองคำเลยนี่!

นี่มันทักษะระบบแรงโน้มถ่วงนี่หว่า!!!