ตอนที่ 300

บทที่ 300: หลังจากตายไป... อาณาจักรราชันสุริยัน

ในเวลาเดียวกัน ณ ที่พำนักในถ้ำ

ชายชราที่เดิมนั่งไขว่ห้างโดยหลับตาอยู่จู่ๆ ก็ลืมตาขึ้น

ผิวของเขาเป็นสีเลือดฝาด ผมของเขาขาว และใบหน้าของเขาก็ดูอ่อนเยาว์ เขามีลักษณะเหมือนกับปราชญ์และมีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนปกติซึ่งหาได้ยากในสวรรค์มหาภัยพิบัติ

“ นี่คือขอบเขตที่แปดในตำนานของโลกเซียน หรือเป็นเผ่าพันธุ์ที่ก่อร่างสร้างเต๋าขึ้นมากัน?” ชายชราพึมพำ “ การดำรงอยู่อันสูงสุดดังกล่าวปรากฏขึ้นในที่แห่งนี้ตั้งแต่เมื่อใด?”

“ อันตราย มันอันตรายเกินไป ข้าคิดว่าข้าจะสามารถซ่อนตัวอยู่ในสวรรค์มหาภัยพิบัตินี้และไม่ก้าวเข้าสู่โลกมนุษย์ได้ ข้าไม่ได้คาดคิดเลยว่าตัวตนที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้จะจู่ๆ ก็ปรากฎตัวขึ้น ข้าต้องเปลี่ยนสถานที่แล้ว”

“ ฉันควรไปดูที่ดาวดวงอื่นดีไหม? ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าตำหนักกาฬโรคจะยังอยู่แถวๆ นี้หรือเปล่า…”

….

เนื่องจากซุยเฮ็งจ้องมองผ่านสระหมื่นพิษ ยอดฝีมือในสวรรค์มหาภัยพิบัติจึงมีปฏิกิริยาอย่างมาก

ยอดฝีมือเหล่านี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อกฎแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่ ในตอนนี้ พวกเขาก็ได้รับการกระตุ้นอย่างมาก อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นความกลัวซะมากกว่า แต่โดยธรรมชาติแล้ว มันก็มีผลกระทบอย่างมากต่อสวรรค์มหาภัยพิบัติทั้งหมด

มันทำให้กฎ รูนเต๋า สภาพอากาศ และแม้แต่แง่มุมอื่นๆ ของสวรรค์มหาภัยพิบัติเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยตรงในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

อาจกล่าวได้ว่าทุกอย่างกลับหัวกลับหาง

ความปรารถนาอันดำมืดในใจของสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนถูกกระตุ้นอย่างอธิบายไม่ได้ และพวกมันก็เริ่มเกลียดชังกันหรือแม้กระทั่งฆ่ากัน

ผีดิบที่เดิมเดินเตร็ดเตร่อย่างไร้จุดหมายจู่ๆ ก็กลายเป็นบ้าคลั่งขึ้นอย่างมากและเริ่มโจมตี ฉีกกระชากและกัดกินกันเอง ทุกอย่างตกอยู่ในความโกลาหล

นอกจากนี้ มันก็ยังมีโครงกระดูกที่ปรากฎอยู่เต็มในถิ่นทุรกันดาร ดวงตาที่ว่างเปล่าของพวกมันลุกโชนด้วยเปลวเพลิงสีฟ้าจางๆ พวกมันปล่อยออร่าที่เต็มไปด้วยความตายออกมาในขณะที่พวกเขาเริ่มโจมตีกันและกัน

แม้แต่ที่ราบภาคกลางที่ค่อนข้างสงบก็ยังเปลี่ยนแปลงไป

เหล่าสามัญชนที่มีร่างกายปกติและยังไม่ได้ติดเชื้อจากโรคระบาดต่างก็รู้สึกกดดันอย่างอธิบายไม่ถูก

อารมณ์ของพวกเขาตกต่ำลงอย่างมากในทันที และหัวใจของพวกเขาก็หดหู่ลงอย่างมาก

….

ซุยเฮ็งไม่รู้ว่าการจ้องมองผ่านสระหมื่นพิษมีผลอย่างไรต่อสวรรค์มหาภัยพิบัติ

อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตของเขาในตอนนี้ เขาก็ได้เข้าใจแก่นแท้ของสระหมื่นพิษแล้ว

นี่เป็นสมบัติที่รวบรวมมาจากกฎบางอย่างของสวรรค์มหาภัยพิบัติ

มันไม่มีร่องรอยของการประดิษฐ์ราวกับว่ามันได้รับการเลี้ยงดูมาจากธรรมชาติ แม้ว่ามันจะมีลักษณะของสิ่งมีชีวิต แต่มันก็ไม่ได้มีสติปัญญาที่สมบูรณ์

ในแง่ของรูปลักษณ์ มันก็ค่อนข้างคล้ายกับสมบัติซะมากกว่า

มีสองผลกระทบหลัก

มันสามารถรักษาระดับการสื่อสารกับสวรรค์มหาภัยพิบัติเอาไว้ได้และยังดูดซับพลังของมันเอาไว้ได้ นอกจากนี้ มันก็ยังสามารถใช้เป็นสื่อกลางในการตรวจสอบสวรรค์มหาภัยพิบัติได้

เป็นเพราะประการแรก สระหมื่นพิษถึงมีออร่าของสวรรค์มหาภัยพิบัติ นั่นจึงป็นเหตุผลที่มันสามารถช่วยในการฝึกตนของตำหนักกาฬโรคได้ และเป็นเพราะประสอง ซุยเฮ็งจึงสามารถมองเห็นสวรรค์มหาภัยพิบัติผ่านสรถหมื่นพิษได้ในขณะนี้

เหตุผลที่หมอกพิษจำนวนมากปรากฏขึ้นในตอนนี้ก็เนื่องมาจากสระหมื่นพิษได้รับผลกระทบไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง การสื่อสารอันตื้นเขินกับสวรรค์มหาภัยพิบัติกลายเป็นการสื่อสารที่ลึกซึ้ง

ดังนั้นความเข้มข้นและปริมาตรของก๊าซพิษจึงเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ

ในทางกลับกัน ออร่าของสวรรค์มหาภัยพิบัตินั้นก็มีประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิตพื้นเมืองหรือผู้ที่ฝึกฝนเต๋ากาฬโรคในระดับหนึ่งเท่านั้น มันยังเป็นอันตรายต่อคนส่วนใหญ่

สิ่งนี้ทำให้เกิดสถานการณ์ปัจจุบันของตำหนักกาฬโรค

วิธีแก้ปัญหานั้นง่ายมาก

เขาต้องการเพียงแค่ปรับแต่งสระหมื่นพิษก็เท่านั้น

ซุยเฮ็งยกมือขึ้นและชี้ เสี้ยวหนึ่งของพลังวิญญาณลอยเข้าสู่ภายในสระหมื่นพิษและขัดเกลากฎทั้งหมดที่พันกันอยู่ภายในทันที

ในพริบตา การปรับแต่งก็เสร็จสิ้น

ตอนนี้ สระหมื่นพิษได้กลายเป็นสมบัติธรรมของเขาไปแล้ว เขาสามารถเปลี่ยนมันให้เป็นอัญมณีและนำมันไปได้ทุกเมื่อ

อย่างไรก็ตาม ซุยเฮ็งก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น

เพราะตอนนี้เขาไม่ได้ต้องการสมบัติธรรมแล้ว

“ เสร็จแล้ว” ซุยเฮ็งพูดกับหลันตา

ด้วยการปรับสถานะของสระหมื่นพิษ เขาก็ได้เปลี่ยนการสื่อสารเชิงลึกกับสวรรค์มหาภัยพิบัติให้กลับไปสู่การสื่อสารในระดับตื้นเขินดั้งเดิม และหมอกหลากสีก็ได้เริ่มลดลงในทันที

ด้วยอัตรานี้ มันก็จะสลายไปอย่างรวดเร็ว

“ ขอบพระคุณท่านประมุขเซียน! ขอบพระคุณท่านประมุขเซียน!” หลันตารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากในขณะที่เธอมองไปที่ซุยเฮ็งด้วยความเคารพ

ความผิดปกติของสระหมื่นพิษที่ทำให้ตำหนักกาฬโรคทั้งหมดทำอะไรไม่ถูกเป็นเหมือนเรื่องเล็กน้อยเมื่ออยู่ในมือของประมุขเซียนผู้นี้

“ ไม่เป็นไร” ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อยและถามหลันตา “ มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นก่อนที่สระหมื่นพิษจะเคลื่อนไหวหรือไม่?”

ความเชื่อมโยงระหว่างสระหมื่นพิษและสวรรค์มหาภัยพิบัตินั้นจู่ๆ ก็ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในทันใด นี่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ปกติ มันต้องโดนอะไรบางอย่างมาแน่ๆ

มันอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสวรรค์มหาภัยพิบัติหรือสระหมื่นพิษได้รับผลกระทบจากแรงภายนอก กล่าวโดยสรุปคือ มันผิดไปจากสภาวะปกติของมัน

หลันตาครุ่นคิดแล้วส่ายหัว “ ข้าไม่คิดอย่างนั้น ก่อนที่สระหมื่นพิษจะเคลื่อนไหว ตำหนักกาฬโรคก็สงบมาก”

“ ครึ่งเดือนที่ผ่านมา ข้ามาที่สระหมื่นพิษเพื่อทำความเข้าใจเต๋าตามปกติ แต่ข้าก็ตระหนักได้ว่าสถานที่นี่เริ่มผิดปกติแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้มันก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย”

“ ครึ่งเดือนก่อน?” ซุยเฮ็งขมวดคิ้วเล็กน้อย

ไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเวลานี้

อย่างไรก็ตาม เขาก็เดาได้เหมือนกัน

มันอาจเกี่ยวข้องกับจูคังเซิงที่ไปสำรวจคลังสมบัติเซียนมหาภัยพิบัติ

….

ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันมืดมิดและลึกล้ำ

จู่ๆ วงแหวนรูปแบบคล้ายน้ำก็ปรากฏขึ้น

จูคังเซิงปรากฏตัวขึ้นจากอากาศเปล่าและปกคลุมไปด้วยอาการบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตาม สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสุขในขณะที่เขาพึมพำกับตัวเองว่า “ หลังจากตายมาแล้ว 1,785 ครั้ง ในที่สุดข้าก็นำหนังสือทั้งหมดออกมาได้ ข้าไม่ได้ทำให้ท่านประมุขเซียนผิดหวัง!!!”

หลังจากเปิดคลังสมบัติเซียนมหาภัยพิบัติแล้ว จูคังเซิงก็ตระหนักได้ว่าเขาต้องผ่านการทดสอบเพื่อนำหนังสือ สมบัติ และอาวุธที่อยู่ภายในนั้นออกมา

เขาไม่สามารถพาพวกมันออกมาได้โดยตรง

นอกจากนี้ การทดสอบเหล่านี้ก็ยังไม่ง่ายเลย ชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตรายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเขาได้กลายเป็นปราชญ์ไปแล้วและได้สะสมรากฐานที่ลึกล้ำและไม่อ่อนแอ เขาก็อาจจะตายลงที่นี่จริงๆ ก็ได้

“ ในที่สุดข้าก็กลับไปได้แล้ว!”

จูคังเซิงหัวเราะอย่างมีความสุข เขาหยิบเรือเหาะของเขาออกมาและบินไปยังดาวชงหยาง

….

ในพื้นที่ที่ห่างไกลจากดาวชงหยาง มีดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ที่ไม่มีใครเทียบได้สามดวง

ขนาดของดาวทั้งสามดวงนั้นใหญ่เกินกว่าขนาดของดาวเคราะห์ปกติ พวกมันใหญ่กว่าดาวฤกษ์ทั่วไปหลายเท่า

นี่คืออาณาจักรราชันสุริยันหรือที่เรียกกันว่าโลกเซียนราชันสุริยันซึ่งก่อตัวขึ้นจากชิ้นส่วนของสวรรค์

ผู้สร้างอยู่ที่นี่

บนดาวไท่ชางซึ่งเป็นหนึ่งในสามดาวเคราะห์หลัก มีสำนักเซียนโบราณ ศาลาภัยพิบัติชะตาดารา มันมีชื่อเสียงในการฝึกฝนเต๋าแห่งภัยพิบัติและเต๋าแห่งชะตาดารา

สำนักเซียนนี้เคยสร้างผู้สร้าง แต่เขาก็ได้ตายไปนานแล้ว ตอนนี้มันมีราชาปราชญ์เหลืออยู่ไม่ถึงห้าคน

โชคดีที่กว่า 2,000 ปีที่แล้ว ศาลาภัยพิบัติชะตาดาราได้ผลิตอัจฉริยะชื่อหมิงเจินขึ้น เขากลายเป็นราชาปราชญ์ตั้งแต่อายุยังน้อยและมีโอกาสมากมายที่จะกลายเป็นผู้สร้างได้

ด้วยเหตุนี้เอง ศาลาภัยพิบัติชะตาดาราทั้งหมดจึงกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์ของหมิงเจิน

แม้ว่าอาณาจักรราชันสุริยันจะห่างไกลจากอาณาจักรห้าทัศนะ แต่ด้วยวิธีการที่ผู้สร้างทิ้งไว้เบื้องหลังและสมบัติที่มีอยู่ตั้งแต่ยุคสวรรค์ราชันสุริยัน พวกเขาก็ยังสามารถก้าวข้ามผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวและตรวจสอบพื้นที่ต่างๆ ได้ในทันที

ตัวอย่างเช่น เซียนทอง เซียนอนันต์ทอง ปราชญ์และราชาปราชญ์ พวกเขาสามารถตรวจสอบได้ผ่าน “กระจกตาแห่งชะตาดารา”

ทุกครั้งที่หมิงเจินมาถึงอาณาจักรใหม่หรือท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว เขาก็จะซ่อน “กระจกรอง” ที่เชื่อมต่อกับกระจกตาแห่งชะตาดาราเอาไว้เพื่อให้พวกเขาสามารถตรวจสอบสถานการณ์ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ใน 2,000 ปีที่ผ่านมา มันก็ไม่เคยมีอุบัติเหตุใดๆ เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ก็มีสิ่งแปลกๆ เกิดขึ้น

ในฐานะราชาปราชญ์ผู้ควบคุมกระจกตาแห่งชะตาดารามานานกว่า 7,000 ปี เฉินถังก็ไม่เคยเห็นสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน

สิ่งนี้ทำให้เขาเรียกหาราชาปราชญ์อีกสามคน

“ ทุกคนดูสิ อาณาจักรห้าทัศนะได้รับเจ็ดปราชญ์ในเวลาเพียงไม่กี่วัน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?!”